Better me ผู้หญิงขาดโอกาส 9 คน เรียนรู้จนจบหลักสูตร

Better Me เพื่อชีวิตที่ดีของผู้หญิงที่ขาดโอกาสทางการศึกษา เฟส2

เมื่อวันที่ 30 October 2020

โครงการ Better Me เพื่อชีวิตที่ดีของผู้หญิงที่ขาดโอกาสทางการศึกษา เฟส 2 เปิดทำการเรียนการสอนเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 มีนักเรียนเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 17 คน แต่เนื่องจากผลกระทบโควิดมูลนิธิฯ หยุดการเรียนการสอนช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายนทำให้จำนวนตัวเลขของนักเรียนลดลงเหลือ จำนวน 9 คน สาเหตุของนักเรียนที่หยุดพักการเรียนคือปัญหาการทำงานที่สืบเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด นักเรียนบางคนต้องเพิ่มชั่วโมงในการทำงานจึงทำให้ไม่สามารถมาเรียนได้ดังเดิม นักเรียนบางส่วนมีรายได้น้อยลงและต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาเรียนจึงทำให้ต้องยกเลิกการเรียนไป เป็นต้น

นักเรียนจำนวน 9 คนที่จบหลักสูตร Better Me 3 เดือนนี้ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ นวดแผนโบราณ ดูแลผู้สูงอายุ แม่บ้าน และช่างทำผม ครึ่งนึงของนักเรียนเรียนจบระดับชั้นประถมศึกษา และบางส่วนที่เรียนจบมัธยมศึกษาตอนต้น (การศึกษานอกโรงเรียน -กศน.) สาเหตุที่นักเรียนไม่ได้เรียนต่อเนื่องมาจากครอบครัวไม่สามารถส่งเสียให้เรียนในโรงเรียนได้ ครอบครัวของนักเรียนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร นักเรียนเข้ามาหางานทำในกรุงเทพเพื่อช่วยเหลือครอบครัวในช่วงอายุเฉลี่ย 14-19ปี ชั่วโมงการทำงานของนักเรียนอยู่ระหว่าง 46-65 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นักเรียนเป็นหลักในการทำงานหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว ส่วนใหญ่รายงานว่ารายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายและสาเหตุของการเข้าร่วมโครงการ Better Me เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานที่ดีกว่าเดิม

โครงการ Better me แบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 หลักสูตร ดังนี้

  1. การเรียนภาษาอังกฤษที่ทำการเรียนการสอนโดยอาสาสมัครชาวต่างชาติ เพื่อพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษ นักเรียนส่วนใหญ่ยังไม่มีพื้นฐานการเรียนภาษาอังกฤษมาก่อน บางคนมีทักษะการพูดและการฟังพื้นฐานจากการพูดคุยกับลูกค้า การเรียนการสอนเน้นความมั่นใจในการพูดและใช้ภาษาอังกฤษ มารยาทในการใช้ภาษาอังกฤษ การเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง เป็นต้น
  2. การอบรมพัฒนาตนเอง เป็นการทำกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น มีการทำกิจกรรมเชิงกระบวนการเพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านการแชร์ประสบการณ์ การแสดงความคิดเห็น และการทำกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ การอบรมพัฒนาตนเอง แบ่งกิจกรรมออกเป็นหัวข้อดังนี้
    - การประเมินตนเอง
    - การรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ
    - แผนการในอนาคต
    - การวางแผนอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ
    - การจัดการกับการเปลี่ยนแปลง
  3. เพื่อนคู่คิด เป็นกิจกรรมทางเลือกสำหรับนักเรียน คือการขอมีอาสาสมัครหรือเจ้าหน้าที่จำนวน 1 คนเพื่อเป็นเพื่อนคู่คิด พูดคุย ปรับทุกข์ เป็นการส่วนตัว กิจกรรมนี้นักเรียนสามารถแจ้งกับทางมูลนิธิได้หากต้องการ

ภาพประกอบ

ตั้งใจเรียน

ผลงานของนักเรียนแต่ละคน

หลังจากนักเรียนเข้าร่วมโครงการครบ 3 เดือน นักเรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงดังนี้

  • นักเรียนรายงานว่ามีความสุขกับชีวิตมากขึ้นภายหลังเข้าร่วมโครงการ จากคะแนน 1-5 ก่อนเข้าร่วมโครงการนักเรียนส่วนใหญ่เลือก 3 (ปานกลาง) เมื่อเทียบจบโครงการนักเรียนส่วนใหญ่เลือก 5 (มากที่สุด)
  • นักเรียนรายงานว่ามีความสุขกับงานที่ทำในปัจจุบันมากขึ้นภายหลังเข้าร่วมโครงการ จากคะแนน 1-5 ก่อนเข้าร่วมโครงการนักเรียนส่วนใหญ่เลือก 2-4 (น้อยถึงมาก) เมื่อเทียบกับภายหลังเข้าร่วมโครงการนักเรียนส่วนใหญ่เลือก 3-5 (ปานกลางถึงมากที่สุด)
  • นักเรียนรายงานว่าประสบความสำเร็จมากขึ้นภายหลังเข้าร่วมโครงการ จากคะแนน 1-5 ก่อนเข้าร่วมโครงการนักเรียนส่วนใหญ่เลือก 1-3 (น้อยที่สุดถึงปานกลาง) ภายหลังเข้าร่วมโครงการนักเรียนส่วนใหญ่เลือก 3-4 (ปานกลางถึงมาก)
  • นักเรียนรายงานว่ารู้สึกว่าอนาคตของตนเองมีความมั่นคงมากขึ้นภายหลังเข้าร่วมโครงการ จากคะแนน 1-5 ก่อนเข้าร่วมโครงการนักเรียนส่วนใหญ่เลือก 2-4 (น้อยถึงปานกลาง) ภายหลังเข้าร่วมโครงการนักเรียนส่วนใหญ่เลือก 3-5 (ปานกลางถึงมากที่สุด)
  • นักเรียนส่วนใหญ่รายงานว่าโครงการมีประโยชน์ต่อนักเรียนด้วยคะแนน 5 (มากที่สุด)
  • นักเรียนส่วนใหญ่รายงานว่าโครงการมีความสนุกสนาน น่าสนใจ ด้วยคะแนน 5 (มากที่สุด)
  • นักเรียนส่วนใหญ่รายงานว่าโครงการทำให้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในชีวิตของตนเอง ด้วยคะแนน 4-5 (มากถึงมากที่สุด)
  • นักเรียนรายงานว่ามีความยินดีที่ได้เข้าร่วมโครงการ Better Me
  • นักเรียน 1 คนรายงานมีรายได้เพิ่มขึ้นภายหลังเข้าร่วมโครงการ Better Me โดยแจ้งว่าพัฒนาการด้านภาษาอังกฤษและการทำกิจกรรมหลักสูตรพัฒนาตนเองมีส่วนช่วยทำให้ตนเองพัฒนาขึ้น นำมาซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้น

จากการเข้าร่วมโครงการนักเรียนมีความมั่นใจและมีความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้น มีการพัฒนาทักษะทางด้านสังคม ทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ การทำกิจกรรมกลุ่ม การแชร์ประสบการณ์และการแสดงความคิดเห็นผ่านการทำกิจกรรมกลุ่มและกิจกรรมเดี่ยวทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ทักษะและความรู้ที่ได้รับเหล่านี้ทำให้นักเรียนมีความมั่นใจมากขึ้นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไปในอนาคต

ความคิดเห็นของนักเรียนหลังเข้าร่วมโครงการ

“กล้าแสดงออกและได้เจอเพื่อน ๆ ที่น่ารัก มีความมั่นใจมากขึ้น ภาษาอังกฤษพัฒนาขึ้น อ่านออกเขียนได้มากขึ้นและได้ความรู้ใหม่เพิ่มขึ้น”

“เปลี่ยนเป็นคนมีวินัยมากขึ้น เป็นคนคิดบวกมากขึ้น ได้พบเจอเพื่อนหลาย ๆ คน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันและได้รู้ภาษาอังกฤษที่ดีมากขึ้น เข้าใจภาษาอังกฤษมากขึ้นกว่าเดิม”

“ฉันขอขอบคุณมูลนิธิกลุ่มปรารถนาดีที่ทำให้ฉันได้พัฒนาตนเอง จากที่ไม่รู้จักการจัดการตัวเอง จากที่ใช้ภาษาไม่ได้ มูลนิธิทำให้ฉันมั่นใจในการใช้ภาษาและพัฒนาตัวเอง”

“ฉันได้มาเรียนภาษาอังกฤษที่มูลนิธิ ได้เพื่อนใหม่ ได้เจอคุณครู เจอพี่ ๆ น้อง ๆ ที่มูลนิธิ ได้คิดบวกต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ได้พัฒนาตนเองให้ดีขึ้น ได้ข้อคิดดี ๆ ต่าง ๆ ที่สามารถเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ใช้คำศัพท์ที่อาจารย์สอน มีความสุข สนุก และประทับใจมากค่ะ”

“ดิฉันอยากบอกว่ามาเรียนที่นี่ได้ความรู้ภาษาอังกฤษมากขึ้น ในตอนแรกเขียนชื่อตัวเองยังไม่ได้ ในชั้นเรียนอาจารย์ก็สอนได้เข้าใจและสนุกมากไม่เครียด และเวลาทำกิจกรรมก็ได้ข้อคิดมากมายที่มีประโยชน์ รู้สึกเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากขึ้น ขอบอกว่ามูลนิธิกลุ่มปรารถนาดีคือดีมากค่ะ!”

“ฉันอยากบอกกับทางมูลนิธิว่าขอบคุณมากสำหรับความรู้และประสบการณ์ ก้าวแรกที่ก้าวเข้ามาที่นี่ ฉันได้อะไรหลายอย่างจากที่นี่มาก ได้รู้จักตัวเอง สังคมข้างนอก และประสบการณ์อีกหลาย ๆ อย่าง ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ”

ความคิดเห็นของอาสาสมัครสอนภาษาอังกฤษ

นักเรียนแต่ละคนที่ทักษะด้านการฟัง พูด อ่าน เขียน และกระบวนการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ซึ่งนักเรียนได้ให้ความสนใจและตั้งใจในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านนี้ของตนเอง นักเรียนมีพัฒนาการด้านการเรียนที่ดีและเป็นพื้นฐานต่อการเรียนที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต

มูลนิธิฯ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนโครงการทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงตนเองของนักเรียน และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะนำไปสู่การเพิ่มช่องทางและโอกาสในการมีชีวิตที่ดีและมีคุณภาพมากขึ้นในอนาคต