ความเคลื่อนไหว

  • Project update > ยาใจผู้ป่วยมะเร็ง

    แนะแนวทางการรับมือให้กับผู้ป่วยมะเร็ง 20,000 คน

    25 April 2024

    อาร์ต ฟอร์ แคนเซอร์ บายไอรีล ภายใต้บริษัท อาร์ต ออฟ ไลฟ์ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัดได้ส่งมอบแนวทางในการรับมือกับโรคมะเร็งผ่าน “ยากำลังใจ” ในโครงการยากำลังใจ ให้กับผู้ป่วยและผู้ดูแล จำนวน 20,000 รายทั่วประเทศ ผ่าน 37 โรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ

    นอกจากนี้ยังมีสื่อความรู้และกำลังใจ จากการแชร์ประสบการณ์ตรงจากผู้ป่วยมะเร็ง และอดีตผู้ป่วยมะเร็ง รวมถึงวีดิโอสาธิตการทำ 7 เมนู สุขภาพเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งมีกลุ่มผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ดูแล และผู้ประชาชนทั่วไปได้เข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ผ่านกิจกรรมของโครงการยากำลังใจ มากกว่า 1,275,101 คนทั่วประเทศ ซึ่งออย ไอรีล ไตรสารศรี ผู้ก่อตั้งอาร์ต ฟอร์ แคนเซอร์ บายไอรีล และเป็นผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะที่ 4 กล่าวว่า

    “ โครงการยากำลังใจปี 2566 ถือได้ว่าบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการเป็นอย่างมาก ที่เราต้องการให้ผู้ป่วยและผู้ดูแล ได้เรียนรู้แนวทางและเทคนิคในการรับมือกับโรคมะเร็ง ด้วยความหวังและทัศนคติเชิงบวกควบคู่ไปกับการรักษาของแพทย์ โดยทางอาร์ต ฟอร์ แคนเซอร์ บายไอรีล ยังคงมุ่งหวังที่จะได้รับการสนับสนุนจากทางภาครัฐและภาคเอกชน ในการสนับสนุนต่อยอดในการขับเคลื่อนกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์และโครงการอื่นๆ ที่จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้ป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพิ่มอัตราการรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยมะเร็ง ไทยในอนาคตอย่างยั่งยืน ”

    ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ
    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    ผู้ป่วยผู้ป่วยมะเร็งและผู้ดูแล
    ทั่วประเทศไทย
    20,000 รายได้เรียนรู้แนวทางและเทคนิคในการรับมือกับโรคมะเร็งด้วยความหวัง และทัศนคติเชิงบวกควบคู่ไปกับการรักษาของแพทย์
    วิดีโอการดำเนินกิจกรรม



    Read more
  • Project update > "ยากำลังใจ เวอร์ชั่น 2" ยาเม็ดแรกสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง

    แนะแนวทางการรับมือให้กับผู้ป่วยมะเร็ง 20,000 คน

    24 April 2024

    อาร์ต ฟอร์ แคนเซอร์ บายไอรีล ภายใต้บริษัท อาร์ต ออฟ ไลฟ์ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัดได้ส่งมอบแนวทางในการรับมือกับโรคมะเร็งผ่าน “ยากำลังใจ” ในโครงการยากำลังใจ ให้กับผู้ป่วยและผู้ดูแล จำนวน 20,000 รายทั่วประเทศ ผ่าน 37 โรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ

    นอกจากนี้ยังมีสื่อความรู้และกำลังใจ จากการแชร์ประสบการณ์ตรงจากผู้ป่วยมะเร็ง และอดีตผู้ป่วยมะเร็ง รวมถึงวีดิโอสาธิตการทำ 7 เมนู สุขภาพเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งมีกลุ่มผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ดูแล และผู้ประชาชนทั่วไปได้เข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ผ่านกิจกรรมของโครงการยากำลังใจ มากกว่า 1,275,101 คนทั่วประเทศ ซึ่งออย ไอรีล ไตรสารศรี ผู้ก่อตั้งอาร์ต ฟอร์ แคนเซอร์ บายไอรีล และเป็นผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะที่ 4 กล่าวว่า

    “ โครงการยากำลังใจปี 2566 ถือได้ว่าบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการเป็นอย่างมาก ที่เราต้องการให้ผู้ป่วยและผู้ดูแล ได้เรียนรู้แนวทางและเทคนิคในการรับมือกับโรคมะเร็ง ด้วยความหวังและทัศนคติเชิงบวกควบคู่ไปกับการรักษาของแพทย์ โดยทางอาร์ต ฟอร์ แคนเซอร์ บายไอรีล ยังคงมุ่งหวังที่จะได้รับการสนับสนุนจากทางภาครัฐและภาคเอกชน ในการสนับสนุนต่อยอดในการขับเคลื่อนกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์และโครงการอื่นๆ ที่จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้ป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพิ่มอัตราการรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยมะเร็ง ไทยในอนาคตอย่างยั่งยืน ”

    ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ
    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    ผู้ป่วยผู้ป่วยมะเร็งและผู้ดูแล
    ทั่วประเทศไทย
    20,000 รายได้เรียนรู้แนวทางและเทคนิคในการรับมือกับโรคมะเร็งด้วยความหวัง และทัศนคติเชิงบวกควบคู่ไปกับการรักษาของแพทย์
    วิดีโอการดำเนินกิจกรรม



    Read more
  • Project update > ช่วยค่ารถรับ-ส่ง เด็กที่ขาดโอกาสได้ไปเรียน

    สนับสนุนค่ารถรับส่งนักเรียน จำนวน 164 คน

    23 April 2024

    โครงการได้เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2567 นี้ ขณะนี้ทางโครงการได้ดำเนินโครงการไปแล้ว 3 เดือน คือเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม โดยโครงการได้ดำเนินการจ่ายค่ารถรับส่งนักเรียนให้กับโรงเรียนทั้งหมด 5 โรงเรียนด้วยกันคือ

    1. โรงเรียนบ้านป่าไร่ จำนวน 62 คน
    2. โรงเรียนแม่ระมาดวิทยาคม จำนวน 15 คน
    3. โรงเรียนบ้านต้นผึ้ง จำนวน 1 คน
    4. โรงเรียนบ้านคะเนจื้อ จำนวน 10 คน
    5. โรงเรียนอนุกุลวิทยา จำนวน 76 คน

    โครงการยังคงเหลือเวลาในการทำโครงการอีก 2 เดือน โดยโครงการจะเว้นเดือนเมษายนไว้ เนื่องจาก เดือนเมษายนเป็นเดือนที่ไม่มีการเรียนการสอน ทำให้เด็กไม่ต้องไปโรงเรียน จึงไม่มีการจ่ายค่ารถรับส่งนักเรียน และโครงการจะเริ่มจ่ายเงินค่ารถรับส่งอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายน

    จำนวนนักเรียนที่ขึ้นรถรับส่งนักเรียนดังกล่าว นอกจากพวกเขาได้รับการสนับสนุนค่ารถรับส่งนักเรียนแล้ว พวกเขายังมีส่วนร่วมในการช่วยจ่ายค่ารถรับส่งนักเรียน โดยทางโครงการจะช่วยคนละ 350 บาท และผู้ปกครองจะสมทบให้อีก 150 บาท และถ้าเกิด ในช่วงเดือนกราคมจนถึงเดือนมีนาคม ไม่มีเงินสนับสนุนค่ารถรับส่งนักเรียน ภาระทั้งหมดจะตกไปอยู่กับผู้ปกครองทั้งหมด โดยจากผู้ปกครองต้องจ่ายสมทบ 150 บาท ผู้ปกครองจะต้องครอบคลุมทั้งหมด คือ 500 บาท ผู้ปกครองส่วนใหญ่ ไม่มีรายได้หลัก มีเพียงรายได้ที่เป็นรายวัน ซึ่งไม่ได้มีงานทุกวัน และรายได้แต่ละวันที่ผู้ปกครองได้รับไม่ได้เป็นค่าแรงขั้นต่ำ แต่เป็นค่าแรงที่ถูกกำหนดไว้จากนายจ้างว่าจะจ่ายเพียงวันละ 150 บาท ถึง 200 บาทเท่านั้น ทำให้ภาระค่ารถที่ต้องจ่ายอาจจะไม่เพียงพอต่อรายได้ที่ได้รับมา จนอาจทำให้ผู้ปกครองเลือกที่จะเอาลูกออกจากโรงเรียนเพื่อลดค่าใช้จ่าย แต่เนื่องจากมีโครงการช่วยสนับสนุนค่ารถรับส่งนักเรียนในส่วนนี้ ทำให้เด็กๆ ได้เรียนอย่างมีความสุข และได้เรียนจนจบปีการศึกษา โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีค่ารถรับส่งนักเรียน และไม่มีใครออกกลางคันเนื่องจากไม่มีค่ารถไปโรงเรียน

    ค่ารถรับส่งนักเรียน เป็นค่าใช้จ่ายที่สูง และต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือน ทุกปี จนกว่าเด็กจะเรียนจบช่วงชั้น และไปเรียนต่อ ยังมีนักเรียนอีกหลายคนที่ผ่านมาไม่มีค่ารถนักเรียน และพวกเขาเลือกที่จะออกจากโรงเรียน ทางโครงการจึงได้เลงเห็นถึงความจำเป็นในการจ่ายค่ารถให้กับนักเรียน เพื่อให้เด็กได้เรียนจนจบ และไม่หลุดออกจากระบบการศึกษา

    การสนับสนุนค่ารถรับส่งนักเรียนจะดำเนินการต่อถึงเดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายน แต่ใน 2 เดือนนี้จะเป็นปีการศึกษา 2567 อาจจะมีการโยกย้ายของเด็กนักเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีถึงประถม 6 เด็กอาจจะต้องย้ายโรงเรียน แต่โรงเรียนที่ย้ายไปจะเป็นโรงเรียนที่รถรับส่งของเราก็ได้รับส่งเช่นเดียวกัน จำนวนเด็กขึ้นรถในแต่ละโรงเรียนอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง

    ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ
    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    เด็กและเยาวชนเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าไร่ โรงเรียนบ้านคะเนจื้อ โรงเรียนบ้านต้นผึ้ง โรงเรียนแม่ระมาดวิทยาคม อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก และโรงเรียนอนุกุลวิทยา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก164 คนเด็กนักเรียนมีรถรับส่งนักเรียนไป กลับ โรงเรียนทุกวันในวันที่โรงเรียนเปิดเรียน
    รูปภาพการดำเนินกิจกรรม






    Read more
  • Project update > สร้างยิ้ม เสริมสุขให้ผู้สูงวัย ผู้ยากไร้ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส

    มอบชุดยังชีพแก่ผู้สูงวัย ผู้ป่วยยากไร้ จำนวน 29 คน

    22 April 2024

    โครงการได้ดำเนินการ 2 เดือน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ระหว่างวันที่ 26 - 28 และมีนาคม 2567 ระหว่างวันที่ 27 - 29 พื้นที่ดำเนินการในจังหวัดลำปาง ดังนี้

    • ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ จำนวน 4 ราย
    • ตำบลจางเหนือ อำเภอแม่เมาะ จำนวน 4 ราย
    • ตำบลสบป้าด อำเภอแม่เมาะ จำนวน 5 ราย
    • ตำบลนาสัก อำเภอแม่เมาะ จำนวน 5 ราย
    • ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จำนวน 10 ราย
    • ตำบลหัวเสือ อำเภอแม่ทะ จำนวน 1 ราย

    โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 29 ราย และได้รับชุดยังชีพมูลค่า 900 บาทต่อเดือน ในชุดยังชีพประกอบด้วย ปลากระป๋อง น้ำผลไม้ ข้าวสาร น้ำดื่ม น้ำมันพืช โจ๊กสำเร็จรูป สบู่ ขนม กระดาษทิชชู ผงซักฟอก แซมพู รสดี ผงชูรส ไข่ไก่ บะหมี่สำเร็จรูป และสิ่งของจำเป็นสำหรับผู้ป่วยติดเตียงหรือช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เช่น แพมเพิส ลูกบอล

    ในการดำเนินการทีมงานได้ประสานงานกับ รพ.สต.ของแต่ละตำบล, รพ.อำเภอ และอสม. เจ้าของพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อให้ร่วมในการจ่ายชุดยังชีพ มีการจัดทำแผนการทำงาน กำหนดการ และได้แจ้งแผนการดำเนินการให้ผู้ประสานงานได้รับทราบ ก่อนการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้เข้าร่วมโครงการทีมงานจะร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลก่อนการเข้าพบ เมื่อถึงบ้านผู้เข้าร่วมโครงการทีม อสม. และแพทย์ จะพูดคุยและสอบถามความเป็นอยู่ และการดูแลสุขภาพ พร้อมให้คำแนะนำ แล้วแจ้งวัตถุประสงค์ในการมาครั้งนี้ มอบชุดยังชีพ สอบถามถึงความต้องการที่อยากได้ บันทึกข้อมูลของผู้เข้าร่วมโครงการ เพื่อนำกลับมาประเมินผู้เข้าร่วมโครงการ ทางด้านสุขภาพจิต สุขภาพกาย อาการ สภาพแวดล้อม สุขลักษณะด้านต่าง ๆ และแนวทางในการให้ความช่วยเหลือในโอกาสต่อไป

    จากการดำเนินการโครงการในครั้งนี้ ทำให้เห็นว่ายังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ยังเข้าไม่ถึงการช่วยเหลือ ความแตกต่าง ความต้องการและสิ่งของจำเป็น ในการดำเนินการครั้งต่อไปจำเป็นต้องมีการขอข้อมูลผู้เข้าร่วมโครงการ การประเมินความต้องการที่แท้จริง การจัดหาสิ่งของที่จำเป็นต่อการรักษาให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีสุขภาพกาย และจิตใจที่ดี และให้เห็นว่าสังคมยังไม่ทอดทิ้ง

    ความประทับใจของผู้ที่ได้รับประโยชน์

    “ เป็นโครงการที่ดี สิ่งของที่ได้รับสามารถนำมาประกอบอาหารได้ ทำให้ช่วยประหยัดค่าครองชีพได้ ของที่ได้รับสามารถใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน ” นางระเบียบ เกตุแก้ว อายุ 93 ปี (แม่ระเบียบ) 

    “ ชอบที่มีโครงการแบบนี้ และมีการดูแลต่อเนื่อง ทำให้มีวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ช่วยลดรายจ่ายที่ต้องซื้อเช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ เครื่องปรุง อยากให้มีโครงการแบบนี้ต่อไป ” นางพร้าว ทาก๋อง อายุ 76 ปี (แม่พร้าว)

    “ ผมเป็นครอบครัวที่มีเพียง 3 พี่น้อง พ่อ แม่ เสียชีวิต ต้องอยู่กันตามมีตามเกิดมาเกือบ 2 ปี ไม่มีหน่วยงานไหนมาช่วยเหลือ พอพี่ ๆ เข้ามาช่วยเหลือในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้มีหน่วยงานอื่น ๆ เข้ามาช่วยเหลืออีก 2 หน่วยงาน ส่วนตัวคิดว่าเป็นโครงการที่ดี ทำให้มีสิ่งของจำเป็นในการใช้ในชีวิตประจำวัน และวัตถุดิบในการประกอบอาหาร อยากให้มีโครงการแบบนี้อย่างต่อเนื่อง ” นายคมไผ่ ผาคำ อายุ 14 ปี (น้องไผ่)

    ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ
    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    เด็กและเยาวชนเด็ก ผ่าตัดท่อปัสวะ ต.แม่เมาะ
    เด็ก ออทิสติก ต.จางเหนือ
    4 คนเด็กได้รับแพมเพิส เพื่อให้ถูกสุขลักษณะ
    ผู้พิการและผู้ป่วย

    ผู้สูงอายุป่วยติดเตียง, น้ำหนักเกิน, ผู้ป่วย
    ผู้ป่วยอุบัติเหตุติดเตียง, ติดบ้าน

    25 คน
    • ผู้ป่วยมีวัตถุดิบในการประกอบอาหาร
    • ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการครองชีพ
    รูปภาพการดำเนินกิจกรรม






    Read more
  • Project update > ขอแว่นตาให้ผู้สูงวัยยากไร้ ปี2

    มอบแว่นตาให้ผู้สูงวัย จำนวน 647 คน

    19 April 2024

    " โครงการแว่นผู้สูงวัย ขอแว่นตาให้ผู้สูงวัยยากไร้ ปี 2 " ดำเนินการระหว่างเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งมูลนิธิฯ ได้นำแว่นตาไปมอบให้ผู้สูงวัยยากไร้ ดังนี้

    • เขตคลองเตย ณ ศูนย์นันทนาการคลองเตย จำนวน 228 ราย
    • เขตสะพานสูง ณ โรงเรียนมะเซาะฮะตุดดีน 2 จำนวน 219 ราย
    • เขตธนบุรี ณ ลานห้างบิ๊กซี ดาวคะนอง จำนวน 200 ราย

    โดยใช้เงินที่ได้รับบริจาคในโครงการเทใจดอทคอม มาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อแว่นตามามอบให้ผู้สูงวัยยากไร้ ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค

    ความประทับใจของผู้ที่ได้รับประโยชน์

     “ ป้าดีใจมากที่ได้มารับแว่นวันนี้ จะได้ใช้แว่นเวลาขายของ หยิบโน่นนี่ และเวลาอ่านฉลากยา จะได้ไม่หยิบยาผิด คงใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ต้องขอบคุณมูลนิธิฯ ที่เอาแว่นมาแจกจ้ะ ” ป้าเล็ก (นามสมมติ) 

     “ วันนี้ หลานพารับแว่นคนแก่ ดีใจมาก เพราะอันเก่ามันขาหัก จะได้ใช้แว่นใหม่เวลาทำกับข้าว สนเข็ม และอ่านฉลากยา ต้องขอบใจมูลนิธิฯ มากๆ เลยนะลูก ” ยายนิด (นามสมมติ)

    ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ
    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    ผู้สูงอายุผู้สูงอายุ และผู้ยากไร้ ที่อาศัยอยู่ในเขตคลองเตย เขตสะพานสูง และเขตธนบุรี647 คน
    • ผู้สูงวัยมีแว่นสายตาใช้ ช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น
    • ช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันได้ดีขี้น
    • ลดความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาสายตา
    รูปภาพการดำเนินกิจกรรม




    Read more
  • Project update > ดนตรีพลังบวก วงเด็กของเด็กและคนชราให้ปล่อยแก่

    กิจกรรมดนตรีพลังบวก วงปล่อยแก่ และวงเด็กภูมิดี

    18 April 2024

    โครงการดนตรีพลังบวก วงปล่อยแก่

    1. โครงการวงปล่อยแก่บ้านคา จังหวัดราชบุรี
    2. โครงการวงปล่อยแก่บ้านเกาะลอย จังหวัดราชบุรี
    3. โครงการวงปล่อยแก่เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
    4. โครงการวงปล่อยแก่ยะลา จังหวัดยะลา
    5. โครงการวงปล่อยแก่บุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
    6. โครงการวงปล่อยแก่ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์
    7. โครงการวงปล่อยแก่เชียงราย จังหวัดเชียงราย
    8. โครงการปล่อยแก่สุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
    9. โครงการปล่อยแก่ภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
    10. โครงการปล่อยแก่โคราช จังหวัดนครราชสีมา
    • พัฒนาต่อยอดให้เกิดวงปล่อยแก่สำหรับชุมชน
    • ดำเนินการสอนและดำเนินแผนบูรณาการให้เข้ากับบริบทในแต่ละพื้นที่
    • สร้างความเข้าใจ โดยจัดประชุมในพื้นที่โครงการที่มีศักยภาพโดยให้ชุมชน/ภาครัฐ/ภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วม เพื่อเป็นการสร้างเครือข่าย เปิดพื้นที่สำหรับวงปล่อยแก่เป็นที่รู้จัก และจัดกิจกรรมดนตรีในพื้นที่
    • การดำเนินการสอนให้เป็นไปตามบริบทพื้นที่จัดให้มีการเป็นการประชุมร่วมระหว่าง ผู้เรียน (ผู้สูงอายุ/ผู้ดูแล/ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่) (ครูเจ้าหน้าที่/ผู้นำชุมชน) ครูผู้สอน (วิทยากรโดยมูลนิธิฯ)
    • กิจกรรมการถอดบทเรียน

    โครงการดนตรีพลังบวก วงเด็กภูมิดี

    โรงเรียนวัดสุวรรณาราม จังหวัดนครปฐม
    • การเรียนการสอนวงดนตรีสากล วงเมโลเดียน
    • ระดับชั้นประถมศึกษา จำนวนนักเรียน 40 คน
    • การสร้างการเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานดนตรีสากล จนถึงการรวมวงดนตรี เพื่อกิจกรรมทั้งภายในและภายนอก
    • การพัฒนาผู้ควบคุมดูแลวงดนตรีให้สามารถวางแผนการซ้อม สามารถดูแลรักษาเครื่องดนตรี และสามารถนำนักเรียนออกแสดงในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
    โรงเรียนวัดลาดทราย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    • การเรียนการสอนวงดนตรีไทย วงปีพาทย์ และวงเครื่องสาย
    • ระดับชั้นประถมศึกษา จำนวนนักเรียน 40 คน
    • การสร้างการเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานดนตรีไทย การอ่านโน้ต การปฏิบัติเครื่องดนตรีไทย จนถึงการเล่นรวมวงปี่พาทย์ และวงเครื่องสาย เพื่อกิจกรรมทั้งภายในและภายนอก
    • การสร้างพื้นฐานอาชีพดนตรีไทย ให้กับนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ โดยอาศัยพื้นที่วัดลาดทรายเป็นศูนย์กลางในการแสดงดนตรีไทยของชุมชน
    โรงเรียนวัดกุฏิประสิทธิ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    • การเรียนการสอนวงดนตรีไทย วงปีพาทย์ และวงอังกะลุง
    • ระดับชั้นประถมศึกษา จำนวนนักเรียน 40 คน
    • การสร้างการเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานดนตรีไทย การอ่านโน้ต การปฏิบัติเครื่องดนตรีไทย จนถึงการเล่นรวมวงปี่พาทย์ และวงอังกะลุง เพื่อกิจกรรมทั้งภายในและภายนอก
    • การสร้างพัฒนาผู้เรียนให้สามารถประกวดแข่งขันดนตรีไทย
    โรงเรียนวัดพระยอม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    • การเรียนการสอนวงดนตรีไทย วงปีพาทย์ และกลองยาว
    • ระดับชั้นประถมศึกษา จำนวนนักเรียน 40 คน
    • การสร้างการเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานดนตรีไทย การอ่านโน้ต การปฏิบัติเครื่องดนตรีไทย จนถึงการเล่นรวมวงปี่พาทย์ และวกลองยาว เพื่อกิจกรรมทั้งภายในและภายนอก
    • การสร้างพัฒนาผู้เรียนให้สามารถแสดงในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก
    โรงเรียนบ้านเทอดไทย จังหวัดเชียงราย
    • การเรียนการสอนวงดนตรีสากล วงเครื่องสายตะวันตก
    • ระดับชั้นประถมศึกษา และระดับชั้นมัมธยมศึกษาตอนต้น จำนวนนักเรียน 40 คน
    • การสร้างการเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานดนตรีสากล วงเครื่องสายตะวันตกจนถึงการรวมวงดนตรี เพื่อกิจกรรมทั้งภายในและภายนอก โรงเรียน
    • การพัฒนาผู้ควบคุมดูแลวงดนตรีให้สามารถวางแผนการซ้อม สามารถดูแลรักษาเครื่องดนตรี และสามารถนำนักเรียนออกแสดงในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
    โรงเรียนบ้านห้วยอื่น จังหวัดเชียงราย
    • การเรียนการสอนวงดนตรีสากล วงเมโลเดียน
    • ระดับชั้นประถมศึกษา จำนวนนักเรียน 40 คน
    • การสร้างการเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานดนตรีสากล จนถึงการรวมวงดนตรี เพื่อกิจกรรมทั้งภายในและภายนอก
    • การพัฒนาผู้ควบคุมดูแลวงดนตรีให้สามารถวางแผนการซ้อม สามารถดูแลรักษาเครื่องดนตรี และสามารถนำนักเรียนออกแสดงในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
    โรงเรียนอนุบาลยะลา จังหวัดยะลา
    • การเรียนการสอนวงดนตรีสากล วงขับร้องประสานเสียง
    • ระดับชั้นประถมศึกษา จำนวนนักเรียน 40 คน
    • การสร้างการเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานดนตรีสากล วงขับร้องประสานเสียงเด็ก จนถึงการรวมวงขับร้องประสานเสียง
    • การพัฒนาผู้ควบคุมดูแลวงดนตรีให้สามารถวางแผนการซ้อม สามารถดูแลรักษาเครื่องดนตรี และสามารถนำนักเรียนออกแสดงในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
    โรงเรียนโรงเรียนอนุบาลบ้านคา จังหวัดราชบุรี
    • การเรียนการสอนวงดนตรีสากล วงขับร้องประสานเสียง
    • ระดับชั้นประถมศึกษา จำนวนนักเรียน 35 คน
    • การสร้างการเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานดนตรีสากล วงขับร้องประสานเสียงเด็ก จนถึงการรวมวงขับร้องประสานเสียง
    • การพัฒนาผู้ควบคุมดูแลวงดนตรีให้สามารถวางแผนการซ้อม สามารถดูแลรักษาเครื่องดนตรี และสามารถนำนักเรียนออกแสดงในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
    โรงเรียนโรงเรียนโป่งเจ็ด จังหวัดราชบุรี
    • การเรียนการสอนวงดนตรีสากล วงขับร้องประสานเสียง
    • ระดับชั้นประถมศึกษา จำนวนนักเรียน 35 คน
    • การสร้างการเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานดนตรีสากล วงขับร้องประสานเสียงเด็ก จนถึงการรวมวงขับร้องประสานเสียง
    • การพัฒนาผู้ควบคุมดูแลวงดนตรีให้สามารถวางแผนการซ้อม สามารถดูแลรักษาเครื่องดนตรี และสามารถนำนักเรียนออกแสดงในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน

    เสียงสะท้อนจากวงปล่อยแก่

    สิ่งที่รู้สึกชอบมาก คือ รู้สึกมีความสุขมากขึ้น ตั้งแต่เริ่มเข้าโครงการมา มีสุขภาพจิตดีมากขึ้น เชื่อว่า การร้องเพลงเป็นวิธีคลายเครียดวิธีหนึ่ง มีเพื่อนได้พูดคุย ไม่เหงา มีเป้าหมาย ตารางเวลาและภาระหน้าที่ให้ต้องปฏิบัติ ไม่รู้สึกว่างเปล่าไร้ประโยชน์เหมือนในอดีต

    สิ่งที่รู้สึกภาคภูมิใจมาก คือ การพัฒนาความสามารถในด้านร้องเพลงของตัวเอง จากเริ่มต้นที่คิดว่าการเรียนตัวโน้ต การร้องเพลงให้ตรงจังหวะเป็นเรื่องยาก เป็นตัวถ่วงของกลุ่มแต่ในที่สุดสามารถทำได้แม้ว่าอาสาสมัครบางคนอ่านหนังสือไม่ออก การได้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงบทเพลงในงานต่างๆ หรือการได้ช่วยเหลือสมาชิกคนอื่นในกลุ่มที่มีปัญหา เช่น การช่วยอ่านหนังสือ อ่านตัวโน้ต การช่วยประสานงาน ช่วยเหลือเพื่อให้เดินทางมาฝึกซ้อมและจัดแสดง ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่ามากขึ้น

    สิ่งที่รู้สึกว่ายากในการเรียนการสอน คือ การอ่านโน้ต การร้องเพลงให้ตรงจังหวะ การออกเสียงให้ถูกต้อง การหายใจให้ถูกจังหวะ การเข้าใจอารมณ์ของเพลง และเมื่อร้องรวมกัน ยังสามารถออกเสียงตนเองได้ถูกต้อง

    เป้าหมายสำคัญที่เข้าร่วมโครงการ คือ ความอยากเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวงปล่อยแก่ อยากมีเพื่อน อยากมาพูดคุยกับเพื่อนช่วยให้หายเหงาได้เยอะมาก อยากมีความสามารถในทักษะการร้องเพลงประสานเสียงมาขึ้น อยากแสดงบนเวทีเพื่อให้ผู้อื่นยอมรับ สร้างเป้าหมายใหม่ๆ ร่วมกัน

    อยากมีเวทีให้แสดงบ่อยๆ เพื่อจะได้ฝึกฝนทักษะมากขึ้น สร้างความมั่นใจมากขึ้น อยากให้ชุมชนในพื้นที่ภาคภูมิใจในวงปล่อยแก่ ให้เป็นที่ประจักษ์ว่า ผู้สูงวัย ก็ยังมีประโยชน์ สามารถช่วยสังคมด้วยการสร้างความสุขให้ผู้คน ดูแลสุขภาพ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นสังคมสุขภาวะที่ไม่ต้องพึ่งพิงลูกหลาน

    ผลการประเมินความมีชีวิตชีวา

    • แสดงให้เห็นว่า เมื่อแยกระดับความมีชีวิตชีวาตามด้านต่างๆ จะพบว่าสิ่งที่ได้เพิ่มเข้ามาอย่างเห็นได้ชัดคือส่วนของสุขภาพจิต ที่ระดับความมีชีวิตชีวาด้านจิตใจเพิ่มขึ้น ในภาพรวมทั้ง 6 กลุ่ม สอดคล้องกับผลการถอดบทเรียนที่พบว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดของแต่ละบุคคลคือการที่รู้สึกมีความสุขมากขึ้น สุขภาพจิตดีมากขึ้น โดยให้เหตุผลประกอบว่า การร้องเพลงเป็นวิธีคลายเครียดวิธีหนึ่ง การรู้สึกภาคภูมิใจกับการพัฒนาความสามารถในด้านร้องเพลงของตัวเอง จากเริ่มต้นที่คิดว่าการเรียนตัวโน้ต การร้องเพลงให้ตรงจังหวะเป็นเรื่องยาก เป็นตัวถ่วงของกลุ่มแต่ในที่สุดสามารถทำได้แม้ว่าอาสาสมัครบางคนอ่านหนังสือไม่ออก การได้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงบทเพลงในงานต่างๆ หรือการได้ช่วยเหลือสมาชิกคนอื่นในกลุ่มที่มีปัญหา เช่น การช่วยอ่านหนังสือ อ่านตัวโน้ต การช่วยประสานงาน ช่วยเหลือเพื่อให้เดินทางมาฝึกซ้อมและจัดแสดง ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่ามากขึ้น รองลงมาจากด้านสุขภาพจิตคือเรื่องของการเข้าสังคม นอกจากจะเป็นการกระตุ้นให้ผู้สูงวัยที่มักเก็บตัวอยู่บ้านหรือรู้สึกโดดเดี่ยว ได้มีกิจกรรมร่วมกับบุคคลอื่นมากขึ้นแล้วยังมีเรื่องของการปรับตัวเมื่อต้องอยู่ในคนหมู่มาก นับได้ว่าเป็นทักษะอย่างหนึ่งซึ่งสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน และถือเป็นเรื่องยากมากสำหรับผู้สูงวัยแล้ว
    • วงปล่อยแก่เป็นวงขับร้องเพื่อสร้างพลังผู้สูงอายุให้สามารถช่วยตัวเองได้มากที่สุด เมื่อกำลังเริ่มถดถอยก็ต้องสร้างพลังจากภายในให้เข้มแข็ง เวลาร้องเพลงเลือดลมได้สูบฉีดทั่วร่างกาย ได้ปลดปล่อยความเจ็บปวดที่มีอยู่ภายในให้ออกไปและจะช่วยเติมความสุขเข้ามาแทน การเปล่งเสียงจึงเป็นการออกกำลังกายของคนแก่
    ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ 
    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    เด็กและเยาวชนนักเรียนในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ355 คนเกิดวงดนตรีต้นแบบนำร่องเพื่อเป็นกรณีศึกษาสำหรับโรงเรียนอื่น ๆ ที่มีความสนใจในด้านเดียวกัน 
    ผู้สูงอายุผู้สูงอายุในพื้นที่เข้าร่วมโครงการ480 คน
    • ลดภาวะซึมเศร้า ลดภาวะความหดหู่ในกลุ่มผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโครงการ
    • มีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดีขึ้น
    • ทำให้ภาระการดูแลของลูกหลานลดลง
    • มีกลุ่มผู้สูงอายุที่สุขภาพที่ดี แข็งแรง
    • เกิดวงขับร้องปล่อยแก่ ขึ้นในชุมชน
    • เกิดการเชื่อมโยงเครือข่าย / ผู้เกี่ยวข้อง ในรูปแบบการสนับสนุนในหลายมิติ
    รูปภาพการดำเนินกิจกรรม













    Read more
  • Project update > พาพญาแร้งที่สูญพันธุ์จากธรรมชาติกลับคืนป่าเมืองไทย

    กิจกรรมโครงการพญาแร้งคืนถิ่น

    17 April 2024

    กิจกรรมที่ 1 ค่าอาหาร/ค่าขนส่งอาหาร
    โครงการพญาแร้งคืนถิ่น จัดการการขนส่งอาหารสำหรับพญาแร้งสำหรับเจ้าหน้าที่โครงการฯ เพื่อใช้ในการขนส่งอาหารไปยังกรงพญาแร้งที่ตั้งอยู่หน่วยพิทักษ์ป่าซับฟ้าผ่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จำนวน 12 เดือน ระหว่างเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะขยายพันธุ์พญาแร้งในสภาพกรงฟื้นฟู ในเรื่องอาหารให้เหมาะสมและเก็บข้อมูลเพื่อกระตุ้นให้เกิดการจับคู่สร้างรังวางไข่ ในการดำเนินงานที่ผ่านมา พญาแร้งมีสุขภาพสมบูรณ์และสามารถวางไข่ในธรรมชาติได้สำเร็จ และเป็นไข่ใบแรกที่เกิดในถิ่นอาศัยเดิมตามธรรมชาติ

    กิจกรรมที่ 2 ค่าอุปกรณ์รักษาและดูแลนก
    วันที่ 17 ธันวาคม 2566 ป๊อก-มิ่ง พญาแร้งที่กรงฟื้นฟู หน่วยพิทักษ์ป่าซับฟ้าผ่า ขสป.ห้วยขาแข้ง ได้วางไข่พญาแร้งใบแรก ทั้งนี้ทีมผู้ดูแลได้เตรียมความพร้อมสำหรับไข่พญาแร้ง โดยการจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับฟักขาพญาแร้งจำนวน 1 ชุด ประจำที่กรงฟื้นฟู หน่วยพิทักษ์ป่าซับฟ้าผ่า ขสป.ห้วยขาแข้ง หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินกรณีพ่อแม่นกไม่ยอมฟักไข่ต่อ

    กิจกรรมที่ 3 ค่าประอุบัติเหตุผู้ดูแลพญาแร้ง
    จัดทำประกันชีสิตให้กับผู้ดูแลพญาแร้ง เนื่องจากพญาแร้งเป็นนกขนาดใหญ่และมีกรงเล็ก รวมถึงปากที่แข็งแรงอีกทั้งเป็นการฟื้นฟูในธรรมชาติ จึงมีความจำเป็นในการทำประกันชีวิตเพื่อความปลอดภัยของผู้ดูแลพญาแร้ง

    กิจกรรมที่ 4 ค่ายเยาวชนร่วมกับครูและนักเรียนในโรงเรียนกลุ่มเป้าหมายรอบห้วยขาแข้ง
    มีการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมเนื่องจากงบประมาณไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยสื่อสารเรื่องราวพญาแร้งผ่านการออกบูธจัดกิจกรรมในงานต่างๆ เช่น
    วันที่ 29 เมษายน 2566 ร่วมกิจกรรมปฎิบัติการสำรวจธรรมชาติในเมือง 2566 กับองค์กรเครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อม พาเหรดมาเสิร์ฟความรู้ และกิจกรรมสนุกๆ มากมาย ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พญาไท มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 50 คน หลังทำกิจกรรมผู้เข้าร่วมได้เห็นพัฒนาการของลูกพญาแร้งในแต่ละช่วงวัย
    วันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2566 ร่วมกิจกรรมงาน 18th Thailand Bird Fair 202 เทศกาลนกเมืองไทยครั้งที่ 18 ภายใต้หัวข้อ “Living in harmony : Birds and Human Co-Existence” คนกับนกอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ณ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ กรุงเทพมหานคร

    กิจกรรมที่ 5 เคลียร์แนวกันไฟรอบพื้นที่กรงฟื้นฟูพญาแร้ง
    สนับสนุนค่าน้ำมันให้กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งในการใช้รถไถและเครื่องเป่าลม เพื่อกำจัดเชื้อเพลิงบริเวณรอบกรงฟื้นฟูพญาแร้ง

    กิจกรรมที่ 6 ซ่อมแซมกรงพญาแร้ง
    หลังจากสร้างกรงฟื้นฟูพญาแร้งที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเสร็จสิ้นเมื่อปี 2565 และได้นำพญาแร้งจำนวน 1 คู่ ไปฟื้นฟูในกรงดังกล่าว ช่วงเดือนกันยายนกรงฟื้นฟูพญาแร้งมีส่วนชำรุดเสียหายจากสัตว์ป่าที่เข้ามากินซากสัตว์ที่เหลือจากอาหารแร้ง และจากอายุการใช้งาน จึงจำเป็นที่จะต้องดำเนินการซ่อมแซมและปรับปรุงกรงฟื้นฟูพญาแร้งอย่างเร่งด่วน เมื่อวันที่ 25-30 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 40,635 บาท ปัจจุบันไม่มีสัตว์เข้าไปรบกวนพญาแร้งในกรงฟื้นฟู

    ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ
    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    สัตว์พญาแร้งในกรงเลี้ยงที่สวนสัตว์โคราชและกรงฟื้นฟูเขขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง8 ตัวพญาแร้ง จำนวน 2 คู่ มีความพร้อมในการจับคู่ผสมพันธุ์ โดยทั้ง 2 คู่ ให้ไข่คู่ละ 1 ฟอง และฟักเป็นตัวในธรรมชาติ 1 ตัว อีก 1 ฟองอยู่ระหว่างการฟักในตู้กกไข่
    รูปภาพการดำเนินกิจกรรม






    Read more
  • Project update > มอบอาหารเพื่อสุนัขยากไร้ มูลนิธิช่วยเหลือสุนัขแหลมแม่พิมพ์

    มอบอาหารให้สุนัข 600 ชีวิต ที่มูลนิธิช่วยเหลือสุนัขแหลมแม่พิมพ์

    12 April 2024

    มอบอาหารเพื่อสุนัขยากไร้ ที่มูลนิธิช่วยเหลือสุนัขแหลมแม่พิมพ์ จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีผู้ร่วมบริจาคให้แก่มูลนิธิลดน้อยลง ทำให้สุนัขที่มูลนิธิดูแลก็ประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร สุนัขได้รับอาหารไม่เพียงพอจนเกิดอาการเครียด หิว และกัดกัน อีกทั้งสุนัขที่อยู่ในป่า ริมถนน ชายหาด ได้รับอาหาร เพียงบางวันเท่านั้น ทำให้สุนัขบางตัวจึงเริ่มเข้าไปบริเวณบ้านของคน พยายามคุ้ยหาอาหาร ทำให้ผู้คนได้รับความเดือดร้อนไปด้วย

    ความเปลี่ยนแปลงหลังจากได้รับอาหาร สุนัขในมูลนิธิได้รับอาหารอิ่มทุกมื้อ ทำให้สุนัขไม่เครียด และไม่กัดกัน เพื่อแย่งอาหาร รวมถึงสุนัขที่อยู่ ตามป่า ริมถนน และชายหาดจะคอยอาหารจากมูลนิธิที่เดิม โดยมาไปรบกวนบ้านของผู้คนอีก เพราะสุนัขจะรู้ว่า ทางมูลนิธิจะนำอาหารอาหารมาให้ทุกวัน การได้รับบริจาคนี้ มูลนิธิได้นำไปจัดซื้ออาหารให้สุนัขเกือบ 600 ชีวิตให้ได้อิ่มท้อง และการให้อาหารสุนัข จรจัดจนคุ้นเคยทำให้สามารถจับสุนัขทำหมันเพื่อลดจำนวนประชากรสุนัข จรจัดลงได้อีกด้วย

    ความประทับใจจากผู้ดูแลสุนัข


    นายสมพงษ์ แวววับ
    พนักงานที่อยู่ดูแลสุนัขมากว่า 2 ปี สังเกตได้ว่าก่อนหน้านี้สุนัขมีการแย่งอาหารกันแม้ทางเราจะให้อาหารสุนัขแต่ละวันแบบแยกชามกัน แต่สุนัขบางตัวกินไม่อิ่ม และเริ่มเข้ามากัดสุนัขอีกตัว เพื่อแย่งอาหาร แต่หลังจากที่สุนัขได้รับอาหาร ทำให้สุนัขได้รับอาหารเพียงพอ ทั้งสุขภาพสุนัขหลายตัวดีขึ้น และไม่แย่งอาหารกันเหมือนก่อน


    นายอนุชา บุญสอน
    พนักงานที่ดูแลสุนัขมากว่า3ปี สุนัขยากไร้จรจัดที่อยู่ตามป่า ริมถนน ชายหาดมีจำนวนมากขึ้นทุกปี เนื่องจากทางมูลนิธิไม่มีอาหารเพียงพอ จึงทำให้สุนัขบางตัวยังคงหวาดระแวง ไม่กล้าเข้ามาใกล้ แต่หลังจากได้รับอาหารเทางมูลนิธิสามารถเข้าใกล้สุนัขได้มากขึ้น เนื่องจากสุนัขจะคุ้นเคยว่าทางมูลนิธิมาให้อาหารทุกวัน บางตัวจับได้ บางตัวเข้ามาใกล้จนสามารถเป่ายาสลบได้ จนสามารถทำหมันให้สุนัขได้ทุกอาทิตย์ ทำให้ประชากรสุนัขจรจัดลดลงบ้าง หากไม่มีผู้นำสุนัขมาปล่อยเพิ่มอีก

    ผลลัพธ์จากการทำโครงการ
    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จำนวนความเปลี่ยนแปลง
    สุนัขยากไร้ภายในมูลนิธิ และสุนัขยากไร้ที่อาศัยอยู่บริเวณป่า ริมถนน ชายหาด บริเวณตำบลชากโดนไปจนถึงชายหาด แหลมแม่พิมพ์600 ตัวสุนัขได้รับอาหารที่เพียงพอทำให้สุนัขไม่เครียด ไม่กัดกัน และการให้อาหารสุนัขจรจัดยากไร้ทุกวัน ทำให้สร้างความคุ้นเคยจนสามารถจับสุนัขเหล่านั้นมาทำหมัน เพื่อลดจำนวนประชากรสุนัข และสุนัขจรจัดจะไม่ไปรบกวนสร้างความวุ่นวายให้ผู้คนในหมู่บ้านอีกด้วย
    ภาพกิจกรรม


    อาหารที่จัดเตรียมให้แกสุนัขภายในมูลนิธิจานวน300ตัว ประกอบไปด้วยข้าว อาหารเม็ด และไก่บด ส่วนอาหารที่จัดเตรียมเพื่อสุนัขจรจัดยากไร้ที่อยู่บริเวณในป่า ริมทาง บริเวณชายหาด ประกอบไปด้วยข้าว อาหารเม็ด โครงไก่บด อาหารเม็ด โครงไก่บด ซึ่งจะต้องออกไปให้สุนัขทุกๆวันเพื่อให้สุนัขได้กินอิ่มท้อง และสร้างความคุ้นเคยกับสุนัขเพิ่ที่จะสามารถจับสุนัขทำหมันได้มากขึ้น


    สุนัขจะได้รับอาหารในจานวนที่พอเพียงและเท่ากัน ทางมูลนิธิจะให้อาหารด้วยชามไม่เทใส่รางเพื่อที่ด้วยชามไม่เทใส่รางเพื่อที่สุนัขตัวที่อ่อนแอกว่าจะได้กินอย่างเท่ากัน และพนักงานจะยืนดูสุนัขจนกว่าสุนัขจะกินอาหารเสร็จ


    สุนัขที่เคยขาดสารอาหารและถูกนามาปล่อยทิ้งริมทางมีสุขภาพดีขึ้นด้วยอาหารที่เพียงพอ มีสุขภาพดี ร่างกายสมบูรณ์


    สุนัขที่อาศัยอยู่ริมถนน ชายหาดจะรอคอยอาหารอยู่บริเวณที่เดิมทุกๆวัน โดยไม่ไปรบกวนร้านอาหารหรือบ้านของผู้คน จนสร้างความเดือดร้อนเหมือนก่อนหน้านี้


    การให้อาหารสุนัขจรจัดยากไร้เหล่านี้ในทุกๆวันสามารถสร้างความเชื่อใจให้กับสุนัข จนสามารถจับให้กับสุนัขหรือสามารถอยู่ใกล้สุนัขจนเป่ายาสลบเพื่อนำสุนัขจรจัดเหล่านี้มาทำหมัน เพื่อลดจำนวนประชากรสุนัขได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

    Read more
  • Project update > “ปลูกจิตสำนึก ด้านการลด และแยกขยะ” ด้วยPUPPET ROADSHOW

    “ปลูกจิตสำนึก ด้านการลด และแยกขยะ” ให้เด็กนักเรียน

    12 April 2024

    มูลนิธิคุณนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนเป็นส่วนหนึ่งในการทำกิจกรรมพี่ DoDo และเพื่อนชวนแยกขยะ พร้อมการเผยแพร่สื่อการเรียนการสอนเพื่อโลกสีเขียว Video การเรียนการสอน 10 ตอน

    กิจกรรมพี่ DoDo

    • วันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2566 ที่พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 (จตุจักร)
    • วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม 2566 ที่โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา
    • วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 งาน "อยากวิ่งกับหมา" ที่เมืองโบราณ
    • วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566 ที่โรงเรียนสาธิตปทุมวัน
    • วันศุกร์และเสาร์ที่ 16 และ 17 มิถุนายน ที่จังหวัดเชียงราย
    • วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
    • วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ที่โรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา
    • วันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ที่โบราณสถานป้อมเพชร
    • วันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 งานวันเด็กแห่งชาติ ที่พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 จตุจักร
    • วันที่ 22 และ 23 มกราคม 2567 ที่ โรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถม

    กิจกรรมเพื่อนชวนแยกขยะ (มีกิจกรรมการแสดงหุ่นเชิด วาฬน้อยท้องผูก) 

    • โรงเรียนวัดธงชัยธรรมจักร อ.บางสะพาน
    • โรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา ผู้เข้าร่วม 300-400 คน
    • งานวันเด็กแห่งชาติ ที่พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 จตุจักร

    ข้อเสนอแนะ เด็กและเยาวชนมีความรู้พื้นฐานที่แตกต่างกัน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพื้นที่หรือจังหวัด แต่ขึ้นอยู่กับคุณครูในแต่ละโรงเรียนว่าให้ความสำคัญความรู้พื้นฐานในคการคัดแยกขยะมากน้อยอย่างไรบ้าง เช่น จังหวัดเชียงรายเป็นที่น่าแปลกใจมาก ว่านักเรียนมีความรู้เรื่องการแยกขยะดีมาก และทุกคนมีแก้วน้ำส่วนตัว ะและปลอดภัยต่อการใช้งาน

    ผลที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ
    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จำนวนความเปลี่ยนแปลง
    เด็กและเยาวชน7,000 คน

    เด็กมีความรู้ในการคัดแยกขยะอย่างเป็นระบบ

    ภาพกิจกรรม


    Read more
  • Project update > กองทุนช่วยเด็กป่วยไปหาหมอกับมูลนิธิยุวรักษ์

    พาเด็กป่วย 5 คนไปหาหมอกับมูลนิธิยุวรักษ์ ปี 2566

    12 April 2024

    มูลนิธิยุวรักษ์ได้ทำการช่วยเหลือเด็กป่วยที่ครอบครัวที่ยากจน ยากไร้ ด้อยโอกาส บางกรณีก็มีส่วนต่างจากสิทธิ์ที่คนไข้ได้รับ บางกรณีครอบครัวเดียวกันแต่ลูกป่วยหมดทุกคน ฐานะก็ยากจน บางครอบครัวสามีทำงานคนเดียวแต่ลูกป่วยโรคร้ายแรง ต้องรักษาตัวระยะยาว จำเป็นต้องได้รับยาที่แพงอย่างต่อเนื่อง มูลนิธิยุวรักษ์จึงเข้าไปช่วยเหลือด้านต่างๆ

    • ช่วยเหลือในด้านให้ค่าเดินทางไปพบแพทย์
    • ช่วยเหลือด้านค่ารักษาพยาบาลในส่วนเกินของที่คนไข้ได้รับ
    • ช่วยเหลือด้านพัฒนาการด้านร่างกายของคนไข้ ที่อาจต้องไปพบนักกายภาพเป็นประจำ
    • ช่วยเหลือเกี่ยวกับสิ่งของที่จำเป็นของคนไข้ที่ต้องใช้ประจำ เช่น แพมเพิท ยาบางตัวที่มีราคาแพงนอกสิทธิ์ที่ได้รับ รวมถึงนมและอาหารเสริมทางการแพทย์

    มูลนิธิยุวรักษ์ได้นำเงินที่ได้รับบริจาคจากโครงการฯ ไปช่วยเหลือเด็กป่วยทั้ง 5 คน ต่อเนื่องต่อไปนี้ 

    เด็กคนที่ 1

    เด็กหญิงนะ อยู่ในความดูแลของมูลนิธิยุวรักษ์ ปี 2558 ป่วยเป็นโรคหัวใจชนิดเขียว และมีปัญหาทางการได้ยิน และระบบทางเดินหายใจ มีอาการนอนกรน หายใจทางปากและมีกลั้นหายใจขณะนอนหลับ คุณหมอนัดให้มาตรวจดูอาการเรื่อยๆ จนกระทั่งอาการเริ่มหนักขึ้นถึงขั้นหยุดหายใจตอนหลับ คุณหมอเลยนัดส่องกล้องทางจมูก ได้พบก้อนเนื้อเป็นพังผืดบริวณโคลนลิ้นและในโพรงจมูก และนัดผ่าตัด ในวันที่ 2 มิย. 66 และตรวจการนอนหลับหลังผ่าตัด ในวันที่ 17 มิย.66 ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี จนกระทั่ง 3-4 เดือนต่อมา น้องนะเริ่มมีอาการเหมือนเดิม คุณหมอได้ทำการส่องกล้องอีกครั้งพบก้อนเนื้อโตขึ้นมาอีกและพบหลายจุด คุณหมอทำการผ่าตัดอีกครั้งเมื่อวันที่ 3 มค. 67 และดูอาการอยู่ห้อง ICU จนถึงวันที่ 5 มค.67 และได้มาพักรักษาต่อที่บ้าน ปัจจุบันน้องนะยังต้องพบหมอเพื่อติดตามอาการตามคุณหมอนัดต่อไป

    ปัจจุบันคุณหมอโรคหัวใจต้องนัด 6 เดือน/ครั้ง หรือเมื่อมีอาการ และคุณหมอหูคอจมูก นัดทุก 3 เดือน

    เด็กคนที่ 2

    เด็กชายแดง อยู่ในความดูแลของมูลนิธิยุวรักษ์ ปี 2560 เป็นเด็กคลอดก่อนกำหนดตอนอายุครรภ์ได้ 7 เดือน ตอนคลอดน้องแดงหยุดหายใจประมาณ 1 ชั่วโมง คุณหมอช่วยปั้มหัวใจจนน้องแดงฟื้น และต้องอยู่ในตู้อบอีก 3 เดือน พออายุ 9 เดือน คุณหมอทำการ X-Ray ร่างกายและสมอง ผลออกมาน้องแดงมีอาการสมองฝ่อและกล้ามเนื้ออ่อนแรง ปัจจุบันต้องทำกายภาพบำบัดเพื่อพัฒนาการทางด้านร่างกาย แต่จากที่น้องแดงตัวโตและมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น จะไม่สามารถนั่งนานๆได้ เพราะกระดูกช่วงเอวเล็ก ทำให้ช่วงบนจะใหญ่กว่าช่วงล่าง ทำให้การพัฒนาทางด้านร่างกายไม่ค่อยดีนัก แต่ทางด้านสมองมีความจำดี สอนอะไรจำได้หมด

    ปัจจุบันคุณหมอนัดไปทำกายภาพอาทิตย์ละ 2 ครั้ง

    เด็กคนที่ 3

    เด็กชายวัต อยู่ในความดูแลของมูลนิธิยุวรักษ์ ปี 2563 ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง เริ่มแรกน้องวัตมีอาการปวดหัว อาเจียน มองเห็นภาพช้อน และเริ่มมีแขนขาอ่อนแรง และชักเกร็ง จึงตรวจเจอเนื้องอกในสมอง เมื่อวันที่ 30 พย. 2562 และโรงพยาบาลได้ส่งตัวมารักษาที่ต่อโรงพยาบาลจุฬา เนื่องจากโรงพยาบาลเดิมมีเครื่องมือในการรักษาไม่พร้อม และรักษาอาการอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาลจุฬา โดยทำการผ่าตัดและให้ยาเคมีบำบัดและฉายแสง จนครบการรักษา และคุณหมอนัดติดตามอาการและทำ MRI ปีละ 1 ครั้ง เพื่อดูค่ามะเร็งและก้อนเนื้อในสมอง และผลของการทำ MRI ปี 2566 ก้อนเนื้อในสมองมีอาการเล็กลง และไม่มีเชื้อมะเร็งแต่โอกาสจะกลับมาเป็นใหม่ได้ อาการปวดหัวของน้องวัตดีขึ้น คุณหมอให้ยา แคลเซี่ยม วิตามิน D มารับประทาน และติดตามผลตามอาการต่อไป

    ปัจจุบันน้องวัตสามารถไปโรงเรียนได้ แต่ร่างกายยังไม่เต็มร้อย เพราะยังมีปัญหาเรื่องการมองเห็น และสายตาสั้น จึงต้องใส่แว่นเพื่อถนอมสายตา และคุณหมอนัดตรวจเลือดและมะเร็ง ปีละ 1 ครั้ง ส่วนด้านหูคอจมูก นัดทุก 6 เดือน

    เด็กคนที่ 4

    เด็กหญิงนี ป่วยด้วยโรค Case Hydrocephalus ตาด้านขวาไม่มีลูกตา มองไม่เห็น ต้องรักษาตัวด้วยแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำศัลยกรรมจมูกและตา รวมถึงผ่าตัดสมองเพื่อสอดท่อระบายน้ำออก 

    น้องนีเกิดภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง (Hydrocephalus) ตั้งแต่แรกเกิด ทำให้ตาด้านขวาไม่มีลูกตา ตาด้านซ้ายมองเห็นบ้างแต่ไม่ชัด ต้องได้รับการผ่าตัดช่วยเหลือในการระบายน้ำออกจากสมอง ศัลยกรรมตกแต่งจมูกและตา ส่งผลให้พัฒนาการล่าช้าทุกด้าน จึงจำเป็นต้องไปรักษาตัวจากที่ต่างจังหวัดและต้องกระตุ้นพัฒนาการที่โรงพยาบาลใกล้บ้านอย่างสม่ำเสมอ และได้ผ่าตัดศัลยกรรมแล้วเมื่อวันที่ 4 ม.ค.63 นัดติดตามอาการโดยวิธีการ Telemedicine โดยมีสหวิชาชีพทั้งแพทย์ นักจิตวิทยาพูดคุยเกี่ยวการอาการทั้งทางกายและทางจิตใจ ด้านพัฒนาการหลังจากผ่าตัดจมูกแล้ว น้องนีสามารถพูดสื่อสารพอได้ บอกความต้องการได้ ทำกิจวัตรประจำวันได้แต่มารดาต้องช่วยเหลือเรื่องความสะอาด ทำตามคำสั่งได้ แยกหมวดหมู่และสีได้ถูกต้องแต่ทั้งนี้ยังต้องให้มีคนดูแลช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด 

    ปัจจุบันน้องนี ยังคงต้องอยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง และหากผู้ป่วยมีประจำเดือนแพทย์เจ้าของไข้จะทำหัตการตัดมดลูก เนื่องจากผู้ป่วยดูแลตนเองได้น้อย และต้องศัลยกรรมตกแต่งจมูกให้ดูดีขึ้น

    เด็กคนที่ 5

    เด็กหญิงมูนา อยู่ในความดูแลของมูลนิธิยุวรักษ์ ปี 2561 ตั้งแต่อายุ 1 เดือน ป่วยด้วยโรคภาวะต่อมใต้สมองอักเสบ มีภาวะชักต่อเนื่อง ส่งผลให้หยุดการเจริญเติบโต แพทย์จำเป็นต้องให้ยากระตุ้นการเจริญเติบโต เป็นเวลาต่อเนื่อง 15 ปี เพื่อให้เติบโตได้ใกล้เคียงเด็กปกติ คุณแม่ได้ส่งผู้ป่วยไปเรียนที่ศูนย์การศึกษาพิเศษ 2 ปี แล้ว หลังจากเข้าเรียน ทำให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้มากขึ้น กลัวคนน้อยลง ปัจจุบันสามารถพูดได้เป็นประโยคสั้นๆ แต่พูดยังไม่ค่อยชัด ไม่สามารถเดินเองได้ต้องมีคนช่วยพยุงเจ้าหน้าที่ศูนย์การศึกษาพิเศษช่วยน้องมูนาได้ฝึกเดินและทำกายภาพ

    ปัจจุบันน้องมูนาอาการดีขึ้น คุณหมอนัดติดตามอาการและรับยานัดทุกๆ 3 เดือน และกระตุ้นยาฉีดเพิ่มฮอร์โมนวันละ 1 ครั้ง

    ความประทับใจจากคุณแม่น้องมูนา


    Read more