ความเคลื่อนไหว
-
เทใจเป็นข่าว
Crowdfunding: ระดมทุนเพื่อหนังสารคดีที่คนไทยควรได้ดู
2 กันยายน 2014ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งสถานการณ์โลกที่มีความเข้มข้นขึ้นทุกวัน ทั้งเรื่องการเมือง ความมั่นคง สงคราม หรือสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้หนังสารคดีในต่างประเทศเติบโตตามไปด้วย สวนทางกับหนังสารคดีของไทย วันนี้มีความพยายามจากคนกลุ่มหนึ่งในการเปิดพื้นที่ให้หนังสารคดี ติดตามจากรายงาน เหตุการณ์สู้รบกลางเมืองฮอมส์ ในประเทศซีเรีย ถูกบันทึกภาพโดยเด็กหนุ่มวัย 19 ปี ผู้รักษาประตูฟุตบอลทีมชาติซีเรีย ที่ผันตัวมาเป็นหนึ่งในผู้นำประท้วง เขาใช้บทเพลงเป็นเครื่องประโลมจิตใจชาวบ้าน และสะท้อนความฝันถึงสันติภาพ และจับกล้องขึ้นบันทึกเหตุการณ์ ทำเป็นหนังสารคดีเข้มข้นเรื่อง Return to Homs หนึ่งในหนังสารคดีตัวอย่างที่ ธิดา ผลิตผลการพิมพ์ ผู้จัดทำโครงการ Documentaty Club จะนำมาจัดฉายให้คนไทยได้ชม แม้ว่าจำนวนหนังสารคดีต่างประเทศที่หลุดจากขนบเดิมด้วยการเล่าเรื่องปล่อยสัมภาษณ์เป็นการดำเนินเรื่องที่ชวนติดตามจะมีจำนวนมากขึ้นก็ตามแต่พื้นที่ฉายในเมืองไทยกับสวนทางลง เป็นที่มาของกิจกรรมระดมทุนผ่านเว็บไซต์เทใจดอทคอม ที่ขณะนี้ Documentary Club มียอดสนับสนุนกว่า 160,000 บาทแล้ว (ข้อมูลวันที่ 31 ส.ค. 57) จากงบประมาณที่ต้องใช้จัดซื้อลิขสิทธิ์และแปลหนังสารคดี 7 เรื่อง ประมาณ 1 ล้านบาท โดยเมื่อครบหนึ่งแสนแรกก็จะทำการจัดฉายให้บุคคลที่สนใจได้ชมกัน ในยุคที่เทคโนโลยีทะลายข้อจำกัดในการชมภาพยนตร์ที่ดีแต่อาจไม่ทำเงินน่าจะส่งผลดีให้ทั้งผู้ชมและผู้กำกับไทยได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ ซึ่งในอนาคตอันใกล้อาจจะได้เห็นหนังสารคดีไทยดีๆ อีกหลายเรื่องที่สูสีกับหนังสารคดีต่างประเทศก็เป็นได้อ่านต่อ -
เทใจเป็นข่าว
เลิกรอ! เปิดระดมทุนฉาย “หนังสารคดีที่คนไทยควรได้ดู”
1 กันยายน 2014ในโลกยุคโซเชียลมีเดีย การระดมทุนจากโครงการดีๆ สามารถเป็นจริงได้ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเกมส์ สร้างหนังหรือทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคม หากโครงการนั้นมีเป้าหมายที่สำคัญ มีจุดประสงค์ที่ทำให้คนในสังคมต่างเห็นพ้องว่าควรเกิดขึ้น ไม่นานแรงสนับสนุนจะร่วมกันผลักดันจนโครงการดังกล่าวเกิดขึ้น “Documentary Club คลับหนังสารคดีที่คนไทยควรได้ดู” ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการน่าสนใจจากเว็บไซต์ “teajai.com” โครงการดังกล่าวจัดขึ้นโดย ธิดา ผลิตผลการพิมพ์ ผู้คร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์ เธอให้รายละเอียดโครงการไว้ว่า “เราต่างรู้กันว่าหนังสารคดีที่ดีนั้นทรงพลังถึงขั้นเขย่าหัวใจเรา เปลี่ยนเราเป็นคนใหม่ ทำให้โลกทั้งใบต้องสั่นสะเทือนในแบบที่กระทั่งหนังบล็อกบัสเตอร์ก็ยังมิอาจลอกเลียนได้ เราได้ยินข่าวคราวหนังเหล่านี้ เราติดตามความเคลื่อนไหวของหนังเหล่านี้ เราได้เห็นตัวอย่างสุดเร้าใจของหนังเหล่านี้ เราอยากดูหนังเหล่านี้...และหลังจากเฝ้ารอมานานหลายปีให้มีค่ายผู้จัดจำหน่ายหนังหรือสถานีทีวีหาซื้อหนังเหล่านี้มาฉาย บัดนี้เราก็ตัดสินใจว่าหมดเวลาแล้วสำหรับการรอ และถึงเวลาแล้วที่เราจะเขียนคำว่า ‘Coming soon’ ให้แก่หนังสารคดีที่เราอยากดูด้วยตัวเราเอง!” ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะมีการนำหนังสารคดี 7 เรื่องที่ได้รับการยกย่องว่า “ต้องไม่พลาด” ในปี2014เข้ามาฉายตามโรงหนังต่างๆ ในหลายๆ ที่ ทั้งยังมีวงสนทนาแลกเปลี่ยนชวนคิดต่อ ถึงตอนนี้ Documentary Club ได้เริ่มก้าวแรกของตัวเองในการนำภาพยนตร์สารคดีเรื่อง The circle ที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมายเข้ามาฉายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม การระดมทุนดังกล่าวยังเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้โครงการสามารถก้าวต่อไป เพราะยังมีอีกหลายเรื่องราวรอที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนไทย -- *ติดตามรายละเอียดของโครการได้ทางhttps://taejai.com/projects/9315#.U_Hpk4kXBk0.facebook ที่มา : เว็บไซต์ manager.co.thอ่านต่อ -
เทใจเป็นข่าว
เทใจ.คอม เติบโตพุ่งจากกิจกรรม #IceBucketChalengeTH
1 กันยายน 2014ข้อมูลสรุปจากเว็บ เทใจ.คอม เว็บ Crowd Funding และ Social Enterprise ของไทยเผยข้อมูลในเว็บไซต์หลังจากมีคนเข้าไปร่วมบริจาคเงินจากกิจกรรม #IceBucketChalengeTH1. โครงการ 5 อันดับแรกใน เทใจ.คอม ที่ได้รับความนิยมจากกิจกรรม #IceBucketchallengeTH1.) 20 ทุนการศึษา เพื่อสร้างอนาคตใหม่ให้น้อง ระดมทุนที่ 140,000 บาท ปิดโครงการได้รับการสนับสนุนที่ 155,464 บาท2.) Documentary Club คลับหนังสารคดีที่คนไทยควรได้ดู ระดมทุนที่ 1,000,000 บาท เปิดเพียง 5 วัน สามารถระดมทุนได้แล้ว 78,200 บาท ซึ่งทำให้คนไทยได้ดูหนังสารคดีดีๆได้เอง โดยเมื่อครบ 100,000 บาทจะทำการฉายเรื่องทันที3.) สร้างอาชีพให้แม่หญิงใต้ที่สูญเสียสามีเนื่องจากเหตุการณ์ไม่สงบ ระดมที่ 65,000 บาท ได้รับการสนับสนุนที่ 88,770 บาท โดยการสนับสนุนเพิ่มเติมจะนำไปทำเว็บไซต์เพื่อให้ขายออนไลน์ได้4.) เล่นเส้น ชุดวาดเขียนสำหรับน้องผู้พิการทางสายตา ระดมทุนที่ 38,610 บาท ปิดโครงการได้รับการสนับสนุนที่ 40,990 บาท5.) ฟาร์มไข่ไก่ เพื่อการศึกษาน้อง ระดมทุนที่ 60,990 บาท ขณะนี้ระดมทุนได้ 43,280 บาท2. ยอดการสนับสนุนในช่วงกระแส #IceBucketChallengeTH อยู่ที่ 300,000 บาท3. มีสมาชิกเพิ่มขึ้นในช่วงกระแส #IceBucketChallengeTH เกือบ 1,000 คน4. มีผู้บริจาคในช่วงนี้เกือบ 300 ราย ซึ่งเป็นทั้งรายเก่าและรายใหม่5. โครงการที่บรรลุเป้าหมายมี 4 โครงการ ประกอบด้วย5.1.) 20 ทุนการศึษา เพื่อสร้างอนาคตใหม่ให้น้อง5.2.) เล่นเส้น ชุดวาดเขียนสำหรับน้องผู้พิการทางสายตา5.3.) สร้างอาชีพให้แม่หญิงใต้ที่สูญเสียสามีเนื่องจากเหตุการณ์ไม่สงบ (สำหรับโครงการนี้เปิดให้ระดมต่อเพื่อนำไปทำเว็บไซต์ในการขยายช่องทางการขาย)เห็นได้ชัดว่าโครงการ #IceBucketchallengeTH ก็ทำประโยชน์ให้กับสังคมได้ไม่น้อย และยังทำให้คนไทยรู้จักเว็บ เทใจ.คอม มากขึ้นอีก ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าเว็บนี้เป็นเว็บที่มีประโยชน์กับสังคมไทยอย่างมาก คุณเคยไปบริจาคเงินในเว็บนี้หรือยังครับ?อ่านต่อ -
เทใจเป็นข่าว
รับคำท้า! Ice Bucket Challenge เทรนด์บอกบุญแบบไฮเทค
1 กันยายน 2014หลังจากเห็นเหล่าคนดังในต่างประเทศ ท้าทายและรับคำท้าราดน้ำแข็งรดตัว Ice Bucket Challenge หาเงินช่วยผู้ป่วยจากโรค ALS มีหรือที่คนไทยที่แสนใจบุญจะพลาด มาดูเหล่าคนดังในหลายวงการรับคำท้ากันดีกว่า...กลายเป็นกระแสที่ต่อยอดจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ หลังจากที่บรรดาคนดังในสังคม ทั้งวงการบันเทิง นักธุรกิจ คนไอที และเหล่านักกีฬา ในสหรัฐอเมริกา ออกมาทำกิจกรรมเอาน้ำแข็งรดตัว หรือ Ice Bucket Challenge ในแฮชแท็ก (#IceBucketChallenge) เพื่อระดมทุนหาเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือ ALS ที่ได้การตอบรับที่ดีจากคนดังในต่างประเทศ ที่ร่วมสมทบทุนบริจาค และเอาน้ำแข็งราดรดตัวตามคำท้า และส่งต่อคำท้าไปยังเพื่อนคนอื่นๆ เล่น Ice Bucket Challenge อย่างไร? โดยเว็บไซต์ thumbsup ‘Ice Bucket Challenge’ หรือที่สหรัฐฯ เขาเรียกกันว่า ALS Ice Bucket Challenge เป็นกิจกรรมที่ให้เราเอาน้ำใส่น้ำแข็งทุ่มใส่หัวใครสักคน แต่ก็ไม่ได้ทำแบบเอาสนุกแบบที่เราเจอใน Planking หรือ Levitating นะครับแต่คนที่โดน Challenge จะต้องเลือกระหว่างการเอาน้ำทุ่มใส่ตัวเองหรือคนรอบข้าง แล้วจ่ายแค่ 10 เหรียญ หรือเลือกที่จะไม่สาดน้ำแต่เข้าไปบริจาคเงิน 100 เหรียญให้กับ ALS Association ในสหรัฐฯ (Amyotrophic Lateral Sclerosis)สำหรับในเมืองไทยเว็บไซต์บล็อกนอน (Blognone) โดย มาร์ค Blognone เจ้าของคอลัมน์ คนดังนั่งเขียน ในไทยรัฐออนไลนืจึงอยากจุดประกายการสร้างค่านิยมการบริจาค หรือการให้เงินเพื่อสาธารณประโยชน์แก่มูลนิธิ หรือภาคส่วนต่างๆ ในประเทศไทย โดยมิได้จำกัดไว้ที่ใดที่หนึ่ง โดยเขาได้ขอบริจาคให้โครงการสร้างอาชีพให้แม่หญิงใต้ที่สูญเสียสามีจากความไม่สงบ ผ่านเว็บไซต์เทใจ (taejai.com) พร้อมกับส่งคำท้าไปยัง บุคคลสำคัญในวงการอินเทอร์เน็ตและไอทีในเมืองไทย ได้แก่ คุณภาวุธ (@pawoot) TARAD.com, คุณจักรพงษ์ (@jakrapong) จาก Thumbsup และอาจารย์ศุภเดช (@ripmilla) พิธีกรรายการแบไต๋ไฮเทค นั่นเอง โดยผู้ที่ถูกท้าจะมีเวลา 24 ชั่วโมงในการตอบรับคำท้า เอาน้ำแข็งราดตัว พร้อมกับการบริจาค รายละเอียดของกิจกรรม https://www.blognone.com/node/59391อ่านต่อ -
เทใจเป็นข่าว
แคมเปญเพื่อการกุศล ICEBUCKET CHALLENGE
1 กันยายน 2014ถือเป็นแคมเปญที่กำลัง Hot Hit ไปทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ กับกิจกรรม Icebucket Challenge ที่ผู้รับคำท้าจะต้องเทน้ำแข็งเย็นๆ ราดใส่ตัวเอง ภายใน 24 ชั่วโมง หรือจะให้คนอื่นช่วยราดใส่ก็ได้ เสร็จแล้วก็จะต้องส่งคำท้าไปให้คนอื่น อีก 3 คน โดยแคมเปญดังกล่าวเป็นการร่วมระดมทุนเพื่อสนับสนุนแคมเปญระดมทุนเพื่อต่อสู้โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) ซึ่งมีคนดังในแวดวงไอที และเซเลปทั่วโลก ร่วมสนับสนุนโครงการนี้ แต่สำหรับเมืองไทยนั้นได้นำแคมเปญดังกล่าวมาปรับเปลี่ยนโดยไม่ได้บริจาคให้สมาคม ALS ในอเมริกาโดยตรงเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการบริจาคเงินให้มูลนิธิ เทใจดอทคอม ซึ่งเป็นเว็บไซต์ระดมทุนแนว crowdfunding ของประเทศไทย ที่เน้นการระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมต่างๆ ตามแต่ผู้ริเริ่มผลักดันโครงการจะเสนอเข้ามา และมูลนิธิอื่นๆ แล้วแต่ว่าใครจะอยากสนับสนุนมูลนิธิไหนก็ได้ โดยต้นเรื่องของกิจกรรม Icebucket Challenge เทน้ำราดตัว นี้ เริ่มจากที่คุณภาวุธ (@pawoot) จาก TARAD.com ได้ส่งคำท้า ไปยัง CEO โอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ค่าย ได้แก่ AIS, dtac, True Crop ซึ่ง CEO ทั้ง 3 ค่าย ต่างก็ได้รับคำท้าไปเรียบร้อยแล้ว ไปชมภาพกิจกรรมของ CEO ว่าเวลาเปียกปอน แล้วจะเป็นยังไงที่มา :http://www.oopsmobile.net/icebucket-challenge/อ่านต่อ -
-
เทใจเป็นข่าว
มูลนิธิคนไทยจัดทำเว็บไซต์เทใจเปิดพื้นที่การให้บนโลกออนไลน์
11 กรกฎาคม 2013 -
-
เทใจเป็นข่าว
ลดภาษีด้วยการสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมกับ “เทใจดอทคอม”
11 กรกฎาคม 2013ได้รับการติดต่อมาจาก “สุนิตย์ เชษฐา” แห่งสถาบัน Change Fusion ที่ร่วมผลักดันธุรกิจแนว Social Business ในบ้านเรามาพักใหญ่ๆ ส่วนตัวนี้หลังๆ พอไปเน้นการนำเสนอเรื่องธุรกิจที่เน้นการทำกำไรมากๆ เลยไม่ค่อยได้ทราบว่าทาง Change Fusion ไปถึงไหนกันแล้ว แต่จู่ๆ ทางสถาบันฯ ก็กลับมาพร้อมกับโครงการที่น่าสนใจนั่นคือ “เทใจดอทคอม” ที่จะมาช่วยคุณลดภาษีด้วยการสนับสนุน Social Business? มันเป็นอย่างไร? มาดูรายละเอียดกันอ่านต่อ -