ความเคลื่อนไหว

  • ความคืบหน้าโครงการ > ช่วยเหลือเด็ก 300 คนและครอบครัวผู้ประสบภัยจากวิกฤตน้ำท่วมหนัก ในพื้นที่ริมฝั่งชายทะเล จ.พัทลุง

    แจกถุงยังชีพสำหรับเด็ก จำนวน 74 คน 1 หมู่บ้าน

    28 มีนาคม 2023

    หลังจากปิดรับการระดมทุน ทางโครงการได้เริ่มดำเนินการกิจกรรม ดังนี้

    • วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ร่วมประชุมหมู่บ้าน หมู่ที่ 14 ต.นาปะของ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง เพื่อชี้แจงเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และการจัดทำข้อมูลเด็กแรกเกิด- 5 ขวบ
    • วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566ได้รับข้อมูลจากผู้ประสบภัย ที่มีข้อมูลของกลุ่มเป้าหมาย ชื่อสกุล อายุ เพศ ผู้ปกครอง เบอร์โทร ยี่ห้อนม
    • วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ได้มีการจัดซื้อนมและจัดแยกตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายจำนวน 74 ราย
    • วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ได้มีการจัดแจกตามรายข้อมูลที่ได้รับที่ศาลาหมู่บ้านที่ 14 ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง

    มีผู้ได้รับประโยชน์รวม 74 คน จากการที่ได้จัดซื้อนมที่ตรงกับความต้องการของเด็กตามช่วงวัย

    วันที่ได้มีการประชุมหมู่บ้านเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ บอกเล่าที่ไปที่มาของโครงการ ชาวบ้านจะดีใจมากเพราะเป็นการพูดถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็ก เพราะทุกครั้งที่มีการมาแจกของ หรือบริจาคจากภัยพิบัติหรืออื่น ๆ ทุกภาคส่วนมักจะละเลยความต้องการของกลุ่มเด็กอ่อนในชุมชน

    และหลังจากที่ได้รับข้อมูลเด็กแรกเกิด - 5 ขวบ มีจำนวนมากถึง 74 คน จาก 1 หมู่บ้าน ทั้งผู้จัดทำข้อมูลและผู้ได้รับข้อมูลต่างแปลกใจที่มีเด็กจำนวนมากในหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมทะเลสาบ

    ข้อเสนอแนะ การจัดทำข้อมูลเบื้องต้นของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็ก จะเป็นการส่งมอบเงินที่ได้รับการบริจาคมาแปรเป็นนมที่ตรงกับนมที่เด็กใช้ตามช่วงวัยเด็กจริง ๆ

    ความประทับใจของผู้ที่ได้รับประโยชน์ 

     ครอบครัวนางสาวอุไซนี กูสัน เด็กหญิงชาลิดา แขกพงศ์ อายุ 3 ปี ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง
    “ ทุกครั้งที่มีน้ำท่วม น้ำจะท่วมนานมากจนไม่สามารถออกเรือหาเลี้ยงชีพได้ เพราะมีทั้งคลื่นและลมแรง การช่วยเหลือจเป็นถุงยังชีพที่มีข้าวสาร มาม่า น้ำมันพืช น้ำ อาจจะมีไข่ แต่ทุกครั้งไม่เคยมีถุงยังชีพของเด็กๆเลย โครงการนี้ทำให้เด็กได้รับการเหลียวแล ได้รับของตรงกับที่เราต้องการ ขอบคุณทุกท่านที่บริจาคเพื่อนมให้กับเด็กในชุมชนของพวกเรา ”

     ครอบครัวนางสาวเจนจิรา เม๊งซู เด็กชายฟาริส นิยมเดชา อายุ 2 เดือน ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง
    “ ตอนที่ท้องไม่ได้บำรุงร่างกายเท่าไหร่ เพราะฝนตกหนัก และยาวนานขาดรายได้ รวมทั้งน้ำท่วมในช่วงที่คลอด น้ำนมของแม่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูก ต้องให้นมผงเสริมด้วย โครงการนี้ทำให้ได้รับนมตรงกับที่ขอไป ขอบคุณที่ให้นมกับพวกเรา ”

    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    เด็กและเยาวชนเป็นชุมชนมุสลิมเล็กๆที่อยู่ติดทะเลสาบพัทลุง กลุ่มเด็กเยาวชนที่มีอายุแรกเกิดและ 5 ปี มีจำนวนมากจำนวน 74 คน อายุตั้งแต่แรกเกิด- 5 ปีเด็กๆได้รับนมที่ถูกต้องตามช่วงวัยที่ส่งเสริมการพัฒนาการตามวัยของเด็ก
    กลุ่มคนเปราะบางรายได้เฉลี่ยต่อครอบครัวยากจนที่สุดในจังหวัดพัทลุง (อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ www.tpmap.in.thจำนวน 60 ครัวเรือน ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็กและเยาวชน
    รูปภาพกิจกรรม

     ภาพ : จัดประชุมเพื่อจัดทำข้อมูลเด็กที่ประสบภัยวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566

     ภาพ : จัดซื้อนมตรงกับรายการข้อมูลที่ผู้ประสบภัยจัดส่งมา

     ภาพ : เด็กกลุ่มเป้าหมาย 1 ครอบครัว มี 2 คน

     ภาพ : กลุ่มเป้าหมาย 1 ครอบครัว มี 2 คน

    อ่านต่อ
  • ความคืบหน้าโครงการ > Fight to Alive กองระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งโลหิตวิทยาที่ขาดทุนทรัพย์ในการรักษา

    ผู้ป่วยมะเร็งโลหิตวิทยาที่ได้รับความช่วยเหลือปี 2565 จำนวน 20 เคส

    24 มีนาคม 2023

    นับตั้งแต่เริ่มระดมทุน เดือนมกราคม 2565 มาจนถึงปัจจุบัน ทางกองทุนได้ทำการช่วยเหลือ ผู้ป่วยมะเร็งโลหิตวิทยาที่อยู่ในโครงการจำนวน 20 เคส ดังนี้

    1. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน กรณีปลูกถ่ายไขกระดูก อายุ 5 ปี โรงพยาบาลศิริราช
    2. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน กรณีปลูกถ่ายไขกระดูก อายุ 36 ปี โรงพยาบาลรามาธิบดี
    3. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน กรณีปลูกถ่ายไขกระดูก อายุ 2 ปี โรงพยาบาลรามาธิบดี
    4. ผู้ป่วยโรคโกรเชร์ กรณีปลูกถ่ายไขกระดูก อายุ 4 ปี โรงพยาบาลรามาธิบดี
    5. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน กรณีปลูกถ่ายไขกระดูก อายุ 6 ปี โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช
    6. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน อายุ 3 ปี โรงพยาบาลราชบุรี
    7. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน อายุ 6 ปี โรงพยาบาลราชบุรี
    8. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน อายุ 3 ปี โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช
    9. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน อายุ10 ปี โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
    10. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน อายุ 4 ปี สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
    11. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน อายุ 4 ปี สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
    12. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน อายุ 1 ปี โรงพยาบาลบุรีรัมย์
    13. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน อายุ 8 ปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
    14. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน อายุ 2 ปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
    15. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน อายุ 2 ปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
    16. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน อายุ 12 ปี โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์
    17. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน อายุ 5 ปี โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์
    18. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน อายุ 1 ปี โรงพยาบาลรามาธิบดี
    19. ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง อายุ 8 ปี โรงพยาบาลชลบุรี
    20. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันระยะประคับประคอง อายุ 43 ปี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

    ผู้ป่วยที่ขอรับการช่วยเหลือจำแนกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

    1. ผู้ป่วยที่ต้องรับการปลูกถ่ายไขกระดูก จำนวน 5 เคส
    2. ผู้ป่วยระยะประคับประคอง จำนวน 1 เคส
    3. ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน จำนวน 13 เคส
    4. ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง 1 เคส

    โรงพยาบาลที่ผู้ป่วยในโครงการเข้ารับการรักษา

    • โรงพยาบาลศิริราช
    • โรงพยาบาลราชบุรี
    • โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
    • โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
    • โรงพยาบาลบุรีรัมย์
    • โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
    • โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์
    • โรงพยาบาลรามาธิบดี
    • สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
    • โรงพยาบาลชลบุรี

    ผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลือด้าน ค่ารักษาพยาบาลนอกเหนือจากสิทธิ์ ค่ายา ค่าใช้จ่ายระหว่างรักษาพยาบาล ค่าเดินทาง ค่าตรวจ HLA เพื่อการปลูกถ่ายไขกระดูก

    กองทุนสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้ป่วย ผู้ดูแลผู้ป่วย ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก

    ความประทับใจของผู้ที่ได้รับประโยชน์

     เด็กชายณรงค์ชัย น้องพีท อายุ 8 ปี ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน
    “ขอขอบพระคุณผู้ใจบุญทุกท่านมากๆเลยนะคะที่เอ็นดูน้องพีท ขอให้บุญกุศลที่ทุกท่านได้ช่วยเหลือน้องพีทส่งกับคืนทุกท่านให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงนะคะ อัพเดทอาการน้องพีทตอนนี้ดีขึ้นระดับนึงตอบสนองในการรักษาของหมอดีค่ะ เซลล์มะเร็งลดลงหลังได้รับคีโมมาได้ 7 เดือน แล้วค่ะ”

     เด็กชายบวรวิทย์ น้องต่อยอด อายุ 3 ปี ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน 
    “ขอขอบพระคุณผู้บริจาคทุกท่านที่ช่วยบริจาคค่านม ค่าใช้จ่ายระหว่างรักษา ค่าเดินทางไปโรงพยาบาลและค่ายาที่นอกเหนือจากสิทธิ์ให้กับน้องต่อยอดนะครับ”

     เด็กชายกฤชภัทร อายุ 5 ปี ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน 
    "ทางเราต้องขอขอบคุณผู้บริจาคทุกท่านด้วยนะคะ ที่ได้ช่วยเรื่องค่าตรวจHLA ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ตอนนี้น้องกำลังรักษาอยุ่ในขั้นตอนการปลูกถ่ายไขกระดูกอยู่คะ ”

     เด็กหญิงมินตรา อายุ 2 ปี ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน 
    “ ทางครอบครัวของเราขอขอบคุณผู้บริจาคและมูลนิธิมะเร็งโลหิตวิทยา ที่ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายการตรวจเนื่อเยื่อ HLA ในการปลูกถ่ายของน้องขอให้การทำบุญครั้งนี้ของทุกคน ส่งผลให้ทุกคนมีร่างกายสุขภาพแข็งแรงทุกๆท่านนะค่ะ ตอนนี้น้องยังคงให้คีโมอยู่ค่ะ คอร์สการรักษาของน้องคือให้คีโมทุกสัปดาห์ระหว่างรอปลูกถ่าย น้องยังรอผู้บริจาคสเต็มเซลล์จากสภากาชาดอยู่ค่ะ ทางสภากาชาดกำลังติดต่อมาให้อยู่ค่ะ แต่ถ้าไม่ได้คุณหมอก็จะเปลี่ยนแผนมาใช้สเต็มเซลล์ของคุณพ่อคุณแม่แทนค่ะ แต่ในใจก็ยังหวังขอให้น้องได้เจอคู่แท้สเต็มเซลล์ด้วยเถิดค่ะ ” 

     เด็กหญิงนวรรณธฎา อายุ 5 ปี
    “ ขอขอบคุณผู้บริจาคที่ช่วยเหลือให้แปมแปมและแม่ได้มีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง ปัจจุบันแปมแปมรักษาที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ให้ยาเดือนละ1ครั้ง เจาะไขกระดูกทุก 3 เดือนและมียากินทุกวันค่ะ อาการดีขึ้นมาก ไม่แพ้ยา เลือดปกติดีค่ะ ” 

     เด็กชายพุฒิเมธ อายุ 6 ปี ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน 
    “ คุณแม่ขอขอบพระคุณเป็นอย่างมากนะคะ ที่ช่วยร่วมบริจาคเงินให้กับน้องเมฆ แม่จะเอาไว้ซื้อยาให้น้อง ซื้อนมให้น้องนะคะ”

    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    ผู้ป่วยผู้ป่วยมะเร็งโลหิตวิทยาหรือโรคทางโลหิตวิทยา20 ท่าน
    • ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
    • แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัวที่มีฐานะยากจน
    • ผู้ป่วยมีความหวังและกำลังใจ
    • ผู้ป่วยได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก
    รูปภาพกิจกรรม

    นอกจากบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขาดทุนทรัพย์ในการรักษาแล้ว Thailand Blood Cancer Foundation ได้จัดกิจกรรมต่างๆ ได้แก่

    1.ประกวดวาดภาพชิงทุนการศึกษา สำหรับผู้ป่วยมะเร็งโลหิตวิทยา จัดกิจกรรมวาดภาพระบายสี 

     เพื่อให้ผู้ป่วยได้มีกิจกรรมสร้างสรรค์ระหว่างทำการรักษา และมอบรางวัลให้ผู้ป่วยเป็นทุนการศึกษาและใบประกาศณียบัตร

    2.กิจกรรมงานคริสต์มาสส่งความสุขแด่ครอบครัวมะเร็งโลหิตวิทยา

     

    3.กิจกรรมพาครอบครัวผู้ป่วยมะเร็งเที่ยวซาฟารีเวิล์ด

     

    4.กิจกรรมBe Friends Workshop for Mind Healing กิจกรรมบำบัดจิตใจสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง

     

    อ่านต่อ
  • ความคืบหน้าโครงการ > โครงการพาน้องหาหมอ

    พาน้องเด็กป่วย 10 ครอบครัว ไปหาหมอเพื่อรักษาอย่าต่อเนื่อง

    24 มีนาคม 2023

    เป้าหมายของโครงการพาน้องหาหมอ คือ การช่วยเหลือค่าเดินทางพาเด็กป่วยไปหาหมอจำนวน 10 ครอบครัว เพื่อให้เด็กป่วยจำนวน 10 คนได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง

    โดยการคัดกรองเคสมาจากคุณครูและพยาบาลในโรงพยาบาลที่ได้ใกล้ชิดกับครอบครัวเด็กป่วย และทยอยจ่ายค่าเดินทางตามใบนัดพบหมอจนครบวงเงินที่กำหนดไว้ครอบครัวละ 20,000 บาท นอกจากนี้ทางโครงการพาน้องหาหมอได้ช่วยเหลือข้าวสารอาหารแห้ง นมผง ผ้าอ้อมเด็ก ตามที่แต่ละครอบครัวต้องการ

    สำหรับแผนในอนาคตจะทยอยช่วยเหลือครอบครัวเด็กป่วยจนครบจำนวน 10 ครอบครัวตามเป้าหมาย และจะสนับสนุนด้านการส่งเสริมอาชีพ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของครอบครัวเด็กป่วย เช่น การสร้างซ่อมบ้าน การศึกษาให้เด็กป่วย ฯลฯ

    1. เคสน้องกระต่าย วันที่15 กันยายน พ.ศ. 2565 ได้เข้าไปพูดคุยแจกแจงรายละเอียดและขั้นตอนการรับทุนกับครอบครัวเด็กป่วย โดยทยอยโอนเงินตามใบนัดของโรงพยาบาล จนปัจจุบัน (14 มี.ค.66) ได้โอนเงินไปแล้ว จำนวน 5 ครั้ง เพื่อให้เด็กป่วยไปหาหมอ
    2. เคสน้องพอใจ วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ได้เข้าไปพูดคุยและเยี่ยมบ้านเคส ที่จ.ปทุมธานี เพื่อชี้แจงรายละเอียดและขั้นตอนการรับเงินทุนกับครอบครัวเด็กป่วย จนปัจจุบัน (14 มี.ค.66) ได้โอนเงินไปแล้วจำนวน 5 ครั้ง เพื่อให้เด็กป่วยไปหาหมอ
    3. เคสน้องกันย์ วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2566 ได้เข้าไปพูดคุยแจกแจงรายละเอียดและขั้นตอนการรับทุนกับครอบครัวเด็กป่วยที่โรงพยาบาล จนปัจจุบัน (14 มี.ค.66) ได้โอนเงินไปแล้ว จำนวน 5 ครั้ง เพื่อให้เด็กป่วยไปหาหมอ
    4. เคสน้องโดนัท วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2566 ได้เข้าไปพูดคุยแจกแจงรายละเอียดและขั้นตอนการรับทุนกับครอบครัวเด็กป่วยที่บ้าน จ.สระบุรี และจะทยอยจ่ายตามใบนัดของโรงพยาบาล โดยจะเริ่มจ่ายเงินครั้งแรก วันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2566 ก่อนหน้านี้ทางโครงการได้จ่ายค่าผ่าตัดที่ครอบครัวน้องโดนัทได้คงค้างกับโรงพยาบาลไว้
    5. เคสน้องเต๋า วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2566 ได้เข้าไปพูดคุยแจกแจงรายละเอียดและขั้นตอนการรับทุนกับครอบครัวเด็กป่วยที่โรงพยาบาล และจะทยอยจ่ายตามใบนัดของโรงพยาบาลหลังจากวันที่ได้รับเคสเข้ามาดูแล
    ความประทับใจของผู้ที่ได้รับประโยชน์ 
    • คุณแม่น้องโดนัท เด็กป่วยโรคหัวใจรั่ว, ความดันสูง " โครงการนี้มีประโยชน์มากสำหรับแม่ ช่วยซัพพอร์ตค่าเดินทางน้องมาหาหมอได้ 4,000-5,000 บาท นอกจากนี้โครงการนี้ยังส่งผ้าอ้อม นมกล่อง มาให้น้องอยู่บ่อยครั้ง การที่น้องป่วยทำให้แม่ต้องไปกู้เงินนอกระบบมาเพื่อใช้จ่ายพาน้องมาหาหมอตามน้อง "
    • คุณแม่น้องพอใจ เด็กป่วยโรคปอดเรื้อรัง " โครงการนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายค่าเดินทางได้เยอะ ส่วนต่างที่เหลือเอาไปซื้อนมผง ผ้าอ้อมให้น้องได้อีก เนื่องจากตอนนี้น้องต้องใช้เครื่องผลิตออกซิเจน 24 ชม แม่ต้องออกจากงานเพื่อมาดูแลน้องที่ตอนนี้อายุ 8 เดือน รายได้ทางเดียวมาจากพ่อเท่านั้น "

    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    เด็กและเยาวชนเด็กป่วยในโรงพยาบาล4เด็กเจ็บป่วยเรื้อรังที่ต้องไปหาหมอตามนัดที่โรงพยาบาลได้รับการการรักษาอย่างต่อเนื่อง ลดความกังวลใจของผู้ปกครองเด็กป่วยเรื่องค่าเดินทางไปหาหมอในแต่ละครั้ง 
    รูปภาพกิจกรรม

      
    ภาพ : ติดตามความคืบหน้าพาน้องหาหมอ ครั้งที่ 5 ของน้องกระต่าย

     
    ภาพ : ติดตามความคืบหน้าพาน้องหาหมอ ครั้งที่ 3 ของน้องพอใจ

     
    ภาพ : เข้าไปตรวจสอบเคสและคุยเงื่อนไขการเบิกเงินค่าเดินทางสำหรับเด็กป่วย

    อ่านต่อ
  • ความคืบหน้าโครงการ > "น้องแม็ค" ชีวิตที่ต้องทนเจาะเลือด วัดระดับน้ำตาล-คุมโรคเบาหวาน

    "น้องแม็ค" อาการดีขึ้น แต่ยังคงต้องควบคุมอาหารและน้ำตาลในเลือด

    24 มีนาคม 2023

    น้องแม็คยังคงรับรักษาตัวที่โรงพยาบาลน่านโดยไปพบแพทย์ตามนัด ทุกๆ 2 เดือน ปรับการรักษาจากที่ต้องฉีดยาวันละ 4 เวลามาเป็นทานยาครั้งละ 7.5 เม็ด วันละ 2 เวลา คือเช้า-เย็น ด้วยน้องแม็คสามารถรับประทานยาเองได้ พ่อ แม่ เพียงแค่เตรียมยาไว้ ไม่ต้องกลับจากที่ทำงานตอนเที่ยงเพื่อกลับมาฉีดยาให้น้องแม็คเช่นเมื่อก่อน ทำให้พอมีรายได้มาใช้จ่ายในครอบครัว ขณะที่น้องแม็คเองก็สามารถไปเรียนได้ตามปกติ

    ปัจจุบันจะยังต้องเจาะเลือด ควบคุมอาหาร และผลโดยรวมอยู่ปริมาณน้ำตาลอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ คุณพ่อ และคุณแม่ของน้องแม็คขอขอบคุณทุกท่านที่เมตตาและให้ความช่วยเหลือน้องแม็คและครอบครัว ทำให้วันนี้น้องแม็คได้มีโอกาสกลับไปเล่นสนุกกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนเหมือนเดิม

    รูปภาพกิจกรรม


     รูปภาพ : น้องแม็ค มีโอกาสกลับไปเรียนและเล่นกับเพื่อนอย่างมีความสุข


     รูปภาพ : น้องแม็ค ที่ยังคงรักษาอาการอย่างต่อเนื่องกับรอยยิ้มที่สดใสกว่าที่เคย

    อ่านต่อ
  • ความคืบหน้าโครงการ > Yes, We can! เริ่มที่คุณ On Tour รณรงค์การลดฝุ่นและลดขยะ

    กิจกรรมให้ความรู้และปลูกจิตสำนึกการลดขยะและแยกขยะ ปี 2565

    23 มีนาคม 2023

    กิจกรรมในปี 2565 ที่มูลนิธิคุณได้ดำเนินการ มีดังนี้

    4 เมษายน 2565 – มูลนิธิคุณ (KHUN Foundation) ร่วมจัดกิจกรรมในโครงการส่งเสริมการใช้เศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อจัดการปัญหาขยะทะเล กับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย เทศบาลนครภูเก็ต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมภูเก็ต เพื่อรณรงค์การลดขยะพลาสติกและการแยกขยะที่ถูกต้องผ่านการแสดงละครหุ่นเชิด (Puppet Show) และการเสวนาเรื่องบทบาทของเยาวชนในการลดพลาสติก ในพิธีปิดโครงการจัดการและลดพลาสติกภาคครัวเรือนและธุรกิจ จังหวัดภูเก็ต (Less Plastic Phuket) ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต   

    10 สิงหาคม 2565 – มูลนิธิคุณ (KHUN Foundation) จัดโครงการส่งเสริมความรู้ และปลูกจิตสำนึก ด้านการลดและแยกขยะ ระดับประถมศึกษา ผ่านการแสดงละครหุ่นเชิด (Puppet show) ชุด “DoDo & Friends” ตอน...วาฬน้อยท้องผูก ณ โรงเรียนศูนย์รวมน้ำใจ เขตคลองเตย กทม. ในวันที่ 10 สิงหาคม 2565 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการให้ความรู้เรื่อง 3R ได้แก่ การลดการใช้ (Reduce) เพิ่มการใช้ซ้ำ (Reuse) และนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนระดับอนุบาลและประถมศึกษา จำนวน 700 คน โดยมีนางสาวปิยธิดา นิยม ผู้อำนวยการเขตคลองเตย นายชาญวิทย์ พวงมาเทศ ผู้อำนวยการโรงเรียนศูนย์รวมน้ำใจ พร้อมคณะครูและนักเรียน ทีมดาราศิลปิน และทีม Supranational Thailand เข้าร่วมกิจกรรม  

    11 สิงหาคม 2565 – มูลนิธิคุณ (KHUN Foundation) จัดโครงการส่งเสริมความรู้ และปลูกจิตสำนึก ด้านการลดและแยกขยะ ระดับประถมศึกษา ผ่านการแสดงละครหุ่นเชิด (Puppet show) ชุด “DoDo & Friends” ตอน...วาฬน้อยท้องผูก ณ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (สาธิต มศว.) อ.องครักษ์ จ.นครนายก ในวันที่ 11 สิงหาคม 2565 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการให้ความรู้เรื่อง 3R ได้แก่ การลดการใช้ (Reduce) เพิ่มการใช้ซ้ำ (Reuse) และนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียน จำนวน 700 คน ทั้งนี้ กิจกรรมภายในงานนอกจากการแสดงละครหุ่นเชิดแล้ว ยังมีการแสดงกลองชุดจากขยะรีไซเคิล การเล่นเกม ตอบคำถาม ชิงของรางวัลต่าง ๆ อีกด้วย และมีดาราศิลปินร่วมให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกกับกิจกรรมของมูลนิธิคุณ และจะเป็นกระบอกเสียงให้สังคมอย่างไร   

    7 ตุลาคม 2565 – มูลนิธิคุณ (KHUN Foundation) ผนึกกำลัง วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Ppc) เปิดเวทีบรรยายพิเศษ “WASTE MANAGEMENT AWARENESS” ส่งเสริมความรู้ - ปลูกจิตสำนึก การลด-แยกขยะ พร้อมนักแสดงรักษ์โลก ร่วมสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อปลูกฝังให้บุคลากรของมหาวิทยาลัย เด็กและเยาวชน ได้มีการตระหนักต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยการบรรยายพิเศษครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก

    • นางสาวปรางค์ทิพย์ อนันตวิภาต ประธานมูลนิธิคุณ ผู้มอบโอกาสให้กับสังคมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น เหมือนที่เธอเคยได้รับโอกาส หัวข้อ Waste Management Awareness
    • ศาสตราจารย์ ดร.ปราโมช รังสรรค์วิจิตร คณบดี วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี (Ppc) และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มานิตย์ นิธิธนากุล รองคณบดีด้านวิชาการ และศาสตราจารย์ ดร.พิชญ์ ศุภผล รองคณบดีด้านนวัตกรรมองค์กร หัวข้อ Towards Net Zero Society
    • นายวีระชาติ โลห์ศิริ เจ้าของโรงงานผลิตกระสอบสาน ผู้นำขยะเศษกระสอบมาทำกระเป๋าแบรนดังระดับโลก หัวข้อ Project Zero Waste
    • เจฟฟรี่ เบญจกุลวิวัฒน์ นักปั่น และ ผู้ก่อตั้งเพจ Bicycle diary เปิดใจปั่น ปั่นเพื่อสุขภาพที่ดี และปั่นเพื่อสิ่งแวดล้อม ร่วมด้วย, บิ๊ก-ณทรรศชัย จรัสมาส, มิ้ม-รัตนาภรณ์ กลิ่นกุหลาบหิรัญ   
    วิดีโอกิจกรรม

     
    วิดีโอ : กิจกรรมวันเด็ก

     
    วิดีโอ : สอนเด็กๆแยกขยะ

    อ่านต่อ
  • ความคืบหน้าโครงการ > โครงการแว่นผู้สูงวัย ขอแว่นตาให้ผู้สูงวัยยากไร้ในชุมชน

    มอบแว่นตาให้ผู้สูงวัยในกรุงเทพมหานคร จำนวน 524 คน

    22 มีนาคม 2023

    โครงการแว่นผู้สูงวัย ขอแว่นตาให้ผู้สูงวัยยากไร้ ดำเนินการระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม 2566 ซึ่งมูลนิธิฯ ได้นำแว่นตาไปมอบให้ผู้สูงวัยยากไร้ที่พักอาศัยในชุมชนร่มเย็น ชุมชนสุขสำราญ ชุมชนเลียบคลองบางแค ชุมชนชาววัดม่วง และชุมชนปู่เย็นย่าคำ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร เมื่อวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 จำนวน 269 คน และวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2566 ณ ชุมชนวัดคลองเตยใน ชุมชนหัวโค้ง ชุมชนร่มเกล้า ชุมชน 70 ไร่ ชุมชนล็อค 1-2-3 และชุมชนล็อค 4-5-6 เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร จำนวน 255 คน โดยใช้เงินที่ได้รับบริจาคในโครงการเทใจดอทคอม มาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อแว่นตามามอบให้ผู้สูงวัยยากไร้ ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค

    ความประทับใจของผู้ที่ได้รับประโยชน์ 

     ป้าสำรวย อายุ 79 ปี ป้าสำรวยอยู่กับสามี และหลานๆ ด้วยความที่อายุมากขึ้น การหาของ การอ่านฉลากยาเพื่อจะหยิบยากินเองเริ่มลำบากขึ้น เพราะตัวหนังสือที่อยู่บนฉลากยาเล็กมาก หรือการไปซื้อของก็มักจะได้ของไม่ค่อยดีกลับมา เพราะการมองเห็นของป้าเริ่มไม่ชัดเหมือนเก่า ทำให้ป้าหงุดหงิดบ่อยๆ

    “ป้าดีใจที่ได้แว่นตามาใช้ เวลาป้าหยิบยามากินหรือหาของ มันดูง่ายและไม่ลำบากเหมือนแต่ก่อน ขอบคุณมูลนิธิฯ ที่เอาแว่นมาให้ป้านะ”

     ป้าเชอร์รี่ อายุ 72 ปี ป้าเชอร์รี่อยู่ตัวคนเดียว มีอาชีพเก็บของเก่าขาย แต่ด้วยอายุที่มากขึ้น ทำให้ตอนนี้การที่จะไปเดินหาหรือเก็บของเก่ามาไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อน ป้าเล่าว่าเคยไปเก็บของแล้วมองไม่ชัด ทำให้มือไปโดนของมีคมบาดบ้าง ทำให้ป้าต้องระวังตัวมากขึ้น แต่ถึงจะระวังแค่ไหนมือก็ยังพลาดโดนบาดอยู่เรื่อยๆ เพื่อนบ้านสงสารก็จะช่วยรวบรวมขวดพลาสติกที่ไม่ได้ใช้ เอามาให้แกบ่อยๆ

    “ ขอบคุณมูลนิธิฯ นะ ที่เอาแว่นตามาให้ป้าได้ใช้ ตอนนี้ป้ามองเห็นอะไรชัดขึ้นเยอะเลย ”

    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    ผู้สูงอายุเป็นผู้ยากไร้และด้อยโอกาสในชุมชนมากกว่า 500 คน-ผู้สูงวัยมีแว่นสายตาใช้ ช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น
    -ช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันได้ดีขี้น
    -ลดความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาสายตา
    รูปภาพกิจกรรม

      วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ศูนย์บริการสาธารณสุข 40 บางแค สาขาวิจิตราอนามัย

    มูลนิธิฯ ได้นำแว่นตา ไปมอบให้ผู้สูงวัยยากไร้ที่พักอาศัยในชุมชนร่มเย็น ชุมชน สุขสำราญ ชุมชนเลียบคลองบางแค ชุมชนชาววัดม่วง และชุมชนปู่เย็นย่าคำ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร มีผู้สูงวัยมารับแว่น จำนวน 269 คน

      วันที่ 10 มีนาคม 2566 ณ ศูนย์บริการสาธารณสุข 41 คลองเตย

    มูลนิธิฯ ได้นำแว่นตา ไปมอบให้ผู้สูงวัยยากไร้ที่พักอาศัยในชุมชนหัวโค้ง ชุมชนร่มเกล้า ชุมชน 70 ไร่ ชุมชนล็อค 1-2-3 และชุมชนล็อค 4-5-6 เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร มีผู้สูงวัยมารับแว่น จำนวน 255 คน

    อ่านต่อ
  • ความคืบหน้าโครงการ > “อยู่เพื่อยิ้ม” ระดมทุนจัดซื้ออุปกรณ์กิจกรรมศูนย์เชี่ยวชาญพิเศษด้านเด็กพิการทางการเคลื่อนไหวและสมอง

    มูลนิธิโรงพยาบาลเด็กจัดซื้ออุปกรณ์และให้บริการทางกายภาพบำบัด

    22 มีนาคม 2023
    หลังจากปิดรับระดมทุน ทางโครงการ“อยู่เพื่อยิ้ม” ระดมทุนจัดซื้ออุปกรณ์กิจกรรมศูนย์เชี่ยวชาญพิเศษด้านเด็กพิการทางการเคลื่อนไหวและสมอง ได้ทำการจัดซื้ออุปกรณ์และให้บริการทางกายภาพบำบัด ดังนี้
    1. ซื้อครุภัณฑ์ประเมินและฝึกการทรงตัว 2 รายการ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยที่ระบบประสาทและกล้ามเนื้อผิดปกติส่งผลต่อการทรงตัว ทำให้ยืนเองไม่ได้ หรือเดินแล้วล้มง่าย ชื่อรายการ เครื่องฝึกการทรงตัว พร้อมอุปกรณ์ช่วยยกผู้ป่วยจากท่านั่งสู่ท่ายืน พร้อมซอร์ฟแวร์ในการฝึก เพื่อฝึกผู้ป่วยที่ยังยืนเองไม่ได้ (Balo) จำนวน 1 เครื่อง วันที่รับ 31 ส.ค. 2565 จำนวนเงิน 800,000 บาท ซึ่งผลลัพธ์คือ ณ วันที่ 31 ม.ค. 2566 มีผู้มารับบริการ 40 ครั้ง  
    2. ซื้อเครื่องช่วยพยุงเดิน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินวิธีการเดิน เพิ่มศักยภาพของ สมองในการสั่งการเดินแบบอัตโนมัติ (reflex walking) เพิ่มความแข็งแรงและทนทานของกล้ามเนื้อในการเดินและทรงตัว ชื่อรายการ lite gait วันที่รับ 28 ส.ค. 2565 จำนวนเงิน 800,000 บาท ซึ่งผลลัพธ์คือ ณ วันที่ 31 ม.ค. 2566 มีผู้มารับบริการ 100 ครั้ง  
    3. ซื้ออุปกรณ์ฝึกยืนสำหรับเด็กเล็กแบบปรับตามสัดส่วนของร่างกาย วันที่รับ 1 ก.ย. 2565 จำนวนเงิน 212,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างแรงกดและแรงดึงต่อลำตัว แขนและขา เพื่อให้กระดูกและกล้ามเนื้อของเด็กที่ยืนเองไม่ได้เติบโตใกล้เคียงกับเด็กทั่วไป ซึ่งผลลัพธ์คือ ณ วันที่ 31 ม.ค. 2566 มีผู้มารับบริการ 120 ครั้ง  

    คลินิกกิจกรรมบำบัด 

    1. ซื้อโต๊ะปรับระดับไฟฟ้าสำหรับเด็กสมองพิการ โดยมีวัตถุประสงค์ เพิ่มใช้ฝึกเด็กสมองพิการในฝึกการทำกิจกรรมต่างๆ ฝึกการเคลื่อนไหวของแขนและมือ และกิจวัตรประจำวัน ชื่อรายการ โต๊ะปรับระดับไฟฟ้าสำหรับเด็กสมองพิการจำนวน 2 ตัว วันที่รับ 28 ก.ย. 2565 จำนวนเงิน 118,000 บาท ซึ่งผลลัพธ์คือ ณ วันที่ 30 ม.ค. 2566 มีผู้มารับบริการที่ใช้งานจำนวน 100 คน  
    2. ซื้ออุปกรณ์ตรวจประเมินและฝึกทางกิจกรรมบำบัด เพื่อประเมินความสามารถในการใช้นิ้วมือและมืออย่างเป็นระบบ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินความสามารถในการใช้นิ้วมือและมืออย่างเป็นระบบ เพิ่มความแข็งแรงทนทานของกล้ามเนื้อมือ และความคล่องแคล่วของมือ ชื่อรายการ อุปกรณ์ตรวจประเมินและฝึกทางกิจกรรมบำบัด เพื่อประเมินความสามารถในการใช้นิ้วมือและมืออย่างเป็นระบบ จำนวน 1 ชุด วันที่รับ 15 ก.ย. 2565 จำนวนเงิน 241,800 บาท ซึ่งผลลัพธ์คือ ณ วันที่ 30 ม.ค. 2566 มีผู้มารับบริการที่ใช้งานจำนวน 40 คน    
    3. เครื่องประเมินความผิดปกติของฝ่าเท้าและการลงน้ำหนัก (Podoscope) จำนวนเงิน 25,000 บาท รับ 24 ก.ค. 2565 ผลลัพธ์ ณ วันที่ 30 มกราคม 2566 มีผู้มารับบริการ 12 คน  
    4. เครื่องวัดระดับความสมดุลของสะโพก (Pelvic level) จำนวนเงิน 9,600 บาท รับ 11 ก.ค. 2565 ผลลัพธ์ ณ วันที่ 30 มกราคม 2566 มีผู้มารับบริการ 13 คน 


    อ่านต่อ
  • ความคืบหน้าโครงการ > ONE MAN AND THE RIVER หนึ่งคนว่าย หลายคนให้

    ส่งมอบเครื่องมือแพทย์รอบแรกถึงโรงพยาบาลแขวงคำม่วนแล้ว

    21 มีนาคม 2023

    เมื่อวันที่ 7-8 มีนาคม ทางโครงการONE MAN AND THE RIVER หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ ได้ดำเนินการนำเครื่องมือแพทย์ข้ามจากฝั่งไทยไปส่งถึงมือคุณหมอและพยาบาล ณ โรงพยาบาลแขวงคำม่วนเรียบร้อยแล้ว และจัดให้มีกระบวนการเทรนนิ่งการใช้เครื่องมือต่างๆ เพราะหลายเครื่อง เช่น เครื่องช่วยหายใจ หรือเครื่องในแผนกกายภาพ ทางโรงพยาบาลยังไม่เคยมีใช้มาก่อน

    สำหรับรายการเครื่องมือแพทย์รอบแรกประกอบด้วย 

    1.เครื่องช่วยหายใจเด็ก ชนิด nCPAP จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งเป็นเครื่องช่วยหายใจสำหรับทารกที่มีภาวะหายใจลำบาก ภาวะหยุดหายใจ หรือหลังจากถอดท่อช่วยหายใจทางหลอดลม เพื่อช่วยให้ทารกหายใจเหนื่อยน้องลง 

    2.เครื่องเฝ้าติดตามสัญญาณชีพชนิดข้างเตียงผู้ป่วย Bedside Monitor ที่สามารถติดตามภาวะการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต จำนวน 5 เครื่องเพื่อติดตั้งในห้อง ICU 

    3.เครื่องกระตุกหัวใจ AED จำนวน 3 เครื่อง เพื่อติดตั้งในห้องฉุกเฉิน รถกู้ชีพ 

    4.เครื่องวัดความดันโลหิตแบบอัตโนมัติพร้อมขาตั้ง 12 เครื่อง เพื่อติดตามอาการคนไข้ในแผนกและวอร์ดผู้ป่วยในต่างๆ


    5.เครื่องวัดความดันชนิดสอดแขนจำนวน 3 เครื่อง เพื่อใช้แผนก OPD , ผู้ป่วยฉุกเฉิน

    6.เครื่องดึงคอ/ดึงหลัง (traction) จำนวน 1 เครื่อง สำหรับแผนกกายภาพบำบัดที่ปัญหาด้านกระดูกคอและสันหลัง

    7.เครื่องอัลตร้าซาวด์สำหรับกายภาพ จำนวน 2 เครื่อง แผนกกายภาพบำบัดเพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านกล้ามเนื้อ

    8.หม้อต้มแผ่นประคบร้อน จำนวน 1 เครื่อง(แผนกกายภาพบำบัด)


    โดยอุปกรณ์หลายอย่าง เช่น เครื่องช่วยหายใจในเด็ก และกลุ่มอุปกรณ์กายภาพทางโรงพยาบาลไม่เคยมีมาก่อน ขณะที่อุปกรณ์หลายอย่าง เช่น Bedside monitor ก็ไปเสริมการทำงานในห้อง ICU ให้มีมากขึ้น 

    พ.ญ.จิตตะยา สีมุกดา แพทย์ประจำห้อง NICU/PICU กล่าวว่า ห้อง NICU พูดง่ายๆ คือ ICU เด็กที่คลอดก่อนกำหนด ห้อง NICU ในละแวกแขวงหรือจังหวัดคำม่วนมีเพียงเราที่เดียว ดังนั้นหากมีการคลอดเด็กตามสุขศาลา (ที่ไทยเรียกว่าอนามัย) หรือคลอดเอง และพบว่าเด็กไม่แข็งแรงจะถูกส่งมาที่เราทันที ทำให้ปี 2022 เราให้บริการเด็กในห้องนี้ไปกว่า 272 คน และมีอัตราการเสียชีวิต 26 คน

    “การมีเครื่องช่วยหายใจสำหรับเด็กโดยเฉพาะเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเราไม่มีเครื่องช่วยหายใจสำหรับเด็กมาก่อน โดยที่ผ่านมาเราต้องใช้เครื่องช่วยหายใจชนิดสวมหน้ากากสำหรับเด็ก แต่ก็ทำให้เด็กเสี่ยงตาบอดจากอ๊อกซิเจนที่รอดผ่านแมสได้ เครื่องนี้จึงลดอันตรายได้มาก เราดีใจมากที่ได้เครื่องช่วยหายใจ 2 เครื่องมาช่วยชีวิตเด็ก”

    อย่างไรก็ตาม สำหรับการส่งมอบครั้งนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ยังมีเครื่องมือแพทย์อีกมากที่กำลังเตรียมส่งมอบรอบสองที่คาดว่าจะส่งแล้วเสร็จไม่เกินเดือนพฤษภาคมนี้ เช่น เครื่องอัลต้าซาวด์ อุปกรณ์ผ่าตัดสมอง ชุดกล้องส่องตรวจกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่ และอื่นๆ


    อ่านต่อ
  • ความคืบหน้าโครงการ > สร้างครู สร้างนักเรียน สู่การสร้างงาน สร้างอาชีพคืนสู่สังคมในยุค New Normal

    จัดค่ายนวัตกรรมผู้ประกอบการหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ สากล

    20 มีนาคม 2023

    กิจกรรมประชาสัมพันธ์ จัดค่ายนวัตกรรมผู้ประกอบการหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ สากล (AI 5.0) มาตรฐานเนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ และเยอรมัน ส่งประกวด ในระดับประเทศ 150 โครงการ จาก 40 กว่าโรงเรียน ได้เป็นตัวแทน และระดับนานาชาติ และค่ายเก็บตัวนักกีฬาทีมชาติไทยเข้าร่วมประกวด International Scratch Olympiad 2023 ระดับนานาชาติ ปีที่ 7 โดยส่งตัวแทน ที่ได้รับรางวัล 1-3 จำนวน 6 รุ่น รวม 18 คน

    โดยมีกิจกรรมเพื่อการพัฒนาสร้างครู สร้างนักเรียน สู่การสร้างงาน สร้างอาชีพคืนสู่สังคมในยุค New Normal ตามกิจกรรมดังนี้

    • 19-22 มกราคม 2565 ค่ายพัฒนาครูนวัตกรรมผู้ประกอบการหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ สากล (AI 5.0) มาตรฐานเนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ และเยอรมัน สำหรับครูจำนวน 10 คน เพื่อนำไปพัฒนานักเรียนในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง
    • 21-24 พฤษภาคม 2565 ค่ายนวัตกรรมผู้ประกอบการหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ สากล (AI 5.0) มาตรฐานเนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ และเยอรมัน สู่การเข้าประกวดการเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ Scratch Olympiad 2022 ในระดับประเทศ เพื่อก้าวเข้าสู่เวทีนานาชาติตอบโจทย์การเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์เพื่อสังคม และการสร้างงาน สร้างอาชีพ โดยมีครู นักเรียน จำนวน 15 คน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
    • 28 สิงหาคม ถึง 3 กันยายน 2565 ค่ายนวัตกรรมผู้ประกอบการหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ สากล (AI 5.0) มาตรฐานเนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ และเยอรมัน สู่การเข้าประกวดการเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ International Scratch Olympiad 2022 ปีที่ 6 ระดับนานาชาติ มีนักเรียน และผู้ปกครองเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 20 คน

    ซึ่งในการเข้าค่ายนั้นมีค่าใช้จ่าย ทางมูลนิธิฯ จะมีทุนการศึกษาให้ส่วนหนึ่ง และมีผู้สนับสนุนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครอง โรงเรียน และการระดมทุนจากเทใจดอทคอมก็ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้

    กลุ่มที่ได้รับประโยชน์อธิบายจำนวนที่ได้ประโยชน์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    เด็กและเยาวชนในกระทรวงศึกษาธิการทั่วประเทศไทย150 คน

    คัดเลือกจาก 150 คน โครงการ ด้วยการเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์โอลิมปิกวิชาการนานาชาติ เป็นตัวแทนประเทศไทยจำนวน 18คน เข้ารับถ้วยรางวัลและประกาศนียบัตรจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรับฟังโอวาท โดยได้ดำเนินกิจกรรมค่ายผู้ประกอบการหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์สากล (AI 5.0) เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวดในระดับนานาชาติ และผลการประกวดได้รับรางวัลในระดับนานาชาติ 2 คน เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง การเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์โอลิมปิกวิชาการนานาชาติ จาก 45 ประเทศ กว่า 4,000 คน


    วิดีโอกิจกรรม

     วิดีโอ : ทางมูลนิธิฯ เข้าร่วมสนับสนุนเด็กในพื้นที่ห่างไกลหากน้องๆ มีความสามารถและตั้งใจจริง

      วิดีโอ : ตัวอย่างการเรียนในหลักสูตร

    รูปภาพกิจกรรม

        


    อ่านต่อ
  • ความคืบหน้าโครงการ > ระดมทุนช่วยผู้ป่วย/สูงอายุ ขาดแคลนผ้าอ้อมสำเร็จรูป

    อาสาสมัครพัฒนาสังคมลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ

    20 มีนาคม 2023

    อาสาสมัครพัฒนาสังคม (อพม.) เขตลาดพร้าว เป็นสะพานบุญในการลงพื้นที่ เคาะประตูบ้าน เพื่อเยี่ยมเยือนถามไถ่ทุกข์สุขผู้สูงอายุ ผู้พิการติดเตียงและกลุ่มคนเปราะบางที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนและอาศัยอยู่ในพื้นที่แออัด

    ในการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ทำให้ผู้รับสามารถรักษาความสะอาดทางด้านสุขอนามัยได้อย่างถูกวิธี ไม่เกิดแผลกดทับและไม่ติดเชื้อ สุขภาพจิตดีและพร้อมดูแลตนเองกับความเจ็บป่วยที่มี

    โดยในการลงพื้นที่ของอาสาสมัครพัฒนาสังคมในครั้งนี้ได้พบกับเคสต่างๆ ดังนี้

     คุณตาเที่ยง ซึ่งอาศัยอยู่กับลูกชายซึ่งมีอาชีพรับจ้าง ระหว่างที่ อพม.เข้าไปเยี่ยม คุณตาเที่ยงได้นอนและลุกไม่ขึ้น ทีมงานต้องช่วยกันประคองคุณตาขึ้นนั่ง และสังเกตว่าคุณตาไม่สามารถลุกเองได้และอยู่ในท่านอนเดิมๆนานเกินไป ทำให้เกิดอาการบวมน้ำที่เบ้าตาข้างขวาจึงได้ประสานกับอาสาสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อช่วยดูอาการและช่วยในการดูแลปฐมพยาบาลต่อไป

     นางสาวฝ้าย ผู้พิการตัดขาที่นอนติดเตียงอยู่บนบ้านไม้ที่พื้นไม้เริ่มผุ เวลาเดินเข้าบ้านต้องค่อยๆย่ำตามแผ่นไม้กระดาน อาศัยอยู่กับหลานที่มีอาชีพเป็นแม่บ้าน ซึ่งระหว่างวันทำงานต้องให้ นางสาวฝ้ายอยู่บ้านคนเดียวต้องอยู่กับสิ่งขับถ่ายเป็นเวลาหลายๆชั่วโมง ส่งผลให้เกิดเป็นแผลกดทับยากต่อการดูแลรักษา อพม.เขตลาดพร้าว จึงส่งมอบผ้าอ้อม ถุงยังชีพ และช่วยประสานอาสาสาธารณสุขเข้าดูแลเรื่องสุขอนามัยต่อไป

     นายสมชาย เล่าว่า ตนเองเส้นเลือดในสมองตีบทำให้แขนขาซีกขวาไม่สามารถใช้งานได้ เป็นภาระทำให้ลูกสาวคนเดียวต้องออกจากโรงเรียนและหางานทำ ซึ่งรายได้ก็ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครัวเรือนไม่มีเงินไปพบแพทย์ตามนัด อพม.เขตลาดพร้าว จึงส่งมอบผ้าอ้อมและข้าวสารอาหารแห้งไว้ เป็นการช่วยเหลือความเป็นอยู่ในเบื้องต้น 

     คุณยายสมใจ ล้มป่วยเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่ในความดูแลของลูกสาว เดิมคุณยายจะไม่ค่อยพูด เมื่อเห็น อพม.ลาดพร้าวไปเยี่ยมด้วยความห่วงใย คุณยายพยายามจะพูดคุย และกล่าวคำขอบคุณออกมา ลูกสาวบอกกับอาสาฯ ว่าขอบคุณทีมงาน อพม.ลาดพร้าว ที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจ คุณยายรู้สึกดีใจจึงพยายามจะพูดกับทุกคน

     คุณตาเพียรและคุณยายบุญ อาศัยอยู่ในบ้านเพียง 2 คนตายาย เดิมมีลูก 3 คน ส่งเสียเล่าเรียนจนจบปริญญาโท ได้การงานที่ดีทั้ง 3 คนและได้ย้ายออกไปพักที่อื่น หลังจากนั้นก็ไม่กลับมาเยี่ยมพ่อแม่อีกเลย คุณยายบุญเกิดความเครียดทำให้ล้มป่วยเป็นอัลไซเมอร์ โดยมีคุณตาเพียรเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดมีรายได้จากเบี้ยผู้สูงอายุ คุณตาเพียรทานข้าววันละ 1 มื้อ เพราะต้องประหยัดเงินทุกบาททุกสตางค์เพื่อเป็นการรักษาคุณยาย อพม.เขตลาดพร้าวจึส่งมอบผ้าอ้อม และถุงยังชีพ ที่มีข้าวสารอาหารแห้ง นม และของใช้ประจำวัน ไว้ให้เป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น และจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือต่อไป                                

    อ่านต่อ