วีลแชร์ แชร์สุขให้น้องดาวน์

ปัญหาสังคมและวิธีการแก้ไขปัญหา

“แม่ไม่ได้ไปทำงานเลย เพราะว่าต้องดูน้องทั้งวัน ถ้ามีวีลแชร์อย่างน้อยได้พาน้องไปทำงานด้วย”

“เมื่อก่อนตอนยังเล็กพาไปบำบัดที่ศูนย์ฯ ได้แต่ตอนนี้ยายอุ้มน้องไม่ไหวแล้ว เลยไม่ได้พาไปไหนเลย”

เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญาจะมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวช้ากว่าวัยอยู่แล้ว ยิ่งในรายที่มีความบกพร่องจากประสาทส่วนกลาง จะมีอาการแขน ขาและลำตัวเกร็ง จนเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้เลย ซึ่งถ้าได้รับการรักษา บำบัด แก้ไขความผิดปกติ เด็กจะช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น... แต่เด็กพิการทางสติปัญญาที่ยากไร้แทบจะไม่มีโอกาสนี้ จึงทำให้น้องๆ กลุ่มนี้ต้องอยู่ในสภาพของร่างกายที่ขยับไม่ได้บนเตียงตลอดเวลา!

วีลแชร์จึงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายได้ พึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น อำนวยความสะดวกและลดข้อจำกัดในการทำสิ่งต่างๆ เป็นการช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและเปิดโอกาสให้เด็กได้ก้าวสู่โลกใบใหม่ที่ไม่เคยได้สัมผัส

วีลแชร์ที่เป็นได้มากกว่าการเคลื่อนที่

• วีลแชร์ที่มีคุณภาพจะช่วยลดการเกิดแผลกดทับ การยึดตัวของกล้ามเนื้อ ลดการนั่งผิดท่าและลดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจจะเกิดจากการนั่งวีลแชร์ที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน
• ฟังก์ชั่นที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น พับเก็บง่าย มีน้ำหนักเบา ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระผู้ดูแลลงได้ ช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการอุ้มเด็กพิการฯ หรือใช้วีลแชร์ที่ประกอบขึ้นมาใช้งานเอง
• เด็กพิการฯ ได้พบเจอกับประสบการณ์ใหม่ พบปะกับผู้อื่นในสังคม สิ่งเหล่านี้มีส่วนช่วยกระตุ้นทักษะและพัฒนาการของเด็กพิการฯ ให้ดีขึ้น
• วีลแชร์ช่วยให้คุณภาพชีวิตครอบครัวดีขึ้น สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ 

แต่ด้วยความที่วีลแชร์มีราคาสูง จึงทำให้ครอบครัวเด็กพิการที่ยากไร้ไม่มีโอกาสได้ใช้วีลแชร์ มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เห็นถึงความสำคัญและเข้าใจยากลำบากของเด็กพิการทางสติปัญญาและครอบครัว จึงจัดทำโครงการ “วีลแชร์ แชร์สุขให้น้องดาวน์” เพื่อซื้อวีลแชร์ให้กับเด็กพิการทางสติปัญญา จำนวน 30 คัน โดยมอบให้ทั้ง 10 ศูนย์ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยฯ เพื่อสร้างโอกาสให้ครอบครัวและเด็กพิการทางสติปัญญาได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น