วิจัยชีวิตเสือดาว-เสือโคร่ง เพื่อการอนุรักษ์เสือที่ใกล้สูญพันธุ์
ชวนคนไทยมาร่วมกันสนับสนุนงานวิจัยชีวิตเสือดาว-โคร่งในผืนป่าไทย เพื่อประโยชน์ในงานอนุรักษ์เสือที่ใกล้สูญพันธุ์
พื้นที่ดำเนินโครงการ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี
ยอดบริจาคขณะนี้
291,500 บาทเป้าหมาย
291,500 บาทสำเร็จแล้ว
เรารู้จักเรื่องของชีวิตเสือน้อยมาก
แม้คนในวงการอนุรักษ์และนักวิจัยเอง ก็อาจรู้จักเสือแต่ละชนิดแบบเชิงลึกไม่มากเช่นกัน
เพราะการศึกษาเรื่องชีวิตของเสือ ตั้งแต่ การล่าเหยื่อ พื้นที่อยู่ การสืบพันธ์ุ และใครเป็นศัตรู ต้องใช้ "เงิน" และ "เวลา"นาน
วันนี้เรารู้แต่เพียงว่า เสือแต่ละชนิดใกล้สูญพันธุ์
เพราะเราไม่เริ่มตอนนี้... เสือแต่ละชนิดก็อาจจะสูญหายจากป่าในประเทศไทยไปเลยก็ได้
เราจึงอยากชวนคนไทยมาร่วมกันสนับสนุนงานวิจัยชีวิตเสือดาว-โคร่งในผืนป่าไทย เพื่อประโยชน์ในงานอนุรักษ์เสือที่ใกล้สูญพันธุ์ คณะผู้วิจัย นำโดยอัจฉรา ซิ้มเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ สำนักงานบริหารอนุรักษ์ที่12 และทีมงาน จึงต้องการศึกษาเสือโคร่งและเสือดาว เพื่อวางแผนอนุรักษ์ได้ถูกต้อง
เพราะป่าใดที่มี “เสือโคร่ง” แสดงถึงฝืนป่าที่มีสภาพอันอุดมสมบูรณ์ เพราะเสือโคร่งนั้นจะเป็นเรื่องของการควบคุมจำนวนของเหยื่อในระบบนิเวศ และในปัจจุบันไม่มีรายงานการพบเห็นในประเทศเพื่อนบ้านของไทยได้แก่ เวียดนาม ลาว กัมพูชา และ พม่า ประเทศไทยจึงเป็นพื้นที่แห่งความหวังในการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะที่ “เสือดาว” ผู้ปราดเปรียวมีสถานภาพที่น่าเป็นห่วง เพราะทางองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ IUCN ได้จัดให้เสือชนิดดังกล่าวอยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ (Endangered -EN)
ทำไมเราต้องศึกษาเสือ 2 ชนิดนี้
การศึกษาถึงการอยู่ร่วมกันของเสือโคร่งและเสือดาวที่ในประเทศอินเดีย พบว่าผู้ล่าสองชนิดนี้มีความซ้อนทับกันสูงทั้งด้านชนิดสัตว์ที่เป็นเหยื่อและการใช้พื้นที่หากิน และการที่มีสัตว์ผู้ล่าที่อาศัยอยู่ในระบนเวศเดียวกันอาจเกิดใน 2 รูปแบบคือ
- interference competition แสดงออกในรูปแบบที่ที่เสือโคร่งขับไล่หรือกำจัดเสือดาวออกจากระบบ
- exploitation competition เป็นรูปแบบการแก่งแย่งกันที่เกิดจากการที่เสือดาวล่าชนิดเหยื่อหลักของเสือโคร่งเป็นอาหารในปริมาณมากซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของเสือโคร่ง
สิ่งที่ศึกษาคืออะไร
- ศึกษารูปแบบและพฤติกรรมในช่วงเวลาและพื้นที่เดียวกันของเสือโคร่งและเสือดาว โดยมีสมมุติฐานว่าเสือดาวจะมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเสือโคร่ง
- ศึกษาชนิดสัตว์ที่เป็นเหยื่อของเสือดาวจากการติดตามพฤติกรรมการล่าอาหารได้ โดยมีสมมุติฐานว่าชนิดเหยื่อหลักของเสือดาวเป็นชนิดเดียวกันกับชนิดเหยื่อหลักของเสือโคร่งเพียงแต่เสือดาวเลือกล่าเหยื่อที่มีขนาดเล็กกว่าหรืออ่อนวัยกว่าชนิดเหยื่อของเสือโคร่ง
ทีมวิจัยทำงานอย่างไร
- การดักจับเสือโคร่ง เพื่อใส่ปลอกคอวิทยุสัญญาณดาวเทียม (Vectronic,Germany ศึกษาการเคลื่อนที่ไว้ที่ทุกๆ 1 ชั่วโมง ซึ่งจะทำใหทราบพฤติกรรมของเสือโคร่งที่สื่อสารกับเสือโคร่งตัวอื่น เช่นในรูปแบบการหมายอาณาเขตสื่อสารที่พบบ่อยในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งได้แก่ การตะกุยพื้นดิน การพ่นปัสสาวะ การถูแก้มกับต้นไม้ ซึ่งเสือโคร่งจะเลือกพ่นปัสสาวะที่ พุ่มไม้ หรือลำต้นของต้นไม้ที่อยู่ไม่ห่างจากเส้นทางด่านสัตว์หรือเส้นทางตรวจการณ์ โดยความถี่และรูปแบบของการหมายอาณาเขตขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อม และสถานะการสืบพันธุ์ของเพศเมีย รวมถึงพฤติกรรมการใช้พื้นที่ของเสือโคร่งตัวอื่น
- การดักจับเสือดาว เพื่อศึกษาเพื่อใส่ปลอกคอวิทยุสัญญาณดาวเทียม (Vectronic,Germanyศึกษาการเคลื่อนที่ไว้ที่ทุกๆ 1 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้ทราบพฤติกรรมของเสือดาวเช่นกัน
ดังนั้นนักวิจัยจึงอยากมีข้อมูลที่ของเสือ 2 ชนิดที่มากพอและประโยชน์ต่อการวางแผนเชิงละเอียดต่อการอนุรักษ์ทั้งเสือโคร่งและเสือดาว มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้กันเถอะ
ทีมวิจัย
- นางอัจฉรา ซิ้มเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ สบอ.12 หัวหน้าโครงการ
- นายศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มเจริญ หัวหน้ากลุ่มวิจัยสัตว์ป่า คณะผู้วิจัย
- นายสมโภชน์ ดวงจันทราศิริ หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่า คณะผู้วิจัย
- นายธานี วงศ์นาค หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง คณะผู้วิจัย
- นายสมพร พากเพียร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง คณะผู้วิจัย
- Prof. James David Smith University of Minnesota คณะผู้วิจัย
แผนการใช้เงิน
รายการ | ราคา | จำนวนเงิน |
1.ค่าธรรมเนียมในการรับ ส่ง ตำแหน่งผ่านดาวเทียม ( iridium fee) เสือดาว รวม 3 ตัว | 21,000บ./ตัว /ปี | 63,000 |
2.ค่าวัสดุ ทำกรงดักจับจำนวน 10 กรง | 1,000 บ./กรง | 10,000 |
3.ค่าGPS จำนวน 2 เครื่อง | 20,000 บ./เครื่อง | 40,000 |
4.ค่าใช้จ่ายของเทใจในการระดมทุนโดยประมาณ | 11,330 | |
รวมทั้งหมด | 124,300 |
*อนึ่งทางทีมวิจัยได้รับ ค่าปลอกคอสัญญาณดาวเทียม 1 เส้นจากมูลนิธิห้วยขาแข้ง และค่าปลอกคอสัญญาณดาวเทียม2 เส้นจาก University of Minnesota แล้ว