ปันใจช่วยไทยสู้โควิด-19

ปัญหาสังคมและวิธีการแก้ไขปัญหา

    ปัญหาของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสCovid-19  เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย ทำให้การดูแลของทางภาครัฐกระจายไม่ทั่วถึงและไม่สามารถจะจัดสรรหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลประชาชน จึงทำให้มียอดผู้ติดเชื้อในชุมชนเป็นจำนวนมาก ชุมชนริมทางรถไฟก็เป็นอีกหนึ่งชุมชนที่ต้องการการช่วยเหลือ เพราะเป็นชุมชนที่มีประชากรอยู่อย่างแออัด จากลักษณะทางกายภาพของชุมชน ที่บ้านแต่ละหลังห่างกันไม่กีเมตร ต้องเดินผ่านไปผ่านมาเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ติดเชื้อโควิดกลับมา และเนื่องจากการตรวจเชิงรุกทำได้น้อยลง

ทำให้การจะแยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชนทำได้ยาก เพราะไม่สามารถทราบได้ว่าใครติดเชื้อบ้างบางคนติดเชื่อแล้วไม่แสดงอาการ ผู้ติดเชื้อปะปนอยู่ในชุมชน ที่มี 518 หลังคาเรือน ประชากรในชุมชน รวม 3,500 คน เป็นไปได้ยากที่จะไม่ติดโควิด (อ้างอิงจำนวนประชากรจากข้อมูลชุมชนคลองเตย)

    จากที่ทางกลุ่มเห็นข้อมูลข่าวสารของชุมชนริมทางรถไฟคลองเตยที่มีอัตรการติดเชื้อสูง และในข่าวเห็นเต็นท์ของผู้ป่วยโควิดที่ต้องมากักตัวกัน ลานกิจกรรมของหมู่บ้านและเกิดเป็นข่าวดังอยู๋ช่วงหนึ่ง และทางกลุ่มของเราได้ไปขออนุญาตผู้นำชุมชนให้รับทราบถึงการทำโครงการของเราแล้ว และได้มีโอกาสเดินทางไปชุมชนดังกล่าวเพื่อเจอกับผู้นำชุมชน ได้ความจากผู้นำชุมชนว่าคนในชุมชนอยู่กันค่อนข้างแออัดและต้องแยกผู้ติดเชื้อไว้ที่บ้านและส่วนคนในบ้านก็แยกกันกักตัวที่ลานกิจกรรมดังกล่าว ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจโควิด การจะแยกผู้ติดเชื้อออกจากชาวบ้านจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก

    กลุ่มเยาวชนอาสาทำดี ได้มีวิธีการ ที่จะช่วยเหลือชุมชนจากวิกฤต เนื่องจากการตรวจโควิดเชิงรุกทำได้น้อย หากเป็นไปได้ที่ชาวบ้านจะตรวจเชื้อได้เองที่บ้านด้วย ชุดรวจโควิด Antigen Test Kit (ATK) จะลดปัญหาการรับเชื้อจการวมกันในสถานที่ตรวจโควิดเชิงรุก และเป็นต้นเหตุของการรับเชื้อมาติดคนในครอบครัว ถ้ารีบตรวจให้ได้เยอะๆก็จะช่วยคัดกรองผู้ติดเชื้อออกจากชุมชนได้มากขึ้น