project เด็กและเยาวชน

Dare to Dream “กล้าที่จะฝัน” ครั้งที่ 6

จัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจและเเนะแนวการศึกษา ในรูปแบบค่ายเยาวชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ โรงเรียนอามานะศักดิ์ จังหวัดปัตตานี เพื่อเยาวชนระดับชั้นมัธยมต้นจำนวน 60 คน ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ เข้าร่วมกิจกรรมภายในค่ายที่จะมุ่งเน้นกิจกรรมที่สร้างทัศนคติที่ดีต่อการศึกษา และเพิ่มมุมมองที่หลากหลายทางด้านอาชีพ และหลักการดำเนินชีวิตร่วมกัน ในสังคมอย่างสงบสุขโดยจะแทรกกระบวนการคิดและทักษะต่างๆ ที่สำคัญต่อการพัฒนาตัวเองเพื่อยกระดับการศึกษาของเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

Duration วันจัดค่าย 31 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2564 Area โรงเรียนอามานะศักดิ์ อ.เมือง จ.ปัตตานี

Current donation amount

6,456 THB

Target

83,930 THB
ดำเนินการไปแล้ว 8%
จำนวนผู้บริจาค 10

สำเร็จแล้ว

Project updates

เลื่อนกิจกรรม Dare to dream ไม่มีกำหนด

20 January 2021

เนื่องจากสถาณการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิท-19 ระลอกใหม่ ทำให้โครงการ Dare to Dream ไม่สามารถจัดกิจกรรมตามที่วางแแผนไว้ได้ โครงการจึงมีความจำเป็นต้องเลื่อนกิจกรรมออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าสถานกาณณ์จะดีขึ้นและสามารถจัดกิจกรรมได้ดังเดิม


ทั้งนี้ ทางเทใจและโครงการ Dare to dream จึงขอนำเงินที่ผู้บริจาคสนับสนุนเงินให้โครงการมาแล้ว จำนวน 5,810.40 ไปมอบต่อให้โครงการทุนการศึกษาเพื่อเยาวชนไร้สัญชาติ (https://taejai.com/th/d/apiu-edu63/) เพื่อให้เกิดประโยชน์กับเด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสเช่นเดียวกัน

ทางเทใจและโครงการ Dare to Dream ขอขอบคุณผู้บริจาคและขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Read more »
See all project updates

พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่เเห่งสังคมพหุวัฒนธรรม กล่าวคืออุดมไปด้วยความหลากหลายของเชื้อชาติ ศาสนา เเละขนบธรรมเนียมประเพณี เเต่ในความหลากหลายนี้กลับพบปัญหาความไม่สงบในพื้นที่อยู่บ่อยครั้ง และจากการสะสมปัญหาเรื้อรังมาตั้งเเต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ไม่ได้รับการเเก้ไขอย่างเเท้จริงเสียที ทำให้ความเจริญไม่ได้กระจายไปยังทุกภาคส่วน ทั้งในเรื่องของการพัฒนาชุมชนและพื้นที่ การพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งในเรื่องอาชีพ ความเป็นอยู่ และที่สำคัญที่สุด คือ คุณภาพด้านการศึกษา ทำให้การศึกษาที่ดีนั้นต้องแลกมากับการมีความพร้อมด้านทุนทรัพย์เพื่อเข้ามาศึกษาในตัวเมือง เพื่อเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้เข้าถึงสวัสดิการที่มีความพร้อม ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผู้ปกครองทุกคนสามารถส่งเสริมให้ลูกๆได้ ด้วยเหตุนี้ ค่าย Dare to Dream จึงมีความมุ่งหวังอย่างมากที่จะเข้าไปลดช่องว่างของโอกาสทางการศึกษา และทำให้เด็กๆในพื้นที่ห่างไกลได้เห็นแนวทาง และได้รับแรงบันดาลใจในการศึกษาต่อ เพราะทางทีมงานเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า การศึกษาที่ดีนั้น ย่อมทำให้ทุกคนพัฒนาตนเองให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

นอกจากนี้ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงพบปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากคนในพื้นที่ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่ยาเสพติดจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นด้านรายได้หรือด้านอื่นๆ เช่น ความไม่รู้ด้านกฎหมาย การรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ปัญหาด้านการคิดวิเคราะห์เเยกเเยะสิ่งที่ดีเเละไม่ดี เเละขาดการได้รับการอบรมที่ดีจากสถาบันต่าง ๆ ในพื้นที่

Dare to Dream #5 กิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน โดยวิทยากรจากสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล

เเละปัญหาทั้งหมดที่ได้กล่าวนั้น ทำให้เยาวชนไม่ได้รับความรู้เท่าที่ควร ขาดเเรงกระตุ้นที่จะเรียนหนังสือ มองไม่เห็นถึงข้อดีในการเรียน ไม่เข้าใจถึงแก่นของการศึกษาที่สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ บางครัวเรือนเเทบจะมองว่าการเรียนหนังสือเป็นอุปสรรคต่อครอบครัว เนื่องจากใช้เวลานาน เเละใช้เงินทองจำนวนมาก เป็นการลงทุนระยะยาวกว่าจะจบการศึกษาเเละออกมาหางานทำเพื่อเลี้ยงชีพ อีกทั้งคุณภาพของโรงเรียนเเละครูผู้สอนซึ่งไม่ได้ตอบโจทย์กับสิ่งที่เยาวชนต้องในพื้นที่ต้องการ จึงมีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกจะจบชีวิตวัยเรียนของตัวเองตั้งเเต่ชั้นประถมศึกษาเเละมุ่งออกไปหางานทำ เพราะให้เหตุผลว่า “เห็นหนทางเป็นไปได้มากกว่า เเละผลลัพธ์ก็เกิดขึ้นเร็วกว่าการเรียน ต่างจากการออกไปหางานทำเพราะสามารถเเบ่งเบาภาระคนในครอบครัวอย่างเห็นได้ชัด

ทางกลุ่มนักศึกษาโครงการ Dare to dream จึงเกิดจากการรวมตัวของนิสิตนักศึกษามุสลิมทั่วประเทศ เพื่อมีส่วนร่วมในการเเก้ไขปัญหาพื้นที่สามจังหวัดชายเเดนภาคใต้ โดยร่วมกันจัดตั้งค่ายเพื่อเยาวชนชื่อว่า โครงการ“Dare to dream กล้าที่จะฝัน” เป็นค่ายเกี่ยวกับการสร้างทัศนคติที่ดีให้เเก่เยาวชนสามจังหวัดในด้านมุมมองเเละความคิดในเรื่องการศึกษาที่ดี มีทัศนคติต่อการศึกษาที่ดีขึ้น สามารถมองเห็นหนทางที่จะเดินทางต่อในด้านการศึกษา เเละเห็นคุนค่าของการศึกษาที่จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างไม่มีสิ้นสุดได้ โดยค่ายดังกล่าวเคยถูกจัดขึ้นมาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 – ปี พ.ศ.2562


จากการเก็บข้อมูลผู้เข้าร่วมโครงการที่ผ่านมา พบว่าเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการได้ร้บความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน แนวคิด ประสบการณ์ใหม่ๆด้านสาขาอาชีพที่หลากหลายมากขึ้น และมีความสนใจที่จะศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นด้วย เเละเราคาดหวังอย่างยิ่งว่าตัวเเทนเยาวชนเหล่านี้ซึ่งมาจากหลายๆโรงเรียนในพื้นที่สามจังหวัด จะเกิดการเผยเเพร่ต่อในโรงเรียน จนเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านการศึกษาที่ดีขึ้นเเก่สังคมพื้นที่สามจังหวัดชายเเดนใต้

นอกจากนี้ทางเรายังมีเเนวทางการต่อยอดโครงการ โดยการจัดสัมมนาพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นต่างๆที่เกิดขึ้นในค่ายโครงการโครงการ “ค่าย Dare to Dream ครั้งที่ 6” เเละเเน่นอนว่าผู้ที่จะทำการสัมมนาหลักในโครงการจะต้องเป็นเยาวชนซึ่งผ่านการอบรมในค่าย เพื่อต่อยอดความรู้ที่ได้รับจากการอบรมกับกลุ่มเเละจะมีการประชาสัมพันธ์ในโรงเรียนของตัวเเทนเพื่อเป็นเเขกรับเชิญมารับฟังการสัมมนาจากตัวเเทนของโรงเรียนเหล่านี้

ขั้นตอนการดำเนินโครงการ

  1. ที่ปรึกษาโครงการได้สรรหาฝ่ายกลางเพื่อเป็นตัวหลักในการเดินเรื่องต่างๆของค่าย เเละเปิดรับสมัครทีมงานเพื่อเป็นกำลังเสริมให้กับฝ่ายกลาง
  2. หลังจากรวบรวมทีมงานทั้งหมด เราจะเเบ่งหน้าที่ของทุกคนให้เป็นระบบ เช่น มีฝ่ายสื่อในการจัดประชาสัมพันธ์ต่างๆของค่าย เป็นต้น
  3. วางกำหนดการของเเต่ละฝ่าย เพื่อความพร้อมในการเตรียมงานอย่างสมบูรณ์ก่อนวันจัดค่าย ซึ่งหลักๆในการประสานงาน เราจะใช้ระบบออนไลน์เป็นหลัก เนื่องจากทีมงานมาจากหลายๆที่หลายๆมหาลัย
  4. ส่งหนังสือเพื่อเชิญเยาวชนจากโรงเรียนต่างๆ ทั้งในโรงเรียนสอนศาสนาควบคู่สามัญเเละโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล เเละจะเปิดรับสมัครเป็นระบบออนไลน์ เพื่อคัดสรรผู้ที่จะเข้าร่วมอบรมในโครงการ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมต้นจากโรงเรียนต่างๆกว่า 20 โรงเรียน 
  5. คัดเลือกผู็เข้าร่วมกิจกรรม โดยเลือกจากพื้นฐานของความหลากหลาย เเต่เน้นไปถึงเยาวชนผู้ที่ด้อยโอกาส ทั้งผู้ที่มีเเรงกระตุ้นในการเรียนเเละผู้ที่ต้องการการขับเคลื่อนเพิ่มมากกว่านี้ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างสองกลุ่ม เเละเพื่อความร่วมมือร่วมกันบางอย่างี่จะเกิดขึ้นในอนาคต
  6. กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในค่าย Dare to dream เราได้เน้นไปถึงการรู้จักตัวเอง รู้จักอนาคต ซึ่งเป็นธีมการจัดค่ายของเราในปีนี้ จุดประสงค์คือเพื่อให้ผู็เข้าร่วมรู้ถึงความถนัดหรือความชอบซึ่งเป็นความต้องการของตัวเอง ก่อให้เกิดเเรงจูงใจในการเรียน เเละอยากที่จะทำตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จ ซึ่งกิจกรรมจะมีทั้งการพัฒนาทักษะด้านต่างๆให้กับเยาวชน เช่น ทักษะที่สำคัญ คือ ทักษะการตั้งคำถาม ทักษะการเเสดงออก เเละทักษะการวิเคราะห์ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวช่วยที่สำคัญมากในการประสบความสำเร็จในยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคศตวรรษที่ 21 เป็นยุคเห็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อยู่สม่ำเสมอ นอกจากนี้หลัก ๆ เรายังเน้นกิจกรรมซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับความมั่นคงภายในของเยาวชน คือการรู้จักเส้นทางการศึกษาในเเบบของตัวเอง เเละรู้ถึงความถนัดความชอบเพื่อต่อยอดสิ่งเหล่านี้ในอนาคต บนความมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองเลือก โดยจะต้องอาศัยความกล้าที่จะตัดสินใจเป็นอย่างมาก เเต่เราเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ดีต่อตัวเยาวชนอย่างเเน่นอน เนื่องจากการทราบถึงสิ่งเหล่านี้ตั้งเเต่เนิ่น จะทำให้เยาวชนเกิดการวางเเผนถึงเเนวทางต่าง ๆ ตั้งเเต่ต้น ทั้งการทลายจุดบกพร่องของตัวเอง เเละการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในสิ่งที่ตัวเองถนัดอย่างรอบคอบ เเละมีเวลามากพอที่จะพัฒนาตัวเองต่อไปเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ได้ตัดสินใจไว้ เเละเเน่นอนว่าในปัจจุบันตัวช่วยที่สำคัญซึ่งไม่สามารถมองข้าม คือการใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้องเเละเป็นไปทางการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับตัวเยาวชนเอง ดังนั้นเราจึงให้มีกิจกรรมการอบรมให้เยาวชนรู้จักใช้เทคโนโลยีไปในทางที่ถูกต้องเเละก่อเกิดประโยชน์สูงสุดให้กับตัวเอง ไม่หลงเฉพาะกับความบันเทิงซึ่งเป็นค่านิยมการใช้เทคโนโลยีส่วนมากในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเรามีความเชื่ออย่างยิ่งว่าความุ่งมั่นที่เเรงกล้าที่อยากทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จของเยาวชน จะนำพาให้เขาอยากที่จะกล้าทลายกำเเพงหรือปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต เพื่อเป้าหมายที่เขาได้วางไว้อย่างตั้งใจอย่างเเน่นอน

ประโยชน์ของโครงการ

  1. เพื่อปลูกฝังเเนวคิดการพัฒนาและสร้างแรงบันดาลใจในการศึกษาต่อให้แก่เยาวชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้
  2. เพื่อแนะแนวการศึกษาต่อและเเนะเเนวอาชีพที่หลากหลายในสังคม 
  3. เพื่อให้เยาวชนได้เล็งเห็นชีวิตความเป็นอยู่ในมหาวิทยาลัยตามวิถีมุสลิมอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น 
  4. เพื่อสร้างสัมพันธภาพระหว่างพี่น้องสามจังหวัดชายแดนใต้

ผลกระทบที่คาดว่าจะได้รับ

นักเรียนระดับชั้นมัธยมต้น จำนวน 60 คน จากโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ มีทัศนคติที่ดีต่อการศึกษาในระบบสามัญและเพิ่มมุมมองที่หลากหลายทางด้านอาชีพและหลักการดำเนินชีวิตร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุขแก่เยาวชนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

เจ้าของโครงการ


กลุ่มนักศึกษามุสลิมโครงการ Dare to dream 

  • นางสาวนาวัล ราษฎ์นิยม (หัวหน้าโครงการ)
  • นางสาวนัจญวา เปาะมะ (ผู้ประสานงาน)

อาจารย์ที่ปรึกษากลุ่ม

  • รศ.พิเชฎฐ์ กาลามเกษตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • อ. ดร. สุภาสเมต ยุนยะสิทธิ สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล
  • อาจารย์อัครา เมธาสุข คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ภาคี

  • นิสิตนักศึกษามุสลิมจากมหาวิทยาลัยในภาคต่างๆของประเทศไทย คือ 
  • ภาคกลาง ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • ภาคเหนือ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 
  • และภาคใต้ ได้แก่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์


เลื่อนกิจกรรม Dare to dream ไม่มีกำหนด

20 January 2021

เนื่องจากสถาณการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิท-19 ระลอกใหม่ ทำให้โครงการ Dare to Dream ไม่สามารถจัดกิจกรรมตามที่วางแแผนไว้ได้ โครงการจึงมีความจำเป็นต้องเลื่อนกิจกรรมออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าสถานกาณณ์จะดีขึ้นและสามารถจัดกิจกรรมได้ดังเดิม


ทั้งนี้ ทางเทใจและโครงการ Dare to dream จึงขอนำเงินที่ผู้บริจาคสนับสนุนเงินให้โครงการมาแล้ว จำนวน 5,810.40 ไปมอบต่อให้โครงการทุนการศึกษาเพื่อเยาวชนไร้สัญชาติ (https://taejai.com/th/d/apiu-edu63/) เพื่อให้เกิดประโยชน์กับเด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสเช่นเดียวกัน

ทางเทใจและโครงการ Dare to Dream ขอขอบคุณผู้บริจาคและขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Budget plan


รายการจำนวนจำนวนเงิน (บาท)
หมวดสวัสดิการ
- ค่าอาหารมื้อหลัก
- ค่าอาหารว่าง 
40 บาท/คน*10 มื้อ*จำนวน 111 คน
10 บาท/คน*6 มื้อ*จำนวน 111 คน
51,060
หมวดสถานที่
- ค่าสถานที่จัดกิจกรรม
(ห้องประชุมขนาดใหญ่) 
- ค่าที่พัก
500 บาท/วัน*จำนวน 4 วัน
50 บาท/คน*จำนวน 3 คืน*จำนวน 111 คน
18,650
หมวดวัสดุและเอกสาร
- ค่าวัสดุอุปกรณ์
- ค่าจัดทำคู่มือสำหรับน้องค่าย
- ค่าจัดทำ คู่มือสำหรับทีมงานค่าย

30 บาท/คน*จำนวน 60 คน
20 บาท/คน*จำนวน 51 คน
6,590
ค่าดำเนินงานเทใจดอทคอม 10%
(ค่าธรรมเนียมธนาคารและ payment gateway ระบบตรวจสอบติดตามโครงการ และดูแลแพลตฟอร์ม)

7,630

รวม83,930