ต้นข้าวที่ชาวนาปักดำเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เริ่มโตขึ้น เขียวขึ้น และพร้อมที่จะออกรวงในเร็ว ๆ นี้แล้วค่ะ
เพื่อน ๆ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ ผู้ซึ่งเป็นบุคคลเบื้องหลังที่คอยให้ความรู้กับชาวนาหน้าใหม่ และเป็นพี่เลี้ยงผู้ดูแลคุณภาพการปลูกข้าวให้โครงการของเรา ส่งภาพมาให้ชมว่านาข้าวที่พวกเราเพื่อนกินได้ไปช่วยปักดำมาเมื่อเดือนกรกฎาคม เขียวขจีขนาดไหน
นาแบบอินทรีย์ช่างอุดมสมบูรณ์ไปด้วยวิถีชีวิตแบบอินทรีย์ๆ “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” บางที “ในนาเองก็มีปลา” เหมือนกัน!
พอย่างเข้าเดือนกันยายน - ตุลาคม เจ้าหน้าที่ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ของเราก็ง่วงกับการลงตรวจแปลงนา เพื่อควบคุมคุณภาพกระบวนการผลิตและตรวจสอบมาตรฐานกระบวนการปลูกข้าวอินทรีย์
“สมาชิกเกษตรกรมาสมัครเข้าร่วมโครงการเกษตรอินทรีย์เพื่อประโยชน์ในการขายผลผลิต ถ้าเกษตรกรรายไหนไม่ต้องการขายผลิต เช่น มีที่นาเพียงเล็กน้อย ปลูกข้าวไว้กินเอง หรือ ทำเกษตรกรอินทรีย์ได้เพียงบางแปลง ส่วนแปลงนาที่เหลือยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์ได้ 2 กรณีนี้ก็ไม่จำเป็นต้องขอรับรองและรับการตรวจจากโครงการฯ แต่เราเปิดกว้างสำหรับการเรียนรู้เทคนิคต่างๆ ร่วมกัน ส่วนสมาชิกที่ขอรับรองต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของโครงการฯ และรับการตรวจประเมินความเสี่ยงโดยการสัมภาษณ์ เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนคติ และการตรวจเยี่ยมแปลงนา อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อประเมินความเสี่ยงด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ความเสี่ยงทางน้ำ ทางอากาศ ทางอุปกรณ์การเกษตร และความเสี่ยงจากองค์กรภายนอก เป็นต้น
การตรวจของโครงการเริ่มจากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมฯ ที่เป็นผู้ดูแลระบบควบคุมภายในตรวจเยี่ยมฟาร์มของสมาชิกทุกคน ทุกแปลงนา ในช่วงที่เกษตรกรได้ทำการเพาะปลูกแล้วและมีความเสี่ยงที่จะกระทำการผิดมาตรฐาน หลังจากการตรวจเสร็จเจ้าหน้าที่ก็จะช่วยกันอ่านรายงานการตรวจเพื่อพิจารณารับรองและแจ้งผลการตรวจให้เกษตรกรทราบทุกราย ซึ่งผลการรับรองก็จะมีได้ในทุกกรณี คือ
1) ไม่ผ่านการรับรอง
2) รับรองโดยไม่มีเงื่อนไข
3) รับรองโดยมีเงื่อนไข เช่น ให้เสริมแนวกันชนหรือคันนาให้สูงขี้นตามมาตรฐาน
4) เลื่อนการรับรอง และ
5) รับรองแต่มีข้อเสนอแนะ
ซึ่งผลการรับรองทุกกรณีนี้ถ้าเกษตรกรไม่เห็นด้วยกับการตรวจและการรับรองของเจ้าหน้าที่ฯ ก็สามารถยืนอุธรณ์ ให้เปลี่ยนแปลงผลการรับรองได้
การประเมินมาตรฐาน ทางโครงการจะดูจากการเจตนาจากการกระทำผิด หรือการปกปิดข้อมูลเป็นหลักเบื้องต้น การตรวจประเมินทั้งหมดนี้เป็นการแก้ปัญหาหรือดูแลสมาชิกที่ปลายเหตุ แต่กระบวนการงานส่งเสริมฯ ที่ได้จัดกิจกรรมกับสมาชิกตลอดปีนั้น จะเป็นการดูแลและช่วยป้องกันปัญหาที่ต้นเหตุมากกว่า แต่เพื่อการจำหน่ายที่ต้องสร้างการยอมรับ และความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภคแล้วจึงต้องการมีการตรวจสอบในช่วงนี้ขึ้น
บรรยากาศการตรวจเป็นไปอย่างอบอุ่น ไม่ได้เป็นการจ้องจับผิด มีการเสนอแนะ และสนับสนุนเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ในทางที่ทำให้ระบบเกษตรอินทรีย์และเกษตรกรที่ปลูกข้าวอินทรีย์มีความเข้มเแข้ง ซึ่งก็เห็นรูปแบบการตรวจได้จากรูปที่นำเสนอไป” - จากคำบอกเล่าของหนึ่งในทีมจนท. ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ของเรา
อีกไม่นานข้าวจะแตกรวง รอวันเก็บเกี่ยว และน้อง ๆ ในความดูแลของสหทัยมูลนิธิก็จะได้บริโภคข้าวดี ๆ กันแล้ว
ทีมงานโครงการฯ ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุก ๆ ท่านที่ได้ให้การสนับสนุนจนโครงการเราสามารถระดมเงินทุนได้กว่า 44% หรือคิดเป็นปริมาณข้าวที่น้อง ๆ จะบริโภคได้ประมาณ 5 เดือนแล้ว เรายังรอผู้ใหญ่ใจดีอีกจำนวนมากที่จะช่วยทำให้น้อง ๆ ได้ทานข้าวดี ๆ กันตลอดปีนะคะ