องค์กรที่สร้างความเปลี่ยนแปลง

อาร์ต ฟอร์ แคนเซอร์ บาย ไอรีล ภายใต้บริษัท อาร์ต ออฟ ไลฟ์ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2560 โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำศิลปะเข้ามาดำเนินกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์โดยเรามุ่งเน้นการช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งใน 3 ด้าน ได้แก่1. การส่งเสริมกำลังใจผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ เช่น โครงการก้าวข้ามมะเร็ง,โครงการบันทึกพิชิตมะเร็ง เป็นต้น 2. ด้านทุนทรัพย์ ผ่าน 4 มูลนิธิของโรงพยาบาลรัฐ อาทิ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ,ศิริราชมูลนิธิ,มูลนิธิรามาธิบดีและรพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย (ร่วมกับคุณก้อย รัชวินทร์) 3. ด้านความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคมะเร็งร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผ่านงานเสวนาและรายการ Cancer Talk เป็นต้นในปี 2563 ที่ผ่านมาได้ดำเนินกิจกรรม “โครงการก้าวข้ามมะเร็ง” ในรูปแบบการจัดทำสื่อความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งทั้งในรูปแบบออนไลน์ผ่านสื่อวิดีโอแชร์ประสบการณ์จากผู้ป่วยมะเร็ง ในรูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ในนาม "ชุดยากำลังใจ" ให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งจำนวน 10,000 รายทั่วประเทศผ่านจุดแจกจ่าย 20 โรงพยาบาลรัฐและมีผู้ดูแลรวมถึงบุคคลทั่วไปที่สนใจมากกว่า 1,179,061 คนที่เข้าถึงข้อมูลความรู้ของโครงการโดยในครั้งนั้นได้รับความสนับสนุนจากทางภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนผลตอบรับที่ได้ในครั้งนั้นคือผู้ป่วยได้รับความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงกำลังใจที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทางอาร์ต ฟอร์ แคนเซอร์ บาย ไอรีลได้ตระหนักถึงความสำคัญในการผลักดันให้ผู้ป่วยมีกำลังใจที่ดีควบคู่กับการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม อีกทั้งยังส่งผลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

บริษัท บั๊ดดี้โฮมแคร์ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (Buddy HomeCare Social Enterprise Co., Ltd.) เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 และขึ้นทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม ได้รับการรับรองตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์มุ่งเน้นในการแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุขาดคนดูแล และเด็กเยาวชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษาไปพร้อมกัน ลักษณะการดำเนินกิจการของบั๊ดดี้โฮมแคร์ จะให้บริการดูแลผู้สูงอายุแบบคิดค่าบริการ จากนั้นนำผลกำไรมาตอบแทนสังคมร่วมกับโครงการอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของมูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุ ในการดูแลผู้สูงอายุที่ยากไร้ ด้อยโอกาสขาดคนดูแล โดยไม่คิดค่าบริการ มีการดำเนินงานในเขตพื้นที่ อ.สะเมิง อ.กัลยาณิวัฒนา อ.ฝาง อ.แม่อาย อ.จอมทอง อ.อมก๋อย อ.สันทราย อ.หางดง จ.เชียงใหม่, อ.แม่ลาน้อย อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน, อ.แม่สรวย จ.เชียงราย, และ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ให้การช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุที่ยากไร้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง

กลุ่มครูดนตรีอาสาที่ทำงานพัฒนาสังคมในพื้นที่คลองเตยมากว่า 7 ปี และเป็นผู้ผลักดันให้งานคลองเตยดีจังเกิดขึ้น

เราคือกลุ่มสหวิชาชีพของบุคลากรทางการแพทย์อาสาที่ดำเนินกิจกรรมการรักษาพยาบาลให้กับคนไร้บ้านที่ขาดโอกาสการเข้าถึงบริการสุขภาพ เรามองเห็นปัญหาเชิงระบบที่ภาครัฐยังไม่สามารถตอบสนองความจำเป็นด้านสุขภาพของคนไร้บ้าน เราจึงรวมตัวกันเพื่อเติมช่องว่างนั้น และหวังจะผลักดันให้เกิดระบบบริการสุขภาพที่จำเป็นสำหรับคนไร้บ้านในอนาคต เพราะเราเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมกัน ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 เราลงพื้นที่ในการให้บริการคลีนิกเคลื่อนที่ (Mobile Clinic) บริเวณจุดแจกอาหารสำนักงานเขตพระนคร (ตรอกสาเก) ร่วมกับมูลนิธิอิสรชน จัดทีมแพทย์อาสาให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพเบื้องต้น ทีมดนตรีบำบัดให้ความผ่อนคลายและสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคม อย่างต่อเนื่องทุกเดือนมาจนถึงปัจจุบัน และขยายผลมาสู่บริการที่พักพิงชั่วคราวทางการแพทย์ (Medical Respite Care) สำหรับคนไร้บ้านที่ต้องการการฟื้นฟู้หลังออกจากโรงพยาบาล โดยมีทีมบุคลากรทางการแพทย์อาสา และเครือข่ายหน่วยงานบริการสาธารณสุข เช่น สภากาชาดไทย และศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ ร่วมดูแลผู้รับบริการในมิติของการฟื้นฟู ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ การเข้าถึงสิทธิการรักษา สิทธิสวัสดิการทางสังคม ไปจนถึงการวางแผนอนาคตหลังการฟื้นฟู การเข้าถึงงาน และการมีที่อยู่ที่มั่นคง เพื่อเปลี่ยนผ่านชีวิตของพวกเขาสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้เรายังมีทีมนักดนตรีบำบัดที่ร่วมจัดกิจกรรมดนตรีบำบัด (Music Therapy) ให้กับเครือข่ายภาคประชาสังคมที่ดูแลคนไร้บ้าน เช่น มูลนิธิอิสรชน และ โครงการจ้างวานข้า มูลนิธิกระจกเงา เพื่อเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ส่งเสริมทักษะในการจัดการอารมณ์ การจัดการความเครียด และเป็นพื้นที่ให้ปลดปล่อย แลกเปลี่ยน ผ่อนคลาย พักใจ สำหรับพี่น้องไร้บ้านที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ให้มีเครื่องมือในการดูแลจิตใจและเสริมกำลังให้พวกเขามีแรงที่จะพาตัวเองไปสู่การมีชีวิตที่มั่นคงอีกครั้ง

มูลนิธิพฤษภาประชาธรรมก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2544 เพื่อดำเนินการจัดสร้างอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม 2535 และจัดกิจกรรมรำลึกวีรชนที่เสียชีวิตและสูญหายในเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 ในวันครบรอบเหตุการณ์ของทุกปี ตลอดจนจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ประชาธิปไตยของประชาชนในโอกาสและวาระต่างๆ โดยมีประธานมูลนิธิคนปัจจุบันคือ ปริญญา เทวานฤมิตรกุล

มูลนิธิ หนึ่งคนให้   หลายคนรับ (One for Lives Foundation) เป็นองค์การสาธารณกุศล ลำดับที่ 915  ตามประกาศกระทรวงการคลัง ก่อตั้งเมื่อปี 2538 ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการระดมทุนหารายได้ ในการให้ความช่วยเหลือผู้ยากไร้และร่วมบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัย ตลอดจนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสังคมทุกภาคส่วน พร้อมกำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจในด้านอนุเคราะห์ ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาศในสังคม โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ยากไร้ที่ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิ์ในการรักษาพยาบาล ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการจัดตั้งกองทุนเพื่อผู้ป่วยด้อยโอกาส ผ่านโครงการต่างๆ

มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการพัฒนาเด็ก เริ่มให้ความช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสโดยไม่จำกัดเพศ เชื้อชาติ ศาสนา มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 ต่อมาได้รับเกียรติจากคณะกรรมการเอกลักษณ์แห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้เป็นหน่วยงานดีเด่นสาขาพัฒนาสังคม (ด้านสังคมสงเคราะห์) ประจำปี พ.ศ. 2533 และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงรับไว้ในพระราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2537 ปัจจุบัน มูลนิธิฯ ได้ให้ความช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสและครอบครัวมากกว่า 42,000 คน ใน 34 จังหวัดทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565)

มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการพัฒนาเด็ก เริ่มให้ความช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสโดยไม่จำกัดเพศ เชื้อชาติ ศาสนา มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 ต่อมาได้รับเกียรติจากคณะกรรมการเอกลักษณ์แห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้เป็นหน่วยงานดีเด่นสาขาพัฒนาสังคม (ด้านสังคมสงเคราะห์) ประจำปี พ.ศ. 2533 และได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงรับไว้ในพระราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2537 ปัจจุบัน มูลนิธิฯ ได้ให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสมากกว่า 40,000 คน ใน 34 จังหวัดทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565)

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร เป็นองค์กรด้านสิ่งแวด้อมที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องป่าผืนใหญ่และแหล่งธรรมชาติ ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์ป่า และความหลากหลายทางชีวภาพเป็นอันดับแรก รองลงมาให้ความสำคัญกับสิ่งมีชีวิตที่เป็นชนิดพันธุ์ที่สำคัญและถูกคุกคาม ในการทำงานที่ต้องตัดสินใจให้อยู่บนพื้นฐานทางวิชาการที่รอบด้าน หรือหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ต้องมีวิธีแก้ไขผลกระทบที่สามารถปฏิบัติได้จริงและเป็นที่ยอมรับ อย่างไรก็ตามสมควรคงระบบนิเวศตามธรรมชาติที่มีอยู่ทั้งกระบวนการและให้ดำเนินการบูรณะถิ่นที่อยู่อาศัยและความหลากหลายทางชีวภาพเมื่อมีความจำเป็นและเป็นไปได้ โดยการทำงานภายใต้ภารกิจดังนี้ 1. สนับสนุนการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ห้วยขาแข้ง – ทุ่งใหญ่ฯ ให้เกิดการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล และขยายการทำงานสู่พื้นที่โดยรอบ 2. เฝ้าระวังสถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย ปกป้องผืนป่า สัตว์ป่า ร่วมขับเคลื่อนและฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ 3. สร้างการรับรู้และความร่วมมือของเครือข่ายในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ 4. มุ่งสู่การเป็นองค์กรธรรมาภิบาล โครงการของมูลนิธิสืบฯ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ เช่น 1. การสนับสนุนแนวทาง SMART Patrol ในผืนป่าตะวันตก เพื่อเป็นฐานข้อมูลของชนิดที่สำคัญและมาตรการการหยุดยั้งการล่า และได้ขยายผลไปยังพื้นที่อนุรักษ์อื่นๆ ทั่วประเทศ 2. การฟื้นฟูประชากรกวางผาโดยการปล่อยคืนจากแหล่งเพาะพันธุ์ในที่เลี้ยงที่สำเร็จในการอยู่รอดระยะแรกแล้ว 3. การรณรงค์เพื่ออนุรักษ์นกชนหิน การผลักดันให้เป็นสัตว์สงวน 4. การฟื้นฟูประชากรพญาแร้งอย่างเป็นรูปธรรม อยู่ในขั้นตอนการจับคู่ผสมพันธุ์ และการขยายพันธุ์พญาแร้งในกรงเลี้ยงก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ 5. การอนุรักษ์และฟื้นฟูประชากรเสือปลา อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลและทาความเข้าใจกับชุมชน