cover_1

เทใจให้ผู้สูงวัย ผ่านโควิดไปด้วยกัน

ผู้สูงอายุ

เงินบริจาคของคุณจะช่วยครอบครัวผู้สูงอายุ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ให้กับผู้สูงอายุในชุมชนแออัดเขตเทศบาลนครเชียงใหม่200ครอบครัว

project succeeded
โครงการสำเร็จแล้ว
23 มิ.ย. 2563

อัปเดตโครงการแจกถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ยากไร้และครอบครัว เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 200 ครอบครัว ครั้งที่ 2

ช่วงเวลาที่ทำกิจกรรม

23 มิ.ย. 2563 - 23 มิ.ย. 2563

เทใจให้ผู้สูงวัย ผ่านโควิดไปด้วยกัน มีระยะเวลา 1 เดือน คือ ช่วงระหว่าง 1 - 31 เมษายน 2563   เพื่อช่วยผู้สูงอายุและครอบครัวซึ่งตกงานและขาดรายได้จำนวนกว่า 200 ครอบครัว ที่ได้รับผลกระทบจากการการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กอปรกับมีการรณรงค์ให้ "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" แม้จะส่งผลดีต่อการยับยั้งโรคระบาด แต่ก็ทำให้ผู้สูงอายุและครอบครัวต้องประสบกับภาวะขาดรายได้ โดยเฉพาะกลุ่มรับจ้าง หาเช้ากินค่ำในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ที่คุณภาพชีวิตอยู่บนเส้นความยากจนอยู่แล้ว จึงยิ่งเหมือนซ้ำเติม ความลำบาก จึงเกิดแนวทางการให้ความช่วยเหลือด้วยการจัดทำ "ถุงยังชีพที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต 14 วัน" ของที่บรรจุในถุง ทางมูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุได้เลือกใช้สินค้าจากชุมชน เช่น กระเทียม หอมแดง ปลาทู หอม กะปิ ข้าวสาร และ หน้ากากอนามัยผ้ามัสลิน เพื่อคืนรายได้กลับสู่ชุมชนอีกทางหนึ่ง 

การแจกถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ยากไร้และครอบครัว เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 200 ครอบครัว ครั้งที่ 2 วันที่ 20 เมษายน 2563

1. การแจกถุงยังชีพ รอบ 2 จำนวน 200 ราย โดยการแจกถุงยังชีพแต่ละครั้งมีมาตรการในการแจกอย่างเคร่งคัด เพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุและครอบครัว ไม่ว่าการจัดเตรียมสถานที่ให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างกัน การตรวจวัดอุณหภูมิที่จุดคัดกรอง และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์

2. ประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักป้องกันไวรัสโควิด-19 ด้วยการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และออกกำลังกาย

3. แนะนำให้ผู้สูงอายุทานอาหารที่มีโภชนาการเหมาะสมกับวัย เลือกทานอาหารให้เป็นยา เช่น หอมแดง กระเทียมซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย และอาจเพิ่มผักและผลไม้ เนื่องจากในผักผลไม่จะมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เสริมระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อให้สามารถต่อสู้กับไวรัส  

4. แม้จะห่างกายตามนโยบาย Social Distancing แต่ไม่จำเป็นต้องห่างกัน ทีมงานจึงมีการเยี่ยมบ้าน เพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ (ต่างคนต่างใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างกัน) เพื่อให้ผู้สูงอายุได้ลดความวิตกกังวล และได้มีพื้นที่ที่สามารถระบายออกมาได้บ้าง เป็นการแลกเปลี่ยนแบ่งปัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจช่วยให้มีความหวังและเกิดกำลังใจที่จะเดินหน้าร่วมสู้ไปด้วยกัน พลังของการพูด การหัวเราะ การให้กำลังใจเป็นยาสำคัญที่ทุกคนต้องการอย่างมากที่สุดในช่วงนี้

10 เม.ย. 2563

อัปเดตโครงการช่วยเหลือครอบครัวผู้สูงอายุที่ยากไร้ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 200 ครอบครัว ครั้งที่ 1

ช่วงเวลาที่ทำกิจกรรม

10 เม.ย. 2563 - 10 เม.ย. 2563

ถึงกายห่าง (เท)ใจยังห่วง

ทีมงานบั๊ดดี้โฮมแคร์ ร่วมกับ อาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน เขตเมือง เชียงใหม่ (ช.อ.บ.) นำ "ถุงยังชีพสู้ภัยโควิด" ที่จัดอาหารแห้งเพียงพอสำหรับ 14 วัน ยาสามัญประจำบ้าน และหน้ากากผ้า ไปช่วยเหลือครอบครัวผู้สูงอายุที่ยากไร้ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 200 ครอบครัว ครั้งที่ 1 ระหว่าง 8-10 เมษายน 2563 

ความปลอดภัยในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 สำคัญที่สุด โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเสี่ยง บั๊ดดี้โฮมแคร์จึงดำเนินการตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม รวมทั้งป้องกันความเสี่ยงสัมผัสโรคดังนี้

1. ใช้การสั่งซื้อของด้วยระบบออนไลน์ และใช้บริการจัดส่งตรงไปยังชุมชน เพื่อลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น และลดการสัมผัสระหว่างการส่งของ หลีกเลี่ยงการสัมผัสมือโดยตรงกับผู้ส่งของ โดยให้วางของในบริเวณที่จัดเตรียมไว้

2. เลือกอาสาสมัครในชุมชน ที่ไม่มีประวัติเสี่ยงสัมผัสโรค และไม่ได้เดินทางออกจากชุมชนในช่วงเฝ้าระวัง มาทำหน้าที่จัดเตรียมของลงถุง สวมหน้ากากอนามัย ทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงกว่า 70% เพื่อให้ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อใน 30 วินาที จัดสถานที่เว้นระยะห่างของบุคคล กำหนดจุดเข้าคิว จุดคัดกรอง และจุดรับของ แต่ละจุดห่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร 

3. เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อให้แก่กัน ผู้สูงอายุอาจจะนำเก้าอี้ หรือโต๊ะวางไว้หน้าบ้าน เพื่อเป็นจุดรับของ หรือให้อาสาสมัครแขวนไว้หน้ารั้ว งดเว้นการเข้าใกล้ชิดกัน . หลังจากการมอบสิ่งของจำเป็นครั้งแรก ก็จะเว้นระยะไป 14 วัน แล้วจึงดำเนินการอีกครั้งเพื่อให้มีอาหารแห้งเพียงพอไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน