ไม่ว่ายุคสมัยไหน ๆ การทำเกษตรต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในการผลิตเสมอ ทั้งภัยธรรมชาติ โรคพืช แมลง รวมถึงความไม่แน่นอนของตลาดที่ทำให้เกษตรกรมักขายผลผลิตได้ในราคาต่ำ หรือถูกกดราคารับซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกแบบพึ่งพาการใช้สารเคมีจำนวนมาก ทำให้เกษตรกรไทยมีต้นทุนสูงและประสบกับภาวะขาดทุนจนกลายเป็นหนี้สิน จนหลายๆคนต้องเลิกทำเกษตรไป 

แม้ปัจจุบันการทำเกษตรอินทรีย์ เกษตรธรรมชาติ จะได้รับการส่งเสริม รวมถึงผลผลิตเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพมากขึ้น และเกษตรกรเองก็รู้ถึงผลเสียของการใช้สารเคมีในการปลูก แต่การปรับเปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์ในทันที แน่นอนว่าในช่วงแรกเกษตรกรจะต้องพบเจอกับปัญหาผลผลิตที่ปริมาณลดน้อยลง โรคพืชและแมลงที่มากจนอาจทำให้ผลผลิตเสียหายไม่สามารถรับประทานได้ ซึ่งเกษตรกรมักเป็นผู้แบกรับภาระต่างๆ เหล่านี้โดยลำพัง ทำให้เกษตรกรบางรายไม่กล้าที่จะปรับเปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์

บ้านผักกูด เป็นบ้านของผู้บริโภคผักอินทรีย์ที่มาร่วมใจกันสนับสนุนผลผลิตของเกษตรรายย่อยผ่านระบบสมาชิกหรือที่เรียกว่า ระบบเกษตรกรรมที่เกื้อกูลโดยชุมชน (Community Supported Agriculture: CSA) เพื่อให้เกษตรกรมีความมั่นใจมากขึ้นในการเปลี่ยนรูปแบบการผลิต ด้วยการที่เกษตรกรผลิตพืชผลด้วยวิถีเกษตรอินทรีย์ให้แก่ผู้บริโภคที่เป็นสมาชิก และสมาชิกจ่ายเงินไว้ล่วงหน้าเพื่อซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรงในราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งการเป็นสมาชิกรับผลผลิตล่วงหน้าจะเป็นกำลังใจสำคัญที่จะช่วยให้เกษตรกรเปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์ได้