cover_1

กองทุนข้าวสารตำบลโพนางดำออก

ผู้สูงอายุ
ผู้ป่วย ผู้พิการ

เงินบริจาคของคุณจะนำไปจัดซื้อข้าวสารเพื่อการยังชีพให้กับผู้สูงอายุ22คน

project succeeded
โครงการสำเร็จแล้ว
9 ต.ค. 2567

อัปเดตโครงการ“ถุงข้าวสารอยู่ใน 22 อ้อมกอดแล้ว”

ช่วงเวลาที่ทำกิจกรรม

12 ก.ย. 2567 - 13 ก.ย. 2567

แผนงานกองทุนข้าวสารโพนางดำออก ได้ดำเนินการตามที่ระบุไว้ ดังนี้

  • จัดซื้อข้าวสาร 22 ถุงๆ ละ 5 กิโลกรัม (เดือน 1/12)
  • ส่งมอบข้าวสาร 22 ถุง ให้กลุ่มเป้าหมายจำนวน  22 ราย ได้รับครบถ้วน

 เดือนแรกที่ครัวเรือนเป้าหมายได้ข้าวสารจากผู้ใจดีที่เลือกบริจาคเงินเข้ากองทุนเล็กๆ ของชุมชนโพนางดำออก จังหวัดชัยนาท   การจัดซื้อข้าวสารดำเนินการไปตามระบบ ทีมคณะกรรมการประสานร้านจำหน่ายที่พร้อมจัดส่งโดยไม่มีค่าใช้จ่ายไปยังจุดหลัก  และคณะกรรมการตัวแทนแต่ละหมู่บ้าน มารับข้าวสารเพื่อนำส่งให้กับกลุ่มเป้าหมายแต่ละหลังคาเรือนทั้งผู้พิการ ผู้สูงอายุ จนได้รับครบถ้วนทุกคน และไม่ลืมที่จะจัดส่งภาพผ่านกลุ่มไลน์กองทุนข้าวสารเพื่อแจ้งความสำเร็จการส่งมอบประจำเดือนนี้ให้ทุกคนได้ชื่นใจ  

พี่ๆ คณะกรรมการทุกคนไม่ได้รับค่าตอบแทน หรือค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ก็ล้วนเต็มใจที่จะรับหน้าที่นี้ต่อเนื่องยาวนานมากว่า 2 ปีแล้ว และจะยังเป็นเช่นนั้นต่อไปเรื่อยๆ หากกองทุนมีเม็ดเงินสนับสนุนจากผู้ใจดี เพราะต่างรู้และเข้าใจดีว่าสำหรับผู้ที่ไม่มีแล้วการซื้อข้าวสารเพียงถุงเดียวก็เป็นเรื่องยาก และไม่มีใครดูแลใครได้ดีเท่ากับผู้คนในชุมชนลุกขึ้นมาอาสาดูแลกันเอง

ลุงไพร หนึ่งใน 22 คน ผู้ได้รับข้าวสารจากกองทุนข้าวสารโพนางดำออก มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเดือนนี้ด้วยเช่นกัน  มือที่ประคองถุงข้าวสารแน่น กับรอยยิ้มเล็กๆ ที่แสดงถึงความขอบคุณ  

ชายร่างผอม ผมเพ้ารุงรัง พิการแขนลีบ และเดินไม่ได้  อาศัยลำพังในบ้านไม้หลังคาสังกะสี ข้างฝาเป็นรู ด้านหนึ่งเปิดโล่ง มีเพียงไม้ไผ่สานผุๆกั้นอยู่ไม่ถึงครึ่ง อีกฝั่งกั้นด้วยแผ่นยิปซั่มเก่าๆ ที่ทรุดโทรม หลังคารั่วหลายแห่ง มีเพียงจุดที่นอนที่ไม่รั่วเท่านั้น   

เรื่องราวที่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเกิดขึ้นหลังจากผ่าตัดเส้นเลือดในสมองตีบ กะโหลกศรีษะของลุงก็ยุบไปครึ่งหนึ่ง การคิดช้าลงพูดก็ไม่ชัดเจน  จากนั้นไม่นานก็ลื่นล้มหัวฟาดพื้นจนลุกไม่ขึ้น  แขนและขาก็ค่อยๆ ลีบลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นผู้พิการในที่สุด

พี่สาวของลุงไพร อาศัยบ้างใกล้ๆ คอยเทียวนำอาหารมาให้  แกเองก็อายุมากแล้ว แต่ก่อนรับจ้างดายหญ้า แต่ทำไม่ค่อยไหวป่วยรุมเร้า แถมมีอาการหูตึง  

แม้จะลำบากทั้งสองพี่น้องก็พยายามที่จะดูแลกันให้ผ่านพ้นแต่ละวัน  ลุงไพรพยายามอาบน้ำเองตรงชานบ้าน ซักผ้าเอง ใช้มือด้านหนึ่งที่พอใช้ได้ขยำเอาพอได้  เพื่อลดภาระของพี่สาวให้เหนื่อยน้อยลง 

การได้รับข้าวสารทุกเดือนจากกองทุนข้าวสารโพนางดำออกทุกเดือน ลุงบอกว่า “ช่วยได้มากเลย พอมีข้าวสารเราก็หุงกินได้  บางมื้อก็ทอดไข่กินเอง”  พี่สาวจะได้ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะไม่มีอะไรกิน  เขาเองก็อยากทำเองได้บ้าง ลุงไพรมีเบี้ยสำหรับผู้พิการเดือนละ 800 บาท ถึงจะไม่ได้ใช้จ่ายอะไรมาก แต่ลุงก็อยากแบ่งเงินนี้ให้กับพี่สาวบ้าง

นี่เป็นเพียงหนึ่งเรื่องราวของกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับข้าวสารจากกองทุนฯ ซึ่งความตั้งใจที่จะดูแลเช่นนี้ไปจนลมหายใจสุดท้าย ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมบริจาคให้กับกองทุนข้าวสารโพนางดำออก