เงินบริจาคของคุณจะนำไปแปลและจัดพิมพ์หนังสือ “นิทานข้าว”ให้กับห้องสมุดในโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ300โรงเรียน
ตำนานพื้นบ้านของเมล็ดข้าวน้อย ๆ ที่เป็นอาหารหลักของโลกกว่า 5,000 ปี จากหนังสือ Rice – Cherished Stories of the World’s Favorite Grain เขียนโดย คุณอลิซ ฟลินน์ สติลเวลล์ รวบรวมเรื่องเล่าของแต่ละประเทศที่ปลูกข้าวจากการเดินทางและค้นคว้าร่วม 25 ปี นิทานพื้นบ้านเกี่ยวกับข้าวทั้ง 31 เรื่อง จาก 16 ประเทศ เป็นสิ่งที่ควรอนุรักษ์และเผยแพร่เพื่อให้เยาวชนรุ่นต่อไปเรียนรู้ความความเป็นมาของวัฒนธรรมของข้าวแต่ละประเทศ และพัฒนาทักษะการอ่านไปพร้อมๆกัน ร่วมส่งนิทานไปให้น้องๆในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ 300 โรงเรียนไปด้วยกัน
หนังสือแปล “นิทานข้าว” เล่มนี้ รวบรวมนิทานพื้นบ้าน จากการบอกเล่าของเกษตรกรในแต่ละประเทศ ที่ผู้เขียนคุณอลิซ ฟลินน์ สติลเวลล์ เดินทางติดตามสามีที่ล่วงลับไปแล้ว คุณจอห์น ฟลินน์ ซึ่งทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์อยู่ที่สถาบันค้นคว้าวิจัยข้าวนานาชาติ (International Rice Research Institute – IRRI) ที่ลอสบาโญสในประเทศฟิลิปปินส์
ช่วงที่ได้เดินทางร่วมกับคุณจอห์นสามีของเธอ ไปยังประเทศต่างๆที่มีการปลูกข้าว คุณอลิซได้รับรู้เรื่องราว ตำนาน วัฒนธรรมท้องถิ่น ขนบประเพณี จารีต และพิธีกรรมความเชื่อต่างๆเกี่ยวกับข้าว ซึ่งพิธีกรรมบางอย่างได้สาบสูญไปแล้ว
คุณอลิซจึงเกิดความสนใจ และเริ่มค้นคว้าเรื่องราวตำนานที่เกี่ยวข้องกับข้าวโดยเฉพาะ การทำหนังสือเกี่ยวกับนิทานตำนานที่ควรอนุรักษ์เล่มนี้ เป็นการค้นคว้าส่วนตัวซึ่งใช้เวลาร่วม 25 ปี เรื่องราวแผ่กว้างกระจายข้ามทวีป ทั้งเอเชีย แอฟริกา อเมริกา และออสเตรเลีย มีนิทานทั้งหมด 31 เรื่อง จาก 16 ประเทศ
ช่วง 25 ปีที่คุณอลิซค้นหาและสะสมนิทานเหล่านี้ สื่อข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ทแทบจะไม่มี หรือมีน้อยมาก ดังนั้นแหล่งข้อมูลของนิทานเหล่านี้มากจากการบอกเล่าของคนในพื้นที่และห้องสมุดเท่านั้น และในที่สุดคุณอลิซได้นำนิทานที่สะสมและค้นคว้าทั้งหมดรวมเล่มเป็นหนังสือ ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2558
ผู้อ่านจะได้รับความรู้ทั้งความเชื่อและวัฒนธรรมในวงจรของข้าวตั้งแต่กำเนิดข้าว ฤดูกาล-วงจรการปลูกข้าว ความเชื่อเรื่องจิตวิญญาณของข้าว และวัฒนธรรมประเพณีของการเป็นอยู่ของประเทศต่างๆที่ปลูกข้าวและมีข้าวเป็นอาหารหลักในการบริโภค
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีข้าวเป็นพื้นฐานด้านเกษตรกรรม มีสายพันธุ์ที่ข้าวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ถึงแม้ว่าข้าวจะไม่ใช่รายได้หลักของประเทศอีกต่อไป ประเทศไทยยังมีพื้นที่ปลูกข้าวเกือบ 50% ของพื้นที่ประเทศ หน้งสือเล่มนี้จะเป็น soft power เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมเกี่ยวกับข้าวและการปลูกข้าว และประเพณีความเชื่อ พิธีกรรม ไปยังรุ่นต่อๆไป
ผู้อ่านจะได้ความรู้และเพลิดเพลินไปกับนิทานจากประเทศที่มีพื้นฐานเดียวกันคือการปลูกข้าว และบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก ซึ่งต่างมีวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่นเช่นกัน รวมทั้งนิทานจากประเทศไทย ที่มีทั้งความคล้ายคลึงและความมีเอกลักษณ์ตามสภาพแวดล้อมวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น
นอกจากนี้เยาวชนและคนที่โตมาในยุคสื่อเทคโนโลยี มีแนวโน้มสมาธิสั้น และการอ่านข้อมูลผ่านๆ ขาดการพัฒนาทักษะการอ่านดังนั้น การพัฒนาการอ่านหนังสือ ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเยาวชนและคนทั่วไป เช่นกัน ในขณะที่การอ่านหนังสือ พัฒนาทักษะหลายอย่าง ที่มากกว่าสือทางเทคโนโลยี เช่น สมาธิ ได้สำนวนภาษา กระตุ้นกระบวนการคิด พัฒนาความจำ พัฒนาการเขียน และให้ความบันเทิงได้เช่นเดียวกับสื่ออื่นๆ
การแปลและจัดพิมพ์หนังสือ “นิทานข้าว” ส่งต่อให้ให้ห้องสมุดในโรงเรียนต่างๆทั่วประเทศ จะส่งผลให้เยาวชนและผู้บุคคลทั่วไปดังนี้
สุวทนา เจริญสุข
ระดมทุนแปลและจัดพิมพ์นิทานข้าวมอบให้กับห้องสมุดโรงเรียนต่างๆ เพื่อให้เด็กๆ เรียนรู้และมีความเข้าใจในที่มาของวัฒธรรมแต่ละประเทศ และภูมิใจในเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทยที่เกี่ยวกับข้าว
จัดพิมพ์และนำหนังสือบริจาค ไปยังกลุ่มเป้าหมาย
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
ค่าจัดพิมพ์หนังสือ - ขนาด 21x21 ซม. ปกแข็ง พิมพ์4สี กระดาษอาร์ตด้าน - ความหนาโดยประมาณ 200-216 หน้า | 300เล่ม | 105,000.00 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 105,000.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 10,500.00 |
ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้