เงินบริจาคของคุณจะนำไปลงพื้นที่เก็บกู้เครื่องมือประมงผิดกฎหมายให้กับแม่น้ำบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม1แห่ง
การช่วยชีวิตปลาในฤดูมีไข่ ช่วย 1 ชีวิต = รอดเป็นร้อยเป็นพันชีวิต เพราะการช่วยพ่อแม่พันธุ์ปลาที่มีไข่เต็มท้อง ในฤดูพร้อมวางไข่ เปรียบเสมือนการต่อชีวิตปลาที่กำลังจะถือกำเนิดตามฤดูกาลของธรรมชาติ อาสาสมัครกลุ่มใบไม้พร้อมที่จะเดินทางไปเพื่อนำ ทักษะ แรงกาย หัวใจ เพื่อเก็บกู้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย อุปกรณ์ทำการประมงเก่า ขยะต่าง ๆ เพื่อเคลียร์และเปิดพื้นที่ปลอดภัย ร่วมสนับสนุนภารกิจครั้งนี้ไปกับเรา
"ถ้าเราปล่อยปลาแล้วเขาไปตาย เราจะยังได้บุญอยู่ไหม แล้วถ้าปลาที่เราปล่อยแท้จริงคือปลาผู้ล่าที่กำลังไปไล่ล่ากินปลาตัวอื่นในแหล่งน้ำ เราจะยังได้บุญอยู่ไหม แล้วถ้ามีงานอยู่งานหนึ่ง ที่เราไปช่วยชีวิต ปลดปล่อย แม่ปลาที่มีไข่เต็มท้อง ให้รอดจากความตาย ช่วย 1 ชีวิต รอดอีกเป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนชีวิต เรามาร่วมบุญครั้งนี้กันดีไหม"
เราศึกษาติดตามเรื่องการทำบุญปล่อยปลา ที่เห็นว่าผู้ที่อยากทำบุญมีความปรารถนาดีต่อชีวิตสัตว์ด้วยใจบริสุทธิ์ ในขณะที่ชนิดของปลาและสัตว์น้ำที่ปล่อย รวมทั้งวิธีการและสถานที่ในการปล่อยปลาส่วนใหญ่นั้น อาจไม่ได้ทำความตั้งใจในการทำบุญเป็นดั่งหวัง อาจจะยกมาเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้
* จริง ๆ แล้วยังมีผลกระทบอีกไม่น้อย จากการปล่อยปลาหรือสัตว์น้ำ ในแบบที่ยังมีข้อมูลไม่พอ ว่าปล่อยอย่างไรเขาถึงจะรอด "เพื่อให้เราได้บุญที่แท้จริง"
วิธีการแก้ปัญหานี้เพื่อให้การทำบุญ ได้บุญ ได้ช่วยเหลือ อย่างแท้จริง
โครงการในปีนี้ เราตั้งใจทำงานเพื่อ "ช่วยชีวิตแม่ปลาในธรรมชาติที่มีไข่เต็มท้อง" ที่มนุษย์ควรจะเว้นวรรคช่วงเวลาฤดูวางไข่ ให้พ่อแม่พันธุ์ปลาได้ออกลูกหลานตามธรรมชาติ โดยการค้นหาและเก็บกู้ตาข่าย เบ็ดราว อวน เครื่องมือประมงผิดกฎหมายออกจากผืนน้ำในพื้นที่ต้นน้ำซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์ฯ และ "ใช้กรรไกรตัดตาข่าย เชือก ช่วยเหลือปลา ปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำ" การช่วยปลา 1 ตัว จึงไม่ใช่แค่ 1 ชีวิต แต่คือการช่วยชีวิตลูกปลาในท้องแม่ ที่กำลังจะลืมตาดูโลก อีกเป็นร้อย เป็นพัน หรือเป็นหมื่นตัว ยิ่งเราทำงานช่วยพ่อแม่พันธุ์ปลาได้มากแค่ไหน จึงเสมือนการช่วยเหลือชีวิตน้อย ๆ ทวีคูณ เป็นล้าน ๆ ชีวิต ตลอดฤดูกาลที่เขาควรจะเกิดมาสร้างความสมดุลให้ระบบนิเวศแหล่งนี้
ปัญหาการลักลอบทำการประมงในฤดูปลาวางไข่ เป็นปัญหาใหญ่ของพื้นที่แหล่งน้ำตามธรรมชาติ นอกจากจะปิดโอกาสให้พ่อแม่พันธุ์ปลาได้สืบเผ่าพันธุ์ตามธรรมชาติแล้ว เครื่องมือทำการประมงที่ผิดกฎหมาย เครื่องมือเก่า ขยะจากกิจกรรมในน้ำ ยังเป็นอุปสรรค์ต่อการเดินทางว่ายทวนกระแสน้ำเพื่อขึ้นสู่พื้นที่วางไข่ในบริเวณทุ่งน้ำท่วมของฝูงปลา และสัตว์น้ำจืดอื่น ๆ
ดังนั้นหากสูญเสียประชากรปลาแล้ว จะส่งผลโดยตรงต่อความมั่นคงทางอาหารของชาวบ้าน ผู้คนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ และพวกเราทุกคน หากประชากรปลาลดลงจะส่งผลโดยตรงต่อระบบนิเวศที่จะสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพไปด้วย
ใน 1 ปี จะมีเพียงครั้งเดียวที่สัตว์น้ำจะขึ้นวางไข่ ถ้าเรารักษาได้ก็เหมือนรักษาปลาได้ทั้งปี แต่ถ้ารักษาไว้ไม่ได้ เพียงไม่กี่ฤดูกาลปลาและสัตว์น้ำที่อุดมสมบูรณ์ก็จะหมดไปจากผืนน้ำ แม้จะกว้างใหญ่ไพศาลเพียงใด
โครงการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ชาวบ้าน และอาสาสมัครกลุ่มใบไม้ วางแผนล่องท้องน้ำประมาณ 2 แสนกว่าไร่ โดยออกเดินทางจำนวน 5 ครั้ง ๆละ 4-5 วันตลอดฤดูฝน โดยใช้เรือในการเดินทางขึ้นสู่ต้นน้ำ ที่เป็นพื้นที่ทุ่งน้ำท่วมที่ปลาจะใช้วางไข่ ผสมพันธุ์ และปฏิบัติภารกิจเก็บกู้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย อุปกรณ์ทำการประมงเก่า ขยะต่าง ๆ เพื่อเคลียร์และเปิดพื้นที่ปลอดภัยให้พ่อแม่พันธุ์ปลารวมทั้งสัตว์น้ำอื่น ๆ
แต่ละครั้งเราจะมีผู้ปฏิบัติภารกิจราว 20 คน จึงทำให้ต้องระดมทุนเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของเรือ เสบียงอาสาสมัคร และอุปกรณ์เก็บกู้เครื่องมือประมง โดยใช้งบประมาณ 27,000 บาท
1. ระบบจัดการอาสาสมัคร : ประชุมร่วมกับเครือข่าย ทั้งหน่วยงานรัฐ ภาคประชาสังคม ชุมชน และทีมอาสาสมัครผู้ร่วมปฏิบัติงาน เพื่อเปิดรับอาสาทั่วไปให้เข้าร่วมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ (กลุ่มใบไม้มีสถานะเป็นเครือข่ายอาสาสมัครผู้ร่วมปฏิบัติงานกับหน่วยงานฯ)
2. ขั้นปฏิบัติงาน ลงพื้นที่ทำงาน ประเมินสถานการณ์ตามฤดูกาล : ลงพื้นที่ทำงานในฤดูฝน (เดือน มิถุนายน - เดือนกันยายน) ประมาณ 4 ครั้ง
ตามสถานการณ์ของฝน และการไหลของน้ำป่าจากพื้นที่ป่าต้นน้ำ โดยเฉพาะช่วงฝนตกหนัก เป็นช่วงที่ปลาสำคัญ เช่น ปลาค้าวดำ ปลาค้าวขาว ปลากด ฯลฯ ขนาดใหญ่หลายสิบกิโลต่อตัว เลือกผสมพันธุ์ในช่วงนั้น ทางทีมอาสาสมัครจะเข้าพื้นที่ทำงานเข้มข้นขึ้น และสนับสนุนทรัพยากร น้ำมันเชื้อเพลิง อุปกรณ์การทำงาน ให้กับเครือข่ายงานปกป้องปลาในฤดูมีไข่ ด้วย 3 ภารกิจย่อยในการช่วยชีวิตพ่อแม่พันธุ์ปลา ได้แก่
3. ขั้นประชาสัมพันธ์ สร้างความร่วมมือกับชุมชน และประชาชนในพื้นที่ : นอกจากงานลงพื้นที่เก็บกู้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย เพื่อเปิดพื้นที่ปลอดภัยให้ปลา จะมีการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ และความร่วมมือจากชาวบ้าน ประชาชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากกิจกรรมทางน้ำหรือคนที่ใช้ประโยชน์จากสายน้ำ เพื่อสร้างความยั่งยืนในการทำงานระยะยาวต่อไป
นายโชคนิธิ คงชุ่ม และอาสาสมัครงานปกป้องปลาในฤดูมีไข่
โดยการขับเคลื่อนการทำงานของกลุ่มใบไม้
Facebook: https://www.facebook.com/baimaigroup
Website: https://baimai.org
ระดมทุนเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของเรือ เสบียงอาสาสมัคร และอุปกรณ์เก็บกู้เครื่องมือประมงผิดกฎหมายออกจากพื้นที่ต้นน้ำซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์ฯ ในช่วงฤดูวางไข่ เพื่อเปิดพื้นที่ปลอดภัยให้พ่อแม่พันธุ์ปลาได้ออกลูกหลานตามธรรมชาติ สร้างความสมดุลให้ระบบนิเวศ
เปิดรับอาสาทั่วไปให้เข้าร่วมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ลงพื้นที่ทำงานในฤดูฝน (เดือน มิถุนายน - เดือนกันยายน) ประมาณ 4 ครั้ง
ผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ และความร่วมมือจากชาวบ้าน ประชาชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากกิจกรรมทางน้ำหรือคนที่ใช้ประโยชน์จากสายน้ำ
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
สนับสนุนการทำงานภาคสนามของอาสาสมัคร - จำนวนอาสา 10-15 คน ลงพื้นที่ 6 ครั้ง ครั้งละ 4 วัน - 1 วัน 8,000 บาท แบ่งเป็น ค่าเสบียงอาหาร น้ำดื่ม 2,000 บาท/วัน ค่าน้ำมัน ออกเรือทำงาน 5,000 บาท/วัน ค่าอุปกรณ์ในการทำงาน 1,000 บาท/วัน | 24วัน | 192,000.00 |
ค่าผลิตสื่อ ป้าย ติดตั้งในพื้นที่ - สร้างความเข้าใจระยะยาวกับชาวบ้าน / สื่อออนไลน์เพื่อสร้างความเข้าใจ สร้างแนวร่วมในการทำงานอนุรักษ์ - เดือนละ 5,000 บาท | 3เดือน | 15,000.00 |
สนับสนุนเสบียง อาหาร ยาสามัญ และอุปกรณ์การทำงาน ของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ เดือนละ 3,000 บาท | 3เดือน | 9,000.00 |
สนับสนุนชุดการทำงานของเจ้าหน้าที่ภาคสนาม - เสื้อแขนยาวภาคสนาม 300 บาท - หมวกกันแดด 200 บาท - ถุงมือ 30 บาท - ไฟฉาย 150 บาท | 15คน | 10,200.00 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 226,200.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 22,620.00 |
ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้