เงินบริจาคของคุณจะจัดอบรมทักษะการสื่อสารเชิงบวกให้กับพ่อบ้านแม่บ้านและเจ้าหน้าที่ในสถานพินิจ120คน
“พ่อบ้าน-แม่บ้าน” คือ ส่วนสำคัญที่ดูแลเด็กๆ ในสถานพินิจจนถึงวันที่พวกเขาถูกปล่อยตัว แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเขายังขาดประสบการณ์และขาดทักษะในการสื่อสารเชิงบวกเพื่อรับมือและดูแลเด็กๆ เหล่านี้ ที่ในวันหนึ่งพวกเขาจะได้ออกไปใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคมอีกครั้ง เพราะด้วยงบประมาณที่จำกัดของรัฐ และงบส่วนใหญ่มุ่งไปที่การพัฒนาเด็กและเป็นการเรียนรู้จากคู่มือเพียงเท่านั้น
เราจึงอยากให้คุณเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพ่อบ้าน-แม่บ้านที่ยังขาดประสบการณ์ในการทำงานให้มีพื้นที่ในการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับพ่อบ้าน-แม่บ้านด้วยกัน ในการจัดอบรมให้กับพ่อบ้าน 120 คน ซึ่งพวกเขาจะได้เรียนรู้ทักษะการสื่อสารเชิงบวก ผ่านรูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่ม เพื่อให้พวกเขามีพื้นที่แบ่งปันประสบการณ์ และได้ฝึกปฏิบัติจริง โดยพ่อบ้าน-แม่บ้าน 1 คน จะต้องดูแลเด็กถึง 50 คน ดังนั้นทุกการบริจาคเงิน 3,750 บาทของคุณ จะสามารถช่วยพ่อบ้าน-แม่บ้าน 1 คน ให้ได้เรียนรู้และปรับวิธีการสื่อสารในการดูแลเด็กๆ ได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
“พ่อบ้าน-แม่บ้าน” เป็นส่วนสำคัญที่ดูแลเด็ก ๆ ในสถานพินิจจนถึงวันที่พวกเขาถูกปล่อยตัว
ในขณะที่พ่อบ้าน-แม่บ้านจำนวนมากยังขาดประสบการณ์และขาดทักษะในการสื่อสารเชิงบวก เช่น การใช้คำพูดและการกระทำที่รุนแรงกับเด็กเหล่านี้
คำถาม คือ แล้วจะเกิดอะไรขึ้น?! ถ้าวันหนึ่งเด็กที่ถูกแวดล้อมด้วยความรุนแรงจะได้ออกไปใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคมอีกครั้ง
ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับพ่อบ้าน-แม่บ้าน แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัดของรัฐ และงบส่วนใหญ่มุ่งไปที่การพัฒนาเด็กและเป็นการเรียนรู้จากคู่มือ
เราจึงอยากเชิญชวนให้คุณ ร่วมระดมทุนกับโครงการพ่อบ้านแม่บ้านพลังบวก ในการจัดอบรมให้กับพ่อบ้าน 120 คน ทั่วประเทศได้เรียนรู้ทักษะการสื่อสารเชิงบวก ผ่านรูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่ม เพื่อให้เขามีพื้นที่แบ่งปันประสบการณ์ และฝึกปฏิบัติจริง เพราะกระบวนการการเรียนรู้นี้จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้พ่อบ้านแม่บ้าน ทำงานง่ายขึ้น หากพ่อบ้านแม่บ้านมีทักษะความรู้ที่พร้อม
สิ่งนี้จะช่วยพัฒนาศักยภาพด้านการสื่อสารของพ่อบ้านในการดูแลเด็กมากกว่า 6,000 คน ได้ดีขึ้น เพราะถ้าพวกเขาอยู่ใกล้ชิดกับเด็กด้วยความรัก ความเข้าใจ และการให้โอกาส เด็กๆ ก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคมได้อย่างปกติอีกครั้ง
ทั้งนี้ เพื่อให้โครงการเข้าถึงพ่อบ้านทั่วประเทศจึงเป็นกระบวนการเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และฝึกปฏิบัติ ในรูปแบบ online group sharing โดยมีกระบวนการที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านการสื่อสารเชิงบวก ช่วยนำกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านโปรแกรมซูม (Zoom) และโปรแกรมไลน์ (Line) ที่ง่ายและสะดวก เพื่อให้เกิดการนำไปใช้ได้จริงและมีการติดตามผลเพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ด้วยการให้พ่อบ้านแม่บ้านที่ผ่านการอบรมแล้ว ได้กลับมาเป็นอาสาช่วยแลกเปลี่ยนประสบการณ์และคำแนะนำ กับคนอื่นๆต่อไป
โดยโครงการนี้จะเป็นการนำร่อง เพื่อสร้างสถานพินิจต้นแบบ และพ่อบ้านแม่บ้านพลังบวก ที่จะไปช่วยส่งต่อและขยายผลสู่พ่อบ้านแม่บ้านที่ดูแลเด็กและเยาวชนในสถานพินิจทั่วประเทศ
ระดมทุนกับโครงการพ่อบ้านแม่บ้านพลังบวก จัดอบรมให้กับพ่อบ้าน 120 คน ทั่วประเทศได้เรียนรู้ทักษะการสื่อสารเชิงบวก ผ่านรูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่ม เพื่อให้เขามีพื้นที่แบ่งปันประสบการณ์ และฝึกปฏิบัติจริง เพราะกระบวนการการเรียนรู้นี้จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้พ่อบ้านแม่บ้าน ทำงานง่ายขึ้น หากพ่อบ้านแม่บ้านมีทักษะความรู้ที่พร้อม
พูดคุย ประสานงานกับทางกรมพินิจ และสถานพินิจที่สนใจเข้าร่วม ในการประชาสัมพันธ์ รับสมัครพ่อบ้านแม่บ้านและเจ้าหน้าที่ในสถานฯ
เตรียมความพร้อมทีมผู้สอน และกำหนดวันในการเรียนรู้ร่วมกัน
เปิดกลุ่มเรียนรู้ทั้ง 2 รอบ ผ่านระบบ zoom รอบละ 60 คน แบ่งกลุ่มย่อยละ 5-6 คน รองรับผู้เรียนทั้งสิ้น จำนวน 120 คน
ติดตามผลผู้เรียน และถอดบทเรียนร่วมกัน
พัฒนาผู้เรียนที่มีศักยภาพให้เป็น พ่อบ้านแม่บ้านอาสา
สรุปผลประเมินโครงการ และแนวทางการขยายผลสู่พ่อบ้านแม่บ้านที่ดูแลเด็กและเยาวชนในสถานพินิจทั่วประเทศ
นำเสนอผลการดำเนินโครงการ ผ่านคลิปวิดีโอผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลงของพ่อบ้านแม่บ้านที่เข้าร่วมโครงการ
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
จัดการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการรูปแบบออนไลน์ตลอดหลักสูตร 7 ครั้ง สำหรับเสริมสร้างความรู้ และพัฒนาศักยภาพด้านการสื่อสารเชิงบวกและการสร้างวินัยเชิงบวก ให้กับพ่อบ้านแม่บ้าน เพื่อใช้ในการดูแลเด็กในสถานพินิจ ค่าใช้จ่ายคนละ 3,750 บาท | 120คน | 450,000.00 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 450,000.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 45,000.00 |
ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้