เงินบริจาคของคุณจะจัดหาอุปกรณ์ป้องกันให้ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครให้กับโรงพยาบาลสนาม12แห่ง
รวมถึง Home Isolation และ Community Isolation ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ที่ต้องดูแลผู้ติดเชื้อโควิด 1,432 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันโรคจำนวนมากอย่างเร่งด่วนในทุกวัน เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครจากความเสี่ยง
แม่สอดอำเภอเล็กๆ ติดชายแดนไทย-พม่า ที่ผู้คนอาศัยอย่างหลากหลายเชื้อชาติ จำนวนกว่า 200,000 คน ที่มีทั้งคนไทยและแรงงานข้ามชาติ เมืองหน้าด่านแห่งนี้ ต้องเผชิญปัญหาท้าทายทั้งก่อนการระบาดโควิด เป็นเมืองสำคัญในฐานะเมืองหน้าด่านที่ป้องกันปัญหาต่างๆ ก่อนจะทะลักสู่ตัวเมืองชั้นใน โดยเฉพาะโรคระบาดที่ประเทศไทยไม่มีแล้วเพราะได้รับวัคซีนทั่วถึงกว่าเมื่อเทียบกับประเทศพม่า โรงพยาบาลแม่สอดและหน่วยงานสาธารณสุขชายแดนจึงมีบทบาทสำคัญในการเป็นเมืองกำแพงป้องกันโรคให้ประเทศไทย ที่ผ่านมามีทั้งบริการงานสาธารณสุข รักษาโรค และงานสร้างความตระหนักรู้ให้ผู้คนในชุมชน จากสถานการณ์โควิดที่กำลังระบาดหนักในแม่สอดขณะนี้ ที่ไม่ใช่เพียงโรงงานหรือสถานที่ปิดเท่านั้น ที่สามารถทำ Factory Isolation แต่ยังกระจายไปยังชุมชนต่างๆ ทั้งในตัวเมืองและหมู่บ้านรอบนอก โดยได้เริ่มทำ Community Isolation และ Home Isolation เพื่อลดความเสี่ยงในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย โดยจะย้ายก็ต่อเมื่อผู้ป่วยกลายเป็นผู้ป่วยหนักที่ต้องอาศัยทีมแพทย์ดูแล จะถูกส่งไปยังโรงพยาบาลแม่สอด รพ.แม่สอด รับทั้งบทสถานพยาบาลที่ต้องดูแลผู้ป่วยโควิด คู่กับผู้ป่วยทั่วไป ปัจจุบันแม่สอดมีสถานที่รักษาผู้ป่วยโควิด โรงพยาบาลทุกแห่งรับแบ่งเบาภาระผู้ป่วยโควิดที่ล้นเตียง โรงพยาบาลเอกชนทั้ง แม่สอด-ราม และโรงพยาบาลแม่สอดอินเตอร์ก็รับเคสโควิดจนเต็มศักยภาพ มีการจัดตั้ง รพ.สนามถึง 12 แห่ง แม้บางแห่งจะมีตัวเลขเป็น 0 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีผู้ป่วยอีก ทั้งยังได้ทำการตรวจเชิงรุก การสืบสวนโรคที่ จนท.ต้องเผชิญความเสี่ยง เครื่องมือป้องกันโรคไม่เพียงพอ เพราะต้องใช้ทุกวัน รพ.ทุกแห่งรวม รพ.สนามต้องใช้ชุด PPE ประมาณวันละ 200 ชุด หน้ากาก N95 ให้บุคลากรด่านหน้าและอาสาสมัคร วันละเกือบ 500 ชิ้น เป็นภาระหนักของโรงพยาบาลที่ต้องหามาเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่จากความเสี่ยง หมอที่ต้องรับทุกหน้าที่ทั้งการรักษาผู้ป่วย การประสานงาน การจัดระบบต่างๆ และยังต้องระดมอุปกรณ์ป้องกันที่มีราคาแพงและต้องใช้เป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระแพทย์และบุคลากรจึงต้องมีการระดมความช่วยเหลือเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันที่จำเป็นยังและยังขาดแคลนอย่างเร่งด่วน
ทุกวันต้องใช้ชุด PPE ประมาณวันละ 200 ชุด หน้ากาก N95 ให้บุคลากรด่านหน้าและอาสาสมัคร วันละเกือบ 500 ชิ้น เป็นภาระหนักของโรงพยาบาลที่ต้องหามาเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครจากความเสี่ยง โครงการต้องการระดม ชุด PPE หน้ากาก N95 เครื่องวัดระดับออกซิเจนในเลือด และ เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟาเรด เพื่อป้องกันให้บุคลาการด้านการแพทย์และอาสาสมัคร ร่วมฝ่าวิกฤติในครั้งนี้ไปให้ได้
รวบรวมความต้องการใช้อุปกรณ์ป้องกันในแต่ละโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และ เริ่มทำ Community Isolation และ Home Isolation
ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในท้องถิ่น
จัดซื้ออุปกรณ์ป้องกัน
ส่งมอบและบันทึกจำนวนผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการ
ประเมินผลการดำเนินงานโครงการ และ วิเคราะห์ความต้องการหากต้องดำเนินโครงการในระยะต่อไป
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
เครื่องวัดระดับออกซิเจนในเลือด รุ่น LK87 ราคาเครื่องละ 410 บาท | 500เครื่อง | 205,000.00 |
ที่วัดอุณหภูมิแบบแท่ง ราคาเครื่องละ 210 บาท | 400เครื่อง | 84,000.00 |
ชุดหมี PPE ราคาชุดละ 220 บาท | 100ชุด | 22,000.00 |
หน้ากาก N95 ราคาชิ้นละ 15 บาท | 3,0000 | 0.00 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 311,000.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 31,100.00 |
ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้