cover_1

สนับสนุนอุปกรณ์และกิจกรรมเยาวชนพิทักษ์ช้างป่ากลุ่มฟันน้ำนม

เด็กและเยาวชน
สัตว์
สิ่งแวดล้อม/ธรรมชาติ

เงินบริจาคของคุณจะสนับสนุนอุปกรณ์และกิจกรรมบันทึกข้อมูลช้างป่าให้กับเยาวชนพิทักษ์ช้างป่ากลุ่มฟันน้ำนม7คน

project succeeded
โครงการสำเร็จแล้ว
24 ส.ค. 2565

อัปเดตโครงการกิจกรรมติดตามบันทึกรูปพรรณ พฤติกรรม และรูปแบบการเคลื่อนที่ของช้างป่า

ช่วงเวลาที่ทำกิจกรรม

24 ส.ค. 2565 - 24 ส.ค. 2565

เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการในทุก ๆ วัน (routine) โดยเยาวชนในโครงการศูนย์ศึกษาเรียนรู้ช้างป่ากลุ่มฟันน้ำนมจะออกลาดตะเวนไปตามสถานที่ต่าง ๆ ที่มีรายงานการพบช้างจากเครือข่ายชาวบ้านเพื่อบันทึกภาพรูปพรรณและสังเกตพฤติกรรม รวมถึงประเมินการเคลื่อนที่ของช้างป่าว่าจะไปทิศทางไหน รูปแบบไหน นอกจากนั้นเมื่อทราบทิศทางที่ช้างจะเดินทางไปก็ได้ทำการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่บนเส้นทางนั้น ๆ ได้ทราบผ่านเพลตฟอร์มการสื่อสารอย่างง่าย เช่น Facebook หรือ Line เป็นต้น ในบางครั้งเมื่อประเมินว่าช้างมีแนวโน้มจะเข้าหมู่บ้านก็จะดำเนินการสกัดกั้นเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านทันที ดังที่ปรากฏเป็นข่าว


สิ่งที่ได้จากกิจกรรมนี้

  1. ได้ข้อมูลรูปพรรณช้างป่าเพศผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับโขลงช้างเพศเมียจำนวน 26 ตัว
  2. ได้ข้อมูลพฤติกรรมของช้างเพศผู้บางส่วนและยังต้องดำเนินการเฝ้าสังเกตต่อไป
  3. ได้เส้นทางของช้างป่านอกเขตป่าอนุรักษ์ในพื้นที่ทางตอนเหนือของเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ครอบคลุม 2 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี
  4. เยาวชนอาสาสมัครฯ ได้พัฒนาทักษะในการเฝ้าติดตาม ประเมินสถานการณ์ และเรียนรู้ช้างป่าในทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น

 

กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโครงการศูนย์ศึกษาเรียนรู้ช้างป่ากลุ่มฟันน้ำนม

ค่ายเยาวชนถอดบทเรียน สถานการณ์ช้างป่าเขาอ่างฤาไน ในพื้นที่ชุมชน ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 26-27 มีนาคม 2565 ณ ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ช้างป่ากลุ่มฟันน้ำนม
เป็นค่ายที่ถอดบทเรียนสถานการณ์ช้างป่าในมิติต่าง ๆ ที่ผ่านมาร่วมกัน เพื่อสร้างการรับรู้ความเสี่ยง อันจะนำไปสู่การบริหารความเสี่ยงที่เกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและทั้งที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า อนึ่ง การบริหารความเสี่ยงเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ไม่ต้องการยอมแพ้ เราต่อสู้กับธรรมชาติ แต่เราก็มีหลักการ และเมื่อถึงจุดที่เราเอาชนะธรรมชาติไม่ได้ เราก็ต้องหยุดเพื่อทบทวน และหาแนวทางที่จะไม่ให้เกิดภัย หรือความเสี่ยง ซึ่งมีกิจกรรมหลักดังนี้

  1. แลกเปลี่ยนสถานการณ์ช้างป่าอดีต ปัจจุบัน อนาคต กับคุณพิทักษ์ ยิ่งยง หัวหน้าเขตรักษาพันธฺสัตว์ป่าเขาเขียว-เขาชมพู่ เพื่อให้รับรู้สถานการณ์ช้างป่าจากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
    ผลที่ได้ในกิจกรรม 1) รับรู้ช่วงเวลาเริ่มต้นของการออกมาจากผืนป่าอนุรักษ์ของช้างป่า ซึ่งในปีแรก ๆ เมื่อราว 20 กว่าปีก่อน กระทิงหนึ่งตัวออกมาจากป่าเขาอ่างฤาไนทางด้านอำเภอวังทองไปจนถึงอำเภอปลวกแดง จ.ชลบุรี จากนั้นไม่ถึงหนึ่งปีก็พบว่ามีฝูงช้างออกมาจำนวนกว่า 20 ตัว บนเส้นทางเดียวกันกับกระทิง ในเวลาไม่ห่างกันมากทางด้านทิศเหนือของเขาอ่างฤาไนเริ่มมีฝูงช้างออกมากลุ่มแรก ๆ บริเวนบ้านนายาว-นาอีสาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา และในช่วงปี 2547 เป็นต้นมาก็พบว่ามีช้างออกจากป่าทั่วทุกสารทิศซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มช้างตัวผู้ที่ออกมาสำรวจ และปัจจุบันพบว่ามีช้างออกมาจากผืนป่าอนุรักษ์ถี่ขึ้นจนมีจำนวนมากถึง 250-300 ตัว รอบผืนป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ซึ่งมีการประเมินเบื้องต้นมีช้างป่าในภาคตะวันออกราว ๆ 535 ตัว ขณะที่ผืนป่ารอยต่อทั้งหมดมีเนื้อที่ 1.3 ล้านไร่ และในอนาคตช้างป่าจะเพิ่มจำนวนประชากรเป็นเท่าตัว ในอีก 10 ปีข้างหน้า 2) รับรู้ถึงการเตรียมความพร้อมในการตั้งรับปรับตัว ซึ่งเน้นไปที่เรื่องการปฏิบัติตัวเมื่อเผชิญหน้ากับช้างป่าและการเรียนรู้รูปพรรณ พฤติกรรม และรูปแบบการเคลื่อนที่ของช้างป่าในพื้นที่เป้าหมาย รวมถึงการวิเคราะห์หรือประเมินพื้นที่เป้าหมายของช้างป่าล่วงหน้าได้
  2. ทำแผนที่ชุมชน เพื่อให้เกิดการรับรู้พื้นที่ดินแดนของชุมชน พื้นที่เกษตรกรรม และเส้นทางหากินของช้างป่า
    ผลที่ได้ในกิจกรรม เยาวชนได้รับรู้แผนผังของชุมชน พื้นที่เกษตรกรรม ชนิดพืช ปฏิทินการเพาะปลูกที่มีความสัมพันธ์กับช่วงเวลาที่ช้างป่าเข้ามาในพื้นที่ชุมชนของตนเอง พื้นที่พักช้างในช่วงกลางวัน และเส้นทางหากินของช้างป่า ตลอดจนเส้นทางการเคลื่อนที่ของช้างป่าเชื่อมโยงระหว่างหมู่บ้าน และสามารถประเมินความเสี่ยงในพื้นที่ชุมชนของตนเองได้ พร้อมทั้งสามารถออกแบบวิธีการแจ้งเตือนผ่านเครื่องมือต่าง ๆ โดยเฉพาะโซเชียลเน็ตเวิร์ค
  3. บทบาทสมมติ นักถอดรหัสช้างป่า เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ภาคปฏิบัติในพื้นที่จริงในการประเมินเส้นทางช้างป่า
    ผลที่ได้ในกิจกรรม เยาวชนได้ออกไปทดลองแกะรอยช้างป่าเข้าพักในพื้นที่ที่เป็นแหล่งพักนอนในช่วงกลางวัน และนำข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้พบมาฝึกวิเคราะห์ประเมินเส้นทางหากินของช้างป่า และนำผลประเมินดังกล่าวมาทดลองสื่อสารระหว่างกันในกลุ่มที่จำลองให้เป็นคนในชุมชนที่มีความเสี่ยงจากช้างป่า

การประชุมเชิงปฏิบัติการ (workshop) หัวข้อ แนวทางเพื่อการใช้พื้นที่ร่วมกันระหว่างคนกับช้างป่า: คนปลอดภัย ช้างปลอดภัย วันที่ วันที่ 9-10 เมษายน 2565 ณ หอประชุมโรงเรียนบ้านหนองปรือกันยาง
โครงการวิจัยและพัฒนาระบบเพื่อการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับช้างป่าบนฐานบูรณาการเชิงระบบนิเวศสังคม ภายใต้การดำเนินงานของเครือข่ายเสียงคนเสียงช้าง และ โครงการวิจัยนโยบายสาธารณะเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กรณีศึกษา: พฤติกรรมก่อกวนของช้างป่าที่สร้างความปั่นป่วนต่อประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศไทย ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ช้างป่ากลุ่มฟันน้ำนม ด้วยการสนับสนุนของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัตการ (workshop) หัวข้อ แนวทางเพื่อการใช้พื้นที่ร่วมกันระหว่างคนกับช้างป่า: คนปลอดภัย ช้างปลอดภัย ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาศักยภาพและพัฒนาเครือข่ายชุมชนในการจัดการช้างป่าภาคตะวันออก (ตอนเหนือ) ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 2) เพื่อประเมินสถานการณ์และการจัดการช้างป่าในพื้นที่ชุมชนผ่านเครือข่ายอาสาเฝ้าระวังช้างป่าของภาคตะวันออก (ตอนเหนือ) 3) เพื่อจัดทำแนวทางการจัดช้างป่าในพื้นที่ชุมชน โดยมุ่งเป้าสู่การจัดทำแผนแม่บทการจัดการช้างป่าในพื้นที่ชุมชน ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมและภาครัฐในพื้นที่ โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวนกว่า 50 คน ประกอบไปด้วย ชาวบ้านและอาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า 7 พื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ระยอง และจันทบุรี นักวิชาการและนักวิจัยเครือข่ายเสียงคนเสียงช้าง นักวิชาการอิสระ เครือข่ายภาคประชาสังคม ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตัวแทนและผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ

โดยผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนสถานการณ์ปัญหาช้างป่าในแต่ละพื้นที่ เนื่องจากเป็นปัญหาร่วมเดียวกัน และทำให้จิ๊กซอของแต่ละพื้นที่ประกอบเข้าด้วยกันจนสามารถทำให้เห็นภาพรวมของปัญหาที่สะท้อนออกมาจากคนในพื้นที่ และได้นำไปสู่ข้อเสนอในการจัดการปัญหาช้างป่าในหลายประเด็นดังนี้

  • แก้ไขระเบียบและหลักเกณฑ์การเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า
  • แก้ไขนโยบาย กฏหมาย และการจัดการปัญหาช้างป่า
  • สร้างพื้นที่รองรับในเขตป่าอนุรักษ์ให้เพียงพอต่อประชากรที่เพิ่มขึ้น 8.2% ในทุก ๆ ปี
  • ส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนทุกมิติ
  • อาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่าควรได้รับสวัสดิการจากรัฐ
  • แก้ไขระเบียบองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นให้สามารถจัดจ้างพนักงานจัดการปัญหาช้างป่าได้
  • ปรับเปลี่ยนวิถีการผลิตการเกษตร
  • ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในพื้นที่ชุมชน

อย่างไรก็ตามโครงการวิจัยและพัฒนาระบบเพื่อการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับช้างป่าบนฐานบูรณาการเชิงระบบนิเวศสังคม และ โครงการวิจัยนโยบายสาธารณะเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กรณีศึกษา: พฤติกรรมก่อกวนของช้างป่าที่สร้างความปั่นป่วนต่อประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศไทย จะยกระดับข้อเสนอจากคนในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้เกิดเป็นข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในการจัดการปัญหาช้างป่าในพื้นที่ภาคตะวันออกต่อไป

เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนบูรณาการช้างป่าภาคประชาชนพื้นที่ภาคตะวันออก วันที่ 9-10 กรกฏาคม 2565 ณ ห้องประชุมแก้วเจ้าจอม องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี จัดโดย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
เมื่อวันที่ 9-10 กรกฏาคม 2565 ที่ผ่านมาได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนบูรณาการช้างป่าภาคประชาชนพื้นที่ภาคตะวันออก ณ ห้องประชุมแก้วเจ้าจอม องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี จัดโดย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยมีเครือข่ายภาคประชาชน ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ และหน่วยงานภาครัฐเข้าร่วมจาก 7 จังหวัดรอบผืนป่ารอยต่อภาคตะวันออก ได้แก่ สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด รวมถึงเยาวชนอาสาสมัครพิทักษ์ช้างป่า ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ช้างป่ากลุ่มฟันน้ำนม เพื่อหารือจัดทำแผนบูรณาการในการจัดการปัญหาช้างป่าภาคตะวันออกอย่างมีส่วนร่วมของภาคประชาชน

ทั้งนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาตลอดจนแนวทางในการจัดการปัญหาช้างป่าของแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีข้อเสนอของกลุ่มเยาวชนอาสาสมัครฯ กลุ่มฟันน้ำนม และภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราต่อการจัดการปัญหาช้างป่าอย่างมีส่วนร่วมต่อหน่วยงานภาครัฐใน 7 ประเด็น ได้แก่ 1) สร้างความร่วมมือผ่านกลไกองค์กรชุมชนและภาคีเครือข่าย 2) สนับสนุนเยาวชนคนรุ่นใหม่ในการศึกษาช้างป่าในพื้นที่ชุมชน 3) สนับสนุนสวัสดิการอาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า 4) แก้ไขหลักเกณฑ์การเยียวยาแก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่าอย่างเป็นธรรม 5) เร่งผลักดันการช่วยเหลือชาวบ้านตาม ม.60 พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 6) ทบทวนการจัดการแหล่งรองรับ-ถิ่นอาศัยช้างป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และ 7) เร่งดำเนินการควบคุมประชากรช้างป่า

อย่างไรก็ตาม แผนการบูรณาการเพื่อการจัดการปัญหาช้างป่าอย่างมีส่วนร่วมของภาคประชาชน จะถูกรวบรวมเรียบเรียงเป็นรายงานและข้อเสนอต่อรัฐบาลต่อไป โดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ

สัมภาษณ์เยาวชนที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มฟันน้ำนม


นาย กฤตพรต สมานใจ ชื่อเล่น แบม อายุ 15 ปี
ผมเริ่มดูช้างป่าตั้งแต่ตอนอายุประมาณ 8-9 ขวบครับ ตอนนั้นช้างเข้ามาในหมู่บ้านเป็นฝูงหลายสิบตัว แม่ก็พาขี่ซาเล้งไปดูช้างข้ามถนน เริ่มสนุกกับการดูช้างตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา และก็ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูป ถ่ายคลิป เอามาโพสในเฟสบุ๊ก แต่พอน้าตาล (ตาล วรรณกูล) เข้ามาตั้งศูนย์ศึกษาเรียนรู้ช้างป่ากลุ่มฟันน้ำนม ก็ได้มีโอกาสมาเรียนรู้นิเวศวิทยาช้างป่า และได้ทำหน้าที่เป็นคนบันทึกข้อมูลช้างป่าในภาคสนาม ตอนแรก ๆ ศูนย์มีกล้องแคนอนตัว ๆ กับเลนส์ 80-210 มม. แค่ 1 ตัว ผมกับอาวุธก็แบ่งกันใช้ (ศราวุธ สมานใจ) ยอมรับว่าไม่สะดวกจริง ๆ ครับ พอผมเจอช้างและติดตามช้างกล้องก็ไม่ได้อยู่กับผม ใช้มือถือถ่ายคุณภาพก็ไม่ดีอย่างที่ศูนย์ฯ ต้องการ พลาดโอกาสบ่อย ๆ จึงขอให้ศูนย์ฯ ช่วยซื้อกล้องเพิ่ม น้าตาลก็เลยไปซื้อกล้องแคนอนตัวใหญ่มาเพิ่มอีกชุดพร้อมกับเลนส์ 70-300 แต่ด้วยมันเป็นกล้องที่ใช้ถ่ายภาพพอเอามาถ่ายวีดีโอพฤติกรรมช้างปรากฏว่าปรับไม่ค่อยจะทัน ตอนนี้ได้กล้องวีดีโอคุณภาพสูงจากโครงการเทใจ ผมเริ่มทำงานสนุกขึ้นแล้วครับ เพราะถ้าจะถ่ายภาพนิ่งรูปพรรณช้างก็เอากล้องภาพนิ่งถ่าย และสามารถทำงานไปพร้อม ๆ กับการถ่ายวีดีโอพฤติกรรมได้เลยครับ รู้สึกดีครับที่ได้อุปกรณ์มาเพิ่มแบบนี้ ถึงแม้ว่าเราจะระดมทุนได้ไม่ตรงตามเป้าก็ตาม


น.ส. ผกาสินี ธรรมลี ชื่อเล่น มิ้น อายุ 17 ปี
มิ้นไม่ได้ออกไปดูช้างหรอกค่ะ เพราะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลอยู่ที่ศูนย์ฯ เพราะมิ้นได้รับหน้าที่เป็นแอดมินในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลที่ แบม กับ พี่วุธ ออกไปเก็บ แล้วเอามาวิเคราะห์กับน้าตาล ถามว่าประทับใจไหมกับการที่ทีมสนามได้อุปกรณ์มาใหม่ อันนี้บอกตรง ๆ เลยนะค่ะว่ามาก ประทับใจมาก เพราะข้อมูลวีดีโอที่ได้มามันมีคุณภาพที่ทำให้มิ้นได้เห็นรายละเอียดของช้างและพฤติกรรมของช้างแบบยาว ๆ เห็นทุกอย่างที่ช้างทำในช่วงเวลาที่กล้องบันทึกไว้ได้ มิ้นยังคิดว่าน่าจะเอาคลิปพวกนี้มาตัดต่อเป็นหนังสารคดีได้ด้วย 


นาย ศราวุธ สมานใจ ชื่อเล่น วุธ อายุ 21 ปี
หลัก ๆ ผมเป็นคนใช้กล้องตัวนี้ครับ เท่าที่ใช้มาเดือนกว่า ๆ ก็ถือว่าประทับใจครับ บางทีเราติดตามช้างป่า เราต้องเดินตามพวกมัน และได้กล้องวีดีโอที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา คุณภาพดีเอามาใช้เก็บข้อมูลช้างป่ามันค่อนข้างคล่องตัวครับ เวลาเราลืมเอาขาตั้งกล้องไปพอซูมไกล ๆ ก็ไม่สั่น และจะทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นด้วยครับ ไม่เหมือนเมื่อก่อนมีกล้องตัวเดียวก็ต้องแบ่งกันใช้กับแบม ตอนนี้สบายแล้วครับ ต้องขอขอบคุณผู้บริจาคทุกคนที่มอบสิ่งดี ๆ ให้กับพวกเรา และเราก็จะทำหน้าที่ศึกษารวบรวมข้อมูลเพื่อเอาไปใช้ในการจัดการปัญหาช้างป่าในพื้นที่ชุมชนต่อไปครับ

 

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ

27 มิ.ย. 2565

อัปเดตโครงการปรับแผนการใช้เงิน จัดซื้อกล้องวิดีโอบันทึกพฤติกรรมช้างป่าและสนับสนุนกิจกรรมเยาวชนพิทักษ์ช้างป่า

ช่วงเวลาที่ทำกิจกรรม

27 มิ.ย. 2565 - 27 มิ.ย. 2565

เนื่องการปรับแผนการใช้เงินในครั้งที่ 1 เป็นการจัดซื้อกล้องมือสอง รุ่น Canon EOS 80D จำนวน 2 เครื่อง แต่เนื่องจากสินค้าที่ทำการจัดซื้อจะเป็นสินค้ามือสอง จึงขาดตลาดอย่างรวดเร็วและไม่สามารถจัดซื้อได้ทัน   ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการมีมติร่วมกับกลุ่มฟันน้ำนมว่าจะซื้อกล้องใหม่แกะกล่องในราคาที่สูงกว่างบประมาณที่ได้รับ และทางกลุ่มฟันน้ำนมจะเป็นผู้รับผิดชอบเป็นชำระเงินส่วนต่าง

27 พ.ค. 2565

อัปเดตโครงการปรับปรุงแผนการใช้เงินโครงการสนับสนุนอุปกรณ์และกิจกรรมเยาวชนพิทักษ์ช้างป่ากลุ่มฟันน้ำนม

ช่วงเวลาที่ทำกิจกรรม

27 พ.ค. 2565 - 27 พ.ค. 2565

แผนการใช้เงินโครงการ (ใหม่)