cover_1
โครงการใหม่

"เยียวยาใจ น้ำไหลท่วมพะเยา"

เด็กและเยาวชน
ผู้สูงอายุ
ผู้ประสบภัยพิบัติ

เงินบริจาคของคุณจะฟื้นฟูอาคาร จัดซื้ออุปกรณ์ สื่อ และ โต๊ะ ชั้นวางหนังสือ สำหรับการเรียนรู้ให้กับเด็กและผู้สูงอายุที่เข้ามาใช้บริการ TK PARK พะเยา2,000คน

ระยะเวลาระดมทุน

13 ก.ย. 2567 - 30 พ.ย. 2567

พื้นที่ดำเนินโครงการ

TK Park พะเยา ต.เวียง อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา 56000

เป้าหมาย SDGs

QUALITY EDUCATIONSUSTAINABLE CITIES AND COMMUNITIESCLIMATE ACTION

กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ

เด็กและเยาวชน
1,000คน
ผู้สูงอายุ
1,000คน

หลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม TK PARK พื้นที่เรียนรู้ริมกว๊านพะเยา ได้รับความเสียหาย สภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการเรียนรู้และทำกิจกรรม ส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยและความปลอดภัยของเด็กและผู้สูงอายุที่เข้ามาใช้ประโยชน์ จึงจำเป็นต้องระดมทุนเพื่อซ่อมแซมอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เสียหาย จัดหาอุปกรณ์การเรียนรู้ที่จำเป็น เช่น โต๊ะ เก้าอี้ กระดานดำ หนังสือ ปรับปรุงภูมิทัศน์

ปัญหาสังคม

ปัญหาหลัก: แหล่งเรียนรู้ชุมชนและห้องเรียนได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ทำให้ไม่มีพื้นที่และอุปกรณ์ที่เพียงพอสำหรับเด็กและผู้สูงอายุในการทำกิจกรรมการเรียนรู้

สาเหตุ/ต้นตอของปัญหา:

1.ความเสียหายจากน้ำท่วม: น้ำท่วมทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างอาคาร ห้องเรียน เครื่องใช้ และอุปกรณ์การเรียนรู้ต่างๆ

2.การขาดแคลนงบประมาณ: การซ่อมแซมและจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆ ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคในการดำเนินการ

3.ขาดแคลนทรัพยากรบุคคล: การฟื้นฟูแหล่งเรียนรู้ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ซึ่งอาจขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์

ผลกระทบต่อจิตใจ: เด็กและผู้สูงอายุอาจรู้สึกเสียใจและท้อแท้เมื่อเห็นสิ่งของที่ตนรักและใช้ประโยชน์ถูกทำลาย

ผลกระทบที่เกิดขึ้น:

1.เด็ก: ขาดโอกาสในการเรียนรู้ พัฒนาตนเอง และเข้าสังคม

2.ผู้สูงอายุ: ขาดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ

3.ชุมชน: ขาดพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ร่วมกัน และการพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชน

สรุป: ปัญหาที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเด็กและผู้สูงอายุในชุมชนอย่างมาก การฟื้นฟูแหล่งเรียนรู้จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เพื่อให้พวกเขา

วิธีการแก้ปัญหา

  1. ประเมินความเสียหาย: สำรวจความเสียหายของอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวก และอุปกรณ์การเรียนรู้ทั้งหมดจัดทำรายการสิ่งที่ต้องซ่อมแซมและสิ่งที่ต้องจัดหาใหม่ประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและจัดหาสิ่งของใหม่

  2. จัดตั้งคณะทำงาน: จัดตั้งคณะทำงานที่ประกอบด้วยตัวแทนจากชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละคนในคณะทำงาน

  3. ระดมทุน: ขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรการกุศล จัดกิจกรรมเพื่อระดมทุน เช่น การขายของที่ระลึก การจัดงานกาชาดเปิดรับบริจาคจากประชาชนทั่วไป

  4. ขอรับความช่วยเหลือ: ขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สมาคมต่างๆ และองค์กรพัฒนาเอกชน ขอรับการสนับสนุนด้านวิชาการและเทคนิคในการฟื้นฟู

  5. ซ่อมแซมและปรับปรุง: ซ่อมแซมอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เสียหาย จัดหาอุปกรณ์การเรียนรู้ที่จำเป็น เช่น โต๊ะ เก้าอี้ กระดานดำ หนังสือ ปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามและน่าอยู่

  6. พัฒนาหลักสูตรและกิจกรรม: พัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมที่เหมาะสมกับความต้องการของเด็กและผู้สูงอายุ เน้นกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ พัฒนาตนเอง และสร้างความสัมพันธ์อันดีในชุมชน

  7. สร้างความตระหนัก: สร้างความตระหนักให้กับชุมชนถึงความสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิต ส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาแหล่งเรียนรู้

  8. ประชาสัมพันธ์: ประชาสัมพันธ์โครงการฟื้นฟูแหล่งเรียนรู้ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ชักชวนให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ

แผนการดำเนินงาน

  1. ก.ย. - ต.ค. 2567

    ระยะเตรียมการ จัดตั้งคณะทำงาน: ก่อตั้งคณะทำงานขึ้นมาโดยมีตัวแทนจากชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันวางแผนและดำเนินการฟื้นฟู ประเมินความเสียหาย: ประเมินความเสียหายของอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวก และอุปกรณ์การเรียนรู้ทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อจัดทำรายการสิ่งที่ต้องซ่อมแซมและจัดหาใหม่ จัดทำงบประมาณ: จัดทำงบประมาณโดยละเอียดตามรายการที่ได้จากการประเมินความเสียหาย รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆ ระดมความคิดเห็น: จัดประชุมชุมชนเพื่อรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของสมาชิกชุมชนเกี่ยวกับการฟื้นฟูแหล่งเรียนรู้

  2. ก.ย. - ต.ค. 2567

    ระยะดำเนินการ ซ่อมแซมอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวก: ดำเนินการซ่อมแซมอาคาร ห้องเรียน ห้องน้ำ ห้องสุขา และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่ได้รับความเสียหายให้กลับสู่สภาพพร้อมใช้งาน จัดหาอุปกรณ์การเรียนรู้: จัดหาอุปกรณ์การเรียนรู้ที่จำเป็น เช่น โต๊ะ เก้าอี้ กระดานดำ หนังสือและอุปกรณ์สำหรับกิจกรรมต่างๆ ปรับปรุงภูมิทัศน์: ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้สวยงาม สะอาด และปลอดภัย เช่น ปรับปรุงสวน ปลูกต้นไม้ พัฒนาหลักสูตรและกิจกรรม: พัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมที่หลากหลายและเหมาะสมกับความต้องการของเด็กและผู้สูงอายุ เช่น การอ่านหนังสือ การทำกิจกรรมศิลปะ การฝึกอบรมอาชีพ จัดอบรมบุคลากร: จัดอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เช่น ครู อาสาสมัคร เพื่อให้มีความรู้และทักษะในการจัดกิจกรรม ประชาสัมพันธ์: ประชาสัมพันธ์โครงการฟื้นฟูแหล่งเรียนรู้ให้ประชาชนในชุมชนได้รับทราบ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม

  3. ก.ย. - ต.ค. 2567

    ระยะติดตามและประเมินผล ติดตามความคืบหน้า: ติดตามความคืบหน้าของโครงการอย่างสม่ำเสมอ ประเมินผล: ประเมินผลการดำเนินงานตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ปรับปรุงแก้ไข: ปรับปรุงแก้ไขแผนงานตามความเหมาะสม

แผนการใช้เงิน

รายการจำนวนจำนวนเงิน (บาท)
งบประมาณสำหรับค่าจ้างช่างซ่อมแซม 4,000 บาทต่อวัน เป็นเวลา 10 วัน

1.อาคารและโครงสร้าง เช่น ซ่อมแซมฝาผนัง พื้น ปรับปรุงระบบไฟฟ้า ประปา 2.สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ซ่อมแซมห้องน้ำ ห้องสุขา ห้องครัว 3.อุปกรณ์ เช่น ซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้

5คน40,000.00
งบประมาณสำหรับจัดหาอุปกรณ์ใหม่ 8,000 บาทต่อชุด เป็นจำนวน 10 ชุด

1.อุปกรณ์การเรียนรู้ เช่น หนังสือ สื่อการเรียนรู้ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 2.วัสดุ-อุปกรณ์ เช่น ตู้เก็บหนังสือ 3.อุปกรณ์ทำความสะอาด เช่น ไม้กวาด ถังขยะ น้ำยาทำความสะอาดฟื้นฟู

10ชุด80,000.00
งบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 1,000 บาทต่อวัน เป็นเวลา 30 วัน

1.ค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าเช่ารถ 2.ค่าจ้างบุคลากร ค่าใช้จ่ายในการประชุม

30คน30,000.00
รวมเป็นเงินทั้งหมด150,000.00
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%)15,000.00
ยอดระดมทุน
165,000.00

ผู้รับผิดชอบโครงการ

เกิดจากการดำเนินโครงการพะเยาเมืองแห่งการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะเดิมและสร้างทักษะใหม่ ให้กับชุมชนในเมืองพะเยาตั้งแต่ปี 2563-2564 ผ่าน โครงการย่อย 3 โครงการ คือ 1) โครงการกลไกบริหารจัดการเมือง 2) โครงการสร้างเครื่องมือแห่งการเรียนรู้ และ 3) โครงการออกแบบแหล่งเรียนรู้ชุมชนท้องถิ่นเป็นฐาน ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองแห่งการเรียนรู้ร่วมกับเทศบาลเมืองพะเยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา (อบจ.) สำนักพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดพะเยา หอการค้าจังหวัดพะเยา และการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) เพื่อต่อยอดผลจากการดำเนินงานพบจุดแข็งของพื้นที่พะเยาว่าเป็นเมืองที่เหมาะกับการใช้องค์ความรู้ชุมชนท้องถิ่นเป็นฐาน (City of Local Wisdom) บูรณาการกับองค์ความรู้วิชาการในมหาวิทยาลัยในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้ชุมชน ผ่านหลักการวิจัยบนพื้นฐานของ UNESCO Global Network of Learning Cities (GNLC) 6 ข้อ ทฤษฎีการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง ทฤษฎีการดำรงชีพอย่างยั่งยืน และ BCG โมเดล ทำให้เกิดเส้นทางการเรียนรู้ชุมชนท้องถิ่นเป็นฐานรอบกว๊านพะเยาที่สร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้ชุมชน 3 เท่า เกิดแพลตฟอร์มการเรียนรู้ นวัตกรชุมชน การพัฒนาสมรรถนะในศตวรรษที่ 21 (21st century skill) และ ชุดความคิด (Mindset) รวมถึงการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ปลดปล่อยคาร์บอนเครดิตต่ำกว่า 0.1 kgCO2e อีกทั้ง การเรียนรู้ยังทำให้เกิดโมเดลธุรกิจ เพื่อสังคม (Social enterprises) บนฐาน BCG โมเดล ที่สามารถสร้างงานที่มีคุณค่า (Decent Work) ตามหลักการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ดังนั้น การจัดตั้งวิสาหกิจชุมชน “พัฒนาเมืองพะเยา” จึงเป็นการขับเคลื่อนพะเยาสู่เมืองแห่งการเรียนรู้ชุมชนท้องถิ่นเป็นฐาน (City of Local Wisdom) นอกจากจะสอดคล้องกับนิยามของเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตของยูเนสโกแล้ว พะเยายังมีศักยภาพจะพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ (Creative City) ด้านอาหาร (City of Gastronomy) บนพื้นฐาน BCG ควบคู่กันได้ เพื่อทำให้การเรียนรู้เป็นฐานสู่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างยั่งยืนบนพื้นที่พะเยาในระยะยาว

ดูโปรไฟล์

สร้างเพจระดมทุน

ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้

สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้
icon