เงินบริจาคของคุณจะฟื้นฟูอาคาร จัดซื้ออุปกรณ์ สื่อ และ โต๊ะ ชั้นวางหนังสือ สำหรับการเรียนรู้ให้กับเด็กและผู้สูงอายุที่เข้ามาใช้บริการ TK PARK พะเยา2,000คน
หลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม TK PARK พื้นที่เรียนรู้ริมกว๊านพะเยา ได้รับความเสียหาย สภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการเรียนรู้และทำกิจกรรม ส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยและความปลอดภัยของเด็กและผู้สูงอายุที่เข้ามาใช้ประโยชน์ จึงจำเป็นต้องระดมทุนเพื่อซ่อมแซมอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เสียหาย จัดหาอุปกรณ์การเรียนรู้ที่จำเป็น เช่น โต๊ะ เก้าอี้ กระดานดำ หนังสือ ปรับปรุงภูมิทัศน์
ปัญหาหลัก: แหล่งเรียนรู้ชุมชนและห้องเรียนได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ทำให้ไม่มีพื้นที่และอุปกรณ์ที่เพียงพอสำหรับเด็กและผู้สูงอายุในการทำกิจกรรมการเรียนรู้
สาเหตุ/ต้นตอของปัญหา:
1.ความเสียหายจากน้ำท่วม: น้ำท่วมทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างอาคาร ห้องเรียน เครื่องใช้ และอุปกรณ์การเรียนรู้ต่างๆ
2.การขาดแคลนงบประมาณ: การซ่อมแซมและจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆ ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคในการดำเนินการ
3.ขาดแคลนทรัพยากรบุคคล: การฟื้นฟูแหล่งเรียนรู้ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ซึ่งอาจขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์
ผลกระทบต่อจิตใจ: เด็กและผู้สูงอายุอาจรู้สึกเสียใจและท้อแท้เมื่อเห็นสิ่งของที่ตนรักและใช้ประโยชน์ถูกทำลาย
ผลกระทบที่เกิดขึ้น:
1.เด็ก: ขาดโอกาสในการเรียนรู้ พัฒนาตนเอง และเข้าสังคม
2.ผู้สูงอายุ: ขาดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ
3.ชุมชน: ขาดพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ร่วมกัน และการพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชน
สรุป: ปัญหาที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเด็กและผู้สูงอายุในชุมชนอย่างมาก การฟื้นฟูแหล่งเรียนรู้จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เพื่อให้พวกเขา
ประเมินความเสียหาย: สำรวจความเสียหายของอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวก และอุปกรณ์การเรียนรู้ทั้งหมดจัดทำรายการสิ่งที่ต้องซ่อมแซมและสิ่งที่ต้องจัดหาใหม่ประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและจัดหาสิ่งของใหม่
จัดตั้งคณะทำงาน: จัดตั้งคณะทำงานที่ประกอบด้วยตัวแทนจากชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละคนในคณะทำงาน
ระดมทุน: ขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรการกุศล จัดกิจกรรมเพื่อระดมทุน เช่น การขายของที่ระลึก การจัดงานกาชาดเปิดรับบริจาคจากประชาชนทั่วไป
ขอรับความช่วยเหลือ: ขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สมาคมต่างๆ และองค์กรพัฒนาเอกชน ขอรับการสนับสนุนด้านวิชาการและเทคนิคในการฟื้นฟู
ซ่อมแซมและปรับปรุง: ซ่อมแซมอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เสียหาย จัดหาอุปกรณ์การเรียนรู้ที่จำเป็น เช่น โต๊ะ เก้าอี้ กระดานดำ หนังสือ ปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามและน่าอยู่
พัฒนาหลักสูตรและกิจกรรม: พัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมที่เหมาะสมกับความต้องการของเด็กและผู้สูงอายุ เน้นกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ พัฒนาตนเอง และสร้างความสัมพันธ์อันดีในชุมชน
สร้างความตระหนัก: สร้างความตระหนักให้กับชุมชนถึงความสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิต ส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาแหล่งเรียนรู้
ประชาสัมพันธ์: ประชาสัมพันธ์โครงการฟื้นฟูแหล่งเรียนรู้ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ชักชวนให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ
ระยะเตรียมการ จัดตั้งคณะทำงาน: ก่อตั้งคณะทำงานขึ้นมาโดยมีตัวแทนจากชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันวางแผนและดำเนินการฟื้นฟู ประเมินความเสียหาย: ประเมินความเสียหายของอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวก และอุปกรณ์การเรียนรู้ทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อจัดทำรายการสิ่งที่ต้องซ่อมแซมและจัดหาใหม่ จัดทำงบประมาณ: จัดทำงบประมาณโดยละเอียดตามรายการที่ได้จากการประเมินความเสียหาย รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆ ระดมความคิดเห็น: จัดประชุมชุมชนเพื่อรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของสมาชิกชุมชนเกี่ยวกับการฟื้นฟูแหล่งเรียนรู้
ระยะดำเนินการ ซ่อมแซมอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวก: ดำเนินการซ่อมแซมอาคาร ห้องเรียน ห้องน้ำ ห้องสุขา และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่ได้รับความเสียหายให้กลับสู่สภาพพร้อมใช้งาน จัดหาอุปกรณ์การเรียนรู้: จัดหาอุปกรณ์การเรียนรู้ที่จำเป็น เช่น โต๊ะ เก้าอี้ กระดานดำ หนังสือและอุปกรณ์สำหรับกิจกรรมต่างๆ ปรับปรุงภูมิทัศน์: ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้สวยงาม สะอาด และปลอดภัย เช่น ปรับปรุงสวน ปลูกต้นไม้ พัฒนาหลักสูตรและกิจกรรม: พัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมที่หลากหลายและเหมาะสมกับความต้องการของเด็กและผู้สูงอายุ เช่น การอ่านหนังสือ การทำกิจกรรมศิลปะ การฝึกอบรมอาชีพ จัดอบรมบุคลากร: จัดอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เช่น ครู อาสาสมัคร เพื่อให้มีความรู้และทักษะในการจัดกิจกรรม ประชาสัมพันธ์: ประชาสัมพันธ์โครงการฟื้นฟูแหล่งเรียนรู้ให้ประชาชนในชุมชนได้รับทราบ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม
ระยะติดตามและประเมินผล ติดตามความคืบหน้า: ติดตามความคืบหน้าของโครงการอย่างสม่ำเสมอ ประเมินผล: ประเมินผลการดำเนินงานตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ปรับปรุงแก้ไข: ปรับปรุงแก้ไขแผนงานตามความเหมาะสม
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
งบประมาณสำหรับค่าจ้างช่างซ่อมแซม 4,000 บาทต่อวัน เป็นเวลา 10 วัน 1.อาคารและโครงสร้าง เช่น ซ่อมแซมฝาผนัง พื้น ปรับปรุงระบบไฟฟ้า ประปา 2.สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ซ่อมแซมห้องน้ำ ห้องสุขา ห้องครัว 3.อุปกรณ์ เช่น ซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้ | 5คน | 40,000.00 |
งบประมาณสำหรับจัดหาอุปกรณ์ใหม่ 8,000 บาทต่อชุด เป็นจำนวน 10 ชุด 1.อุปกรณ์การเรียนรู้ เช่น หนังสือ สื่อการเรียนรู้ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 2.วัสดุ-อุปกรณ์ เช่น ตู้เก็บหนังสือ 3.อุปกรณ์ทำความสะอาด เช่น ไม้กวาด ถังขยะ น้ำยาทำความสะอาดฟื้นฟู | 10ชุด | 80,000.00 |
งบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 1,000 บาทต่อวัน เป็นเวลา 30 วัน 1.ค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าเช่ารถ 2.ค่าจ้างบุคลากร ค่าใช้จ่ายในการประชุม | 30คน | 30,000.00 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 150,000.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 15,000.00 |
เกิดจากการดำเนินโครงการพะเยาเมืองแห่งการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะเดิมและสร้างทักษะใหม่ ให้กับชุมชนในเมืองพะเยาตั้งแต่ปี 2563-2564 ผ่าน โครงการย่อย 3 โครงการ คือ 1) โครงการกลไกบริหารจัดการเมือง 2) โครงการสร้างเครื่องมือแห่งการเรียนรู้ และ 3) โครงการออกแบบแหล่งเรียนรู้ชุมชนท้องถิ่นเป็นฐาน ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองแห่งการเรียนรู้ร่วมกับเทศบาลเมืองพะเยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา (อบจ.) สำนักพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดพะเยา หอการค้าจังหวัดพะเยา และการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) เพื่อต่อยอดผลจากการดำเนินงานพบจุดแข็งของพื้นที่พะเยาว่าเป็นเมืองที่เหมาะกับการใช้องค์ความรู้ชุมชนท้องถิ่นเป็นฐาน (City of Local Wisdom) บูรณาการกับองค์ความรู้วิชาการในมหาวิทยาลัยในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้ชุมชน ผ่านหลักการวิจัยบนพื้นฐานของ UNESCO Global Network of Learning Cities (GNLC) 6 ข้อ ทฤษฎีการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง ทฤษฎีการดำรงชีพอย่างยั่งยืน และ BCG โมเดล ทำให้เกิดเส้นทางการเรียนรู้ชุมชนท้องถิ่นเป็นฐานรอบกว๊านพะเยาที่สร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้ชุมชน 3 เท่า เกิดแพลตฟอร์มการเรียนรู้ นวัตกรชุมชน การพัฒนาสมรรถนะในศตวรรษที่ 21 (21st century skill) และ ชุดความคิด (Mindset) รวมถึงการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ปลดปล่อยคาร์บอนเครดิตต่ำกว่า 0.1 kgCO2e อีกทั้ง การเรียนรู้ยังทำให้เกิดโมเดลธุรกิจ เพื่อสังคม (Social enterprises) บนฐาน BCG โมเดล ที่สามารถสร้างงานที่มีคุณค่า (Decent Work) ตามหลักการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ดังนั้น การจัดตั้งวิสาหกิจชุมชน “พัฒนาเมืองพะเยา” จึงเป็นการขับเคลื่อนพะเยาสู่เมืองแห่งการเรียนรู้ชุมชนท้องถิ่นเป็นฐาน (City of Local Wisdom) นอกจากจะสอดคล้องกับนิยามของเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตของยูเนสโกแล้ว พะเยายังมีศักยภาพจะพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ (Creative City) ด้านอาหาร (City of Gastronomy) บนพื้นฐาน BCG ควบคู่กันได้ เพื่อทำให้การเรียนรู้เป็นฐานสู่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างยั่งยืนบนพื้นที่พะเยาในระยะยาว
ดูโปรไฟล์ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้