เงินบริจาคของคุณจะจัดหาผ้าอนามัยตลอด 1 ปีให้กับน้องชาติพันธุ์หญิง200คน
ไม่ควรมีเด็กคนไหนรู้สึกอายเพียงเพราะมี ประจำเดือน
น้อง ๆ ชาติพันธุ์บนพื้นที่สูงในจังหวัดชียงรายยังคงต้องเผชิญกับปัญหาเดิม...
แม้จะเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ผ้าอนามัยยังเป็นของหายากสำหรับหลายครอบครัวที่มีรายได้จำกัด และวัฒนธรรมบางอย่างทำให้เด็ก ๆ ยิ่งอายที่จะขอหรือซื้อ
จากการทำโครงการในปีที่ผ่านมา ได้รับผลตอบรับที่ดีเกินความคาดหมาย น้อง ๆ บอกว่า
“มั่นใจขึ้น ไม่ต้องอาย” "ตอนนี้มีเงินเพียงพอที่จะซื้อข้าวกินแล้ว"
และที่น่าประทับใจที่สุด…
“อยากให้เพื่อน ๆ ได้รับเหมือนกันบ้าง”
ปีนี้ เราอยากขยายโอกาสนั้นให้ถึงน้อง ๆ ในอีก 5 โรงเรียน รวม 200 คน
แม้ผ้าอนามัยจะดูเป็นของธรรมดาที่ใครก็เข้าถึงได้
แต่สำหรับน้อง ๆ ชาติพันธุ์โดยเฉพาะผู้หญิงในพื้นที่ห่างไกล
ผ้าอนามัยยังเป็นของที่ “ขาดแคลน” และ “น่าอาย” เกินกว่าจะพูดถึง
บางครอบครัวมีรายได้เพียงพอแค่ค่าอาหาร
น้อง ๆ หลายคนจึงต้อง “เลือก”
ระหว่างใช้ผ้าอนามัยแบบไม่ถูกต้องตามสุขลักษณะที่จะต้องเปลี่ยนทุก 3 - 4 ชั่วโมง
หรือหันไปใช้สิ่งอื่นแทน เช่น ผ้าเก่า กระดาษทิชชู่
หรือแม้แต่หลีกเลี่ยงการไปโรงเรียนในช่วงมีประจำเดือน
“ไม่มีเงินจะซื้อผ้าอนามัย ต้องโกหกพ่อว่าเอาเงินไปซื้อขนม เพราะอายพ่อที่ต้องพูดถึงประจำเดือน” — คำบอกเล่าของน้อง ม.ต้น คนหนึ่งที่อาศัยอยู่กับพ่อเพียงลำพัง
วัฒนธรรมความเขินอาย และการไม่พูดถึงเรื่องนี้
ในครอบครัวและโรงเรียน กลายเป็นกำแพงที่ทำลายความมั่นใจ และสุขภาพของน้อง ๆ อย่างช้า ๆ
เป้าหมายของเรา คือ มอบผ้าอนามัยให้น้อง 200 คน มีผ้าอนามัยใช้ตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการประหยัด หรือเขินอายเมื่อต้องการใช้ผ้าอนามัย ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้
🫰โดยบริจาคเพียง 65 บาท เพื่อให้น้อง 1 คน มีผ้าอนามัยใช้ตลอด 1 เดือน 💖
🥹🩸ไม่มีผ้าอนามัยใช้ ไม่ใช่เรื่องเล็ก
แต่...เป็นสิ่งที่กระทบทั้งสุขอนามัย ความมั่นใจ และโอกาสในการเรียนรู้ของเด็ก ๆ
เราทุกคน คือ ผู้สานต่อหนทางสู่สุขภาวะที่ดีของน้อง ๆ
มาร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยการให้บริจาคในวันนี้ เพื่ออนาคตของน้อง ๆ ที่ดีกว่า
ปีที่ผ่านมา เราเริ่มโครงการนี้ด้วยเป้าหมายเรียบง่าย “ขอให้น้อง ๆ เด็กหญิง 100 คน มีผ้าอนามัยใช้ตลอดปี” ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ได้รับ เกินความคาดหมาย น้อง ๆ บอกว่า "มั่นใจขึ้น ไม่ต้องอาย" รวมถึง "อยากให้เพื่อน ๆ ได้รับเหมือนกันบ้าง" 💖 นี่คือเหตุผลที่ปีนี้เรากลับมาอีกครั้ง พร้อมขยายโครงการไปยังอีก 5 โรงเรียน รวม 200 คน เพื่อให้น้อง ๆ มี “ทางเลือก” ที่ปลอดภัยและร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้โรงเรียน กลายเป็นพื้นที่ที่พูดถึงเรื่องสุขอนามัยได้อย่างเปิดเผย เข้าใจ และไม่ต้องอายอีกต่อไป ในปีแรก เราวางแผนไว้ว่า ต้องใช้งบประมาณ 100 บาท/คน/เดือน แต่เมื่อโครงการเริ่มขึ้นจริง เราสามารถจัดซื้อผ้าอนามัยคุณภาพดีจากผู้ผลิต 💙 ในราคาที่ถูกลงกว่าที่ประเมินไว้ เหลือเพียง 65 บาท/คน/เดือน ด้วยราคานี้ เราจึงต้องการขยายความช่วยเหลือไปถึง 200 คน โดยยังคงคุณภาพเท่าเดิมทุกประการ
ติดต่อ และจัดซื้อผ้าอนามัยจากผู้ผลิต เพื่อจัดหาผ้าอนามัยที่มีคุณภาพเพียงพอตามจำนวนที่ต้องการในราคาที่เหมาะสม
ประสานงานและจัดกิจกรรมแจกจ่ายผ้าอนามัยในโรงเรียน โดยจัดกิจกรรมแจกจ่ายผ้าอนามัยทุก ๆ 3 เดือน (เพื่อรักษาคุณภาพสินค้าและความสะดวกในการจัดส่ง)
ให้ความรู้ด้านสุขอนามัยประจำเดือนอย่างเหมาะสม เพื่อให้น้อง ๆ ใช้งานได้อย่างมั่นใจ และไม่รู้สึกอายหรือโดดเดี่ยว
ติดตามผลและรับฟังเสียงสะท้อน เก็บข้อมูลความพึงพอใจจากน้อง ๆ และครูผู้ประสานงานโรงเรียน เพื่อประเมินผลการดำเนินงานและใช้เป็นฐานข้อมูลสำหรับการขยายโครงการในปีต่อ ๆ ไป
เผยแพร่ความคืบหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อแสดงความโปร่งใส ขอบคุณผู้สนับสนุน และเชิญชวนให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปีหน้า
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
ค่าผ้าอนามัย เดือนละ 65 บาท/คน เป็นเวลา 12 เดือน แบบกลางวัน 14 แผ่น กลางคืน 10 แผ่น | 200คน | 156,000.00 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 156,000.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 15,600.00 |
มูลนิธิ กู้ดเนเบอร์ซ เป็นองค์กรด้านมนุษยธรรมและการพัฒนาระดับนานาชาติ ที่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2534 และได้จดทะเบียนก่อตั้งในประเทศไทย โดยใช้ชื่อว่า มูลนิธิ กู้ดเนเบอร์ซ (ประเทศไทย) เมื่อปี พ.ศ. 2558 ดำเนินการเพื่อส่งเสริมการคุ้มครองเด็กและสนับสนุนการศึกษาในประเทศไทย ทำงานในเขตพื้นที่ดอยสูงจังหวัดเชียงรายมาตั้งแต่ปี 2558 โดยทำงานร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 และเขต 3 มีเป้าหมายหลักในการช่วยเหลือและสร้างโอกาสให้กับเด็กชาติพันธุ์ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ในขณะนี้มีโรงเรียนภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิ ทั้งหมด 14 โรงเรียน แบ่งเป็นโรงเรียนใน จ.เชียงราย เขต 1 จำนวน 8 โรงเรียน และเขต 3 จำนวน 7 โรงเรียน กิจกรรมหลักของโครงการ การสนับสนุนการจัดการศึกษาแนวทางพหุภาษาโดยใช้ภาษาแม่เป็นฐาน โดยรจัดสรรผู้ช่วยครูสองภาษาและพัฒนาศักยภาพผู้ช่วยครูสองภาษา ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนเหล่านี้สามารถเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเต็มที่ ลดอุปสรรคทางภาษาและเสริมสร้างความเข้าใจในบทเรียน พัฒนาทักษะการสอนผู้ช่วยครู นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงอาคาร เช่น ห้องสมุด หอพัก และห้องน้ำให้ได้มาตรฐาน เพื่อช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ ทำให้นักเรียนมีความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจในการเรียนรู้และพัฒนาอย่างเต็มที่ โครงการนี้จึงไม่เพียงแต่ช่วยให้นักเรียนชาติพันธุ์ได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น ประสบการณ์และผลงานขององค์กรผลลัพธ์และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากโครงการที่ผ่านมา จากการวัดผลผ่านแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน พบว่านักเรียนมีคะแนนการใช้ทักษะภาษาไทยดีขึ้นในแบบทดสอบหลังเรียน นอกจากนี้จากการสัมภาษณ์ผู้อำนวยการ ครูในโรงเรียนและผู้ช่วยครู ต่างให้ความเห็นว่าหลังจากดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง ทางโรงเรียนเห็นผลของพัฒนาการอย่างมีนัยสัมคัญ นักเรียนมีความสนใจและมาเข้าเรียนมากขึ้น มีความกล้าแสดงออกและกล้าสื่อสารมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับครูและโรงเรียนมากขึ้น เมื่อเทียบกับนักเรียนที่ยังไม่เคยเรียนในห้องเรียนที่มีผู้ช่วยครูสองภาษา
ดูโปรไฟล์ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้