cover_1
โครงการใหม่

เติมฝันให้เด็กและครอบครัวที่ยากลำบาก (พื้นที่อีสานชนบทตอนบน)

เด็กและเยาวชน
ผู้ป่วย ผู้พิการ
อื่นๆ

เงินบริจาคของคุณจะค่าสิ่งของจำเป็นและเงินช่วยเหลือให้กับเด็กและครอบครัวที่ยากลำบาก เนื่องจากความเจ็บป่วย/พิการ10ครอบครัว

ระยะเวลาระดมทุน

19 พ.ย. 2568 - 28 ก.พ. 2569

พื้นที่ดำเนินโครงการ

จ.หนองคาย จ.เลย จ.อุดรธานี จ.บึงกาฬ

เป้าหมาย SDGs

NO POVERTYZERO HUNGERGOOD HEALTH AND WELL-BEINGQUALITY EDUCATIONREDUCED INEQUALITIES

กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ

เด็กและเยาวชน
10คน
ครอบครัวที่ลำบาก
10ครอบครัว

โครงการช่วยเหลือเด็กและครอบครัวที่ยากลำบาก ในเขตพื้นที่อีสานชนบทตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดหนองคาย เลย อุดรธานีและบึงกาฬมูลนิธิกัลยาณมิตรเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชน ดำเนินการมาตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา   โดยเราทำงานร่วมกับทีมนักจิตวิทยา / นักสังคมสงเคราะห์  ให้ความช่วยเหลือและติดตามระดับรายบุคคลและครอบครัวที่ยากลำบาก เนื่องด้วยอาการเจ็บป่วย/ความพิการของเด็กหรือสมาชิกครอบครัว และปัญหาการเงิน/ความเป็นอยู่ พื้นที่ห่างไกล  รวมทั้ง บริจาคสิ่งของจำเป็น อาหาร/นม เงินสมทบช่วยเหลือต่าง ๆ 

มูลนิธิฯ มีเป้าหมายช่วยเหลือเด็กและครอบครัวที่ยากลำบากจำนวน 10 ครอบครัว เพื่อให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มาร่วมเป็นหนึ่งกับเรา

ปัญหาสังคม

"ความไม่ปกติของวิถีชีวิต เด็ก-เยาวชนอีสานชนบท ที่พบจนเหมือนเป็นปกติ"  เช่น พ่อแม่จำเป็นต้องทิ้งลูกไว้กับปู่ย่าตายายหรือญาติพี่น้อง ด้วยความชราและอายุที่มาก หลายครัวเรือนไม่สามารถดูแลลูกหลานให้มีการเจริญเติบโตและมีเป้าหมายชีวิตที่ดีได้เท่าที่ควรจะเป็น 

เมื่อโตมาแบบกระท่อนกระแท่น ทั้งการศึกษาและทักษะชีวิต จึงทำให้ทางเลือกในการดำเนินชีวิตที่ดีนั้นมีน้อยเต็มที ระดับของความยากลำบากของครอบครัว ส่งผลให้เด็กมีมาตรฐานชีวิตต่ำกว่าระดับขั้นพื้นฐานของเด็กไทยที่ควรจะเป็น ต้นกำเนิดของปัญหานี้มักเริ่มจาก ฐานะทางเศรษฐกิจครัวเรือนและการขาดความรู้ความเข้าใจของสมาชิกในครอบครัว:

  • ปัญหาความพิการในเด็กตั้งแต่แรกเกิด ส่งผลต่อคุณภาพความเป็นอยู่และโอกาสการศึกษา
  • ปัญหาโภชนาการในเด็ก
  • ปัญหาพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ในเด็ก อันเกิดจากสภาพครอบครัวและขาดการดูแลพัฒนาการเด็กอย่างสมวัย
  • เด็กเจ็บป่วยไม่สบายด้วยโรคร้าย: ผู้ปกครองไม่สามารถพาไปรักษาที่รพ.ใหญ่ในตัวเมือง หรือขาดทุนทรัพย์ในการรักษาพยาบาลและดูแลบรรเทาความเจ็บป่วย
  • สมาชิกครอบครัวป่วย/ทุพลภาพ/ชราภาพ ไม่สามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอ

ตัวอย่างของเคสที่เราเข้าไปช่วย

เด็กชายเจเจ เป็นมะเร็งจอตา (Retinoblastoma): ตอนอายุ 6 เดือน คุณยายสังเกตเห็นดวงตาข้างซ้ายของหลานน้อยดูไม่ปกติ จึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลบึงโขงหลง และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลบึงกาฬ โชคดีที่ตรวจพบเร็วทำให้ เด็กชายเจเจเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ไปเข้ารับคีโมมาแล้ว 4 ครั้ง คุณหมอใส่ดวงตาเทียมข้างซ้ายให้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เด็กชายเจเจสุขภาพแข็งแรง วิ่งเล่นร่าเริงสนุกสนานกับเพื่อนๆ ได้ แต่คุณยายคงยังต้องพาหลานน้อยไปตรวจเช็คตามการนัดของคุณหมอที่ขอนแก่น

เงินช่วยเหลือนี้จะนำไปเป็นค่าเดินทางค่าอาหารและที่พัก จากบึงกาฬไปโรงพยาบาลศรีนครินทร์ที่ขอนแก่น

เด็กหญิงก้อยมีอาการบกพร่องทางสติปัญญาตั้งแต่กำเนิด ปีนี้อายุ 9 ขวบ สามารถพูดสื่อสารและดูแลตนเอง รวมทั้งไปเล่นเรียนรู้กิจกรรมพัฒนาทักษะพื้นฐานกับเพื่อนๆ ได้ คุณพ่อคุณแม่ช่วยกันเลี้ยงและดูแลอย่างดี.. มูลนิธิฯ ไปเยี่ยมให้กำลังใจและมอบทุนสงเคราะห์ช่วยเหลืออาชีพให้กับคุณพ่อในการทำงานในสวนยาง พร้อมทั้งมอบข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้าตุ๊กตาของเล่นให้กับเด็กหญิงก้อย

คุณยายกุล เป็นคุณยายเลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงหลานทั้งหมด 6 คน คุณแม่ของเด็กๆ ไปทำงานต่างแดน ล่าสุดไม่สามารถติดต่อได้ มูลนิธิฯ ช่วยเหลือเกื้อกูลคุณยายกุลมานานหลายปี ตั้งแต่เด็กๆ ยังตัวเล็กๆ อยู่ชั้นปฐมวัย ตอนนี้โตกันหมดแล้ว.. คุณยายกุลเคยเข้ารับฟังการประชุมให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองที่จัดโดยมูลนิธิฯ เรื่องการเลี้ยงลูกที่ดีตามหลักการ EF และได้นำมาปรับใช้กับหลานๆ มอบหมายหน้าที่กิจวัตรประจำวันของแต่ละคน ..นอกจากงานรับจ้างทั่วไป คุณยายกุลปลูกผักและเอาไปขายเพื่อรายได้ของครอบครัว เด็กๆ ทุกคนก็น่ารักมาก ช่วยคุณยายทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ การเรียนก็ทำได้ดี กีฬาก็เก่ง น้องปายน้องปิงน้องเรย์ ด้วยความที่ตัวสูงมาก ได้เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลของโรงเรียนเข้าแข่งขันระดับจังหวัด 

คุณยายกุลมีฝีมือด้านการทำอาหาร จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการทำน้ำพริกเผาสูตรโบราณ เอามาขายหารายได้เลี้ยงหลานๆ ครั้งนี้มูลนิธิฯ ได้มอบทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือให้คุณยายกุลเอาไปลงทุนเพิ่มเติม

วิธีการแก้ปัญหา

  1. 1. กระบวนการคัดเลือกเคสเด็กและครอบครัวที่ยากลำบาก: สำรวจเด็กปฐมวัยของครอบครัวที่ยากลำบาก ผ่านเครือข่ายครูปฐมวัยประจำ (4) จังหวัด โดยแบ่งเป็น 2 ระดับ ก) ยากลำบากมาก+ยากจนข้นแค้น ข) ยากลำบากทั่วไป

  2. 2. พิจารณา ตรวจสอบและวิเคราะห์รายเคส เพื่อช่วยเหลือตามปัญหาที่พบ: โดยทีมงานมูลนิธิ ได้แก่ ทีมนักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ ร่วมกับ "บ้านพักเด็กและครอบครัวประจำจังหวัด (ตามพื้นที่เป้าหมาย)" ร่วมวางแผนการประสานงานและวางแผนลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เช่น อสม. ประจำพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากหน่วยงานภาครัฐ ให้เข้าถึงสิทธิสวัสดิการรัฐตามสมควร เช่น การรักษาพยาบาล เงินอุดหนุนผู้พิการ/ผู้สูงวัย เป็นต้น

  3. 3. จัดเตรียมทุนสงเคราะห์และข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นตามรายเคส พร้อมระดมสิ่งของบริจาคเพิ่มเติม โดยหากจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือปรับสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ หรือต้องให้ความช่วยเหลือที่ใช้งบประมาณมากเกินกว่างบประมาณขั้นต่ำที่ตั้งไว้ ทางมูลนิธิฯ อาจพิจารณาเพิ่มงบประมาณการสนับสนุนพิเศษเป็นกรณีไป

  4. 4. ทำการลงเยี่ยมพื้นที่ สัมภาษณ์และให้ความรู้ที่จำเป็นร่วมกับทีมงานเครือข่าย พร้อมการติดตามเคสผ่านหน่วยงานเครือข่ายหรือทีมงานของมูลนิธิ เพื่อพิจารณาการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม หรือความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเป็นกรณีไป

แผนการดำเนินงาน

  1. ม.ค. 2569

    ทีมงานมูลนิธิ ได้แก่ ทีมนักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ ร่วมกับ "บ้านพักเด็กและครอบครัวประจำจังหวัด (ตามพื้นที่เป้าหมาย)" พิจารณาเคสช่วยเหลือเร่งด่วน และการให้ทุนสงเคราะห์ พร้อมวางแผนการประสานงานและลงพื้นที่

  2. ก.พ. 2569

    ประสานส่งต่อและประสานงานร่วมกันกับ หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ได้แก่ อบต. หรือเทศบาล รวมทั้งครูผู้สอน ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนในลักษณะของสหวิชาชีพ

  3. ก.พ. 2569

    ลงเยี่ยมบ้านเด็กเพื่อติดตาม (เคสเดิม) หรือตรวจสอบหาข้อเท็จจริงและปรึกษาหารือร่วมกันในการแก้ไขและช่วยเหลือเด็กที่กำลังประสบปัญหานั้นๆ อยู่ รวมทั้ง การมอบสิ่งของ/เครื่องใช้/อาหาร ที่จำเป็น (ที่ได้รับบริจาค) การมอบทุนการศึกษา มอบทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือ เช่น ค่าเดินทางเพื่อรับการรักษาในโรงพยาบาลที่อยู่ห่างไกล เป็นต้น

แผนการใช้เงิน

รายการจำนวนจำนวนเงิน (บาท)
ค่าชุดของบริจาคอุปโภค/บริโภคที่จำเป็น เฉลี่ย 1,500 บาท/ชุด

เช่น นมผง นมกล่อง ผ้าอ้อม ข้าวสาร อาหารแห้ง และของใช้อื่น ๆ (ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในบ้าน 2-10 คน และอายุของเด็ก ๆ)

10ชุด (ครอบครัว)15,000.00
เงินสมทบช่วยเหลือ หรือ เงินสบทบทุนการศึกษา (ขั้นต่ำ) 2,500 บาท/ครอบครัว

10ครอบครัว25,000.00
ค่าเดินทางเฉลี่ยของเจ้าหน้าที่ลงเยี่ยมพื้นที่ 1,000 บาท/ครั้ง (รถรับจ้าง/รถส่วนตัว) ทั้งในพื้นที่ จ.หนองคาย, เลย, อุดรธานี และบึงกาฬ (ไป-กลับ)

อ้างอิงอัตราการเบิกจ่ายของข้าราชการ สำหรับการปฏิบัติงานนอกสถานที่ในราชอาณาจักร - ค่าเดินทาง 500 บาท ต่อเที่ยว x 2 เที่ยว (ไป-กลับ)

10ครั้ง (ในการลงพื้นที่)10,000.00
รวมเป็นเงินทั้งหมด50,000.00
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%)5,000.00
ยอดระดมทุน
55,000.00

ผู้รับผิดชอบโครงการ

พื้นที่ 4 จังหวัดในอีสานตอนบน อันได้แก่ หนองคาย อุดรธานี เลยและ บึงกาฬ เป็นจังหวัดที่อยู่พื้นที่ห่างไกลมีความเป็นชนบทตามแบบชุมชนพื้นที่เกษตรกรรมซึ่งประสบปัญหาการเพาะปลูกบ่อยครั้ง ทำให้ครอบครัวจำนวนมากมีปัญหาด้านเศรษฐกิจครัวเรือนส่งผลให้พ่อแม่/หนุ่มสาวต้องทิ้งลูกหลานเพื่อหางานทำงานในต่างพื้นที่ ทำให้ผู้สูงวัยในบ้านต้องดูแลเด็ก ๆ ตามลำพัง เด็กจำนวนมากจึงขนาดพัฒนาการตั้งแต่แรกเกิด อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษามาก ที่สำคัญศูนย์พัฒนาการเด็กเล็กและโรงเรียนขนาดเล็กของภาครัฐมักขาดงบประมาณ ขาดทรัพยากรในการพัฒนาการศึกษาของเด็กปฐมวัย และเด็กประถมในภาคอีสาน มูลนิธิกัลยาณมิตรเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชน ได้เล็งเห็นปัญหาของการเข้าถึงโปรแกรมพัฒนาการเด็กในพื้นที่ ซึ่งเราตระหนักว่าช่วงเด็กวัย 0-6 ปีนี้ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก (ตามหลัก EF) ในช่วงวัย 6-12 ปี เราพบสถิติการไม่เข้าเรียนต่อในระดับมัธยมสูง และพบปัญหาด้านสังคม/ปัญหาเยาวชนในพื้นที่ค่อนข้างมาก มูลนิธิจึงริเริ่ม 4 โครงการหลัก ได้แก่ “โครงการพัฒนาเด็กปฐมวัย" "โครงการครูอาสาเพื่อนักเรียนไทย (ชั้นประถมศึกษา)" เพื่อจัดกิจกรรมพิเศษด้านต่าง ๆ รวมทั้งพัฒนาทักษะการสื่อสารในครอบครัวให้กับผู้ปกครอง (ค่ายครอบครัว) "โครงการช่วยเหลือเด็กและครอบครัวที่ยากลำบาก" และ "โครงการพัฒนาเด็กในสถานสงเคราะห์" โดยทุกโครงการเน้นการพัฒนาเจริญเติบโตของเด็ก อย่างรอบด้านทั้งกาย ใจ สังคม ปลูกฝังจริยธรรม และพัฒนาการสมอง ตามหลัก EF-Executive Function ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินโครงการตามกำลังร่วมกับผู้มีจิตศรัทธา, ภาคการศึกษาเด็กปฐมวัยระดับจังหวัด และหน่วยงานท้องที่ต่าง ๆ เป็นเวลากว่า 10 ปี ซึ่งเราได้สร้างผลกระทบเชิงบวกทางอ้อมกับเด็กปฐมวัย (0-6 ปี) เฉลี่ย 5,582 คน/ปี ผ่านโครงการอบรมผู้ปกครองและครู เฉลี่ยกว่า 10 ท้องที่ จำนวน 768 คน/ปี และการฟื้นฟูปรับปรุงศูนย์ดูแลเด็กเล็กของรัฐ เฉลี่ย 2 แห่ง/ปี ช่วยให้เด็กและครอบครัวในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงบริการที่ปลอดภัยกับเด็กเล็กเฉลี่ย 20-40 แห่ง สำหรับผลกระทบทางตรงกับเด็กระดับประถม 6-12 ปี ผ่านกิจกรรมในโรงเรียนขนาดเล็ก 8 โรงเรียน/ปี เฉลี่ย 1,065 คน/ปี ผ่านโครงการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่อยู่ในสภาวะยากลำบาก เฉลี่ย 127คน/ปี และโครงการพัฒนาเด็กในสถานสงเคราะห์ 100 คน/ปี

ดูโปรไฟล์

สร้างเพจระดมทุน

ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้

สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้
icon