cover_1

อาชาบำบัดเพื่อเด็กพิเศษ

เด็กและเยาวชน
สัตว์
ผู้ป่วย ผู้พิการ

เงินบริจาคของคุณจะนำมาสอนขี่ม้าให้กับเด็กพิเศษ20คน

project succeeded
โครงการสำเร็จแล้ว
17 มี.ค. 2557

อัปเดตโครงการภาพกิจกรรมอาชาบำบัดเพื่อเด็กพิเศษทั้ง 4 ครั้งและความประทับใจของผู้ปกครอง

ช่วงเวลาที่ทำกิจกรรม

17 มี.ค. 2557 - 17 มี.ค. 2557

โครงการอาชาบำบัดเพื่อเด็กพิเศษ เจ้าของโครงการโดยครูเต้ ศราวุธ ค้าขาย หลังจากระดมเงินบริจาคสำเร็จ ครูเต้ และ ทีมงานวัลภาฟาร์ม ก็ได้วางแผนร่วมจัดกิจกรรมตลอดเดือนธันวาคม พ.ศ.2556 เป็น จำนวน 4 ครั้ง ร่วมกับศูนย์การศึกษาพิเศษ เขต 6  จังหวัดลพบุรี พร้อมทั้งคณะผู้ปกครองของเด็กๆ ด้วย

ครั้งที่ 1 จัดกิจกรรมขึ้นในวันที่  4  ธันวาคม  2556
ภาพกิจกรรมเพิ่มเติมที่ www.facebook.com : ครั้งที่1
 
ครั้งที่  2 จัดกิจกรรมขึ้นใน  วันที่  11  ธันวาคม  2556
ภาพกิจกรรมเพิ่มเติมที่ www.facebook.com : ครั้งที่2
 
ครั้งที่  3  จัดกิจกรรมขึ้นในวันที่  18  ธันวาคม  2556 
ภาพกิจกรรมเพิ่มเติมที่ www.facebook.com : ครั้งที่3
 
ครั้งสุดท้ายวันคริสต์มาส  วันที่  25  ธันวาคม  2556
 
ภาพกิจกรรมเพิ่มเติมที่ www.facebook.com : ครั้งที่4
 

หลังจากกิจกรรมโครงการอาชาบำบัดเพื่อเด็กพิเศษครบทั้ง 4 ครั้ง สิ้นสุดลง ทางครอบครัวของน้องๆ จากศูนย์การศึกษาพิเศษ เขต 6 ที่ได้เข้าร่วมโครงการ ได้เห็นลูกๆ ของตนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรกันบ้าง 

ครอบครัวน้องเก้า
น้องเก้าปกติแล้วจะเป็นเด็กที่ชอบร้องโวยวาย ทำร้ายร่างกายแม่เวลาที่ไม่ได้ดังใจ แต่เมื่อน้องเก้าได้ขี่ม้า น้องเก้าจะนิ่งขึ้น และคุณแม่สังเกตได้ว่าเป็นกิจกรรมที่น้องชอบคุณแม่จึงพามาเข้าร่วมกิจกรรมทุกทั้งที่ทางเรานำม้าไปที่โรงเรียน  คุณแม่บอกว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ดี น้องได้มีโอกาสเข้าร่วมถือว่าโชคดีมาก และที่โชคดีอีกอย่างหนึ่งคือ ได้ค้นพบสิ่งที่ลูกชอบ และมีความสุขที่ได้ชี่ม้า
 
ครอบครัวน้องเอ
น้องเอเป็นเด็กกลุ่มดาวน์ซินโดรม มีความกลัวสัตว์  และกลัวสิ่งต่างๆ อยู่มาก แต่ด้วยคุณแม่พยายามเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิดและคอยเปิดโอกาสพาน้องไปเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆอยู่เสมอ น้องจึงค่อยๆดีขึ้น น้องเอมาเข้าร่วมโครงการอาชาบำบัดในครั้งสุดท้าย เพียงครั้งเดียวเนื่องจากเพิ่งทราบข่าว น้องได้ขี่ม้า แม้ว่าจะมีความกลัวอยู่บ้าง แต่ก็สามารถทำได้ดี โดยมีคุณแม่เดินประคองไปด้วย คุณแม่น้องเอมีความสนใจในโครงการนี้มากและเล่าให้ฟังว่า ตนนั้นเป็นประธานชมรมครอบครัวเด็กพิการของชุมชนที่บ้าน มีความสนใจอยากจัดกิจกรรมอาชาบำบัดลักษณะนี้ให้กับเด็กในละแวกชุมชนของตนเองบ้าง  เนื่องจากบ้านอยู่ไกลจากโรงเรียนที่เราทำกิจกรรมอยู่ จึงอยากให้มีการนำม้าไปจัดทำกิจกรรมที่ชุมชนที่ตนอยู่ด้วย จะได้เปิดโอกาสให้เด็กที่ยากจนและไม่มีโอกาสได้เข้ามาในเมืองได้ขี่ม้าและทำกิจกรรมดีๆ ด้วยกัน ซึ่งทางฟาร์มได้มีการให้เบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อกันอีกครั้งหนึ่งหากผู้ปกครองสนใจโครงการ  
 
ครอบครัวน้องทอม
น้องทอมเป็นเด็กคนหนึ่งที่ครั้งแรกมีความกลัวในการขี่ม้า แต่เมื่อได้ขึ้นไปลองขี่ม้าแล้วพบว่าน้องมีความสุขอย่างที่คนที่มองอยู่ด้านล่างสังเกตุได้ เมื่อได้ขี่หลายรอบเข้าก็สามารถพัฒนาได้ดี คุณพ่อน้องทอมบอกว่า ปกติแล้วจะไม่ค่อยรอคอยอะไร แต่ถ้าบอกว่ามาขี่ม้า น้องจะรอได้ และเมื่อต้องรอคิวขี่ม้าต่อจากเพื่อนน้องก็ยอมที่จะรอ คุณพ่อบอกว่าดีที่มีโครงการแบบนี้ทำให้เด็กๆ ได้รู้จักม้า ได้ใกล้ชิดม้า และมีโอกาสได้ขี่ ได้สัมผัสม้า เพราะปกติแล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสพาลูกไปขี่ม้า หรือสัมผัสสัตว์ประเภทนี้ได้ที่ไหน เพราะโรงเรียนมีม้า แต่ดุและขี่ไม่ได้  
จากการทำกิจกรรมอาชาบำบัดที่ได้ดำเนินการเรียบร้อยไปแล้วนั้น ผู้ดำเนินโครงการมองว่าเป็นกิจกรรมที่ได้รับการตอบรับที่ดี และเป็นกิจกรรมที่มอบโอกาสดีๆ ให้กับเด็กๆ หลายคน ที่ไม่มีโอกาสได้เข้าถึงการขี่ม้า หรือได้รู้จักสัตว์ประเภทม้านี้เท่าไรนัก การขี่ม้าทำให้เด็กๆ หลายคนได้ค้นพบสัตว์ที่ตนเองชอบ และกิจกรรมที่ตนเองชอบ เด็กหลายคนรอคอยที่จะได้ขี่ม้าอีกรอบ รอต่อคิวที่เพื่อนกำลังขี่อยู่ว่าเมื่อไรจะถึงรอบของตน เป็นการฝึกการรอคอยอีกรูปแบบหนึ่ง  
 
แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่ากิจกรรมดังกล่าวจะเป็นกิจกรรมที่สร้างความสุข ความประทับใจแก่เด็กๆ และผู้ปกครองที่ได้เห็นลูกหลานมีความสุขเมื่ออยู่บนหลังม้าแล้วนั้น  ยังมีข้อจำกัดด้านเวลาที่ทุกๆ คนอยากที่จะให้มีการทำกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง ผู้ปกครองบางท่านได้มีการติดต่อขอพาลูกๆ ไปขี่ม้าที่ฟาร์ม แต่ก็ยังมีอีกจำนวนมากที่มีข้อจำกัดทั้งเรื่องตัวเด็กเองและข้อจำกัดของผู้ปกครองที่ไม่สามารถพาลูกไปขี่ม้านอกรอบได้
 
"ทั้งนี้ทางฟาร์ม คณะครู นักเรียนและผู้ปกครอง  ขอขอบคุณทุกท่านๆจากโครงการเทใจ ที่ได้ให้โอกาสในการทำกิจกรรมดีๆ ให้กับเด็กๆ กลุ่มนี้ ขอให้สิ่งดีๆ และความสุขเกิดขึ้นกับทุกคนเช่นเดียวกันค่ะ"
 
 
ทีมงานวัลลภาฟาร์ม
16 ธ.ค. 2556

อัปเดตโครงการคำขอบคุณจากเจ้าของโครงการอาชาบำบัดเพื่อเด็กพิเศษ

ช่วงเวลาที่ทำกิจกรรม

16 ธ.ค. 2556 - 16 ธ.ค. 2556

โครงการอาชาบำบัดเพื่อเด็กพิเศษ ได้รับเงินสนับสนุนจากสมาชิกทุกท่าน จนสำเร็จเป็นจำนวน 11,001 บาท ทางเจ้าของโครงการอาชาบำบัดเพื่อเด็กพิเศษ นำโดย ครูเต้ ศราวุธ ค้าขาย และทีมงาน จึงขอขอบคุณที่ทำให้โครงการอาชาบำบัดร่วมกับศูนย์การศึกษาพิเศษ เขต 6 จังหวัดลพบุรี ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 2 ทั้งนี้ทางทีมงานเจ้าของโครงการได้ฝากความประทับใจต่อผู้สนับสนุนเงินบริจาคดังนี้

"คณะครู นักเรียน และผู้ปกครอง มีความสุขมากที่มีโครงการอาชาบำบัดนี้ เพราะหลายคนไม่มีโอกาสที่จะได้สัมผัสม้าหรือกิจกรรมลักษณะดังกล่าว และโครงการนี้ทำให้เด็กๆหลายคนได้พบเจอประสบการณ์ดีๆ ความรู้สึกดีๆ เวลาที่อยู่บนหลังม้า ทำให้เด็กหลุดพ้นจากความกลัว  ความกังวลก่อนที่เด็กจะขึ้นขี่บนหลังม้า กลายเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากใจ

นอกจากนั้นทางโรงเรียนได้มีการเขียนบันทึกโครงการอาชาบำบัดเพื่อเด็กพิเศษไว้ในแผนงานกิจกรรมของโรงเรียน และเขียนขอบคุณผู้สนับสนุนแสนใจดีทุกคน ที่ให้โอกาสเด็กๆ ได้เข้าร่วมกิจกรรม และมีผู้ที่สนใจโครงการฯ ร่วมสนับสนุนเด็กๆ เป็นอาหาร  เครื่องดื่ม  ขนม  เป็นการร่วมทำบุญกับเราอีกหลายรายเช่นเดียวกัน

วัลลภาฟาร์ม  คณะครู  นักเรียน  และผู้ปกครอง  ขอขอบคุณเทใจดอทคอมที่เป็นสื่อกลางในการแบ่งปันความสุขให้กับเด็กๆ  ขอบคุณทุกเงินบริจาคจากทุกๆ ท่านที่สนับสนุนกิจกรรมดีๆ ที่มีให้กับสังคมไทยของเรา  ขอให้ทุกคนมีความสุขมากขึ้นๆเช่นกันค่ะ"

ครูเต้และทีมงานได้วางแผนกิจกรรมไว้ตลอดทั้งเดือนธันวาคม โดยจัดแบ่งเป็น  4  ครั้ง  เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง โดยเลือกทุกวันพุธในการดำเนินโครงการ

ครั้งที่ 1  วันที่  4  ธันวาคม  2556  
ครั้งที่ 2  วันที่  11  ธันวาคม  2556  
ครั้งที่ 3  วันที่  18  ธันวาคม  2556  
และครั้งสุดท้าย   วันที่  25  ธันวาคม  2556
 
ลักษณะการดำเนินงานคือ  การฝึกให้เด็กทรงตัวอยู่บนหลังม้า  พาจูงเดิน  โดยมีครู  พี่เลี้ยง  หรือพ่อแม่  และทีมงานจากวัลลภาฟาร์มช่วยกันประคองและดูแลอย่างใกล้ชิด
(เนื่องจากเด็กมีจำนวนมากและลักษณะที่แตกต่างกัน  ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ  และต้องสังเกตเรื่องพัฒนาการเป็นรายบุคคล)
 
แล้วเราจะนำภาพกิจกรรม มาให้ชมในครั้งต่อไปค่ะ :3