โครงการอาชาบำบัดเพื่อเด็กพิเศษ เจ้าของโครงการโดยครูเต้ ศราวุธ ค้าขาย หลังจากระดมเงินบริจาคสำเร็จ ครูเต้ และ ทีมงานวัลภาฟาร์ม ก็ได้วางแผนร่วมจัดกิจกรรมตลอดเดือนธันวาคม พ.ศ.2556 เป็น จำนวน 4 ครั้ง ร่วมกับศูนย์การศึกษาพิเศษ เขต 6 จังหวัดลพบุรี พร้อมทั้งคณะผู้ปกครองของเด็กๆ ด้วย
ครั้งที่ 1 จัดกิจกรรมขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม 2556
ครั้งที่ 2 จัดกิจกรรมขึ้นใน วันที่ 11 ธันวาคม 2556
ครั้งที่ 3 จัดกิจกรรมขึ้นในวันที่ 18 ธันวาคม 2556
ครั้งสุดท้ายวันคริสต์มาส วันที่ 25 ธันวาคม 2556
หลังจากกิจกรรมโครงการอาชาบำบัดเพื่อเด็กพิเศษครบทั้ง 4 ครั้ง สิ้นสุดลง ทางครอบครัวของน้องๆ จากศูนย์การศึกษาพิเศษ เขต 6 ที่ได้เข้าร่วมโครงการ ได้เห็นลูกๆ ของตนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรกันบ้าง
ครอบครัวน้องเก้า
น้องเก้าปกติแล้วจะเป็นเด็กที่ชอบร้องโวยวาย ทำร้ายร่างกายแม่เวลาที่ไม่ได้ดังใจ แต่เมื่อน้องเก้าได้ขี่ม้า น้องเก้าจะนิ่งขึ้น และคุณแม่สังเกตได้ว่าเป็นกิจกรรมที่น้องชอบคุณแม่จึงพามาเข้าร่วมกิจกรรมทุกทั้งที่ทางเรานำม้าไปที่โรงเรียน คุณแม่บอกว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ดี น้องได้มีโอกาสเข้าร่วมถือว่าโชคดีมาก และที่โชคดีอีกอย่างหนึ่งคือ ได้ค้นพบสิ่งที่ลูกชอบ และมีความสุขที่ได้ชี่ม้า
ครอบครัวน้องเอ
น้องเอเป็นเด็กกลุ่มดาวน์ซินโดรม มีความกลัวสัตว์ และกลัวสิ่งต่างๆ อยู่มาก แต่ด้วยคุณแม่พยายามเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิดและคอยเปิดโอกาสพาน้องไปเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆอยู่เสมอ น้องจึงค่อยๆดีขึ้น น้องเอมาเข้าร่วมโครงการอาชาบำบัดในครั้งสุดท้าย เพียงครั้งเดียวเนื่องจากเพิ่งทราบข่าว น้องได้ขี่ม้า แม้ว่าจะมีความกลัวอยู่บ้าง แต่ก็สามารถทำได้ดี โดยมีคุณแม่เดินประคองไปด้วย คุณแม่น้องเอมีความสนใจในโครงการนี้มากและเล่าให้ฟังว่า ตนนั้นเป็นประธานชมรมครอบครัวเด็กพิการของชุมชนที่บ้าน มีความสนใจอยากจัดกิจกรรมอาชาบำบัดลักษณะนี้ให้กับเด็กในละแวกชุมชนของตนเองบ้าง เนื่องจากบ้านอยู่ไกลจากโรงเรียนที่เราทำกิจกรรมอยู่ จึงอยากให้มีการนำม้าไปจัดทำกิจกรรมที่ชุมชนที่ตนอยู่ด้วย จะได้เปิดโอกาสให้เด็กที่ยากจนและไม่มีโอกาสได้เข้ามาในเมืองได้ขี่ม้าและทำกิจกรรมดีๆ ด้วยกัน ซึ่งทางฟาร์มได้มีการให้เบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อกันอีกครั้งหนึ่งหากผู้ปกครองสนใจโครงการ
ครอบครัวน้องทอม
น้องทอมเป็นเด็กคนหนึ่งที่ครั้งแรกมีความกลัวในการขี่ม้า แต่เมื่อได้ขึ้นไปลองขี่ม้าแล้วพบว่าน้องมีความสุขอย่างที่คนที่มองอยู่ด้านล่างสังเกตุได้ เมื่อได้ขี่หลายรอบเข้าก็สามารถพัฒนาได้ดี คุณพ่อน้องทอมบอกว่า ปกติแล้วจะไม่ค่อยรอคอยอะไร แต่ถ้าบอกว่ามาขี่ม้า น้องจะรอได้ และเมื่อต้องรอคิวขี่ม้าต่อจากเพื่อนน้องก็ยอมที่จะรอ คุณพ่อบอกว่าดีที่มีโครงการแบบนี้ทำให้เด็กๆ ได้รู้จักม้า ได้ใกล้ชิดม้า และมีโอกาสได้ขี่ ได้สัมผัสม้า เพราะปกติแล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสพาลูกไปขี่ม้า หรือสัมผัสสัตว์ประเภทนี้ได้ที่ไหน เพราะโรงเรียนมีม้า แต่ดุและขี่ไม่ได้
จากการทำกิจกรรมอาชาบำบัดที่ได้ดำเนินการเรียบร้อยไปแล้วนั้น ผู้ดำเนินโครงการมองว่าเป็นกิจกรรมที่ได้รับการตอบรับที่ดี และเป็นกิจกรรมที่มอบโอกาสดีๆ ให้กับเด็กๆ หลายคน ที่ไม่มีโอกาสได้เข้าถึงการขี่ม้า หรือได้รู้จักสัตว์ประเภทม้านี้เท่าไรนัก การขี่ม้าทำให้เด็กๆ หลายคนได้ค้นพบสัตว์ที่ตนเองชอบ และกิจกรรมที่ตนเองชอบ เด็กหลายคนรอคอยที่จะได้ขี่ม้าอีกรอบ รอต่อคิวที่เพื่อนกำลังขี่อยู่ว่าเมื่อไรจะถึงรอบของตน เป็นการฝึกการรอคอยอีกรูปแบบหนึ่ง
แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่ากิจกรรมดังกล่าวจะเป็นกิจกรรมที่สร้างความสุข ความประทับใจแก่เด็กๆ และผู้ปกครองที่ได้เห็นลูกหลานมีความสุขเมื่ออยู่บนหลังม้าแล้วนั้น ยังมีข้อจำกัดด้านเวลาที่ทุกๆ คนอยากที่จะให้มีการทำกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง ผู้ปกครองบางท่านได้มีการติดต่อขอพาลูกๆ ไปขี่ม้าที่ฟาร์ม แต่ก็ยังมีอีกจำนวนมากที่มีข้อจำกัดทั้งเรื่องตัวเด็กเองและข้อจำกัดของผู้ปกครองที่ไม่สามารถพาลูกไปขี่ม้านอกรอบได้
"ทั้งนี้ทางฟาร์ม คณะครู นักเรียนและผู้ปกครอง ขอขอบคุณทุกท่านๆจากโครงการเทใจ ที่ได้ให้โอกาสในการทำกิจกรรมดีๆ ให้กับเด็กๆ กลุ่มนี้ ขอให้สิ่งดีๆ และความสุขเกิดขึ้นกับทุกคนเช่นเดียวกันค่ะ"
ทีมงานวัลลภาฟาร์ม