cover_1

อาชาบำบัดเพื่อเด็กพิเศษ

เด็กและเยาวชน
สัตว์
ผู้ป่วย ผู้พิการ

เงินบริจาคของคุณจะนำมาสอนขี่ม้าให้กับเด็กพิเศษ20คน

project succeeded
โครงการสำเร็จแล้ว

ระยะเวลาระดมทุน

31 พ.ค. 2556 - 30 ต.ค. 2556

พื้นที่ดำเนินโครงการ

ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขต 6 จ.ลพบุรี

เป้าหมาย SDGs

GOOD HEALTH AND WELL-BEINGQUALITY EDUCATIONREDUCED INEQUALITIESPARTNERSHIPS FOR THE GOALS

กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ

เด็กและเยาวชน
20คน
สถานศึกษา
1แห่ง

"อาชาบำบัด" กระตุ้นพัฒนาการทางด้านร่างกาย ปัญญา และอารมณ์ของเด็กพิเศษด้วยการขี่ม้า!!

ปัญหาสังคม

ที่มา/ความสำคัญโครงการ :

"ลูกมีความกล้าที่จะทำ ไม่กลัว มีสมาธิมากขึ้น" คำพูดจากครอบครัวของเด็กพิเศษ 

"เป็นกิจกรรมที่ดี อยากให้จัดกิจกรรมขึ้นอีก" คำพูดคุณครูจากศูนย์การศึกษาพิเศษ เขต 6

ถ้อยคำเหล่านี้เป็นเสียงการตอบรับจากกิจกรรมอาชาบำบัดครั้งก่อน ซึ่งศูนย์การศึกษาพิเศษ เขต 6 มี "เด็กพิเศษ" ที่ประสบปัญหาเรื่องสมาธิสั้น ควบคุมร่างกายและอารมณ์ไม่ค่อยได้ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการเข้าสังคม แต่ใช่ว่าพวกเขาจะเรียนรู้ไม่ได้เลย วัลลภาฟาร์มร่วมกับศูนย์การศึกษาพิเศษ เขต 6 ทางเน้นการฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพโดยวิธีอาชาบำบัดร่วมกับเด็ก จำนวน 20 คน และพบว่าเด็กพิเศษมีสมาธิมากขึ้น มีความกล้า รู้จักการออกคำสั่งกับม้า 

อาชาบำบัดเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับกันไปทั่วโลก ในต่างประเทศมีการนำ "ม้า" มาเป็นตัวช่วยในการบำบัดให้เด็กพิเศษมีพัฒนาการดีขึ้นมาหลายร้อยปี การขี่ม้าและการทำกิจกรรมต่างๆ บนหลังม้า เนื่องจากม้าเป็นสัตว์ที่มีจังหวะการเดินคล้ายกับคน ทำให้เมื่อเด็กนั่งอยู่บนหลังม้าก็เหมือนฝึกเดินด้วยตัวเอง และการทำกิจกรรมบนหลังม้ายังช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย นอกจากนั้นม้าเป็นสัตว์ที่ฉลาด สามารถสื่อสารรับรู้ความรู้สึกของผู้ขี่ได้ เด็กๆ จึงได้ฝึกเรื่องการควบคุมอารมณ์ไปในตัว

ครูเต้ ศราวุธ ค้าขาย ครูสอนขี่ม้า เจ้าของฟาร์มม้าเล็กๆ ในลพบุรี เห็นข้อดีของการใช้ม้าบำบัด จึงทำโครงการอาชาบำบัดขึ้นมาอีกครั้งและอยากจะทำแบบต่อเนื่องกับกลุ่มเด็กพิเศษ ดังนี้ขั้นแรกจะให้เด็กทำความคุ้นเคยกับม้าก่อน ด้วยการให้เข้าไปหาม้าใกล้ๆ เรียกชื่อม้า สัมผัสม้า ให้อาหารม้า ขั้นต่อมาจะให้เด็กขึ้นไปนั่งบนหลังม้า สอนวิธีการนั่งที่ถูกต้อง ซึ่งเด็กจะต้องมีสมาธิ สนใจฟัง เด็กจะได้ฝึกการควบคุมตัวเอง เพราะโดยสัญชาตญาณแล้วทุกคนจะกลัวตกม้า ก็เลยต้องควบคุมร่างกายให้ทรงตัวนั่งได้อย่างปลอดภัย จากนั้นสมองจะเริ่มสั่งการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อต่างๆ ทั้งมัดเล็กมัดใหญ่ทำงาน ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ เมื่อม้าเดินเคลื่อนที่เด็กจะเริ่มตื่นตัว มีสมาธิ จัดระเบียบร่างกายตนเองให้สมดุล ทำให้ทรงตัวได้ดีขึ้น และเมื่อฝึกไปเรื่อยๆ ก็จะมีสมาธิยาวขึ้นด้วย ส่วนเด็กที่มีปัญหาด้านการพูดก็จะถูกกระตุ้นจากการที่ต้องออกคำสั่งกับม้า โดยทุกขั้นตอนในการบำบัดจะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

แม้ว่าการบำบัดด้วยม้าจะไม่ได้ทำให้หายจากการเป็นเด็กพิเศษ แต่ก็ช่วยให้สามารถปรับสภาพร่างกายให้สมดุล ลดความก้าวร้าว มีพัฒนาการทางด้านร่างกายและจิตใจดีขึ้น รู้จักการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และกล้าพบปะผู้คนมากขึ้น ส่งผลให้เด็กพิเศษสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ดีขึ้นด้วย

ประโยชน์ของโครงการ :

  1. เด็กพิเศษได้รับการกระตุ้นการพัฒนาการทางด้านร่างกาย จากการฝึกใช้กล้ามเนื้อมัดต่างๆ
  2. เด็กพิเศษได้รับการกระตุ้นการพัฒนาการทางด้านปัญญา จากการฝึกในเรื่องของสมาธิ การตัดสินใจ
  3. เด็กพิเศษได้รับการกระตุ้นการพัฒนาการทางจิตใจ อารมณ์ ควบคุมอารมณ์ มีจิตใจที่อ่อนโยนขึ้น รู้จักการเข้าสังคม
  4. เด็กพิเศษ ที่ได้ขี่ม้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จะสามารถพัฒนานำมาเป็นความสามารถพิเศษ ให้เป็นที่ยอมรับของสังคมได้
 

สมาชิกภายในทีม :

  1. ครูเต้ (ศราวุธ ค้าขาย) จบปริญญาตรี ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล  เคยเป็นนักวิทยาศาสตร์ ที่สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา  และผันตัวเองมาเป็นครูสอนขี่ม้า เจ้าของธุรกิจของครอบครัว ฟาร์มม้าเล็กๆ ในจังหวัดลพบุรี และมาพบกับศาสตร์ที่ว่าด้วยการนำสัตว์มาบำบัดกับเด็กพิเศษ  ที่เรียกกันว่า "อาชาบำบัด  ( Hippotherapy ) จึงศึกษาเพิ่มเติม  และนำมาปรับใช้กับฟาร์ม  พบว่าเด็กที่มาบำบัด มีพัฒนาการที่ดีขึ้น อย่างเห็นได้ชัดเจน  จึงสร้างกิจกรรมอาชาบำบัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  2. ครูเบญ (มุทิตา ค้าขาย) ปริญญาตรี การจัดการพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  3. ครูอ๊อด นักสันทนาการและดูแลเด็กพิเศษ
  4. ผู้ช่วยครูกอล์ฟ เด็กพิเศษ ที่มีความสามารถด้านการขี่ม้า จูงม้า
  5. ผู้ช่วยครูบิ๊ก เด็กพิเศษ ที่มีความสามารถด้านการขี่ม้า จูงม้า

"อาชาบำบัด ลดการต่อต้าน
เพิ่มการสื่อสาร คืนสู่สังคม"

ภาคี :

ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขต 6 จังหวัดลพบุรี

วิธีการแก้ปัญหา

  1. ระดมทุนเป็นค่าอาชาบำบัดให้กับเหล่าเด็กพิเศษ เพื่อช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย ฝึกใช้กล้ามเนื้อมัดต่างๆ และม้าสามารถสื่อสารรับรู้ความรู้สึกของผู้ขี่ได้ เด็กๆ จึงได้ฝึกเรื่องการควบคุมอารมณ์ไปในตัว

แผนการดำเนินงาน

  1. นำม้ามาสอนเด็กพิเศษขี่ม้า ณ ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขต 6 จังหวัดลพบุรี สัปดาห์ละ 1 วัน ติดต่อกัน  4 สัปดาห์ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง

แผนการใช้เงิน

รายการจำนวนจำนวนเงิน (บาท)
ค่าพาหนะ

ครั้งละ 1,250 บาท

4ครั้ง5,000.00
ค่าเบี้ยเลี้ยงและอาหาร

ครั้งละ 1,500 บาท

4ครั้ง6,000.00
รวมเป็นเงินทั้งหมด11,000.00
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%)1,100.00
ยอดระดมทุน
12,100.00

ผู้รับผิดชอบโครงการ

เทใจ - TaejaiDotCom

เทใจ - TaejaiDotCom

กรุงเทพมหานคร

เทใจดอทคอม เริ่มต้นจากความต้องการช่วยเหลือกลุ่มคนที่อยากทำเรื่องดีๆ เพื่อสังคม เทใจเป็นโครงการภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีมูลนิธิเพื่อ “คนไทย” และ สถาบัน ChangeFusion ร่วมกันสร้างพื้นที่กลางนี้ขึ้นมา เราอยากให้เทใจเป็นพื้นที่สำหรับคนที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม และให้สมาชิกของเทใจสามารถมีส่วนร่วมติดตามผลการดำเนินโครงการที่ตนบริจาคได้

ดูโปรไฟล์

สร้างเพจระดมทุน

ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้

สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้
icon