cover_1

Community-based Marine Protected Areas Fund

Donations for the project will Supporting locals to guard, care, and restore the natural for sustainable to Marine conservation areas around local communities in varying numbers.5communities

Donate to this Project

Donate

Donations for the project will Supporting locals to guard, care, and restore the natural for sustainable to Marine conservation areas around local communities in varying numbers.5communities

Donate

Taejai supports e-Donation, offering tax deductions

Jul 21, 2025

Project Updateกำหนดข้อตกลงของเขตอนุรักษ์ทะเลโดยชุมชนประมงพื้นบ้าน 5 ชุมชน

Activity time

Jan 1, 2024 - Dec 31, 2024

โครงการกองทุนส่งเสริมเขตอนุรักษ์ทะเลโดยชุมชนประมงพื้นบ้าน ได้ดำเนินกิจกรรมกับ 5 ชุมชน อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้เกิดการกำหนดเขตอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลในพื้นที่ต่างๆ จากการดำเนินโครงการ ผลการดำเนินงานแบ่งเป็นพื้นที่ดังนี้

จุดประสงค์และผลลัพธ์ที่คาดหวังของโครงการมีดังต่อไปนี้

  1. มีเขตอนุรักษ์ทรัพยากรเพิ่มขึ้นในพื้นที่ภายใต้โครงการฯ ส่งผลให้ชาวประมงพื้นบ้านได้รับข้อมูลแนวคิดเรื่องการจัดการเขตอนุรักษ์ฯและมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมงานอนุรักษ์ของชุมชน ซึ่งจะช่วยให้เกิดการประมงที่อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยมีการวางประการังเทียมพื้นบ้านหรือบ้านปลา(ซั้งกอ)มีธนาคารปูที่ผลิตลูกปูคืนทะเลได้ปีละอย่างน้อย 300-500ล้านตัว และการอนุรักษ์ที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ซึ่งแตกต่างออกไป เช่น มีการฟื้นฟูป่าโกงกางหรือหญ้าทะเล เป็นต้น
    เขตพื้นที่อนุรักษ์ของชุมชนสามารถวัดผลให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน มีตัวชี้วัดสำคัญ เช่น การวัดเปรียบเทียบความหลากหลายทางชีวภาพ ขนาด จำนวนสัตว์น้ำ และพืชน้ำสำคัญ ความชุกชุม/อุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำ เปรียบเทียบพื้นที่ภายนอก
  2. ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 20% เทียบกับก่อนดำเนินโครงการ 1 ปี จากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นและการจัดการผลิตในรูปแบบเศรษฐกิจชุมชนและมีการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ร้านคนจับปลาและการซื้อขายปกติ
  3. ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารทะเลที่ปลอดภัยจากสารเคมี จากการซื้อผลผลิตจากชาวประมงในพื้นที่โครงการ

การดำเนินงานในพื้นที่นำร่อง ดังกล่าวได้รวมกิจกรรมสำคัญดังนี้

  1. สร้างเขตอนุรักษ์ทะเลโดยชุมชน -มีการกำหนดพื้นที่อนุรักษ์ เช่น ซั้งกอ ปะการังเทียมและบ้านปลา
  2. การจัดทำธนาคารปูและฟื้นฟูหญ้าทะเล -ส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ทะเลวัยอ่อน
  3. เฝ้าระวังและป้องกันการทำประมงที่ทำลายล้าง -มีการสร้างกติกาชุมชนเพื่อควบคุมการจับปลา
  4. พัฒนาเครือข่ายร้านคนจับปลา -ส่งเสริมการจับ แปรรูป และจัดจำหน่ายอาหารทะเลที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน
  5. พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ -ให้ชุมชนมีรายได้เสริมจากการท่องเที่ยวที่ไม่กระทบต่อระบบนิเวศ
  6. พัฒนาและบังคับใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่ง -เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการดูแลทะเล

แผนที่และข้อตกลงของเขตอนุรักษ์ทั้ง 5 พื้นที่

1. บ้านทุ่งน้อย ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

(1) เขตอนุรักษ์ทุ่งน้อย

       กฎกติกาชุมชน -ห้ามล้อมจับบริเวณซั้งกอในรัศมี 50 เมตร แต่สามารถตกปลาได้

(2)เขตอนุรักษ์พันธุ์หอยตลับ/หอยแครง

       กฎกติกาชุมชน

  1. กำหนดแปลงพ่อแม่พันธุ์จำนวน 1 ไร่ อยู่บริเวณกลางแปลงโดยห้ามจับหอยแครงในเขต 1 ไร่ เด็ดขาด
  2. ในระยะ 6 เดือนแรก ห้ามจับหอยแครง/หอยตลับในเขตฯจนกว่าหอยที่ปล่อยจะมีชีวิตรอดและโตเต็มวัย
  3. วิธีการจับหอยแครง/หอยตลับ ต้องจับด้วยมืออย่างเดียว ห้ามตะแกรง ห้ามคราด ห้ามอุปกรณ์ช่วยอย่างอื่น
  4. ขนาดหอยที่อนุญาตให้จับ(จับอย่างยั่งยืน)หอยแครง อย่างน้อยขนาด 4 เซนติเมตร/หอยตลับ อย่างน้อย 3 เซนติเมตร
  5. กำหนดช่วงเวลาในการจับ - ทุกคนมีสิทธิ์จับหอยแครง/หอยตลับ ภายใต้กติกาชุมชน

2. บ้านสะทัง ต.หานโพธิ์ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง

       กติกาข้อตกลง

  • ห้ามล้อมกระทุ้งน้ำ
  • ห้ามราวเบ็ด
  • ห้ามโละปลา
  • ห้ามวางอวนขนาดต่ำกว่า 2.5 เซนติเมตร

       หากมีการทำผิดกติกามีบทลงโทษ

  • ทำผิดครั้งที่ 1 ตือน
  • ทำผิดครั้งที่ 2 ริบเครื่องมือประมง และสัตว์น้ำที่จับได้
  • ทำผิดครั้งที่ 3 เสียค่าปรับ พร้อมส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

3. บ้านหลอมปืน ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล

(1) เขตอนุรักษ์บ้านหลอมปืน

       ข้อตกลงของชุมชนในการใช้ประโยชน์จากบริเวณซั้งกอบ้านปลา

  1. ไม่ใช้ลอมอวนทุกชนิดในลักษณะล้อมซั้ง เพื่อป้องกันการจับสัตว์น้ำบริเวณซั้งกอ บ้านปลาจำนวนมากเกินไป
  2. ไม่ใช้แพปั่นไฟ ที่มีการปั่นไฟด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทุกชนิด บริเวณซั้งกอบ้านปลา เว้นแต่ใช้ไฟ แสงสว่างจากแบตเตอรี่ หรือเพื่อให้แสงสว่างบนเรือ
  3. ไม่ใช้เครื่องมือกระทุ้งน้ำ หรืออื่นใด ที่มีลักษณะคล้ายกันเพื่อวัตถุประสงค์ไล่ต้อนสัตว์น้ำ กระทำต่อสัตว์น้ำในบริเวณซั้งกอ
  4. ไม่ใช้เครื่องมือประมงอื่นใดที่กฎหมายกำหนดห้ามมิให้ใช้ในเขตทะเลชายฝั่ง
  5. จะใช้ "เบ็ด" เพียงอย่างเดียวในบริเวณซั้งกอบ้านปลาเพื่อการใช้ประโยชน์จากซั้งกอ บ้านปลาเป็นไปอย่างยั่งยืน ห้ามการใช้เบ็ดทำการประมงเพื่อการอื่น เช่น การใช้เบ็ดตกปลาเชิงพานิชย์หรือการท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์
  6. กำหนดมีขอบเขตในการจัดการที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ อย่างยั่งยืนในข้อกำหนด 1-5 ในรัศมี 200 เมตร รอบซั้งกอบ้านปลา
  7. ห้ามวางโป๊ะน้ำตื้นในบริเวณซั้งกอ
(2) เขตอนุรักษ์บริเวณอ่าวทุ่งนุ้ย

       กติกาการใช้ประโยชน์ป่าชายเลน

  1. ละเว้นการใช้เครื่องมืออวนล้อมจับน้ำตื้น,อวนทับตลิ่ง,อวนกระทุ้งน้ำ
  2. ละเว้นการใช้เครื่องมือคราดหอย ทำการคราดหอย
  3. ห้ามใช้เครื่องมือลอบปูที่มีขนาดช่องตาอวนโดยรอบเล็กกว่า 2.5 นิ้ว
  4. ห้ามใช้เครื่องมือผิดกฎหมายตาม พรก.การประมง พ.ศ.2558
  5. ห้ามตัดไม้ในป่าชายเลน

4. บ้านเกาะลอย ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

เขตอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล

       ข้อกำหนดพื้นที่อนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่ง

  1. กลุ่มประมงพื้นบ้านต้องทำซั้งและบ้านปลาทุกปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
  2. ห้ามใช้เครื่องมือ/วิธีการจับสัตว์น้ำทุกชนิดในเขตอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรตลอดทั้งปี ยกเว้นการจับด้วยเบ็ดตกปลา/ทอดแหริมตลิ่ง/ลากเคยด้วยคน
  3. ห้ามรื้อถอน ทำลายบ้านปลา ธง ป้าย หรือเครื่องหมายต่างๆในแนวเขตอนุรักษ์
  4. การศึกษาวิจัยโดยใช้เครื่องมือต่างๆภายในเขตอนุรักษ์ จะต้องแจ้งให้คณะกรรมการกลุ่มอนุรักษ์ที่ดูแลเขตนั้นๆและผู้ใหญ่บ้านรับทราบอย่างเป็นทางการ

       บทกำหนดโทษ

  • ครั้งที่ 1 ว่ากล่าวตักเตือนและลงบันทึกโดยคณะกรรมการกลุ่มอนุรักษ์ที่ดูแลเขตนั้นๆ
  • ครั้งที่ 2 ว่ากล่าวตักเตือนลงบันทึกโดยคณะกรรมการกลุ่ม และแจ้งให้ผู้นำทางการในพื้นที่บ้านเกาะลอยและพื้นที่ของผู้กระทำผิดทราบ
  • ครั้งที่ 3 ว่ากล่าวตักเตือน ลงบันทึกโดยคณะกรรมการกลุ่ม แจ้งให้ผู้นำทางการในพื้นที่บ้านเกาะลอยและพื้นที่ผู้กระทำผิดทราบ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  และดำเนินการตามระเบียบข้อกฎหมายต่อไป

5. บ้านนาทับ

      กฎ/กติกาและพื้นที่ทำซั้งกอ

  • เนื่องจากบริเวณจุดทำซั้งกอ ของพื้นที่บ้านนาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา ไม่ใช่บริเวณชาบฝั่ง ที่สามารถมองเห็นจากบนฝั่งได้ แต่เป็นทะเลน้ำลึกต้องนั่งเรือไปประมาณ 3 กิโลเมตร จึงไม่ได้ตั้งกฎหรือบทลงโทษหากมีผู้กระทำผิดลักลอบทำประมงในบริเวณที่วางซั้ง จึงทำในรูปแบบการประกาศให้ชาวประมงทราบและขอความร่วมมือไม่ให้เข้าไปทำประมงในเขตซั้งกอ