เงินบริจาคของคุณจะนำไปสร้างบ่อแช่น้ำยาเพื่อรักษาเนื้อไม้ไผ่และจัดกิจกรรมให้ความรู้เชิงปฏิบัติการให้กับเด็กเยาวชนและประชาชนในหมู่บ้านป่าซางนาเงิน300คน
"ยุ๊มมาฉ่า" ภาษาอาข่าแปลว่า "บ้านไม้ไผ่"
การสร้างบ่อแช่น้ำยาไม้ไผ่ โดยใช้เกลือบอแรกซ์ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะยืดอายุไม้ไผ่ได้เป็น 10 เท่า จากบ้าน 5 ปี เป็น 50 ปี และประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 50,000 บาท/ครัวเรือน นอกจากนี้จะมีการเรียนรู้การออกแบบสถาปัตยกรรมไม้ไผ่โดยผู้เชี่ยวชาญ ผ่านการสร้างสิ่งปลูกสร้างตัวอย่างจริงให้แก่เด็กและคนในชุมชน ส่งเสริมการสร้างอาชีพช่างไม้ไผ่ สถาปนิก การออกแบบ หรืออาชีพอื่นๆได้ในอนาคต
ซึ่งโครงการนี้จะแก้ปัญหาใหญ่ของชาวอาข่าคือเรื่องการเงิน ชาวอาข่ารายได้ต่ำแต่ต้องหาเงินมาสร้างบ้านเพราะชุมชนขยายตัว ปัจจุบันชาวอาข่านิยมสร้างบ้านคอนกรีตแม้แพงกว่าบ้านไม้ไผ่มากแต่บ้านไม้ไผ่มีจุดอ่อนคือความไม่คงทน
วิถีชีวิตชุมชนชาวอาข่าที่มีความผูกพันกับไม้ไผ่มาช้านาน ด้วยบริบทพื้นที่ตั้งชุมชนท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เป็นป่าไผ่ บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง เครื่องมือที่ใช้ในครัวเรือน หรือแม้แต่อุปกรณ์การละเล่น และพิธีกรรมทางความเชื่อก็ผลิตจากไม้ไผ่เป็นวัสดุหลัก ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี ที่ ผู้จัดทำโครงการได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนบ้านป่าซางนาเงินด้วยบทบาทครูและได้มีส่วนช่วยในการพัฒนาชุมชน ทำให้ได้เห็นถึงโอกาสในการพัฒนาชุมชนจากจุดแข็งด้านทรัพยากรไม้ไผ่ องค์ความรู้ความชำนาญ ทักษะงานหัตถศิลป์ งานช่างไม้ไผ่ และ เยาวชนผู้ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาชุมชน ผู้จัดทำโครงการมองเห็นความเป็นไปได้ในการพัฒนาชุมชนแห่งนี้จากจุดแข็ง และโอกาสที่มีอยู่
โครงการพัฒนาคุณภาพไม้ไผ่จึงได้ริเริ่มขึ้นครั้งแรกจากจากกระบวนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project Based Learning : PBL) ในรายวิชางานอาชีพเกษตร โรงเรียนบ้านป่าซางนาเงิน ปีการศึกษา 2564 โดยมีกระบวนการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ภูมิปัญญาไม้ไผ่ชุมชนจากปราชญ์ชุมชน วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะองค์ความรู้ที่สามารถประยุกต์ใช้และถ่ายทอดได้ ตลอดจนผู้เรียนได้มีบทบาทร่วมมือกับชุมชนในการสร้างสรรค์พัฒนาผลิตผลท้องถิ่น ซึ่งโครงการดังกล่าวก็ประสบผลเป็นรูปธรรมผ่านนวัตกรรมกระถางไม้ไผ่ไม้ประดับที่มีการออกจำหน่ายนอกพื้นที่ชุมชน และภายหลังการดำเนินโครงการ PBL ภายในโรงเรียน ทำให้ผู้จัดทำโครงการมองเห็นโอกาส และแผนในการพัฒนาจากปัญหา เพื่อต่อยอด ขยายผลลัพธ์สู่ชุมชนอย่างยั่งยืนขึ้น ผ่านโครงการ ยุ๊มมาฉ่า ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอาข่าและการพัฒนาบ้านไม้ไผ่ชุมชนบ้านป่าซางนาเงิน
***หากบริจาคตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป จะได้รับริสแบนด์ ทำมือจากชาวอาข่า(ส่งสลิปที่เพจFacebook "โรงเรียนบ้านป่าซางนาเงิน")
ยุ๊มมาฉ่า-ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอาข่าและการพัฒนาบ้านไม้ไผ่ชุมชนบ้านป่าซางนาเงิน จะเป็นพื้นที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ในการสร้างบ้านไม้ไผ่ให้กับชุมชน ซึ่งจะทำให้คนในชุมชนสามารถนำตัวอย่างและองค์ความรู้ไปใช้สร้างสิ่งปลูกสร้างจากไม้ไผ่ ได้อย่างยั่งยืน รายละเอียดในด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจเริ่มจาก เดิมวิถีชีวิตชุมชนอาข่าสร้างที่อยู่อาศัยโดยการใช้วัสดุจากธรรมชาติ อาทิ ไม้ไผ่และหญ้าคา ผ่านภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมา
แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปเเละด้วยจุดอ่อนของไม้ไผ่ ในเรื่องอายุการใช้งานของไม้ไผ่จากศัตรูทำลายเนื้อไม้ เเละรูปแบบที่อยู่อาศัยที่คงทนถาวร ชุมชนจึงเปลี่ยนจากไม้ไผ่มาใช้วัสดุสมัยใหม่นำเข้าจากนอกพื้นที่ การสร้างบ้านด้วยวัสดุสมัยใหม่ จึงต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากค่าวัสดุก่อสร้างแล้ว ค่าขนส่งที่สูงเนื่องจากที่ตั้งพื้นที่ทำให้ชุมชนต้องหารายได้มากขึ้น เพื่อนำมาสร้างที่อยู่อาศัยด้วยวัสดุสมัยใหม่
ถึงแม้จะมีที่อยู่อาศัยจากไม้ไผ่ลดลง แต่ชุมชนบ้านป่าซางนาเงินยังคงใช้ไม้ไผ่ในการดำเนินชีวิตทุกหลังคาเรือน เช่น ส่วนต่อเติมและส่วนประกอบที่อยู่อาศัย อาทิ รั้ว โรงครัว โรงรถ กระท่อมที่ต้องสร้างใหม่ทุกๆ 2 - 5 ปี ตามอายุการใช้งานของไม้ไผ่ที่ไม่ได้ผ่านการการถนอมรักษาเนื้อไม้ (treatment) อย่างเหมาะสม เห็นได้ว่าสาเหตุหลักของการใช้ไม้ไผ่ลดลง คือ ปัญหาเรื่องศัตรูทำลายเนื้อไม้ เเละเทคนิคการก่อสร้างที่มั่นคง ปัจจุบัน ไม้ไผ่เป็นวัสดุที่มีความยั่งยืน (Sustainable materials) ทดเเทนได้รวดเร็ว ประกอบกับในพื้นที่มีจำนวนมาก จึงมีต้นทุนสำหรับการใช้งานที่ค่อนข้างต่ำ จนเกิดงานวิจัยเเละนวัตกรรม ทั้งด้าน การถนอมรักษาเนื้อไม้ โดยวิธีการที่นิยมมากที่สุด คือ การใช้สารประกอบโบรอน(บอเเรกซ์ - บอริก) เป็นเกลือธรรมชาติรูปแบบหนึ่งนิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เมื่อนำมาใช้ในงานไม้ ไม่มีพิษ (Non-toxic) ส่งกระทบต่อสิ่งเเวดล้อมน้อยที่สุด เเละให้ประสิทธิภาพคุ้มค่ากับต้นทุนที่ใช้ ด้านการก่อสร้างเเละสถาปัตยกรรม ปัจจุบันงานไม้ไผ่เป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้น จึงมีการพัฒนาการออกแบบเเละเทคนิคแบบใหม่ รวมทั้งเทคนิคจากภูมิปัญญาเดิม อาทิ การเข้าไม้ด้วยลิ่ม การมัด การผ่าฟาก รวมทั้งการออกแบบร่วมกับวัสดุสมัยใหม่
นอกจากความรู้เรื่องไม้ไผ่แล้ว ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้สามารถใช้ประโยชน์ในการเรียนรู้สำหรับเด็กและชุมชนได้ทุกเรื่อง มีอาทิ ทำให้เป็นสถานที่แสดงผลงานของเด็ก และชุมชน ให้แก่บุคคลทั้งภายในและภายนอกชุมชน สามารถจัดแสดงได้ในรูปแบบที่เป็นชิ้นงาน เช่น สิ่งประดิษฐ์จากการเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ ภาพวาดจากการเรียนรู้เรื่องศิลปะ ชุดประจำเผ่าอาข่า หรือรูปแบบการแสดง เช่น เป็นเวทีในการแสดงการเต้นแนวร่วมสมัยหรือการแสดงประจำเผ่าอาข่า แสดงความสามารถในการร้องเพลง เล่นดนตรี การทำอาหาร ฯลฯ
ประเภท | จำนวน | รายละเอียด | เปลี่ยนแปลง |
เด็กและเยาวชน | 14 | กลุ่มเด็กและเยาวชนเคยเรียนวิชา PBL จากครูในโครงการทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ และได้ทำโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากทรัพยากรในชุมชน โดยมีชื่อแบรนด์ว่า AKHAYA ซึ่งจะขายต้นไม้ที่มีในชุมชนสู่ภายนอก และผลิตกระถางต้นไม้จากไม้ไผ่ในชุมชน |
1. นักเรียนจากรายวิชา PBL มีองค์ความรู้ในการพัฒนาคุณภาพไม้ไผ่ผ่านกระบวนการยืดอายุไม้ไผ่ 2. นักเรียนจากรายวิชา PBL มีองค์ความรู้ในกระบวนการก่อสร้างศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอาข่าและการพัฒนาคุณภาพไม้ไผ่ชุมชนบ้านป่าซางนาเงิน |
แกนนำชุมชน | 17 | แกนนำชุมชนมีความรู้และภูมิปัญญาในการสร้างสิ่งปลูกสร้างด้วยไม้ไผ่ เพียงแต่ขาดแนวทางการพัฒนาในรูปแบบใหม่ๆ และขาดผู้ดำเนินงานโครงการหลัก |
1. แกนนำชาวบ้านและนักเรียนจากรายวิชา PBL มีองค์ความรู้ในการพัฒนาคุณภาพไม้ไผ่ผ่านกระบวนการยืดอายุไม้ไผ่ 2. แกนนำชาวบ้านและนักเรียนจากรายวิชา PBL มีองค์ความรู้ในกระบวนการก่อสร้างศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอาข่าและการพัฒนาคุณภาพไม้ไผ่ชุมชนบ้านป่าซางนาเงิน |
คนในชุมชน | 400 | คนในชุมชนมีทักษะในการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างด้วยไม้ไผ่ แต่เนื่องจากไม่เป็นที่นิยมและไม่คงทนถาวร จึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างบ้านไม้ไผ่เท่าบ้านปูนซีเมนต์ |
1. คนในชุมชนร้อยละ 50 ที่เข้าร่วมกระบวนการเรียนรู้ ได้รับมุมมองแบบใหม่เกี่ยวกับการนำไม้ไผ่มาใช้ในการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง 2. คนในชุมชนมาใช้ประโยชน์จากสิ่งปลูกสร้างจากไม้ไผ่ |
คนในชุมชนใกล้เคียง | 300 | คนในชุมชนมีความรู้และภูมิปัญญาดั้งเดิมในการสร้างบ้านด้วยไม้ไผ่ |
1. คนในชุมชนได้รับการพัฒนาความรู้ ภูมิปัญญาด้านการสร้างบ้านไม้ไผ่ที่ใช้งานได้นานขึ้นพร้อมกับได้เรียนรู้การออกแบบสิ่งปลูกสร้างที่ทันสมัยขึ้น 2. คนในชุมชนมาใช้ประโยชน์จากสิ่งปลูกสร้างจากไม้ไผ่ |
สร้างบ่อแช่น้ำยาเพื่อรักษาเนื้อไม้ไผ่ ถนอมรักษาเนื้อไม้โดยวิธีการที่นิยมมากที่สุด คือ การใช้สารประกอบโบรอน(บอเเรกซ์ - บอริก) เป็นเกลือธรรมชาติรูปแบบหนึ่งนิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เมื่อนำมาใช้ในงานไม้ ไม่มีพิษ (Non-toxic) ส่งกระทบต่อสิ่งเเวดล้อมน้อยที่สุด เเละให้ประสิทธิภาพคุ้มค่ากับต้นทุนที่ใช้
จัดกิจกรรมให้ความรู้เชิงปฏิบัติการ(Workshop) ทำให้เป็นสถานที่แสดงผลงานของเด็ก และชุมชน ให้แก่บุคคลทั้งภายในและภายนอกชุมชน
ขั้นเตรียมโครงการ สำรวจข้อมูลชุมชน จัดตั้งทีมงานประชาสัมพันธ์รับความคิดเห็น
ขั้นดำเนินโครงการ • ติดต่อที่ปรึกษาด้านสถ่ปัตยกรรม • จัดหางบประมาณ • สอนวิชา PBL • ที่ปรึกษาออกแบบกิจกรรม ออกแบบ/ขออนุญาตสร้าง • จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ • ก่อสร้างบ่อทรีตเมนต์ • อบรมเชิงปฎิบัติการด้านงานสถาปัตกรรม
ขั้นสรุปโครงการ • ทำสรุปความสำเร็จโครงการ • รวมรวมองค์ความรู้เป็นรูปธรรม และหลักการส่งต่อความรู้อย่างยั่งยืน
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
ส่วนที่ 1 งบประมาณในส่วนการสร้างบ่อทรีทเมนต์ ขนาดกว้าง 1.5 ม. ยาว 7 ม. ลึก 1.5 ม. อยู่ใต้ดิน 1 ม. บนดิน 0.5 ม. หนา 0.15 ม. ปูนโครงสร้าง(ปูนแดง) | 49กระสอบ | 7,056.00 |
ทรายหยาบ | 5คิว | 2,500.00 |
หิน | 10คิว | 8,000.00 |
เหล็กเส้น DB12 | 40เส้น | 10,480.00 |
เหล็กเส้น RB9 | 20เส้น | 3,000.00 |
ค่าขนส่ง 6 ล้อ 5 คิว | 4เที่ยว | 10,000.00 |
ส่วนที่ 2 งบประมาณด้านการทรีทเมนต์ สำหรับน้ำก่อนผสม 8 ลบ.ม. Borax+Boric acid (คำนวณจากราคา Celbor SP) | 24กระสอบ | 33,600.00 |
Hydrometer (วัดความเข้มข้น) | 1อัน | 500.00 |
ค่าขนส่ง | 1เที่ยว | 8,200.00 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 83,336.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 8,333.60 |
ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้