เงินบริจาคของคุณจะพัฒนาศักยภาพ สร้างครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงให้กับครูผู้สอนรุ่นใหม่108คน
ทางมูลนิธิฯ ได้ดำเนินการสรรหาและคัดเลือกจนได้ครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่นที่ 9 มาจำนวน 56 คน จัดการอบรมเป็นเวลา 2 เดือน และได้ส่งไปปฏิบัติงานสอนใน 3 วิชา คือคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ใน 50 โรงเรียนทั่วประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ร่วมกับครูผู้นำฯ รุ่นที่ 8 จำนวน 42 คน ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ก่อนแล้ว และได้ทำการสอนจบภาคการศึกษาที่ 2/2565 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งสามารถเข้าถึงนักเรียน 19,000 คน ใน 15 จังหวัดทั่วประเทศไทย ครูผู้นำฯ ทั้ง 101 คนได้เข้าไปมอบการศึกษาที่มีคุณภาพ ผ่านเทคนิคการสอนที่หลากหลาย และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเรียน ครู และชุมชนรอบข้าง ซึ่งจะมีบริบทท้าทายที่แตกต่างกันให้ครูผู้นำฯ แต่ละท่านได้เผชิญและลงมือแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
โดยนักเรียนมีพัฒนาการทางด้านวิชาการในภาคเรียนที่ 2/2565 ดีขึ้นดังนี้
ในปี 2566 นี้ มูลนิธิทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ กำลังมุ่งสรรหาครูผู้นำฯ รุ่น 10 อีกถึง 80 คน ที่จะเข้ามาปฏิบัติงานในเดือนพฤศจิกายน 2566 นี้ โดยในปีนี้จะมีการร่วมงานกับกรุงเทพมหานครและส่งครูผู้นำฯ ไปปฏิบัติงานในโรงเรียนขาดแคลนในกรุงเทพฯมากขึ้น นอกจากนี้ ยังจะต้องมีการติดตามผลการปฏิบัติงานของครูผู้นำฯรายบุคคล ภาคเรียนละ 2 ครั้ง รวมถึงการอบรมรวมประจำปีของเหล่าครูผู้นำ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งด้วยการปฏิบัติงานที่ต้องการการติดตามผลอย่างใกล้ชิด และการขยายโครงการใหญ่ขึ้นเกือบเท่าตัว ทำให้ในปี 2566 โครงการครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงของมูลนิธิฯ ยังต้องการการสนับสนุนอยู่มาก
พร-ภัทรานิษฐ์ ฤทธิแสง ใช้เวลาเพียง 3 ปีครึ่งในรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก่อนที่จะได้รับปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์มาครอบครอง ด้วยความที่เรียนจบเร็วกว่าคนอื่น พรจึงได้มีโอกาสได้ไปลองทำงานบริษัท แต่ไม่นาน พรก็ค้นพบว่าโลกในมหาวิทยาลัยกับโลกในการทำงานนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ด้วยความที่พรเป็นนักศึกษาที่ตั้งหน้าตั้งตาเรียน ไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตข้างนอก แถมไม่มีประสบการณ์การทำงาน พรจึงประสบปัญหาในการปรับตัวให้เข้ากับโลกการทำงานนี้ พรจึงมองว่าโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลงนั้นตอบโจทย์ความต้องการในช่วงชีวิตดังกล่าว “โครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลงให้โอกาสเด็กจบใหม่ในการปรับสภาพ และสร้างความคุ้นชินให้กับโลกภายนอกก่อน … ทางโครงการเองไม่ได้ปล่อยให้เราไปเผชิญโลกด้วยตัวเอง มีระบบที่คอยดูแล คอยประคองเราอยู่ พรเลยคิดว่าตรงนี้ตอบโจทย์”
คุณสมใจ (แม่ของครูก้อย, ครูผู้นำฯ ของโครงการ) ผู้ที่ไม่สนับสนุนให้ลูกสาวเข้าร่วมโครงการนี้มาตั้งแต่แรก ได้เปลี่ยนความคิดหลังจากครูก้อยเริ่มปฏิบัติหน้าที่จริง
“เอาตรงๆคือ พอครูก้อยมาบอกแม่ว่ามันคืออะไร แม่ขอเปิดใจเลยว่าไม่อยากให้ทำ เพราะแม่อยากให้เขาทำงานธนาคารมากกว่า และแม่เองก็ไม่รู้จักโครงการนี้ แต่ครูก้อยเขาบอกว่า ขอหนูลองทำดูก่อนได้ไหมแม่ ให้หนูได้มีประสบการณ์ และหาความรู้ ตอนแรกก็มีทะเลาะกันบ้าง ร้องไห้ แต่แม่ก็บอกเขาว่า ถ้าหนูมีใจรักทางนี้ก็ไป ครูก้อยเขาให้แม่ตัดสินใจ แม่เลยให้ลองทำ ถ้าไม่ดี 2 ปีค่อยเปลี่ยนงานก็ได้
“ครูก้อยเคยมาเล่าให้ฟังว่า แม่ หนูไม่คิดเลยว่าการเป็นครูจะดี และมีเกียรติแบบนี้ เขาเล่าว่าเขามีวินมอเตอร์ไซค์คอยรับส่งเขาตลอด อายุมากกว่าพ่อเขาอีก พอเขาบอกว่าเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนที่เขาสอน วินคนนี้ยกมือไหว้ทุกวัน เรียกครูก้อย และบอกว่าลูกเขาก็เรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เขาบอกว่าลูกบอกว่าครูก้อยเป็นคนน่ารัก”
กลุ่มที่ได้รับประโยชน์ | จำนวน | ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น |
เด็กนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยครูผู้นำฯ 1 วิชา นาน 1 ปีการศึกษา | 114,155 คน | นักเรียนมีความเปลี่ยนแปลงด้านผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ ซึ่งในภาคเรียนล่าสุด 2/2565 นักเรียนมีพัฒนาการทางวิชาการสูงขึ้นถึง 29% นอกจากนี้ทักษะที่จำเป็น และ คุณลักษณะที่ส่งเสริมการเรียนรู้ยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย |
คุณครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง | 56 คน | ครูมอบการศึกษาที่มีคุณภาพ ผ่านเทคนิคการสอนที่หลากหลาย และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเรียน ครู และชุมชนรอบข้าง |
โรงเรียน | 92 โรงเรียน | บุคลากรในโรงเรียนได้แลกเปลี่ยนกระบวนการพัฒนานักเรียนกับครูผู้นำฯ และมีเป้าหมายในการพัฒนานักเรียนร่วมกันในโรงเรียนที่ชัดเจนขึ้น |