เงินบริจาคของคุณจะนำไปจัด workshopให้กับนักเรียนที่กำลังจะเข้าสู่วัยสาว3โรงเรียน
โครงการ Sisters’ Care จึงมีจุดประสงค์ที่จะจัดทำโครงการเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ “การเป็นสาว” โดยนำข้อมูลและความรู้เชิงวิชาการ เกี่ยวกับ “การเป็นสาว” ของเด็กหญิงไทย ที่ได้ศึกษาวิจัยจากโครงการที่ได้รับการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจาก สสส. ในปี 2564 และได้รับอนุญาตแล้วในรูปของการจัด workshop เพื่อให้ข้อมูลกับน้องๆ ผู้หญิงที่กำลังเข้าสู่วัยสาวที่กำลังเรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 โดยพี่ๆ นักเรียนในระดับมัธยมต้นหรือมัธยมปลายเพื่อช่วยเหลือน้องๆ และแบ่งปันประสบการณ์การมีประจำเดือนและการดูแลตัวเองในระหว่างการมีประจำเดือนในช่วงแรกๆ ที่จะทำให้น้องๆ มีความเข้าใจที่ดีและถูกต้องเกี่ยวกับการเข้าสู่วัยสาวและการดูแลตนเองหลังจากการเป็นสาว
“การเป็นสาว” เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของเด็กผู้หญิงทุกคนในโลกใบนี้ไม่ว่าจะยากดีมีจน มีนิยามที่ตรงกันไม่ว่าจะในศาสนาหรือวัฒนธรรมใดก็คือ ภาวะที่เด็กผู้หญิงเปลี่ยนผ่านได้เป็นหญิงสาวจากการมีประจำเดือนครั้งแรก ที่หมายถึงความพร้อมทางกายภาพที่จะตั้งครรภ์ได้ แต่ในปัจจุบัน “การเป็นสาวก่อนวัย” เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกมุมโลกที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านประชากรในเรื่องของภาวะเจริญพันธุ์ (Fertility) จากผลการสำรวจในหลายประเทศทั่วโลก สอดคล้องกับผลสำรวจขององค์การอนามัยโลก ซึ่งพบว่า “โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของการเป็นสาวก่อนวัย” โดยในภาพประกอบที่ 1 แสดงแนวโน้มของเด็กผู้หญิงที่มีรอบเดือนครั้งแรกในประเทศต่างๆ ทั่วโลก นับตั้งแต่ปี 1830 จนถึงปี 2010 ซึ่งจะเห็นได้ว่าอายุเฉลี่ยของเด็กผู้หญิงมีแนวโน้มลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องในทุกประเทศที่มีการจัดเก็บข้อมูล (Sørensen and Mouritsen, 2012)
จากผลการศึกษาในประเทศไทยในปี 2564 โดย ปังปอนด์ รักอำนวยกิจ และคณะ โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า อายุแรกเป็นประจำเดือนของเด็กหญิงไทยเฉลี่ยอยู่ที่อายุ 11.27 ปี ลดลงจากการสำรวจในปี 2540 ที่อายุเฉลี่ย 12.5 ปีอย่างมีนัยสำคัญ
“การเป็นสาวก่อนวัย” ยังสะท้อนสถานะทางสุขภาพของประชากรที่เปลี่ยนแปลงไปอันเป็นผลมาจากปัจจัยทางโภชนาการ และเงื่อนไขทางด้านสภาพแวดล้อม (Ameade & Garti,2016) โดย “การเป็นสาวก่อนวัย” อาจนำมาซึ่งปัญหาสังคมอื่นๆ ตามมา เช่น การตั้งครรภ์ในเด็กผู้หญิงที่ยังอยู่ในวัยเรียน หรือวัยที่ยังไม่มีความพร้อมทางด้านเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาสถานะทางด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นกับตัวเด็ก เช่น การมีส่วนสูงต่ำกว่าค่ามาตรฐานหรือปัญหาโครงสร้างกระดูกหยุดการเจริญเติบโตก่อนวัยอันควร และความเครียดโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กหญิงที่มีประจำเดือนก่อนวัยอันควร ในขณะที่ การให้ความรู้กับเด็กหญิงในเรื่อง แนวโน้มการเป็นประจำเดือนเร็ว ปัจจัยที่ทำให้มีประจำเดือนเร็ว และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเป็นประจำเดือนและการดูแลตัวเองในระหว่างเป็นประจำเดือนยังไม่มีความชัดเจนและเป็นระบบ
การแก้ปัญหาของ โครงการ Sisters’ Care จึงมีจุดประสงค์ที่จะจัดทำโครงการเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ “การเป็นสาว” โดยนำข้อมูลและความรู้เชิงวิชาการ เกี่ยวกับ “การเป็นสาว” ของเด็กหญิงไทย ที่ได้ศึกษาวิจัยจากโครงการจาก อาจารย์ ปังปอนด์ รักอำนวยกิจ และได้รับอนุญาตแล้วในรูปของการจัด workshop เพื่อให้ข้อมูลกับน้องๆ ผู้หญิงที่กำลังเข้าสู่วัยสาวที่กำลังเรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 โดยพี่ๆ นักเรียนในระดับมัธยมต้นหรือมัธยมปลายเพื่อช่วยเหลือน้องๆ และแบ่งปันประสบการณ์การมีประจำเดือนและการดูแลตัวเองในระหว่างการมีประจำเดือนในช่วงแรกๆ ที่จะทำให้น้องๆ มีความเข้าใจที่ดีและถูกต้องเกี่ยวกับการเข้าสู่วัยสาวและการดูแลตนเองหลังจากการเป็นสาว และเราจะให้นักเรียนในระดับชั้นต่างๆพูดคุยและแชร์ประสบการณ์กัน ไม่ได้มีแต่การให้ความรู้จากมุมมองของผู้ใหญ่ ซึ่งส่งผลให้น้องๆนักเรียนได้รับรู้ถึงประสบการณ์ที่แตกต่างกันที่ไม่ตายตัว เพื่อเตรียมในการรับมือเมื่อเข้าสู่วัยสาว
แบ่งเป็น 3 เฟส
1. การจัด workshop นำร่อง 3 โรงเรียนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และต่างจังหวัด เพื่อประเมินรูปแบบการจัด workshop และประเมินเครื่องมือและความสนใจของนักเรียนและครูที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งประโยชน์ที่ได้จากโครงการ โดยการจัดทำ workshop ประกอบด้วย
2. การสร้าง “เครือข่ายพี่สาว” โดย
3. จัด workshop “Sisters’ Care” ในพื้นที่ทั่วประเทศ
ผู้รับผิดชอบโครงการ: นางสาวปังหวาน ผลพิรุฬห์
(‘พี่สาว” ชั้น ม.5 โรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า ผู้มีประสบการณ์การเป็นประจำเดือนเร็ว และมีน้องๆ และเพื่อนๆ มาปรึกษาปัญหาการเป็นประจำเดือนเป็นประจำ จนเป็นที่มาของโครงการนี้)
ระดมทุนจัด workshop ให้กับนักเรียนที่กำลังจะเข้าสู่วัยสาวได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ “การเป็นสาว” มากขึ้น รวมถึงการตระหนักถึงวิธีการดูแลและระมัดระวังตนเอง
ให้นักเรียนในระดับชั้นต่างๆ พูดคุยและแชร์ประสบการณ์กัน ไม่ได้มีแต่การให้ความรู้จากมุมมองของผู้ใหญ่ ซึ่งส่งผลให้น้องๆ นักเรียนได้รับรู้ถึงประสบการณ์ที่แตกต่างกันที่ไม่ตายตัว เพื่อเตรียมในการรับมือเมื่อเข้าสู่วัยสาว
จัด workshop นำร่อง 3 โรงเรียนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และต่างจังหวัด เพื่อประเมินรูปแบบการจัด workshop และประเมินเครื่องมือและความสนใจของนักเรียนและครูที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งประโยชน์ที่ได้จากโครงการ
สร้าง “เครือข่ายพี่สาว” โดยประชาสัมพันธ์โครงการผ่าน website และช่องทาง Instragram รับสมัคร “พี่สาว” ที่จะเป็นผู้นำในโครงการ Sisters’ Care ประจำภูมิภาค และจังหวัดต่างๆ
จัด workshop “Sisters’ Care” ในพื้นที่ทั่วประเทศ
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
ค่าเอกสารสำหรับจัดงานอบรม โรงเรียนละ 50 คน คนละ 100 บาท | 3โรงเรียน | 1,500.00 |
ค่าอาหาร/เครื่องดื่ม สำหรับนักเรียนที่เจ้าร่วมโครงการ โรงเรียนละ 50 คน คนละ 200 บาท | 3โรงเรียน | 3,000.00 |
ค่าเดินทางเพื่อไปกลับ โรงเรียนละ 800 บาท | 3โรงเรียน | 2,400.00 |
ค่าประสานงาน โรงเรียนละ 1,000 บาท | 3โรงเรียน | 3,000.00 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 9,900.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 990.00 |
ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้