cover_1

ช่วยค่ารถรับ-ส่ง เด็กที่ขาดโอกาสได้ไปเรียน

เด็กและเยาวชน
คนชายขอบ/คนไร้สัญชาติ

เงินบริจาคของคุณจะช่วยค่ารถรับ-ส่งให้กับเด็กข้ามชาติที่ขาดโอกาสได้ไปเรียน145คน

project succeeded
โครงการสำเร็จแล้ว
19 ก.ย. 2567

รายงานปิดโครงการช่วยค่ารถรับ-ส่งนักเรียน 164 คน

ช่วงเวลาที่ทำกิจกรรม

1 ม.ค. 2567 - 30 มิ.ย. 2567

พื้นที่ที่ทำกิจกรรม

ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก 63110 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก 63160 ต.แม่ระมาด อ.แม่ระมาด จ.ตาก 63140

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ

เด็กและเยาวชน
164คน
สถานศึกษา
0แห่ง

โครงการได้เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2567 นี้ ขณะนี้ทางโครงการได้ดำเนินโครงการไปแล้ว 5 เดือน คือเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม พฤษภาคม และมิถุนายน

โดยโครงการได้ดำเนินการจ่ายค่ารถรับส่งนักเรียนให้กับโรงเรียนทั้งหมด 5 โรงเรียนด้วยกันคือ

  1. โรงเรียนบ้านป่าไร่ จำนวน 21 คน หญิง 10 คน และชาย 11 คน
  2. โรงเรียนแม่ระมาดวิทยาคม จำนวน 29 คน หญิง 18 คน และชาย 11 คน
  3. โรงเรียนบ้านต้นผึ้ง จำนวน 0 คน (เนื่องจากเด็กจบ ป.6 และได้ไปเรียนต่อที่ โรงเรียนแม่ระมาดวิทยาคม แล้ว)
  4. โรงเรียนบ้านคะเนจื้อ จำนวน 16 คน หญิง 10 คน และชาย 6 คน
  5. โรงเรียนอนุกุลวิทยา จำนวน 65 คน หญิง 32 คน และชาย 33 คน

รวมทั้งหมด 131 คน และในปีการศึกษา 2566 มีนักเรียนที่ได้รับการสนับสนับสนุนค่ารถรับส่งนักเรียนทั้งหมดรวม 164 คน 

โครงการได้ดำเนินการแล้วทั้งหมด 5 เดือน และขณะนี้โครงการได้แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567  เนื่องจากเดือนพฤษภาคม เป็นเดือนที่นักเรียนเปิดเทอมปีการศึกษาใหม่ ผลอันเนื่องมาจากนักเรียนได้รับการสนับสนุนรถรับส่งนักเรียนดังกล่าว ทำให้นักเรียนไม่ได้รับผลกระทบจากการต้องออกเรียนกลางคัน เมื่อปีการศึกษาใหม่มาถึง เด็กนักเรียนในโครงการยังคงได้มาโรงเรียนตามปกติ มีเพียงนักเรียนบางส่วนเท่านั้นที่ตัดสินใจออกจากโรงเรียนเนื่องจากมีความจำเป็นเกี่ยวกับครอบครัว

แต่ด้วยมีการสนับสนุนค่ารถรับส่งให้กับเด็กและผู้ปกครอง ทำให้ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุนให้ลูกไปโรงเรียน ในการสนับสนุนค่ารถรับส่งนักเรียนนี้ ผู้ปกครองก็มีส่วนร่วมในการจ่ายค่ารถรับส่งนักเรียนด้วยเป็นจำนวน เดือนละ 150 บาท และทางโครงการช่วยค่ารถรับส่งนักเรียนในครั้งนี้เป็นเงินจำนวนเดือนละ 350 บาท ถ้าเมื่อไหร่ที่ไม่มีเงินสนับสนุนค่ารถรับส่งนักเรียน ภาระทั้งหมดจะตกไปอยู่กับผู้ปกครองทั้งหมด โดยจากผู้ปกครองต้องจ่ายค่ารถนักเรียนสมทบเพิ่มเพียง 150 บาท จะกลายเป็นผู้ปกครองจะต้องครอบคลุมทั้งหมด คือ 500 บาท ผู้ปกครองส่วนใหญ่ ไม่มีรายได้หลัก มีเพียงรายได้ที่เป็นรายวัน ซึ่งไม่ได้มีงานทุกวัน และรายได้แต่ละวันที่ผู้ปกครองได้รับไม่ได้เป็นค่าแรงขั้นต่ำ แต่เป็นค่าแรงที่ถูกกำหนดไว้จากนายจ้างว่าจะจ่ายเพียงวันละ 150 บาท ถึง 200 บาทเท่านั้น ทำให้ภาระค่ารถที่ต้องจ่ายอาจจะไม่เพียงพอต่อรายได้ที่ได้รับมา จนอาจทำให้ผู้ปกครองเลือกที่จะเอาลูกออกจากโรงเรียนเพื่อลดค่าใช้จ่าย

แต่เนื่องจากมีโครงการช่วยสนับสนุนค่ารถรับส่งนักเรียนในส่วนนี้ ทำให้เด็กๆ ได้เรียนอย่างมีความสุข และได้เรียนจนจบปีการศึกษา โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีค่ารถรับส่งนักเรียน และไม่มีใครออกกลางคันเนื่องจากไม่มีค่ารถไปโรงเรียน 

ค่ารถรับส่งนักเรียน เป็นค่าใช้จ่ายที่สูง และต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือน ทุกปี จนกว่าเด็กจะเรียนจบช่วงชั้น และไปเรียนต่อ ยังมีนักเรียนอีกหลายคนที่ผ่านมาไม่มีค่ารถนักเรียน และพวกเขาเลือกที่จะออกจากโรงเรียน ทางโครงการจึงได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการจ่ายค่ารถให้กับนักเรียน เพื่อให้เด็กได้เรียนจนจบ และไม่หลุดออกจากระบบการศึกษา

ในปีการศึกษา 2567 มีการโยกย้ายของเด็กนักเรียนที่เรียนจบจากโรงเรียนเดิม และได้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนใหม่ ซึ่งมีนักเรียนบางส่วนเลือกที่จะไปเรียนต่อที่โรงเรียนบ้านแม่ระมาดน้อย โดยไม่ได้ขึ้นรถรับส่งนักเรียนแล้วเนื่องจากรถรับส่งนักเรียนของเราไม่ได้ผ่านเส้นทางนั้น แล้วก็มีเด็กนักเรียนจากโรงเรียนบ้านป่าไร่ ได้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนบ้านคะเนจื้อบ้าง โรงเรียนแม่ระมาดวิทยาคมบ้าง ทำให้จำนวนนักเรียนในโรงเรียนบ้านป่าไร่น้อยลง และโรงเรียนบ้านคะเนจื้อกับโรงเรียนแม่ระมาดวิทยาคมมีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นจากเดิม ถึงแม้ว่าจะมีนักเรียนบางส่วนจบ ม.3 แล้วออกไปหางานทำแล้วก็ตาม  ส่วนนักเรียนบางส่วนที่หายไป เด็กบางส่วนพอจบ ป.6 ก็เลือกที่จะออกไปเรียนในระบบของ สกร. หรือบางคนก็เลือกที่จะออกไปทำงาน  ไม่ได้เรียนต่อ  ทำให้จำนวนนักเรียนในปีการศึกษา 2566 นั้นลดลงจากปีการศึกษา 2567 จำนวน 33 คน 

บอกเล่าความประทับใจ

หนูดีใจ และขอขอบคุณที่ช่วยเหลือ และให้โอกาสหนูได้เข้าเรียนในโรงเรียน หนูได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิฯ หลายอย่างเลย หนูได้รับการช่วยเหลือในเรื่องของค่ารถรับ ส่ง ไปโรงเรียน หนูได้รับชุดนักเรียน รองเท้านักเรียน กระเป๋านักเรียน และถุงเท้านักเรียน อยากขอบคุณมูลนิธิช่วยเหลือหนูมาตลอดค่ะ

น้องญาณิน นักเรียนชั้น ม.1/2 โรงเรียนบ้านคะเนจื้อ

หนูขอขอบคุณมูลนิธิช่วยไร้พรมแดนที่ช่วยเหลือ และสนับสนุนเรื่องรถรับส่งนักเรียน บ้านหนูอยู่ไกลจากตัวอำเภอแม่ระมาดประมาณ 7 กิโลเมตรได้ ค่าใช้จ่ายเรื่องค่ารถมันหนักมากสำหรับครอบครัวของหนู ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนหนูคงไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะพ่อแม่หนูไม่สามารถจ่ายให้หนูได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ

น้องอริสา นักเรียนชั้น ม.1/3 โรงเรียนแม่ระมาดวิทยาคม

ขอขอบคุณมูนิธิช่วยไร้พรมแดนที่เข้ามาในพื้นที่ มาช่วยเหลือพวกเรา พาลูกหลานของเราไปส่งโรงเรียน และยังคอยช่วยเหลือพวกเราในเรื่องของค่ารถรับส่งนักเรียน เพราะบ้านเราอยู่ไกลจากโรงเรียนมาก ถ้าไม่มีรถรับส่งลูกเราคงจะไปโรงเรียนไม่ได้ และพวกเราก็คงจ่ายค่ารถเองไม่ได้ตลอดค่ะ

คุณน้อย ผู้ปกครองนักเรียนที่อยู่ในโครงการของมูลนิธิช่วยไร้พรมแดน

รายงานการใช้เงิน

รายการจำนวนจำนวนเงิน (บาท)
ช่วยค่ารถรับ-ส่งนักเรียน

คนละ 350 บาท / เดือน นักเรียน 33 คน จำนวน 3 เดือน นักเรียน 131 คน จำนวน 5 เดือน

164คน263,900.00
รวมเป็นเงินทั้งหมด263,900.00
23 เม.ย. 2567

อัปเดตโครงการสนับสนุนค่ารถรับส่งนักเรียน จำนวน 164 คน

ช่วงเวลาที่ทำกิจกรรม

23 เม.ย. 2567 - 23 เม.ย. 2567

โครงการได้เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2567 นี้ ขณะนี้ทางโครงการได้ดำเนินโครงการไปแล้ว 3 เดือน คือเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม โดยโครงการได้ดำเนินการจ่ายค่ารถรับส่งนักเรียนให้กับโรงเรียนทั้งหมด 5 โรงเรียนด้วยกันคือ

  1. โรงเรียนบ้านป่าไร่ จำนวน 62 คน
  2. โรงเรียนแม่ระมาดวิทยาคม จำนวน 15 คน
  3. โรงเรียนบ้านต้นผึ้ง จำนวน 1 คน
  4. โรงเรียนบ้านคะเนจื้อ จำนวน 10 คน
  5. โรงเรียนอนุกุลวิทยา จำนวน 76 คน

โครงการยังคงเหลือเวลาในการทำโครงการอีก 2 เดือน โดยโครงการจะเว้นเดือนเมษายนไว้ เนื่องจาก เดือนเมษายนเป็นเดือนที่ไม่มีการเรียนการสอน ทำให้เด็กไม่ต้องไปโรงเรียน จึงไม่มีการจ่ายค่ารถรับส่งนักเรียน และโครงการจะเริ่มจ่ายเงินค่ารถรับส่งอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายน

จำนวนนักเรียนที่ขึ้นรถรับส่งนักเรียนดังกล่าว นอกจากพวกเขาได้รับการสนับสนุนค่ารถรับส่งนักเรียนแล้ว พวกเขายังมีส่วนร่วมในการช่วยจ่ายค่ารถรับส่งนักเรียน โดยทางโครงการจะช่วยคนละ 350 บาท และผู้ปกครองจะสมทบให้อีก 150 บาท และถ้าเกิด ในช่วงเดือนกราคมจนถึงเดือนมีนาคม ไม่มีเงินสนับสนุนค่ารถรับส่งนักเรียน ภาระทั้งหมดจะตกไปอยู่กับผู้ปกครองทั้งหมด โดยจากผู้ปกครองต้องจ่ายสมทบ 150 บาท ผู้ปกครองจะต้องครอบคลุมทั้งหมด คือ 500 บาท ผู้ปกครองส่วนใหญ่ ไม่มีรายได้หลัก มีเพียงรายได้ที่เป็นรายวัน ซึ่งไม่ได้มีงานทุกวัน และรายได้แต่ละวันที่ผู้ปกครองได้รับไม่ได้เป็นค่าแรงขั้นต่ำ แต่เป็นค่าแรงที่ถูกกำหนดไว้จากนายจ้างว่าจะจ่ายเพียงวันละ 150 บาท ถึง 200 บาทเท่านั้น ทำให้ภาระค่ารถที่ต้องจ่ายอาจจะไม่เพียงพอต่อรายได้ที่ได้รับมา จนอาจทำให้ผู้ปกครองเลือกที่จะเอาลูกออกจากโรงเรียนเพื่อลดค่าใช้จ่าย แต่เนื่องจากมีโครงการช่วยสนับสนุนค่ารถรับส่งนักเรียนในส่วนนี้ ทำให้เด็กๆ ได้เรียนอย่างมีความสุข และได้เรียนจนจบปีการศึกษา โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีค่ารถรับส่งนักเรียน และไม่มีใครออกกลางคันเนื่องจากไม่มีค่ารถไปโรงเรียน

ค่ารถรับส่งนักเรียน เป็นค่าใช้จ่ายที่สูง และต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือน ทุกปี จนกว่าเด็กจะเรียนจบช่วงชั้น และไปเรียนต่อ ยังมีนักเรียนอีกหลายคนที่ผ่านมาไม่มีค่ารถนักเรียน และพวกเขาเลือกที่จะออกจากโรงเรียน ทางโครงการจึงได้เลงเห็นถึงความจำเป็นในการจ่ายค่ารถให้กับนักเรียน เพื่อให้เด็กได้เรียนจนจบ และไม่หลุดออกจากระบบการศึกษา

การสนับสนุนค่ารถรับส่งนักเรียนจะดำเนินการต่อถึงเดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายน แต่ใน 2 เดือนนี้จะเป็นปีการศึกษา 2567 อาจจะมีการโยกย้ายของเด็กนักเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีถึงประถม 6 เด็กอาจจะต้องย้ายโรงเรียน แต่โรงเรียนที่ย้ายไปจะเป็นโรงเรียนที่รถรับส่งของเราก็ได้รับส่งเช่นเดียวกัน จำนวนเด็กขึ้นรถในแต่ละโรงเรียนอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ
กลุ่มที่ได้รับประโยชน์ อธิบาย จำนวนที่ได้ประโยชน์ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
เด็กและเยาวชน เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าไร่ โรงเรียนบ้านคะเนจื้อ โรงเรียนบ้านต้นผึ้ง โรงเรียนแม่ระมาดวิทยาคม อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก และโรงเรียนอนุกุลวิทยา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก 164 คน เด็กนักเรียนมีรถรับส่งนักเรียนไป กลับ โรงเรียนทุกวันในวันที่โรงเรียนเปิดเรียน