cover_1

โรงเรียนเพื่อชีวิต พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กหลังเลิกเรียน

เด็กและเยาวชน

เงินบริจาคของคุณจะสนับหนุน อบรม และพัฒนาทักษะจำเป็นให้กับเด็กและครอบครัวที่ลำบาก80คน

project succeeded
โครงการสำเร็จแล้ว

ระยะเวลาระดมทุน

9 พ.ค. 2566 - 31 ธ.ค. 2566

พื้นที่ดำเนินโครงการ

คริสตจักร อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

เป้าหมาย SDGs

GOOD HEALTH AND WELL-BEINGQUALITY EDUCATIONDECENT WORK AND ECONOMIC GROWTH

กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ

เด็กและเยาวชน
80คน

ครอบครัวที่ใช้ความรุนแรงทำให้เด็กๆขาดความเชื่อมั่นในคุณค่าของตนเอง ส่งผลต่อภาวะทางอารมณ์และจิตใจ

โครงการโรงเรียนเพื่อชีวิตจึงเกิดขึ้นเพื่อดูแลเด็กและครอบครัว โดยการนำกิจกรรมอาทิ สอนการบ้านหลังเลิกเรียน พัฒนาทักษะชีวิตเช่นการปลูกผัก ทำงานอาหาร รวมถึงให้ความรู้ผู้ปกครองเกี่ยวกับการดูแลเด็ก ร่วมโอบอุ้มเด็ก 80 คนตลอด 1 ปีเพื่อสร้างความแข็งแรงทางใจและกายไปพร้อมกัน

ปัญหาสังคม

มีงานวิจัยเรื่อง “อิทธิพลของความรักความเข้าใจในครอบครัวต่อคุณธรรมจริยธรรมของเด็กและเยาวชนไทย” โดย มนทกานติ์ รอดคล้าย จากคณะประชากรศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/61243 พบว่า ความรักความเข้าใจในครอบครัวมีอิทธิพลต่อคุณธรรมจริยธรรมของเด็กเป็นอย่างมากและเป็นไปในทางบวก โดยหากเด็กและเยาวชนได้รับความรักความเข้าใจในครอบครัวมากจะมีความสัมพันธ์ต่อคุณธรรมจริยธรรมส่วนตนให้เป็นไปในทางบวกเช่นกัน

นอกจากนี้พ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกด้วยความเอาใจใส่และพร้อมที่จะให้ความรักความเข้าใจแก่ลูกอยู่เสมอ มีผลต่อการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมพื้นฐานแก่ลูกของตนโดยในเรื่อง ความซื่อสัตย์และรับผิดชอบต่อหน้าที่ ซึ่งพ่อแม่เองก็มีความมุ่งหวังให้ลูกเป็นคนดีของครอบครัวและสังคม

การศึกษานี้ถือเป็นเหตุผลที่ชัดเจนที่ทำให้การสร้างพื้นที่ให้ครอบครัวได้เสริมสร้างสัมพันธ์เป็นสิ่งที่สำคัญ และจะส่งเสริมให้เกิดความรักความเข้าใจในครอบครัว ซึ่งจะช่วยสร้าง เด็กและเยาวชนที่มีคุณธรรมจริยธรรมให้เป็นสมาชิกของสังคมที่มีคุณภาพต่อไป

ปัญหาที่พบในเด็กๆ ก่อนมีโครงการโรงเรียนเพื่อชีวิต อ.โป่งน้ำตก จ.เชียงราย คือ

  1. เด็กๆ ติดเกมส์ และติดเที่ยว ไม่ชอบทำการบ้าน ขาดวินัย และเมื่อผลการเรียนไม่ดีจึงไม่อยากเรียนต่อ
  2. ส่วนใหญ่เด็กๆ มีพ่อแม่ที่อ่านหนังสือไม่ออก จึงไม่สามารถสอนลูกในด้านวิชาการได้ ไม่สามารถสอนการบ้านได้
  3. เด็กๆได้รับการดูแลด้านโภชนาการไม่ดี ขาดสารอาหาร ร่างกายจึงไม่เติบโตตามเกณฑ์
  4. เด็กๆ ขาดความรัก ความอบอุ่นจากครอบครัว หลายคนมาจากครอบครัวที่แตกแยก

โรงเรียนเพื่อชีวิตและครอบครัว จัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างความเข้มแข็งและมั่นคงในชีวิตให้แก่เด็ก เริ่มต้นตั้งแต่ในครอบครัว โรงเรียน และชุมชนที่เด็กอาศัยอยู่ โดยจะทำงานร่วมกับคริสตจักร และพ่อแม่หรือผู้ปกครองเด็ก เพื่อกระตุ้นให้เด็กมีความใส่ใจเรื่องการศึกษาและมีพฤติกรรม และพัฒนาการที่เหมาะสม ทั้งในเวลาเรียน และนอกเวลาเรียน โรงเรียนเพื่อชีวิต เป็นห้องเรียนชุมชน ที่จัดตั้งขึ้น โดยดำเนินการ

ผลลัพท์ของกิจกรรมที่ผ่านมา

  1. ผลการเรียนของเด็กๆ แต่ละคนดีขึ้น ทำให้เด็กๆมีกำลังใจอยากเรียนต่อ และทำตามความฝันของตัวเอง
  2. เด็กๆ มีความรับผิดชอบมากขึ้น ช่วยทำงานบ้าน ไม่เล่นโทรศัพท์
  3. เด็กๆ มีความกล้าหาญในการแสดงออกมากขึ้น มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน สามารถปรับตัว เรียนรู้ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างถูกต้อง
  4. สุขภาพแข็งแรง น้ำหนักขึ้นตามเกณฑ์
  5. ผู้ปกครองใส่ใจเด็กๆ มากขึ้น ยอมให้เด็กๆเรียนต่อในชั้นมัธยม ความสัมพันธ์ในครอบครัวดีขึ้น

วิธีการแก้ปัญหา

  1. การสอนพิเศษ และสอนการบ้านเด็กหลังเลิกเรียน จันทร์-ศุกร์ เน้นการเรียนภาษาอังกฤษ จากแบบฝึกหัดที่น่าสนใจ และจัดเตรียมมื้ออาหารเย็นให้เด็กๆรับประทานก่อนกลับบ้าน และมีพื้นที่ให้เด็กๆ ได้เล่นกีฬากับเพื่อนๆ

  2. มอบอุปกรณ์การเรียนที่เด็กๆขาด เช่น สมุด ปากกา ยางลบ ดินสอสี และกระเป๋านักเรียน

  3. พัฒนาทักษะชีวิตให้เด็กๆ เช่น การฝึกทำอาหาร ทำขนม ปลุกผัก ทำงานฝีมือ

  4. ฝึกเด็กๆ ด้านความรับผิดชอบต่อหน้าที่ การมีวินัย เช่น การมาเรียนตรงเวลา การจัดเก็บของเข้าที่อย่างเป็นระเบียบ การดูแลความสะอาดสถานที่ และการช่วยดูแลน้องๆรุ่นเล็ก

  5. การพัฒนาชีวิตด้านคุณธรรมและจริยธรรม ผ่านบทเรียนหลักสูตร Superbook

  6. อบรมผู้ปกครองเรื่องการดูแลเด็กๆ ทางด้านร่างกาย และจิตใจ การเอาใจใส่เด็กๆ ในเรื่องที่เด็กจำเป็นต้องได้รับจากผู้ปกครอง

  7. การคัดเลือกครอบครัวที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ และให้ทุนสำหรับส่งเสริมอาชีพเพื่อดูแล เด็ก และครอบครัวได้

แผนการดำเนินงาน

  1. เม.ย. 2566 - มี.ค. 2567

    มูลนิธิฯ จัดหาอาหารกลางวันและ อาหารว่างที่ถูกสุขลักษณะให้เด็กสัปดาห์ละ 3-4 มื้อ ในวันที่มีการเปิดโรงเรียนเพื่อชีวิต สำหรับเด็กที่เข้าร่วมกิจกรรมหลังเลิกเรียน และให้มีการตรวจสุขภาพเบื้องต้นปีละครั้ง และทำบันทึกสุขภาพเบื้องต้น เช่นน้ำหนักและส่วนสูงของเด็กที่เข้าร่วมโครงการทุก ๆ 3 เดือน

  2. เม.ย. 2566 - มี.ค. 2567

    มูลนิธิฯ สนับสนุนให้มีการอบรม ผู้ดำเนินงานโครงการ และอาสาสมัครทุก ๆ ไตรมาสในงานด้านการดูแลเด็กและครอบครัวให้มีสุขภาวะทางกายใจ และจิตวิญญาณ และมีทักษะทางสังคม

  3. เม.ย. 2566 - มี.ค. 2567

    มูลนิธิฯ สนับสนุนอุปกรณ์การเรียนให้กับเด็กที่เข้าร่วมโครงการ และช่วยเหลือด้านการศึกษา ชุดนักเรียน ชุดพละ กระเป๋านักเรียน รองเท้า ให้กับเด็กในครอบครัวที่ยากลำบาก

  4. เม.ย. 2566 - มี.ค. 2567

    มูลนิธิฯ จัดกิจกรรมนอกเวลาเรียนสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยแทรกเนื้อหาด้านจริยธรรม ผ่านการใช้กิจกรรมสำหรับเด็ก การชมการ์ตูนทีมีเนื้อหาเสริมสร้างจริยธรรม คุณธรรม และจัดกิจกรรมสุดสัปดาห์สำหรับเด็กในวันเสาร์และอาทิตย์ต่อเนื่อง โดยให้บันทึกความก้าวหน้าของเด็กเป็นระยะ ๆ

  5. เม.ย. 2566 - มี.ค. 2567

    จัดให้มีวันสังสรรค์ผู้ปกครองและเด็กอย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อให้เด็กที่ร่วมกิจกรรมเชิญพ่อแม่หรือสมาชิกครอบครัวมาร่วมกันทำกิจกรรม และมีเวลาที่มีคุณภาพ เพื่อเสริมสร้างครอบครัวให้มีความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งขึ้น

  6. เม.ย. 2566 - มี.ค. 2567

    สนับสนุนให้เด็กและครอบครัวที่ประสบความลำบากและทำการประเมินความต้องการ และจัดโครงการช่วยเหลือที่เหมาะสมและเฉพาะเจาะจง เพื่อให้ครอบครัวสามารถประกอบอาชีพและดูแลตนเองได้ สร้างให้ครอบครัวและเด็กมีความมั่นคงปลอดภัยทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และฝ่ายจิตวิญญาณ

แผนการใช้เงิน

รายการจำนวนจำนวนเงิน (บาท)
ค่าอาหารหลัก 3 มื้อ และอาหารว่าง 2 มื้อ สำหรับเด็ก 80 คน

52สัปดาห์260,000.00
ค่าตอบแทนอาสาสมัคร 4,000 บาท/เดือน

12เดือน48,000.00
จัดอบรมผู้ปกครองเรื่องการดูแลเด็ก ครั้งละ 3,000 บาท

4ครั้ง12,000.00
อุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมในวันเสาร์ 1,000 บาท ต่อเดือน

12เดือน12,000.00
อุปกรณ์การเรียน 200 บาท จำนวน 80 คน

1ปี16,000.00
กิจกรรมค่ายพัฒนาผู้นำในเด็ก

1ครั้ง12,000.00
ส่งเสริมอาชีพเด็กในโครงการ (คัดเลือก 3 ครอบครัวๆละ 15,000 บาท)

3ครอบครัว45,000.00
รวมเป็นเงินทั้งหมด405,000.00
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%)40,500.00
ยอดระดมทุน
445,500.00

ผู้รับผิดชอบโครงการ

มูลนิธิพันธกิจพระพร (ไทย) ได้รับการรับรองสถานะเป็นมูลนิธิฯ (ไทย)เมื่อเดือนตุลาคม 2001 ทำงานช่วยเหลือเด็ก ครอบครัว และชุมชน ผ่านทางพันธกิจ หลักทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ 1. พันธกิจการผลิตสื่อเพื่อครอบครัวและเด็กและเยาวชน ภายใต้ชื่อ CBN Thailand 2. พันธกิจทางด้านพัฒนาชุมชน และคริสตจักรท้องถิ่น 3. พันธกิจการให้กำลังใจ การดำเนินงานของมูลนิธิฯที่ผ่านมา เรายึดมั่นในคุณค่าหลัก คือ มีความเป็นเลิศ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความซื่อสัตย์ มีความ เมตตากรุณา มีความร่วมมือกับพันธมิตร ในปัจจุบัน มูลนิธิฯ มีสำนักงาน 2 แห่งเพื่อการดำเนินงานที่จะเข้า ถึงสังคมได้ลึกและกว้างไปพร้อมๆกัน โดยสำนักงานแรกตั้งขึ้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ และต่อมาได้เพิ่มสำนักงานที่จังหวัดกรุงเทพฯ เมื่อเดือนสิงหาคม 2016 มูลนิธิฯ มีทีมงานที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ฝึกฝน และเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา บนพื้นฐานแห่ง ความถ่อมใจ เป็นคนที่สามารถสอนได้ มีการเติบโตในด้านจิตวิญญาณ ความกระตือรือร้น มีวินัย พวกเรามีความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่ จะเห็นสังคมไทยเป็นสังคมที่มีครอบครัวเข้มแข็ง และได้รับข่าวสารที่สร้างสรรค์ ให้กำลังใจ ทั้งสาระและบันเทิงรวมถึงรู้เท่าทันเพียงพอที่จะประกอบอาชีพที่สร้างรายได้ สร้างเด็กๆ ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ จากครอบครัวที่มั่นคงมูลนิธิฯได้ดำเนินโครงการโรงเรียนเพื่อชีวิตและครอบครัว ร่วมกับคริสตจักรท้องถิ่น โดยสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กๆ เสริมสร้าง ฝึกฝน และหล่อหลอมพวกเขาด้วยหลักคุณธรรม ส่งเสริมให้เด็กๆ มีความสามารถทางการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น รวมฝึกทักษะด้านต่างๆ เช่น กีฬา

ดูโปรไฟล์

สร้างเพจระดมทุน

ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้

สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้
icon