เครื่องช่วยสอนพิมพ์อักษรเบรลล์

รายการยอดบริจาคเงินทั้งหมด เป็นเงินจำนวน 259,463 บาท โดยมีช่องทางการรับเงินดังต่อไปนี้

1. ยอดบริจาคผ่านการระดมทุนจากทางเว็บไซต์เทใจ จำนวน 2 รอบ คือ รอบที่ 1 จำนวน 108,000 บาท และรอบที่ 2 จำนวน 41,703 บาท รวมเป็นเงิน 149,703 บาท
2. ยอดบริจาคโดยบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด ผ่าน SMS Dtac จำนวน 59,760 บาท
3. ยอดบริจาคโดยบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 50,000 บาท

รายละเอียดการใช้จ่ายเงินมีดังต่อไปนี้

• ค่าวัสดุอุปกรณ์ในสร้างเครื่องช่วยสอนพิมพ์อักษรเบรลล์ขั้นพื้นฐาน จำนวน 50 เครื่อง เครื่องละ 4,000 บาท รวมเป็นเงิน จำนวน 200,000 บาท
• ค่าจ้างผลิตเครื่องช่วยสอนพิมพ์อักษรเบรลล์ขั้นพื้นฐาน (เครสสำหรับใส่วัสดุ) จำนวน 20 เครื่อง เครื่องละ 3,00 บาท รวมเป็นเงิน 60,000 บาท
• ค่าเดินทางในการไปส่งมอบเครื่องและค่าใช่จ่ายในการประกอบเครื่อง (หัวหน้าโครงการใช้เงินส่วนตัว)

หมายเหตุ: คณะผู้ดำเนินโครงการขอเป็นตัวแทนกล่าวคำขอบคุณแทนน้องๆ ทุกท่านด้วยนะคะ ที่ได้บริจาคแสงสว่างทางการศึกษาให้แก่น้องๆ ขอให้ทุกท่านจงมีแต่ความสุขความเจริญยิ่งในหน้าที่การงานหรือในการดำรงชีวิตยิ่งๆ ขึ้นไปนะคะ

รายละเอียดการส่งมอบเครื่องช่วยสอนพิมพ์อักษรเบรลล์ขั้นพื้นฐาน

วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ได้ส่งมอบเครื่องให้น้องๆ ที่ โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดนครราชสีมา จำนวน 10 เครื่อง (เครื่องต้นแบบ) ส่วนเครื่องจริงกำหนดการส่งมอบจำนวน 10 เครื่องอยู่ในกระบวนการทำเครสและรอส่งมอบในช่วง มีนาคม – เมษายน 2562

วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2562 ได้ส่งมอบเครื่องให้น้องๆ ที่ โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดธรรมสากล หาดใหญ่ จำนวน 5 เครื่อง

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ได้ส่งมอบเครื่องให้น้องๆ ร่วมกับทาง KTC ที่ โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ จำนวน 5 เครื่อง

ความประทับใจ

บทสัมภาษณ์จากคุณครูวิกานดา
ครูวิกานดาเป็นครูประจำชั้นอนุบาล 3 และเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลการใช้งานเครื่องนี้ ครูวิแจ้งว่า “น้องๆ ชอบมากคะ ช่วงเวลาเย็นๆ น้องๆ จะมาต่อคิวรอใช้งานฝึกฝนเครื่องนี้ และผลการเรียนรู้ของน้องๆ ก็ดีขึ้น เรียนรู้ได้เร็วขึ้น ใช้ง่ายสะดวกและปลอดภัยคะ ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่ทำให้น้องๆ มีสื่อการเรียนการสอนที่ดีขึ้นคะ

บทสัมภาษณ์จาก น้องเบตตี้
น้องเบตตี้เป็นเด็กที่ร่าเริงแต่จะขาดเรียนบ่อยเพราะด้วยภารกิจของคุณแม่ และมักจะเรียนตามเพื่อนไม่ค่อยทัน และน้องคิดว่าคงใช้เครื่องนี้ไม่ได้เพราะกล้ามเนื้อมือไม่แข็งแรง พอถามน้องเบตตี้ว่าเป็นไงใช้ได้ไหมคะ น้องเบตตี้ตอบว่า “นึกว่าจะใช้ไม่ได้ ที่แท้ก็ง่ายนิดเดียว” หลังจากนั้นก็หัวเราะดีใจกับสิ่งที่ตนเองทำได้เหมือนเพื่อน

บทสัมภาษณ์จาก น้องกันตัง
น้องกันตังจะมาขอครูวิใช้เครื่องนี้เป็นประจำ ช่วงหลังจากเลิกเรียน โดยปกติครูวิเล่าว่าน้องๆ ต้องออกไปเล่นสนุกสนาน แต่พอมีเครื่องนี้น้องๆ ก็เข้ามาลงชื่อขอใช้เครื่อง น้องกันตังเป็นเด็กที่มีความพิการซ้อนคือจะอยู่เฉยๆ ไม่ได้จะต้องขยับร่างกายตลอดเวลาเช่น การสะบัดมือ สะบัดขา แต่พอน้องได้ใช้เครื่องนี้ทำให้น้องเกิดสมาธิมากขึ้น น้องกันตังให้สัมภาษณ์ว่า “ผมมีความฝันอยากเป็นตำรวจครับ แต่ผมคงเป็นไม่ได้เพราะผมตาบอด” พอดีดิฉันได้ยินดังนั้นจึงตอบน้องกันตังกับไปว่า “ใครบอกว่าหนูจะเป็นตำรวจไม่ได้คะ ถ้าหนูรู้หนังสือและสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้หนูก็สามารถเป็นตำรวจได้ แค่ไม่ได้ออกไม่ต่อสู้กับผู้ร้ายเท่านั้นเอง