ที่มา/ความสำคัญโครงการ :

นับตั้งแต่แผนเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 5 (พ.ศ.2525 -2529) การกีฬาถูกบรรจุไว้เป็นหนึ่งในวาระสำคัญสำหรับการพัฒนาชาติและเยาวชน แต่จนถึงปัจจุบันการเล่นกีฬากลับไม่ได้เป็นทางเลือกให้กับเด็กๆได้นัก เช่นเดียวกับ 'พื้นที่ข่าวสาร' ที่ขับเน้นเพียงการนำเสนอปรากฏการณ์อันน่ากังวล ซ้ำเติมถาโถม ยิ่งรวมไปถึงการสร้างแรงกระตุ้นในด้านลบอยู่สม่ำเสมอ

ข่าวหรือ ‘พื้นที่ข่าว’ มีความสำคัญอย่างไรสำหรับเยาวชนและวงการกีฬา หากประเมินจากภาพสะท้อนที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า หากไม่ใช่การถ่ายทอดในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก นอกจากชื่อของผู้ชนะและมีเหรียญรางวัลกลับมา นักกีฬาอย่าง ‘เมย์’ รัชนก อินทนนท์’ คงจะไม่ใช่ขวัญใจของคนไทย แต่ครั้งนั้นแม้เธอจะไม่ได้รับเหรียญรางวัลใดติดมือกลับมาจากการแข่งขัน พลังที่ผู้ชมได้รับผ่านการถ่ายทอดการแข่งขันที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นทำให้ชื่อของเธออยู่ในความทรงจำได้ไม่ยากโดยเฉพาะสำหรับคนรุ่นใหม่ เนื่องจากเธอเป็นนักกีฬาที่มีอายุเพียง 17 ปี ที่สามารถขับเคี่ยวกับนักแบตมินตันมือวางระดับต้นๆของโลกได้อย่างสูสี สิ่งนี้อาจบอกได้ว่าเป็นพลังของ ‘เกมกีฬา’ และ ‘สื่อ’ ที่ทำให้เราได้เห็นและมีส่วนร่วมในการต่อสู้ของเธอ และต่อมาใน ในวัย 18 ปี ‘เมย์’ สามารถคว้าแชมป์แบตมินตันโลกได้สำเร็จ กลายเป็นประวัติการณ์และสถิติใหม่ของโลกอีกหน้าหนึ่ง นับเป็นความงดงามอันน่าจดจำอย่างยิ่งเลยที่เดียว

สิ่งที่น่าคิด คือ ดาวที่จรัสแสงแบบ ‘เมย์’ อาจมีอีกหลายคนที่ซ่อนตัวในมุมเล็กๆของโรงเรียนหรือลานกีฬาอีกหลายแห่งเช่นเดียวกับที่ก่อนหน้านี้แทบไม่มีใครรู้เลยว่าจังหวัดเล็กๆทางภาคใต้จะสามารถสร้างนักกีฬาเทควันโดอย่าง ‘เล็ก’ ชนาธิป ช้อนขำ ขึ้นได้ โรงเรียนหรือนักกีฬาเหล่านี้พัฒนาตัวเองขึ้นมาอย่างไร คงเป็นสิ่งที่หลายคนอยากรู้ และยิ่งมีนักกีฬาที่สามารถเล่นได้ถึงระดับนี้ การแข่งขันต่างๆจึงย่อมน่าตื่นเต้นไม่แพ้การแข่งกีฬาระดับใหญ่ เพียงแต่เรามักตกหล่นเกมกีฬาเหล่านี้ไปอย่างน่าเสียดาย ส่วนหนึ่งคงเพราะสื่อกระแสหลักที่มียังคงมุ่งสนใจในนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จแล้ว ในขณะที่นักกีฬาที่กำลังก้าวเดินและต้องการแรงสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นกำลังใจหรือเงินทุนกลับยังขาดการนำเสนอซึ่งก็เท่ากับไม่มีพื้นที่ในการเชื่อมต่อกับสาธารณะนั่นเอง

แม้ว่าสื่อจะไม่ใช่ผู้สร้างนักกีฬาโดยตรง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาคือผู้สร้างสร้างแรงบันดาลใจ ในขณะที่ 'พื้นที่ข่าวกีฬา' ในระหว่างทางยังไม่มีการนำเสนอในกระแสหลักมากนัก 'โครงการนักข่าวพลเมืองกีฬา' จึงริเริ่มขึ้นด้วยความหวังที่จะเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการข่าวโดยมุ่งให้ความสำคัญกับกระบวนการพอๆกับความสำเร็จ และเริ่มจากกลุ่มเด็กๆวัยรุ่น เพราะเป็นวัยที่กำลังค้นหาตัวเอง มีพลัง มีความฝัน ต้องการการยอมรับและแรงสนับสนุนอย่างสูงเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ รวมทั้งต้องการโอกาสที่มั่นใจในการเป็นอาชีพในอนาคต เพื่อเป็นทางเลือกให้กับเด็กๆและทำให้วงการกีฬาพัฒนาพัฒนาต่อไปได้ในอนาคต

โครงการนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้หันมาทำกิจกรรมเพื่อสนุกกับสิ่งรอบตัวและมีทักษะที่จะสื่อสารเรื่องราวที่ตัวเองสนใจออกมาผ่านมุมมองของตน แม้ว่าการที่เด็กๆจะเป็นสื่อมวลชนสายกีฬาอาจไม่ใช่การลงไปค้นหาประเด็นหนักๆที่เป็นปัญหาสังคม แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่จะมองหาอย่างขบคิดในเรื่องราวของเพื่อนฝูงหรือสังคมของเขาเอง และเมื่อเขาสนุกสนานกับการค้นหา การปรับปรุงประเด็น หรือการสื่อสารแล้ว ในอนาคตข้างหน้าพวกเขาเหล่านี้อาจเป็นนักเล่าเรื่องที่สามารถนำเสนอเรื่องราวอื่นๆ เพื่อนำไปสู่การกระตุ้นให้ประเด็นที่เคยเล็กอย่างประเด็นท้องถิ่นสามารถออกสู่สาธารณะและเกิดความเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นในการผลิตนักสื่อสารมวลชนที่มีทักษะและพัฒนาเป็นอาชีพสำหรับอนาคตของพวกเขาได้อีกทางหนึ่ง

บรรยากาศการถ่ายทอดสดกีฬามัธยมปลายในประเทศญี่ปุ่น

ประโยชน์ของโครงการ :

1. เพื่อเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการข่าว โดยเฉพาะข่าวกีฬาที่เคยมุ่งนำเสนอเฉพาะนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จแล้วไปสู่การข่าวที่สะท้อนถึง ‘กระบวนการ’ สร้างความสำเร็จ

2. เพื่อสร้างพื้นที่ให้เยาวชนได้บอกเล่าเรื่องราวของตัวเองผ่านมุมมองด้านกีฬา

3. เพื่อสร้างทางเลือกและแรงบันดาลใจให้เยาวชน

กิจกรรมที่จะดำเนินโครงการ :

1. สร้างเครื่องมือ (โครงการระยะที่ 1 ภายในเวลา 3 เดือน)

- จัดทำ www.cjsport.com เป็นพื้นที่กลางสำหรับเผยแพร่ข่าวสาร รายงานพิเศษ สัมภาษณ์พิเศษหรือบทความต่างๆ รวมไปถึงภาพถ่ายและช่องทีวีอินเตอร์เน็ตที่จะเผยแพร่ทั้งในรูปแบบคลิปวีดีโอบันทึกภาพและถ่ายทอดสด โดยเว็บไซต์นี้ได้ถูกออกแบบให้มีลักษณะพิเศษในการไหลเวียนและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร นั่นคือ การสร้างเครือข่ายที่มีฐานข้อมูลสมาชิกเพื่อกระตุ้นข่าวสารให้ไปถึงผู้รับสาร และเปิดพื้นที่ให้เครือข่ายที่สนใจทุกคนเป็น Blogger ได้ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักในการสร้างเครือข่ายเบื้องต้นคือโรงเรียนมัธยมต่างๆทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นวัยที่มีการสื่อสารแลกเปลี่ยนรวดเร็วและมีความสนใจในกีฬาและเรื่องราวระหว่างเพื่อน ซึ่งระบบการทำงานของเว็บไซต์จะช่วยสนับสนุนหมุนเวียนให้เรื่องราวของทุกคนสามารถมองเห็นได้อย่างโดดเด่นบนหน้าเว็บไซต์

- Social Network เป็นอีกเครื่องมือที่ถูกนำมาช่วยเสริมให้การส่งต่อข้อมูลข่าวสารภายในเครือข่ายทำได้รวดเร็ว รวมทั้งสามารถกระจายข้อมูลสู่สาธารณะอย่างเป็นวงกว้างได้ง่าย โดยเบื้องต้นเครื่องมือที่นำมาใช้ ได้แก่ e-mail group, line group ,Facebook : CJsport และ youtube : CJsport Channel

2. สร้างเครือข่าย เดินด้วยประเด็น (ระยะเวลา 6 เดือน)

ในช่วงแรกจะมีการนำเสนอข่าวและข้อมูลที่ขยับจากกองบรรณาธิการเพื่อให้ประเด็นมีความเคลื่อนไหวและสร้างแรงจูงใจ จากนั้นจึงเป็นการชักชวนกลุ่มผู้สนใจในด้านกีฬา วัยรุ่น Lifestyle และการสื่อสาร เพื่อมาเป็นเครือข่ายร่วมกันซึ่งจะให้กำหนดการส่งต่อข้อมูลข่าวสารมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนและหวังผลต่อไปในการกระจายต่อไปยังผู้มีความสัมพันธ์นอกเครือข่ายได้ เช่น ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ ชุมชนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจท้องถิ่น ภาครัฐ ซึ่งอาจนำมาสู่การสนับสนุนที่มากขึ้นเพื่อสร้าง 'โอกาส' ที่มากขึ้นให้กับเยาวชนที่มีความไฝ่ฝันในวงการกีฬาหรือการเป็นนักสื่อสารที่ดีได้

3. ขับเคลื่อนต่อยอด (โครงการระยะที่ 3 ระยะเวลา 3 เดือน)

จัดอบรมนักข่าวกีฬาพลเมืองเพื่อตั้ง 'กองบรรณาธิการเฉพาะกิจ' ที่คล้ายเป็นการยกระดับ 'สื่อพลเมือง' ที่มีความสนใจในการสื่อสารในมิติต่างๆให้สามารถเล่าเรื่องได้ด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย เช่น การเขียน ซึ่งอาจแบ่งออกเป็น ข่าว บทความ สารคดี รายงาน สัมภาษณ์ หรืออื่นๆ การถ่ายภาพ การจัดคลิปทำวีดีโอให้มีความน่าสนใจ เทคนิคการถ่ายทอดสด โดยจะมีมืออาชีพในด้านต่างๆมาเป็นผู้อบรมและพี่เลี้ยงในการทำ 'ข่าวกีฬาของเยาวชน' ด้วยการนำเสนอรูปแบบเดียวกับสื่อมืออาชีพ โดยทีมงาน cjsport.com จะเปิดรับผู้ที่สนใจเข้ามาอบรม เพื่อให้กลับไปทดลองนำเสนอข่าวจากพื้นที่ และจะเลือกผู้ที่สนใจและมีผลงานนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องผ่านบล็อกในเว็บไซต์เพื่อมาร่วมเป็นกองบรรณาธิการเฉพาะกิจในการรายงานข่าวกีฬาเยาวชนระดับชาติที่จะมีขึ้นในแต่ละปี

- สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการได้ที่ facebook : CJsport

จัดทำเว็บไซต์และเนื้อหา www.cjsport.com 40,000

สมาชิกภายในทีม :

1. นายภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง (Papan Raksritong) หน้าที่ ผู้จัดการโครงการ

ปัจจุบันทำงานเกี่ยวกับที่ปรึกษาด้าน CSR ให้บริษัทแห่งหนึ่ง อดีตบรรณาธิการเว็บไซต์ข่าวรัฐสภาถึงประชาชน อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวประชาไทและไทยโพสต์

Tel 08 5099 0438 papanraksritong@gmail.com

2. นาย วิทยากร บุญเรือง (Wittayakorn Bhunraung) หน้าที่ บรรณาธิการเว็บไซต์ข่าว บริหารงานข่าวและพัฒนาประเด็นกับนักข่าวพลเมืองกีฬา

ผู้สื่อข่าวอิสระและบรรณาธิการวารสารออนไลน์ Workazine มีรวมบทความคอลัม 'More than Football' ตีพิมพ์ออนไลน์ 2 ชุด

3. นาย ณรรธราวุธ เมืองสุข (Nattrawhut Maungsuk) หน้าที่ ดูแลหลักสูตรการอบรม เทคนิคการทำข่าวและการนำเสนอให้น่าสนใจ

บรรณาธิการชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อมและผู้สื่อข่าวโพสต์ทีวี อดีตผู้ช่วยบรรณาธิการเว็บไซต์ข่าวไทยพีบีเอส นักเขียนอิสระที่มีทั้งผลงานตีพิมพ์และบทสารคดีโทรทัศน์ ออกอากาศทาง ช่องไทยพีบีเอส

ที่ปรึกษาโครงการ

1. อาจารย์ ณัฐกร วิทิตานนท์ สำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มีความสนใจพิเศษในเรื่องฟุตบอลทั้งไทยและต่างประเทศ และสนใจในเรื่องการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น

2. อาจารย์ สมัชชา นิลปัทม์ สาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มีความสนใจในการสร้างสื่อของท้องถิ่น เช่น การผลักดันในนักศึกษาจัดทำหนังสือพิมพ์ของมหาวิทยาลัยจนสำเร็จ

3. นายชูวัส ฤกษ์ศิริสุข บรรณาธิการเว็บไซต์ข่าวประชาไท ซึ่งนอกจากเป็นสื่อทางเลือกแล้วยังมีบทบาทในด้านการจัดอบรมนักข่าวพลเมืองเพื่อสนับสนุนให้เกิดการสื่อสารเรื่องราวของเจ้าของเรื่องในยุคที่เทคโนโลยีมีส่วนหนุนเสริมให้การแพร่กระจายข่าวสารเป็นไปได้ง่ายขึ้น

ภาคี :

องค์การเครือข่าย มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาชุมชน โดยทีมข่าว www.prachatai.com จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยจัดกระบวนการอบรมนักข่าวพลเมืองกีฬา ซึ่งมีประสบการณ์การอบรมนักข่าวพลเมืองด้านต่างๆมาแล้วหลายครั้ง

นอกจากนี้จะมีการเชิญเพื่อนนักข่าว/นักกิจกรรมที่มีความถนัดในด้านต่างๆมาเป็นผู้อบรมทักษะเฉพาะทาง เช่น การถ่ายภาพ การนำเสนอข่าวกีฬา การตัดต่อและใช้เครื่องมือเพื่อการสื่อสารบนโซเชี่ยลเน็ทเวิร์ค เป็นต้น

อื่นๆ

Cover

ปั้น 'สื่อกีฬาพลเมือง' สานฝันเพื่อผองเพื่อนเป็น ‘ยอดนักกีฬา’