เงินบริจาคของคุณจะสร้างห้องสัมผัสบำบัดสุขภาพเพื่อฝึกทักษะอาชีพสำหรับผู้พิการทางการเห็นให้กับคนพิการทางสายตาในจังหวัดมหาสารคาม250คน
ปัญหาคนตาบอดที่ไม่มีอาชีพ เป็นอุปสรรคสำคัญที่ส่งผลกระะทบต่อคุณภาพชีวิตและความมั่นคงของครอบครัว โดยเฉพราะอย่างยิ่งในกลุ่มคนตาบอดที่มักจะประสบปัญหาในการหางานทำ ตลอดระยะเวลาในการฝึกนวดของศูนย์เรียนรู้การฟื้นฟูสมรรถภาพคนตาบอดโดยชุมชน ได้ส่งเสริมอาชีพนวดมาแล้วในชุมชนจำนวน 1 รุ่น จำนวด10 คน จากคนตาบอดนวดรุ่นแรกทำให้เกิดการจ้างงานตามหน่วยงานหรือร้านนวด
ทว่า การฝึกนวดใช้สถานที่ในชุมชนในการฝึกนวดทำให้คนตาบอดไม่มีสมาธิกับการเรียนรู้ทักษะการนวดแผนไทยและทำกิจวัตรประจำวันในด้านสุขภาพของคนตาบอด เช่นการเข้าห้องน้ำ การรับประทานอาหาร การเปลี่ยนเสื้อผ้าของคนตาบอดมีความยากลำบากกว่าคนปกติ และทำให้คนตาบอดขาดความไม่มั่นใจไม่ยากรับการส่งเสริมอาชีพนวดแผนไทย การสร้างห้องนวดฝึกอาชีพสำหรับคนตาบอดไม่ใช่แค่การช่วยเหลือ แต่เป็นการลงทุนในศักยภาพของคนตาบอด เพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างโอกาสที่ยั่งยืน
ปัญหาคนตาบอดที่ไม่มีอาชีพ เป็นอุปสรรคสำคัญที่ส่งผลกระะทบต่อคุณภาพชีวิตและความมั่นคงของครอบครัว โดยเฉพราะอย่างยิ่งในกลุ่มคนตาบอดที่มักจะประสบปัญหาในการหางานทำ เนื่องจากมีข้อจำกัดทางกายภายและทัศนคติของสังคมที่ไม่เอื้อต่อการจ้างงาน อาชีพที่ขาดหายไปซึ่งนำมาปัญหาด้านการเงิน การพึ่งพาคนอื่น และการขาดโอกาศในการพัฒนาตนเอง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วส่งผลให้เกิดความรู้สึกด้อยค่าและเป็นภาระของสังคม
ตลอดระยะเวลาในการฝึกนวดของศูนย์เรียนรู้การฟื้นฟูสมรรถภาพคนตาบอดโดยชุมชน ได้ส่งเสริมอาชีพนวดมาแล้วในชุมชนจำนวน 1 รุ่น จำนวด10 คน จากคนตาบอดนวดรุ่นแรกทำให้เกิดการจ้างงานตามหน่วยงานหรือร้านนวด
ดังนั้นในการฝึกนวดใช้สถานที่ในชุมชนในการฝึกนวดทำให้คนตาบอดไม่มีสมาธิกับการเรียนรู้ทักษะการนวดแผนไทยและทำกิจวัตรประจำวันในด้านสุขภาพของคนตาบอด เช่นการเข้าห้องน้ำ การรับประทานอาหาร การเปลี่ยนเสื้อผ้าของคนตาบอดมีความยากลำบากกว่าคนปกติ และทำให้คนตาบอดขาดความไม่มั่นใจไม่ยากรับการส่งเสริมอาชีพนวดแผนไทย
การส่งเสริมอาชีพนวดแผนไทยหรือนวดบำบัด เป็นหนึ่งในทางเลือกอาชีพที่เหมาะสมและสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กกับคนตาบอด โดยใช้การสัมผัสเป็นหลัก ที่แม่นยำและละเอียดอ่อน ซึ่งคนตาบอดมักมีพัฒนาการของประสาทสัมผัสส่วนนี้ที่ดีกว่าคนทั่วไป ในการนวดไม่ใช้แค่แรงแต่ต้องอาศัย สมาธิการรับฟัง ความรู้ทางกายวิภาค และเทคนิคการนวดที่ถูกต้อง ซึ้งทักษะเหล่านี้สามารถพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาชีพได้นำไปสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีรายได้ดี การที่คนตาบอดสามารถประกอบอาชีพและหาเลี้ยงตัวเองได้ช่วยลดการพึ่พาคนอื่น และเกิดความภาคภูมิใจในตนเองและรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
การสร้างห้องนวดฝึกอาชีพสำหรับคนตาบอดไม่ใช่แค่การช่วยเหลือ แต่เป็นการลงทุนในศักยภาพของคนตาบอด เพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างโอกาสที่ยั่งยืน ด้วยเหตุผลดังนี้
1.ลดปัญหาการว่างงานและสร้างรายได้ที่มั่นคงของคนตาบอด
2.ส่งเสริมความเป็นอิสระและคุณค่าในตนเอง
3.ใช้ศักยภาพที่โดดเด่นของคนตาบอด
4.สร้างภาพลักษณ์เชิงบวกและลดอคติทางสังคม
5.ช่วยสนับสนุนและสร้างโอกาส
การสร้างห้องฝึกนวดอาชีพสำหรับคนตาบอดไม่เพียงแต่แก้ปัญหาการว่างและส่งเสริมรายได้แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่อสร้างชีวิตที่มีคุณภาพความภูมิใจและการมีส่วนร่วมในสังคมของคนตาบอดได้อย่างแท้จริง เป็นการเปลี่ยนแปลงจากผู้รับกลายเป็นผู้ให้ และจากภาระให้เป็นพลังขับเคลื่อนของสังคม
ดังนั้นการเลือกนวดกับคนตาบอดจึงไม่เพียงแต่เป็นการได้รับการนวดที่มีคุณภาพและสัมผัสที่พิเศษแต่ยังเป็นการ ส่งเสริมคุณค่าและการมีส่วนร่วมในสังคมให้กับกลุ่มคนที่มีศักยภาพเหล่านี้
1.เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพให้กับคนตาบอดและเพื่อลดภาระของผู้ดูแลคนตาบอดและเป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนาความสามารถคนตาบอดและเป็นการสนับสนุนอาชีพสร้างรายได้และมอบโอกาสการใช้ชีวิตมีความภาคภูมิใจอย่างมีศักดิ์ศรี
ระยะเวลาดำเนินโครงการ มกราคม - เมษายน 2570 (ปรับตามความเหมาะสม) วัตถุประสงค์ เพื่อสร้างพื้นที่บำบัดที่กระตุ้นประสาทสัมผัส ช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตและพฤติกรรมสำหรับกลุ่มเป้าหมาย ผู้สูงอายุ คนพิการ เพื่อการส่งเสริมอาชีพและสรา้งรายยได้ให้กับคนตาบอด
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
ค่าอิฐมวนเบา (600 ก้อน x 7 บาท ) | 600ก้อน | 4,200.00 |
ค่าแผ่นฝ้า (16 แผ่น x 250 บาท) | 16แผ่น | 4,000.00 |
ค่าซีลาย (50 เส้น x 50 บาท) | 50เส้น | 2,500.00 |
ค่าปูนฉาบ (5 ถุง x 100 บาท | 5ถุง | 500.00 |
ค่าหน้าต่างบานเลื่อน (2 ม. X 108.5 ชม. 3 บาน x 3,550 บาท) | 3ชุด | 10,650.00 |
ค่าประตูบานเลื่อนสลับ 2 ช่อง (2 ม. X 180 ชม. 1 บาน x 6,000 บาท) | 1ชุด | 6,000.00 |
ค่าประตูห้องน้ำ+วงกบ (1,500 บาท x 2 ชุด) | 2ชุด | 3,000.00 |
ค่ากระเบื้องปูพื้น (50 กล่อง x 300 บาท) | 50กล่อง | 15,000.00 |
ค่าปูนนกนเขียว (20 ถุงx 150 บาท) | 20ถุง | 3,000.00 |
ค่าปูนกราว (10 ถุงx 150 บาท) | 10ถุง | 1,500.00 |
ค่าทราย (2 คิวx 500 บาท) | 2คิว | 1,000.00 |
ค่าอ่างล้างมือ (2 ชุด x 2,500 บาท) | 2ชุด | 5,000.00 |
ค่าชักโครก (2 ชุด x 2,500 บาท) | 2ชุด | 5,000.00 |
ค่าแอร์ 50,000 BTU 1 เครื่อง | 1เครื่อง | 60,000.00 |
ค่าถังบำบัดน้ำเสีย 2,000 ลิตร | 1ลูก | 9,800.00 |
ค่าอุปกรณ์ไฟฟ้า+งานประปา | 1งาน | 10,000.00 |
ค่าแรงก่อสร้าง | 1งาน | 40,000.00 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 181,150.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 18,115.00 |
ในการฟื้นฟูสมรรถภาพคนตาบอดโดยชุมชน Community Based Rehabilitation: CBR) ของมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 ในเขตพื้นที่จังหวัดมหาสารคามและในปี พ.ศ.2533 ได้ขยายพื้นที่ไปยังจังหวัดร้อยเอ็ด ภายใต้ศูนย์การศึกษาและการฟื้นฟูสมรรถภาพคนตาบอดจังหวัดร้อยเอ็ดโดยมีเป้าหมายในการให้บริการฟื้นฟูสมรรถภาพคนตาบอดในชุมชนภายใต้แนวคิด"ชุมชนเป็นฐานบ้านเป็นหลักอาสาสมัครเป็นแรงเสริมคนตาบอดเป็นศูนย์กลาง ในปีพ.ศ.2559 มูลนิธิได้ก่อตั้ง ศูนย์เรียนรู้การฟื้นฟูสมรรถภาพคนตาบอดโดยชุมชน บนที่ดินจำนวน2ไร่ ที่ได้รับการบริจาค จาก ดร.วิญญู คุวานันท์และได้รับมรดกจากคุณ Joan Lorraine Jurgens เพื่อสร้างเป็นอาคารสำนักงานและศูนย์เรียนรู้ เชื่อมั่นในหลักการที่ว่า"คนตาบอดสามารถพัฒนาได้"ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของศูนย์เรียนรู้ ที่มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกผ่านการฝึกอบรมและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนตาบอดในระดับชุมชนโดยมี เจ้าหน้าที่ CBR (Community Based Rehabilitation) ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและภายนอกประเทศเพื่อให้ความช่วยเหลือในการฟื้นฟูสมรรถภาพคนตาบอดตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยสูงอายุ ทั้งนี้เพื่อให้คนตาบอดและครอบครัวและชุมชนสามารถร่วมมือกันในการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาการประกอบอาชีพและการมีงานทำ เพื่อความเท่าเทียมทางสังคม
ดูโปรไฟล์ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้