เงินบริจาคของคุณจะให้กับ
จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ที่เรื้อรังมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปีได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาพเศรษฐกิจสังคมและคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ที่ต้องดำรงชีวิตอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ใช่สงครามแต่ก็ไม่มีความสงบ (Neither War nor Peace) แม้จะมีความพยายามของภาครัฐและภาคประชาสังคมในการช่วยเหลือเยียวยาและในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาภาครัฐได้มีการอุดหนุนงบประมาณกว่า 2 แสนล้านบาทลงไปเพื่อแก้ไขปัญหาหากแต่สถานการณ์ความรุนแรงก็ยังคงปรากฏขึ้นอย่างบ่อยครั้งและพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ยังคงติดอันดับจังหวัดที่ประชาชนมีความยากจนมากที่สุด ซึ่งกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากสถานการณ์ดังกล่าวคือผู้หญิงและเด็กจำนวนมากที่สูญเสียผู้นำครอบครัวและต้องเผชิญความยากลำบากในการดำรงชีวิตและต้องดิ้นรนเพื่อหารายได้เลี้ยงดูครอบครัวส่งผลกระทบต่อการศึกษาของเด็กและเยาวชนและการเข้าถึงบริการสาธารณสุขอันเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ไว้
องค์การอ็อกแฟมตระหนักถึงสถานการณ์ปัญหาดังกล่าวและเชื่อมั่นในพลังของผู้หญิงที่จะสามารถเป็นผู้พลิกฟื้นสถานการณ์ในพื้นที่ได้ จึงริเริ่มจัดทำโครงการเพื่อพัฒนาภาวะผู้นำทางเศรษฐกิจของผู้หญิงโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างทักษะทางธุรกิจที่จำเป็นและส่งเสริมให้ผู้หญิงมีภาวะผู้นำและเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเองและผู้นำหญิงเหล่านี้จะเป็นผู้ส่งต่อองค์ความรู้และสร้างแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและเป็นที่พึ่งของชุมชนในภาวะสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ต่อไปได้ซึ่งกว่า 2 ปีของการดำเนินโครงการมีผู้หญิงกว่า 200 รายที่ได้รับความรู้และทักษะที่จำเป็นเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจในพื้นที่และกลุ่มผู้นำหญิงเหล่านี้ได้กลับไปเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน
ทั้งนี้ข้อค้นพบที่สำคัญจากการดำเนินโครงการคือปัจจุบันมีหน่วยงานจำนวนมากทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคมที่ได้ให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มผู้หญิงในเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการอาชีพหากแต่ยังไม่มีหน่วยงานใดที่มุ่งพัฒนาผู้หญิงในบทบาทของผู้นำทางเศรษฐกิจซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน และยังพบว่ากลุ่มผู้หญิงขาดพื้นที่กลางในการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านการดำเนินธุรกิจและการตลาดที่สอดรับกับความต้องการที่หลากหลายตามศักยภาพของแต่ละกลุ่มรวมถึงแรงสนับสนุนในการเชื่อมต่อกับภาคธุรกิจและตลาดในเมือง นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้เองก็ยังขาดจุดเชื่อมประสานที่จะเป็นศูนย์รวมข้อมูลเพื่อให้ทรัพยากรที่มีอยู่มากในพื้นที่ได้เกิดการกระจายและเกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย
เพื่อให้เกิดแรงเหวี่ยงและขยายผลออกไปในวงกว้างองค์การอ็อกแฟมจึงได้ริเริ่มแนวคิดการจัดตั้งสถาบันวานิตาเพื่อพัฒนาธุรกิจชุมชน (WANITA Economic Empowerment Academy) ขึ้นโดยมีแนวคิดในการสร้างจุดศูนย์รวมบริการที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มอาชีพผู้หญิงไว้ในที่เดียว (One Stop Service) ประโยชน์ของโครงการมีดังต่อไปนี้
1. จัดทำแผนธุรกิจและกิจกรรมบ่มเพาะศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับกลุ่มอาชีพผู้หญิงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้
2. พัฒนาศักยภาพกลุ่มอาชีพที่มีความพร้อมพัฒนาเป็น SMEs
3. พัฒนาระบบฐานข้อมูลกลุ่มอาชีพผู้หญิงและกระบวนการสื่อสารข้อมูลข่าวสารระหว่างกลุ่มอาชีพและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
4. สร้างกลไกการเชื่อมงานระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นที่ทำงานด้านการส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มอาชีพสตรีในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เพื่อพัฒนาช่องทางการกระจายและเข้าถึงทรัพยากรในพื้นที่ของกลุ่มผู้หญิงร่วมกัน
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 0.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 0.00 |
เทใจดอทคอม เริ่มต้นจากความต้องการช่วยเหลือกลุ่มคนที่อยากทำเรื่องดีๆ เพื่อสังคม เทใจเป็นโครงการภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีมูลนิธิเพื่อ “คนไทย” และ สถาบัน ChangeFusion ร่วมกันสร้างพื้นที่กลางนี้ขึ้นมา เราอยากให้เทใจเป็นพื้นที่สำหรับคนที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม และให้สมาชิกของเทใจสามารถมีส่วนร่วมติดตามผลการดำเนินโครงการที่ตนบริจาคได้
ดูโปรไฟล์ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้