หมวกกัน(หัวหนู)น็อค

สฤษฎ์ ชนะจินดาโสภณ เจ้าของบริษัท จำกัด และวิกสิต เดชศรี บริษัท Save sense ได้ร่วมกันก่อตั้งโครงการหมวกกัน (หัวหนู) น๊อค เพราะได้แรงบันดาลใจจากการพูดคุยกับอาจาร์ยที่บ้านเด็กอ่อนรังสิต จึงเป็นที่มาของโครงการด้วยการทำหมวกกันน็อคและที่กั้นเตียงสำหรับเด็กอ่อน เพื่อไม่ให้น้องได้รับการบาดเจ็บ

วิกสิตในฐานะที่เป็นคุณพ่อลูกหนึ่ง บอกเล่าแรงบันดาลใจว่า เด็กเล็กๆ ที่เพิ่งลืมตาดูโลก 0-2 ปี เรียกได้ว่าแทบจะดูแลตัวเองไม่ได้เลย ไม่ว่าจะการนอน นั่ง ยืน และเดินต้องได้รับการฝึกฝนจนกว่าหนูน้อยจะชำนาญ แต่บ่อยครั้งที่หนูน้อยเหล่านี้ยังเกิดอุบัติเหตุล้มลุกคลุกคลานจนได้รับบาดเจ็บกันอย่างเสมอ อย่างลูกของเค้าเองที่อายุเพียงขวบกว่าๆ ก็ได้รับบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ บ่อยครั้ง แต่ด้วยความที่พ่อแม่เลี้ยงลูกเองทำให้หูตาในการดูแลลูกมีมาก แต่ถ้าเป็นเด็กกำพร้าในบ้านเด็กเล็กที่ครูพี่เลี้ยงต้องดูแลเด็กจำนวนมาก ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย

บ้านเด็กอ่อนรังสิตต้องดูแลเด็ก 0-6 ปี มากกว่า 200 คน และเด็กเล็กๆ นั่นผู้ดูแลแทบจะคลาดสายตาไม่ได้แม้กระทั่งเวลานอนซึ่งบางทีการพลิกตัวทำให้ขาแขนลอดออกจากเตียง หากพี่เล็กๆ วิ่งมาชนแขนก็ทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ หรือบางครั้งที่เด็กน้อยตื่นมันจะคืบ คลาน และหัดยืนทำให้ศรีษะของน้องเหล่านี้โขกราวเหล็กของเตียง พื้น หรือตู้โต๊ะต่างๆ เป็นประจำ

ดังนั้นทีมคุ้มกะลาน้อง ที่ได้คุยกับพี่เลี้ยงบ้านเด็กจนเกิดโครงการนี้ โดยสิ่งที่จะทำ คือ

1. หมวกกันน็อคให้เด็กอายุ 0-2 ปี โดยทำจากฟองน้ำที่กรุด้วยผ้าพิเศษสำหรับเด็กที่ระบายอากาศได้ดี ซัก และแห้งง่าย รวมถึงสามารถปรับขนาดได้ตามศรีษะ
2. เบาะหนังกั้นเตียงเด็กเล็กทั้ง 4 ด้าน โดยเบาะหนังนั้นจะเน้นที่การทำความสะอาดง่าย ไม่เลอะเทอะ อีกทั้งยังทนทาน สามารถใช้งานได้หลายปี