เงินบริจาคของคุณจะทำให้เกิดวงแลกเปลี่ยน เรียนรู้ แบ่งปัน และลงมือทำเพื่ออนาคตเชิง "ฟื้น-สร้าง"ให้กับคนที่อยากสร้างการเปลี่ยนแปลง200คน
ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเผชิญกับวิกฤตที่ซ้อนทับกันหลายด้าน ทั้งการเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการเลือนหายของวัฒนธรรม แต่โครงการส่วนใหญ่ยังคงมุ่งเน้นเพียงเรื่อง “ความยั่งยืน” โดยไม่แตะถึงกรอบความคิดที่ลึกซึ้งกว่า นั่นคือ “การฟื้นฟู” (Regeneration) ที่สามารถคืนชีวิตชีวาให้กับผู้คน ชุมชน และระบบนิเวศได้จริง
LOKAL Re:Generative ตอบโจทย์นี้ด้วยการจัดการเดินทางเรียนรู้เข้มข้น 8 วัน ในระหว่าง Bangkok Climate Action Week 2025 โดยผสมผสานงานวิจัย การเสวนา การเรียนรู้ผ่านร่างกาย และการเรียนรู้ในพื้นที่จริง ครอบคลุม 7 พื้นที่หลัก ได้แก่ มิวเซียมสยาม, วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU), สวนเบญจกิติ, Tham-Me (ตามมี), Baan Tepa Culinary Space, The 66 Cottage และโชคทวีวนเกษตร จังหวัดนครราชสีมา
โครงการนี้ออกแบบให้มีผู้เข้าร่วมหลัก 12 คนที่ผ่านการคัดเลือก พร้อมเปิดบางกิจกรรมให้สาธารณชนเข้าร่วม ผ่านการเสวนา โต๊ะกลม และประสบการณ์ร่วมต่าง ๆ รวมแล้วเข้าถึงผู้คนกว่า 200 คน โดยการถักทอวัฒนธรรมไทยและภูมิปัญญาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้ากับการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ โปรแกรมนี้มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนมุมมองจากการ “รักษาไว้” ไปสู่การ “ฟื้นฟู” สร้างทั้งสายสัมพันธ์ในชุมชนใกล้ตัว และการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบในระยะยาว
รากเหง้าของปัญหามาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและโลกาภิวัตน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้เร่งให้เกิดการเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการสูญเสียทางวัฒนธรรม จนก่อให้เกิดวิกฤตที่ซ้อนทับกันและคุกคามทั้งระบบนิเวศและชุมชน แม้ว่าแนวคิด “ความยั่งยืน” จะกลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย แต่ก็มักถูกตีความเพียงในเชิง “ลดผลกระทบ” มากกว่าการแก้ไขความไม่สมดุลเชิงระบบที่ลึกกว่า กรอบความคิดที่จำกัดนี้ไม่สามารถฟื้นฟูสิ่งที่สูญเสียไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นดินที่อุดมสมบูรณ์ ระบบนิเวศที่แข็งแรง วัฒนธรรมดั้งเดิม หรือความมีชีวิตชีวาของชุมชน ดังนั้น สาเหตุของปัญหาจึงเป็นทั้งเชิงโครงสร้างและเชิงวัฒนธรรม: แบบแผนการพัฒนาที่เน้นการดึงทรัพยากร (extractive model) ผนวกกับความเข้าใจเรื่องความยั่งยืนที่แคบเกินไป และยังไม่เปิดรับ “การฟื้นฟู” ในฐานะวิธีคิดองค์รวมที่จะฟื้นคืนระบบนิเวศ สังคม และวัฒนธรรม
○ ทางออกคือการเปลี่ยนจากการมุ่งเน้นเรื่อง “ความยั่งยืน” ที่แคบเกินไป มาสู่กรอบความคิดเชิงฟื้นฟู (regenerative paradigm) ที่คืนชีวิตชีวาให้กับผู้คน ชุมชน และระบบนิเวศ LOKAL Re:Generative เสนอการเดินทางเรียนรู้เข้มข้น 8 วัน ระหว่าง Bangkok Climate Action Week 2025 ครอบคลุมพื้นที่เมืองและชนบทในกรุงเทพฯ และนครราชสีมา โดยผสมผสานงานวิจัย การเสวนา การเรียนรู้ผ่านร่างกาย และการเรียนรู้ในสถานที่จริง วิธีการนี้เชื่อมโยงระหว่างทฤษฎีกับประสบการณ์ตรง แสดงให้เห็นว่าการฟื้นฟูสามารถนำไปใช้จริงได้ในหลายภาคส่วนสำคัญ ได้แก่ ระบบอาหาร การบริการและการท่องเที่ยว การเงิน การศึกษา และภูมินิเวศ วิธีการนี้ต่อยอดมาจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของทีมงานเราที่ได้ออกแบบและดำเนินการ “การเรียนรู้เชิงเรื่องเล่า (story-driven journeys)” เวทีสนทนาเรื่องภูมิอากาศ และโครงการอาหารเชิงวัฒนธรรมชุมชน ซึ่งล้วนช่วยเพิ่มความเข้าใจและสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความร่วมมือใหม่ ๆ ในขณะที่องค์กรอื่นมักจะทำงานด้านความยั่งยืนแบบแยกส่วน (เช่น พลังงานหมุนเวียน การอนุรักษ์ หรือการเงินสีเขียว) โครงการนี้แตกต่างด้วยการผสานมุมมองข้ามภาคส่วนเข้าด้วยกัน โดยหยั่งรากในวัฒนธรรมไทยและภูมิปัญญาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งคัดสรรผู้เข้าร่วมหลัก 12 คนควบคู่กับการมีส่วนร่วมจากสาธารณะ ด้วยการถักทอมิติด้านวัฒนธรรม นิเวศ และระบบเข้าด้วยกัน LOKAL Re:Generative ก้าวไปไกลกว่าการ “ลดผลกระทบ” เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงทั้งทางความคิดและการปฏิบัติ ไปสู่การฟื้นฟูอย่างแท้จริง
การดำเนินกิจกรรม วันที่ 1: เปิดงาน BKKCAW วันแรกเปิดสัปดาห์ LOKAL Re:Generative ด้วยบรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเอง เน้นความอยากรู้ การเชื่อมต่อ และการมีประสบการณ์ร่วมกัน ผู้เข้าร่วมจะไปงานเปิด BKKCAW พร้อมกัน เพื่อเริ่มบทสนทนาแรก ๆ และค้นพบความร่วมมือในบรรยากาศที่ไม่เป็นทางการและเป็นมิตร ช่วงเย็นจะปิดท้ายด้วยมื้ออาหารหรือเครื่องดื่มแบบฟื้นสร้าง ให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสรสชาติและคุณค่าของสถานที่ พร้อมสานสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม: ไม่จำกัดจำนวน วันที่ 2: Regeneration คืออะไร? หัวใจของสัปดาห์ LOKAL Re:Generative คือการสำรวจแนวคิด regeneration และวิธีคิดเชิงฟื้นสร้าง (regenerative mindset) ในฐานะตัวขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้ผ่านทฤษฎีและงานวิจัย เพื่อเข้าใจว่าการคิดเชิงฟื้นสร้างถูกนำมาใช้จริงในภาคการท่องเที่ยวและการพัฒนาชุมชนได้อย่างไร ช่วงบ่ายปิดท้ายด้วยการเดินสะท้อนความคิดและการเชื่อมต่อกันที่สวนเบญจกิติ จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม: 50 คน วันที่ 3: ระบบอาหารเชิงฟื้นสร้าง วันนี้จะสำรวจจุดตัดระหว่างภูมิอากาศ วัฒนธรรม และอาหาร ท่ามกลางระบบอาหารอุตสาหกรรมที่กำลังสร้างวิกฤตสิ่งแวดล้อมและสังคม งานนี้จะเชิญผู้ริเริ่มนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคตเชิงฟื้นสร้าง ตั้งแต่ฟาร์มบนดาดฟ้า การหมุนเวียนในครัว ไปจนถึงการฟื้นสร้างแนวปะการังและการเล่าเรื่องด้านภูมิอากาศ จัดขึ้นที่ “ตามมี” สถานที่ที่ยึดถือคุณค่าความพอเพียงและความยั่งยืน ผู้เข้าร่วมจะได้สัมผัสอาหารไม่เพียงแค่ในฐานะอาหาร แต่ในฐานะ “พื้นที่แห่งการเปลี่ยนแปลง” จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม: 30 คน วันที่ 4: การท่องเที่ยวเชิงฟื้นสร้าง วันนี้เชิญชวนให้เรามองการท่องเที่ยวไม่ใช่เพียงการบริโภค แต่เป็นการเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับผืนดิน วัฒนธรรม และชุมชน กิจกรรมเน้นที่ Koh Jum Beach Villas รีสอร์ทผู้บุกเบิกการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืนและเชิงฟื้นสร้างในภาคใต้ของไทย ผ่านการเล่าเรื่องที่เข้มข้นและการร่วมโต๊ะอาหาร ผู้เข้าร่วมจะได้สำรวจความหมายของการ “ต้อนรับ” และ “การเป็นแขก” ที่ให้เกียรติสถานที่ ลดการสร้างผลกระทบ และคืนชีวิตชีวาแก่สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และสังคม จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม: ออนไลน์ 40 คน, มื้อเที่ยง 20 คน วันที่ 5: การเงินเชิงฟื้นสร้าง การเงินเชิงฟื้นสร้างเป็นสาขาใหม่ที่กำลังเติบโตในระดับโลก มุ่งสำรวจว่าทุนสามารถถูกใช้เพื่อการฟื้นสร้างทางนิเวศและสังคมได้อย่างไร แม้ยังเป็นเรื่องใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เซสชันพิเศษแบบ invite-only วันนี้จะรวมผู้บุกเบิกจากไทย ภูมิภาค และต่างประเทศ เพื่อร่วมกันถกเถียงว่าการเงินจะเปลี่ยนจากการ “ดึงทรัพยากร” ไปสู่การ “ฟื้นสร้าง” ได้อย่างไร งานจัดขึ้นที่ร้านอาหารบ้านเทพา (สองดาวมิชลิน และ Green Star) โดยเปิดพื้นที่ให้สนทนาลึก สร้างความเชื่อมโยง และร่วมกันจินตนาการอนาคตของโลกการเงิน จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม: 16 คน วันที่ 6: ภูมินิเวศเชิงฟื้นสร้าง วันนี้เป็นการสรุปความรู้ ข้อคิด และแรงบันดาลใจที่ได้ตลอดหลายวัน ผ่านกรณีศึกษาภูมินิเวศ การทำแผนที่เชิงสร้างสรรค์ และการลงพื้นที่ป่าเกษตร จัดโดยความร่วมมือระหว่าง LOKAL Re:Generative, Living Story Landscapes, โชคทวีอะโกรฟอเรสทรี และ Sarnsaan ช่วงบ่ายถึงเย็นจะเป็นเวลาสำหรับการบูรณาการความรู้ เชื่อมต่อผู้คน และเตรียมตัวสู่ประสบการณ์ Immersion ปิดท้ายด้วยการสานต่อเครือข่ายเชิงภูมินิเวศ และวงขอบคุณ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกลับไปพร้อมความรู้ใหม่ แรงบันดาลใจ และมุมมองที่ลึกซึ้งกว่าต่อการนำ regeneration ไปใช้ในชีวิตประจำวัน จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม: 28 คน วันที่ 7–8: ประสบการณ์การเรียนรู้เชิงลึก วนเกษตรเชิงฟื้นสร้าง (นครราชสีมา) กิจกรรมสองวันเต็มเริ่มจากเวิร์กช็อปทำปุ๋ยหมักแบบลงมือจริง เดินชมพื้นที่ป่าแบบวนเกษตร ร่วมรับประทานอาหารท้องถิ่น แวะเยี่ยมชมปราสาทหินโบราณใกล้เคียง และปิดท้ายด้วยการเดินตลาดเช้าริมทางรถไฟ ที่คึกคักไปด้วยผลผลิตสดใหม่จากชุมชนโดยรอบ จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม: 16 คน
○ ช่วงเตรียมงาน (11 สิงหาคม – 15 กันยายน) ■ ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจกรรม ■ จองสถานที่ ร้านอาหาร ยืนยันรายชื่อผู้เข้าร่วม ■ พัฒนาเอกสารประกอบกิจกรรม ■ ยืนยันวิทยากร ผู้นำกิจกรรม และเชฟ ■ จัดทำแผนการสื่อสารและคอนเทนต์
○ ช่วงดำเนินงาน (16 – 27 กันยายน) ■ เปิดตัวแคมเปญการสื่อสาร ■ ประชุมประสานงานรอบสุดท้ายกับพันธมิตร ■ การเดินสำรวจสถานที่ ■ พิมพ์เอกสาร / Run-of-show / ทดสอบระบบเทคนิค
■ จัดกิจกรรมเข้มข้น 8 วัน (8-day immersive experience) ■ การประเมินผล (Impact Survey & Data Analysis): เก็บข้อมูลความคิดเห็นผ่านแบบสอบถาม วงสนทนา และสรุปผล ■ การสื่อสารและบันทึกงาน (Media & Documentation): ตัดต่อภาพถ่าย วิดีโอ และทำสรุปภาพรวมของโครงการ ■ รายงานผลกระทบ (Impact Report): จัดทำรายงานผลกระทบ – การเขียน แปล (ไทย/อังกฤษ) และออกแบบรูปเล่มรายงาน ■ การสื่อสารและเผยแพร่ (Communications & Dissemination): เผยแพร่รายงานทางออนไลน์ ส่งจดหมายอัปเดตให้ชุมชน และอาจมีงานเปิดตัวเล็ก ๆ ■ ค่าตอบแทนสำหรับนักเขียน/บรรณาธิการ (Honoraria for Writers/Editors): มอบเป็นการขอบคุณสำหรับผู้ช่วยด้านการเล่าเรื่องและการจัดทำเนื้อหา
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
ก่อนงาน BKKCAW - ค่าธรรมเนียมวิชาชีพ (การออกแบบโครงการ, การร่วมอำนวยการ, การจัดการ) - ค่าเดินทาง (ตั๋วเครื่องบินและค่าเดินทางในพื้นที่) - ค่าที่พัก - ค่าสร้างแบรนด์และการตลาด - ค่าวัสดุและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ก่อนจัดงาน | 1กิจกรรม | 438,250.00 |
วันเปิดงาน BKKCAW - ค่าเดินทางในพื้นที่ - ค่าอาหารและเครื่องดื่ม - ค่าอุปกรณ์และเครื่องเขียน | 1กิจกรรม | 17,800.00 |
วันที่ 2 – กิจกรรมการการฟื้นฟูคืออะไร? - ค่าเดินทางในพื้นที่ - ค่าอาหารและเครื่องดื่ม - ค่าอุปกรณ์และเครื่องเขียน | 1กิจกรรม | 9,800.00 |
วันที่ 3 – ระบบอาหารเชิงฟื้นฟู - ค่าเดินทางในพื้นที่ - ค่าอาหารและเครื่องดื่ม - ค่าอุปกรณ์และเครื่องเขียน | 1กิจกรรม | 19,800.00 |
วันที่ 3 – การบริการและการท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู - ค่าเดินทางในพื้นที่ - ค่าอาหารและเครื่องดื่ม | 1กิจกรรม | 10,300.00 |
วันที่ 4 – การเงินเชิงฟื้นฟู - ค่าเดินทางในพื้นที่ - ค่าอาหารและเครื่องดื่ม (มื้อเย็น) - ค่าอุปกรณ์และเครื่องเขียน | 1กิจกรรม | 209,800.00 |
วันที่ 6 – ภูมินิเวศเชิงฟื้นฟู - ค่าเดินทางในพื้นที่ - ค่าอาหารและเครื่องดื่ม - ค่าวิทยากรและผู้ดูแล - ค่าอุปกรณ์และเครื่องเขียน | 1กิจกรรม | 52,400.00 |
วันที่ 7–8 –ประสบการณ์การเรียนรู้เชิงลึก วนเกษตรเชิงฟื้นฟู (จังหวัดนครราชสีมา) - ค่าขนส่งทางบก - ค่าอาหารและเครื่องดื่ม - ค่าวิทยากรและผู้ดูแล - ค่าอุปกรณ์และเครื่องเขียน | 1กิจกรรม | 124,800.00 |
กิจกรรมหลังงาน & การประเมินผลกระทบ - การสำรวจผลกระทบและการวิเคราะห์ข้อมูล - สื่อและเอกสาร - การผลิตและจัดทำรายงานผลกระทบ - การสื่อสารและเผยแพร่ - ค่าตอบแทนสำหรับนักเขียน/บรรณาธิการ | 1กิจกรรม | 40,000.00 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 922,950.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 92,295.00 |
ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญกับวิกฤติซ้อนทับหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการสึกกร่อนทางวัฒนธรรม ทว่าหลายโครงการยังคงมุ่งเน้นเพียงแนวคิด “ความยั่งยืน” โดยไม่ได้ลงลึกไปถึงกรอบคิดของการ “ฟื้นคืน” ที่สามารถสร้างชีวิตชีวาใหม่ให้กับผู้คน ชุมชน และระบบนิเวศ LOKAL Re:Generative เข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ด้วยการจัดการเดินทางเรียนรู้เชิงลึก 8 วัน ระหว่าง Bangkok Climate Action Week 2025 ผสมผสานงานวิจัย บทสนทนา การฝึกฝนเชิงกาย และการเรียนรู้ในพื้นที่จริง ครอบคลุม 7 สถานที่ ได้แก่ มิวเซียมสยาม, วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU), สวนเบญจกิติ, ร้านตามมี (Tham-Me), Baan Tepa Culinary Space, The 66 Cottage, และสวนเกษตรวนเกษตรโชคทวี จังหวัดนครราชสีมา โครงการนี้ออกแบบให้มีผู้เข้าร่วมหลักจำนวน 12 คน ที่ถูกคัดสรรอย่างตั้งใจ พร้อมเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามามีส่วนร่วมผ่านเวทีเสวนา โต๊ะกลม และประสบการณ์ร่วมกัน คาดว่าจะเข้าถึงผู้คนกว่า 200 คน โดยมีเป้าหมายในการถักทอภูมิปัญญาไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้ากับการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ เพื่อเปลี่ยนมุมมองจากการ “รักษาไว้” ไปสู่การ “ฟื้นคืน” ทั้งในมิติของความสัมพันธ์ระยะสั้นในชุมชน และการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบระยะยาว แนวทางของเรามุ่งเชื่อมโยงทฤษฎีกับประสบการณ์ตรง แสดงให้เห็นว่าการฟื้นคืนสามารถนำไปใช้จริงได้ในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นระบบอาหาร การบริการ การเงิน การศึกษา และภูมิภาคชีวภาพ (bioregions) วิธีการนี้ต่อยอดจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทีมงานของเราเคยจัดกระบวนการเรียนรู้ผ่านเรื่องเล่า เวทีเสวนาด้านสภาพภูมิอากาศ และโปรแกรมอาหารวัฒนธรรมชุมชน ซึ่งล้วนช่วยเปิดมุมมองและจุดประกายความร่วมมือใหม่ ๆ ได้อย่างสำเร็จ
ดูโปรไฟล์ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้