เงินบริจาคของคุณจะใช้ในการอนุรักษ์พะยูน ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญพันธ์ให้กับศูนย์วิจัยทางทะเลและชายฝั่งดูแล เฝ้าระวัง อนุรักษ์พะยูนในน่านน้ำไทยที่เหลือราวๆ200ตัว
พะยูน หรือ "วาฬทะเล" เป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญพันธ์จากการประมงเชิงพาณิชย์ การล่า การทำลายที่อยู่อาศัย และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทุ่งหญ้าทะเลซึ่งเป็นแหล่งอาหารหลักของมันกำลังลดลงอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย ในอัตราเร่งที่จะทำให้สัตว์ชนิดนี้สูญพันธุ์เร็วกว่าคาด สัตว์ทะเลนี้มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศชายฝั่งและเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของท้องทะเลโดยรวม
โครงการจะใช้เทคโนโลยีโดรนในการฟื้นฟูหญ้าทะเลและติดตามการอพยพของพะยูนเพื่อปกป้องแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยสำคัญ ข้อมูลที่ได้จากการใช้โดรนจะช่วยในการพัฒนาแผนการอนุรักษ์อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มการรับรู้ของชุมชนท้องถิ่น กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์ได้แก่พะยูนและชุมชนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย โดยจะส่งผลทั้งในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาทักษะของชุมชนในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ กลุ่มเป้าหมายหลักคือ พะยูนที่อาศัยอยู่ในเขตหน้าน้ำของทะเลไทยที่เหลืออยู่ประมาณ 100-200ตัว ทั้งในเขตทะเลอันดามันและฝั่งอ่าวไทย
ด้วยการขับเคลื่อนผ่านการใช้เทคโนโลยีจะช่วยเพิ่มความสามารถในความสำเร็จต่อการปกป้องและลดภัยคุกคามต่อการอยู่รอดของพะยูน เพิ่มความเข้าใจโดยรวมเกี่ยวกับนิเวศวิทยาของพะยูนและเสริมสร้างกลยุทธ์การอนุรักษ์ตลอดแนวชายฝั่งน่านน้ำไทย
พะยูนหรือที่รู้จักกันในชื่อ "วัวทะเล" ได้รับการจัดอันดับเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การตกปลาเชิงพาณิชย์ การล่าสัตว์ การทำลายแหล่งหญ้าทะเล และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สัตว์ทะเลนี้มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศชายฝั่งและเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของท้องทะเลโดยรวม
ทุ่งหญ้าทะเล ซึ่งเป็นแหล่งอาหารหลักของพะยูนหดหายไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เมื่อทุ่งหญ้าทะเลเหล่านี้หายไป พะยูนต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการขาดอาหารและถูกบังคับให้ย้ายถิ่นไปสู่ที่ๆอุดมสมบูรณ์มากกว่า แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาระดับโลก การสูญหายไปของหญ้าทะเลจึงเป็นผลกระทบในวงกว้าง ทำให้อัตราเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของพวกมันรุนแรงและเร่งเร็วขึ้น
การปกป้องพะยูนส่งผลไม่เฉพาะต่อพวกมันเท่านั้น แต่เป็นการรักษาสมดุลของระบบนิเวศทางทะเลโดยรวมของเรา เพราะฉะนั้นการลงทุนลงแรงในการเพียรพยายามอนุรักษ์พะยูนจะช่วยปกป้องสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่น่ามหัศจรรย์และมีมาอย่างยาวนานนี้คงอยู่ถึงรุ่นต่อไป ทำให้แน่ใจว่ารุ่นเด็กๆ และหลานๆ ของเราจะได้ชมและเรียนรู้จากสัตว์ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเดินทางทะเลโบราณเหล่านี้สืบต่อไป
อนึ่ง การที่ทาง Below the Tides ได้รับเงินระดมทุนในโครงการก่อนหน้าเกินเป้าหมายจึงจะนำเงินดังกล่าวมาสมทบทุนร่วมสนับสนุนในโครงการนี้ด้วย
วิธีการของเราในการอนุรักษ์พะยูนจะประกอบด้วยกลยุทธ์หลักสองประการ 1) การฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล ซึ่งเป็นอาหารของพวกมัน และ 2) การทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมการเดินทางอพยพของพวกมัน โดยทั้งสองกลยุทธ์นี้ใช้เทคโนโลยีโดรนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการดำเนินงาน ความพยายามในการฟื้นฟูหญ้าทะเลของเรามีพื้นฐานมาจากเทคนิคที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีโดรน เราใช้โดรนสำหรับงาน เช่น การทำแผนที่ทางอากาศและการตรวจสอบพื้นที่ เพื่อระบุบริเวณที่เหมาะสมสำหรับการฟื้นฟูและประเมินสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ โดรนยังช่วยในกระบวนการทดลองปลูกหญ้าทะเลแบบแม่นยำ ช่วยให้เราสามารถใช้ทรัพยากรที่จำกัดได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด ด้วยการร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่นและนักชีววิทยาทางทะเล เราทำการทดลองซ้ำหลายครั้ง โดยใช้ข้อมูลจากโดรนเพื่อปรับปรุงและพัฒนาเทคนิคการฟื้นฟูให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับการศึกษาการอพยพ พฤติกรรม และสุขภาพของพะยูน เราใช้โดรนที่ติดตั้งเซนเซอร์และกล้องที่ทันสมัย โดรนเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถติดตามพะยูนจากระยะไกล เก็บข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว และระบุแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญหรือภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ในกลยุทธ์การอนุรักษ์ ช่วยให้เราสามารถจัดลำดับความสำคัญของการดำเนินการและพัฒนาแผนการจัดการอย่างครอบคลุม
ซื้อเครื่องบินโดรน DJI Mavic 3 Thermal Surveillance Combo มูลค่า 240,000บาท และสถานีไฟฟ้าพกพาสองชุด มูลค่า 40,000บาท เพื่อสนับสนุนการสำรวจอนุรักษ์พะยูนและแหล่งอาหารให้แก่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งสำหรับโครงการวิจัยอนุรักษ์พะยูนและหญ้าทะเล การติดตามและการประเมินผล: การใช้โดรน ความคืบหน้าของการฟื้นฟูหญ้าทะเล และการเก็บข้อมูลพะยูนจะได้รับการติดตามโดยใช้ตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลัก เช่น จำนวนการสำรวจที่ใช้โดรน พื้นที่หญ้าทะเลที่ได้รับการฟื้นฟู และแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญที่ระบุไว้ การทบทวนผลเป็นระยะทุกไตรมาสและการประเมินผลประจำปีจะประเมินความก้าวหน้าเมื่อเทียบกับข้อมูลพื้นฐาน ชุมชนท้องถิ่นและนักวิจัยจะมีส่วนร่วมในการเก็บข้อมูลและการปรับกลยุทธ์ ขณะเดียวกันผลการศึกษาจะถูกรายงานเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานอนุรักษ์อย่างมีประสิทธิภาพ
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
เครื่องบินโดรน DJI Mavic 3 Thermal Surveillance Combo, มูลค่า 240,000บาท DJI Mavic 3 Thermal Surveillance Combo Aircraft*1, Remote controller 1, Mavic 3 Intelligent Flight Battery *4, Charging Hub*1, Mavic 3 Series Speaker *1, Power Cable*1, USB_C Cable*1, Propeller (pair)*3, USB-C Power ADapter (100W)*1, USB-C to USB-C Cable *1, Carrying Case *1, Gimbal Protector*1, Screwdriver*1 | 1เครื่อง | 69,000.00 |
Power Station สถานีไฟฟ้าพกพา มูลค่าชุดละ 20,000บาท EcoFlow RIVER 2 Pro Portable Power Station 800W | 2ชุด | 3,730.00 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 72,730.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 7,273.00 |
ผม อริณชย์ ทองแตง ชื่อ อิน อายุ 17 ปี ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่ โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury International School year 12 และน้องสาวผม ด.ญ. อริสา ทองแตง ชื่อเล่น เอม อายุ 15 ปี ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่ โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury International School year 11 ตั้งแต่เล็กเต่าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ผมชอบมากและผมก็ทำให้น้องสาวเกิดความชอบตามผมด้วย ผมเลี้ยงเต่าบกและขุดบ่อเองสำหรับเลี้ยงเต่าน้ำที่บ้าน จนกระทั่งพวกเราได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลที่เกาะมันใน เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม พ.ศ.2565 กับครอบครัวและเพื่อน ได้รับความรู้ ความเข้าใจ และปัญหาของเต่าทะเลในภาพรวม และความต้องการที่ทางศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล พวกเราเลยตั้งใจจะร่วมสรรสร้างโครงการในให้เป็นที่รู้ในวงกว้าง สร้างจิตสำนึก สร้างความตระหนักรู้ เป็นตัวเชื่อมเล็กๆที่สร้างการเปลี่ยนแปลง อยากจะผันแปรความชอบส่วนตัว งานอดิเรกการเลี้ยงสัตว์ของผมและน้องสาว ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม ต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงอยากจัดตั้งโครงการเพื่อระดมทุนต่างๆที่ส่งเสริมการดูแลรักษาทรัพยากรทางน้ำของเราอันมีค่าให้คงอยู่ต่อไป จากรุ่นสู่รุ่น
ดูโปรไฟล์ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้