เงินบริจาคของคุณจะสนันสนุนทริปท่องเที่ยวเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้พิการได้รับรู้ถึงศักยภาพของตนเองให้กับผู้พิการที่อาศัยอยู่ในภาคกลางและภาคตะวันออก200คน
ทริปท่องเที่ยวเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้พิการได้รับรู้ถึงศักยภาพของตนเองแม้ในสภาพร่างกายที่แตกต่างออกไป ในสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยทั้งที่พักและการเดินทาง ตลอดจนการมีผู้ช่วยเหลือผู้พิการเมื่อจำเป็น
คนพิการ หมายถึงบุคคลที่มีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตประจำวัน แบ่งเป็น 7 ประเภท (พ.ม.) ได้แก่ บกพร่องทางการมองเห็น การได้ยิน ร่างกาย จิต/พฤติกรรม สติปัญญา การเรียนรู้และออทิสติก หรืออาจแบ่งความพิการได้อีก ๒ ประเภท คือ พิการตั้งแต่กำเนิด และพิการภายหลัง ซึ่งคนพิการตั้งแต่กำเนิด จะมีแนวโน้มยอมรับในความพิการ ได้ดีกว่าคนพิการภายหลัง
จากข้อมูลจากกรมส่งเสริมและพัฒนาคนพิการชีวิตคนพิการ พบว่า มีคนพิการที่จดทะเบียนความพิการทั่วประเทศกว่า 2 ล้านคน กว่า 8 แสนคนอยู่ในวัยทำงาน และมีงานทำเพียง 1.8 แสนคน
คนพิการจำนวนไม่น้อย อยู่ในพื้นเพของครอบครัวที่ไม่ค่อยมีความรู้ความเข้าใจเรื่องความพิการมากนัก มองคนพิการ ความพิการว่าเกิดจากเวรกรรมในชาติปางก่อน เกิดมาเพื่อชดใช้กรรม บางส่วนครอบครัวก็รู้สึกอับอายที่มีคนพิการในครอบครัว ทำให้คนพิการขาดโอกาสในการได้รับการพัฒนาหรือได้รับกำลังใจอย่างเหมาะสม ใช้ชีวิตวันๆ โดยปราศจากซึ่งพลังแรงใจในการจะทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเอง
ศูนย์ประชุมมหาไถ่ บริษัท เรย์วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ภายใต้ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ จัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นสถานที่ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ดำเนินการโดยคนพิการ เพื่อเสริมพลัง ฝึกอาชีพและสร้างอาชีพแก่คนพิการ เพราะถือว่า หลังจากมีความพิการกำลังใจเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างแรกพอๆ กับการฟื้นฟูในด้านอื่นๆ
ด้วยประสบการณ์ในการทำงานกว่า 30 ปี ของมูลนิธิฯ ซึ่งมีสถานศึกษาเพื่อฝึกอาชีพคนพิการ ศูนย์จัดหางานคนพิการ สายด่วน 1479 ซึ่งหน่วยบริการของมูลนิธิฯ ซึ่งฝึกอาชีพ ส่งเสริมคนพิการมีงานทำและส่งเสริมคนพิการเข้าถึงสิทธิมาแล้วกว่า 10,000 คน เพื่อให้คนพิการสามารถใช้ชีวิตอิสระได้ในสังคม โดยใช้กระบวนการทางสังคมสงเคราะห์ ได้แก่ การให้คำปรึกษาฉันเพื่อน การทำ Group สนับสนุน การนำเสนอคนพิการต้นแบบ (Role Model) ฯลฯ เพื่อให้คนพิการหลุดพ้นจากความหดหู่สิ้นหวัง หลุดพ้นจากการไม่ยอมรับตนเอง ความรู้สึกอายเวลาถูกมองจากคนไม่พิการทั่วไป ฯลฯ
การก้าวข้ามความพิการ ไม่ได้หมายถึงเพียงการฟื้นฟูเฉพาะในความพิการเท่านั้น แต่หมายรวมถึงการที่คนพิการยอมรับในความพิการของตนเอง การรู้สึกเข้มแข็งเวลามีคนไม่พิการมองมา การรู้สึกเป็นอิสระและเลือกทำในส่งที่ตนเองต้องการอย่างเหมาะสม การเลือกประกอบอาชีพตามศักยภาพที่ตนเองมีอยู่ ซึ่งมีคนพิการจำนวนไม่น้อยที่ก้าวข้ามความพิการ ออกมาใช้ชีวิต เป็นนักกีฬา เป็นเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จสายงานของต้น แต่คนพิการเหล่านี้ ล้วนได้รับกำลังใจไม่ว่าจากภายในหรือภายนอกและก้าวพ้นจากความพิการออกใช้ชีวิตอย่างอิสระได้ นั่นเอง
คนพิการนั่งรถเข็น / เดินทางลำบาก ที่ท้อแท้สิ้นหวัง ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก จำนวน 200 คน
ผู้รับผิดชอบโครงการ นายสุเมธ พลคะชา
เป็นคนพิการ นั่งวีลแชร์ไฟฟ้า ทำงานเป็น ผอ.รร. และมาสนับสนุนงานที่ศูนย์ประชุมมหาไถ่ พัทยา
เคยทำงานเกี่ยวกับการเสริมพลังคนพิการและครอบครัวในชุมชน IL CBR และศูนย์การเรียนรู้ อาสาสมัครช่วยพิการและอื่นๆ
เคยดูแลการส่งเสริมอาชีพคนพิการในชุมชน
ปัจจุบัน เป็นผู้อำนวยการ รร เด็กพิเศษคุณพ่อเรย์จัดการศึกษาสู่อาชีพเด็กพิเศษ
เข้าใจคนพิการยากลำบาก ท้อแท้ และมมองไม่เห็นโอกาส เพราะเราก็เคยตกในสสถานการณ์อย่างเดียวกัน จนมาได้รับโอกาสจากมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ
จึงได้มาฝึกอาชีพ web design เริ่มจาก web designer และมาเป็นครูผู้สอน ทำงานคนพิการในชุมชน ส่งเสริมอาชีพคนพิการในชุมชน จนมาดูแลการฝึกอาชีพเด็กพิเศษ เช่นในปัจจุบัน
ระดมทุน "กิจกรรมเปิดตา เปิดใจ" ทำทริปท่องเที่ยวเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้พิการได้รับรู้ถึงศักยภาพของตนเองแม้ในสภาพร่างกายที่แตกต่างออกไป ในสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยทั้งที่พักและการเดินทาง ตลอดจนการมีผู้ช่วยเหลือผู้พิการเมื่อจำเป็น
ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม 1) ประชุมคณะทำงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง 2) ประสานจัดทำโครงการ 3) หาช่องทางเพื่อหาทรัพยากรมาสนับสนุนกิจกรรม 4) ประชาสัมพันธ์เชิญชวนคนพิการที่ท้อแท้และยากลำบาก เข้าร่วมผ่านสมาคมคนพิการต่างๆ เครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พมจ.จังหวัดต่างๆ 5) คัดเลือกคนพิการร่วมกิจกรรม ๒๐๐ คน 6) จัดเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรม อาทิ ทีมวิทยากรคนพิการ คนพิการต้นแบบ ที่พัก อาหาร รถตู้มีลิฟท์สำหรับคนพิการนั่งวีลแชร์ ร่วมถึงผู้ช่วยเหลือคนพิการ ด้วย 7) จัดทำข้อมูลเพื่อเก็บรายละเอียดในการจัดทำรายงาน 8) จัดทำรายงานส่งผู้สนับสนุน
รูปแบบกิจกรรม 1) กิจกรรมละลายพฤติกรรม 2) กิจกรรมแม่น้ำแห่งชีวิต 3) กลุ่มสนับสนุน (Group Support) 4) พูดคุยกับคนพิการต้นแบบ (Role Model) 5) ท่องเที่ยวสำรวจสิ่งอำนวยความสะดวก 6) ดูงานอาชีพและศักยภาพกีฬาคนพิการ 7) ถอดบทเรียน
ระยะเวลาดำเนินโครงการ ระยะเวลาระดมทุน : มกราคม – ตุลาคม 2565 ระยะเวลาดำเนินกิจกรรมเดินตาเปิดใจคนพิการ : เมษายน – ตุลาคม 2565 รวม 10 เดือน
วันที่ 1 7.00 - 12.00 น. เดินทางถึงพัทยา / เข้าที่พัก / รับประทานอาหารกลางวัน 14.00 - 15.30 น. กิจกรรมละลายพฤติกรรม / กิจกรรมแม่น้ำแห่งชีวิต 15.30 - 17.30 น. กลุ่มสนับสนุน (Group Support) การให้คำปรึกษาฉันเพื่อนคนพิการ / พูดคุยกับคนพิการต้นแบบ (Role Model) 18.00 น. รับประทานอาหารเย็น
วันที่ 2 7.00 - 8.30 น. รับประทานอาหารเช้า 8.30 - 16.30 น. สำรวจสิ่งอำนวยความสะดวกท่องเที่ยวเมืองพัทยา,สวนนงนุช, แหลมบาลีฮาย, จุดชมวิวเขา สทร. ฯลฯ รับประธานอาหารกลางวันระหว่างท่องเที่ยว 18.00 น. รับประทานอาหารเย็น
วันที่ 3 7.00 - 8.30 น. รับประทานอาหารเช้า 8.30 - 10.00 น. ดูงานอาชีพและศักยภาพกีฬาคนพิการ สถานศึกษาภายใต้มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ 10.00 - 11.00 น. ถอดบทเรียน ทบทวนประสบการณ์ 11.00 - 17.00 น. เดินทางกลับ / รับประทานอาหารกลางวันระหว่างเดินทาง
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
ค่าเดินทางเฉลี่ย ไป – กลับ คนละ 1200 บาท | 200คน | 240,000.00 |
ค่าที่พัก 2 คืนๆ ละ 500 บาท รวมอาหารเช้า | 200คน | 200,000.00 |
ค่าอาหารกลางวันและเย็น 3 วัน รวม 5 มื้อ (ต่อท่าน) มื้อละ 60 บาท | 200คน | 240,000.00 |
ค่าผู้ช่วยเหลือระหว่างกิจกรรม วันละ 400 บาท 3 วัน | 5คน | 6,000.00 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 686,000.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 68,600.00 |
ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้