เงินบริจาคของคุณจะนำกิจกรรมดนตรีเพื่อสร้างการพัฒนาศักยภาพ สุขภาพ และสุนทรียภาพให้กับผู้สูงอายุ เด็กและเยาวชน1,000คน
มูลนิธิอาจารย์ เจริญสุข เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดช่องว่างทางสังคม โดยการนำกิจกรรมดนตรีให้เข้าถึง กลุ่มเด็ก กลุ่มผู้สูงอายุ ที่ขาดโอกาสเพื่อที่จะได้ทำกิจกรรมทางดนตรีซึ่งจะสามารถสร้างการพัฒนาศักยภาพ สุขภาพ และสุนทรียภาพ เราเชื่อว่าโครงการนี้จะทำให้เด็กและผู้สูงวัยได้ประโยชน์ดังนี้
นอกจากนี้ยังสร้างผลลัพท์ด้านต่างๆ อาทิ ด้านสุขภาพ: มีสุขภาพกายและใจดี ,ด้านสังคม: มีสังคมที่น่าอยู่, ด้านเศรษฐกิจ: มีเศรษฐกิจในครัวเรือนดีขึ้น และ ด้านสิ่งแวดล้อม: มีสิ่งแวดล้อมในชุมชนดี มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ดนตรีช่วยสร้างสรรค์สังคมกันเถอะ
ดนตรีช่วยผู้สูงอายุอย่างไร
ดนตรีช่วยพัฒนาสมองเด็ก อย่างไร
1. การออกแบบกิจกรรมดนตรีแบบร่วมรุ่น (Intergenerational Music Activity Design) แนวทางการดำเนินการ: จัดให้มีเวิร์กช็อปที่ผู้สูงอายุและเยาวชนทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น “ร้องเพลงรุ่นปู่ย่า – แต่งเพลงรุ่นหลาน” ใช้ดนตรีเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเรื่องราว เช่น การให้ผู้สูงอายุเล่าเรื่องในอดีตผ่านบทเพลง และให้เยาวชนสร้างทำนองร่วมสมัยขึ้นมา ใช้เครื่องดนตรีที่ไม่ซับซ้อน เช่น การขับร้องเพลง ในรูปแบบการขับร้องประสานเสียง เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมง่ายขึ้น จุดเน้น: “กระบวนการร่วมกัน”
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น เยาวชนเกิดความเข้าใจในรากวัฒนธรรมท้องถิ่นมากขึ้น และมีทักษะในการฟังและให้เกียรติ ผู้สูงอายุมีความภาคภูมิใจ ได้ถ่ายทอดความรู้และมีปฏิสัมพันธ์กับคนรุ่นใหม่ มูลนิธิฯ เน้นกิจกรรมผู้สูงอายุ และ สำนักงานส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ต่าง ๆ มักจัดกิจกรรม “ดนตรีอบรม” หรือ “ร้องเพลงเพื่อสุขภาพ” สำหรับผู้สูงอายุ ในขณะเดียวกัน เยาวชนมีโครงการต่างหาก เช่น “ค่ายดนตรีเยาวชน” โดยเน้นชุมชนและผู้เรียนเป็นหลัก เพื่อก่อให้เกิดวงดนตรีต้นแบบ ผลลัพธ์ ความสุขระยะสั้น และระยะยาว สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชน และพัฒนาทักษะชีวิต
ดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอน ในพื้นที่ สร้างชุมชน และโรงเรียน ต้นเเบบ
จัดทำเครื่องมือ นวัตกรรมการเรียนการสอน ออนไลน์ จัดทำโน้เพลงเพื่อใช้สำหรับกิจกรรม
เพิ่มพื้นที่ในการแสดงออกให้กับผู้เข้าร่วม เพื่อเป็นการประเมินผลลัพธ์ และเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้เข้าร่วม
กิจกรรมถอดบทเรียน และการประเมินต่าง ๆ
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
โครงการวงปล่อยแก่ จำนวน 10 พื้นที่ ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1. บ้านคา จังหวัดราชบุรี 2. จังหวัดเชียงใหม่ 3. บ้านเกาะลอย จังหวัดราชบุรี 4. จังหวัดยะลา 5. จังหวัดบุรีรัมย์ 6. จังหวัดนครสวรรค์ 7. จังหวัดเชียงราย 8. จังหวัดสุราษฎร์ธานี 9. จังหวัดนครราชสีมา 10.จังหวัดภูเก็ต | 500คน | 2,350,000.00 |
โครงการวงเด็กภูมิดี จำนวน 12 พื้นที่ ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1. โรงเรียนวัดลาดทราย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2. โรงเรียนวัดกุฏิประสิทธิ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3. โรงเรียนบ้านเทอดไทย จังหวัดเชียงราย 4. โรงเรียนบ้านห้วยอื่น จังหวัดเชียงราย 5. โรงเรียนบ้านน้ำลัด จังหวัดเชียงราย 6. โรงเรียนบ้านดงมอน จังหวัดมุกดาหาร 7. โรงเรียนอนุบาลบ้านคา จังหวัดราชบุรี 8. โรงเรียนบ้านโป่งเจ็ด จังหวัดราชบุรี 9. โรงเรียนน้ำตกห้วยสวนพลู จังหวัดราชบุรี 10. ทุนศักยภาพความเป็นเลิศทางดนตรี ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้พลังแก่ครอบครัวผู้บกพร่องและพิการ | 500คน | 2,350,000.00 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 4,700,000.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 470,000.00 |
เป้าหมายสำคัญสูงสุดของโครงการคือ การช่วยแก้ปัญหาด้านสังคมที่เน้นไปที่ การสร้างมิติใหม่ของสังคมผู้สูงอายุ ด้วยการลดภาระเรื่องของผู้สูงอายุ ลดภาระคนเลี้ยงดู ทำการพัฒนาคุณภาพการอยู่ร่วมกันทั้งในระหว่างสังคมผู้สูงอายุและสังคมต่างวัย ทำให้มีชีวิตชีวา มีความสุขร่วมกัน สามารถสร้างเป็น “ต้นแบบ” หรือตัวอย่างชุมชนของผู้สูงอายุต้นแบบให้กับชุมชนอื่นๆ ทั่วประเทศไทยต่อไป เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งการเตรียมตัวของประเทศเพื่อเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มตัว สังคมไทยกำลังเผชิญปัญหามีประชากรผู้สูงอายุมากขึ้น ต้องเผชิญหน้าเรื่องสุขภาพของผู้สูงอายุทั้งด้านจำนวนที่มีมากและการจัดการเรื่องความเป็นอยู่ การดูแลรักษา การเลี้ยงดู เผชิญกับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดจากความเจ็บป่วยของผู้สูงอายุ ซึ่งกลายเป็นภาระของครอบครัว ภาระของสังคม และกลายเป็นวาระของชาติ เพราะผู้สูงอายุจะละทิ้งก็ไม่ได้ สร้างรายได้ก็ทำได้ยาก แต่จะดูแลอย่างมีคุณภาพชีวิต มีคุณค่าต่อสังคมและจะควบคุมค่าใช้จ่ายให้สมดุลได้อย่างไร คนแก่กลายเป็นภาระของครอบครัว คนแก่ถูกทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยว ความรู้ของคนแก่กลายเป็นสิ่งที่คนสมัยใหม่ไม่ต้องการ คนแก่กลับกลายเป็นคนที่อยู่อย่างไร้ค่าและว้าเหว่ เป็นคนที่เหงาไม่มีลูกหลานอยู่ใกล้ ไม่มีรายได้ไม่มีทรัพย์สินอีกต่อไป ผู้สูงอายุเป็นภาระในการเลี้ยงดู ไม่มีใครดูแล ไม่มีใครเอาใจใส่ ปล่อยให้คนแก่อยู่ตามยถากรรม รอวันที่จะจากโลกนี้ไปเท่านั้น ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องมีการเตรียมความพร้อมให้กับสังคมไทย โดยเฉพาะสังคมผู้สูงวัยที่กำลังจะเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ มูลนิธิฯ เชื่อเสมอว่า “ผู้สูงวัยเป็นทรัพยากรอันมีค่าของประเทศ” และ “การร้องเพลงและการเล่นดนตรีของผู้สูงอายุ เป็นอีกมิติหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาของสังคมผู้สูงอายุได้” มูลนิธิฯ จึงขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยดูแลสังคมผู้สูงวัย และเตรียมความพร้อมให้กับสังคมไทยเผื่อเผชิญหน้ากับสังคมผู้สูงวัยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้ดนตรีที่เป็นความเชี่ยวชาญของมูลนิธิมาใช้เป็นเครื่องมือดังที่กล่าวมา และถึงแม้จะเป็นเพียงกลุ่มต้นแบบเล็กๆที่มูลนิธิฯจะทำได้ แต่มูลนิธิฯเชื่อมั่นว่า “การสร้างต้นแบบที่ดี”
ดูโปรไฟล์ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้