DHAM DOCUMENTARIES

เทใจ

เงินบริจาคของคุณจะให้กับ

โครงการสำเร็จแล้ว

ระยะเวลาระดมทุน

14 ธ.ค. 2444 - 30 ก.ย. 2558

พื้นที่ดำเนินโครงการ

ทั่วประเทศ

เป้าหมาย SDGs

กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ

..สามารถเข้าดูรายละเอียดทั้งหมดของโครงการได้ที่ www.dham.me (เร็วๆนี้)

ปัญหาสังคม

ที่มา/ความสำคัญโครงการ :

ธรรมอะไร ?

ภาพยนตร์สารคดีธรรมะ “รูปแบบใหม่” ที่จะทำให้คุณได้รู้จักกับพุทธศาสนาที่แท้จริง และหัวใจของแก่นธรรมที่คนส่วนใหญ่อาจไม่เคยได้เข้าถึง

ธรรม (ธรรมะ) หมายถึง ธรรมชาติ, ธรรมดา, สัจธรรม, ความจริง, สิ่งที่เป็นไป

ธรรมะไม่ใช่ปรัญชาความเชื่อหรือสิ่งเหนือวิสัยมนุษย์ใดๆ หากแต่เป็นเรื่องของเหตุและผลที่มนุษย์ทุกคนสามารถเข้าใจได้

ธรรมะจึงไม่ใช่เรื่องของศาสนา, เพศ, วัย หรือชนชาติ หากแต่เป็นสิ่งสากล และไม่ขึ้นต่อกาลเวลา

ธรรมทำไม ?

"เพราะธรรมะคือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนควรได้ลองศึกษา"

ผู้จัดทำจึงต้องการจารึกแก่นธรรมะลงในรูปแบบของภาพยนตร์ที่มีความสวยงาม น่าดู น่าฟังและนำเสนอได้ถึงแก่นของธรรมะอย่างตรงไปตรงมาและเข้าถึงได้มากที่สุด

ธรรมอย่างไร ?

เราจะเดินทางไปสัมภาษณ์คนทุกเพศ, วัย, ฐานะ, สังคม, รวมถึงพระจากทั่วประเทศไทย เพื่อหาความหมายของชีวิต, ธรรมชาติ, และการปฏิบัติธรรม โดยเล่าผ่านสารคดีสั้น 3 ตอน

ตอนที่ ๑ : The Forgotten Question (คำถามที่ถูกลืม)

นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องของชีวิต โดยจะไปสัมภาษณ์ตั้งแต่เด็ก-แก่ จน-รวย คนในหลากหลายรูปแบบเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขา เพื่อให้ได้เห็นแง่คิดและมุมมองเกี่ยวกับชีวิตของคนแต่ละคน และนำไปสู่การตั้งคำถามกับชีวิตของตนเองที่บางคนอาจไม่เคยได้คิดถึง

ตอนที่ ๒ : The Art of Nature (ศิลปธรรม)

เมื่อเราได้ย้อนกลับมามองดูและตั้งคำถามเกี่ยวกับ ชีวิตของตนเอง แล้ว สิ่งต่อไปก็คือการเรียนรู้ที่จะเข้าใจธรรมชาติเหล่านี้ตามความเป็นจริง

ตอนที่ ๒ นี้จึงนำเสนอความรู้เกี่ยวกับธรรมะ (ธรรมชาติ) โดยจะไปสัมภาษณ์บุคคลธรรมดาและพระที่มีความรู้ในพระธรรม นำเสนอแก่นธรรมที่ตั้งอยู่บนหลักของเหตุและผล โดยไม่มีคำศัพท์ทางพุทธศาสนา (มีให้น้อยที่สุด) ไม่มีเรื่องความเชื่อหรือสิ่งเหนือวิสัยมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

รวมถึงนำเสนอวิถีชีวิตพระป่า ที่มีความสงบ, เรียบง่ายและไม่ยึดติดสิ่งใดๆ ภายใต้ความสวยงามของธรรมชาติในประเทศไทย

ตอนที่ ๓ : The Way (ทางธรรม)

เมื่อมีความรู้เกี่ยวกับธรรมะในทางที่ถูกต้องแล้ว เราจำเป็นต้องปฏิบัติเพื่อให้ได้เห็นจริง เพราะเราจะเข้าถึงสัจธรรมอย่างแท้จริงไม่ได้เลย หากไม่ได้เกิดจากการปฏิบัติ

ตอนสุดท้ายนี้จึงนำเสนอเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม สัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติธรรมอย่างเจาะลึกเกี่ยวกับทุกคำถามที่คุณควรรู้ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติของตนเองต่อไป เช่น ปฏิบัติธรรมคืออะไร? ปฏิบัติธรรมไปทำไม? ปฏิบัติแล้วได้อะไร? เพราะอะไร? ปฏิบัติธรรมอย่างไร?

โดยในระหว่างการถ่ายทำ จะมีการ update ข้อมูล ข่าวสาร และคลิปวิดีโอให้ได้ชมเป็นระยะผ่านทาง social media ต่างๆ

https://www.dham.me

https://www.facecook.com/dhamdiary

https://www.instagram.com/dham.project

https://www.youtube.com/channel/UCCZClzX2dgiYTF3Ybf9i_SA

ธรรมเมื่อไหร่ ?

เราจะเริ่มถ่ายทำจริงๆในช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม (เข้าพรรษา) และจะแล้วเสร็จลงในกลางปีหน้า (พ.ศ.๒๕๕๙)

ความเป็นมา

ตอนนี้ (พ.ศ.๒๕๕๘) ผู้จัดทำอายุ ๒๖ ปี รู้จักกับพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็ก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น 'พุทธแบบเน้นความเชื่อ' มากกว่าเหตุผลและความเป็นจริง จึงไม่ค่อยได้สนใจ เพราะไม่รู้ว่าจะรู้ไปเพื่ออะไร..

จนกระทั่งได้มีโอกาสไปเข้าคอสปฏิบัติธรรมตอนอายุ ๑๗ ปี จึงทำให้ได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว ยังมีอะไรอีกมากมายที่เรายังไม่เคยได้ค้นพบภายในตัวเราเอง และเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากที่สามารถเกิดขึ้นได้กับตัวเราจากเพียง “การมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ”

นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์เราแตกต่างจากสัตว์อย่างแท้จริง และเป็นสิ่งที่ทุกคนควรได้ลองสัมผัสในฐานะมนุษยคนหนึ่ง..

แต่อย่างไรก็ตามผู้จัดทำก็ยังคงไม่รู้จักกับธรรมะเท่าไรนักในตอนนั้น...

จนเมื่ออายุได้ ๒๔ ปี หลังเรียนจบ จึงได้ตั้งใจไปบวชเรียนเพื่อศึกษาธรรมะและวิถีชีวิตพระ ที่วัดป่าในจังหวัดอุบลฯ ในตอนนั้นเองที่ได้มีโอกาสศึกษาธรรมะอย่างจริงจัง และทำให้ได้เข้าใจว่าแท้จริงแล้วธรรมะนั้นคืออะไร แล้วเรารู้ไปเพื่ออะไร ทำให้เกิดทัศคติที่เปลี่ยนไปต่อโลก ต่อชีวิต อาจเรียกได้ว่า ทำให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตามสิ่งที่มันเป็นไปของโลกตามธรรมชาติก็ได้

และเมื่อผู้จัดทำได้ย้อนกลับมามองพุทธศาสนาในประเทศไทยที่เป็นอยู่ในตอนนี้ จึงทำให้ได้รู้ว่า นี่มันไม่ใช่พุทธศาสนา นี่มันไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า.. แม้สิ่งที่พร่ำสอนกันจะไม่ใช่สิ่งที่ผิด... แต่ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ถูก

พุทธศาสนาเหลือเพียงแค่เปลือก..เปลือกที่เสื่อมโทรมและมีส่ิงแปลกปลอมมากมาย ส่วนแก่นสารที่เป็นหัวใจสำคัญกลับหายไป คือธรรมที่ไม่ถูกปรุงแต่งใดๆ เป็น “ธรรมแท้ๆ” ที่น้อยคนนักจะนำมาสอน

จึงทำให้คนไทยแม้แต่ชาวพุทธเอง ยังไม่เคยได้รู้จักพุทธจริงๆเลยด้วยซ้ำ

อีกทั้งภาพลักษณ์และรูปแบบการนำเสนอของศาสนาพุทธที่ดูค่อนข้างน่าเบื่อและไม่สื่อถึงแก่นสารใดๆ.. จีงทำให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ยาก

ดังนั้น หากเราสามารถนำแก่นสารที่เป็นหัวใจของพุทธศาสนาออกมาเผยแพร่ให้มนุษย์ทุกคนได้สัมผัสในลักษณะที่แตกต่างออกไปจากเดิม.. คือทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น และเข้าถึงได้มากขึ้น โดยนำเสนอผ่านทางภาพยนตร์สารคดี ซึ่งอยู่ในสายงานที่ผู้จัดทำมีความถนัด

ผู้จัดทำเชื่อว่าความรู้เหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่ได้ชม กล่าวคือ อย่างน้อยจะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เราเข้าใจโลกมากขึ้น เข้าใจธรรมชาติ และที่สำคัญคือธรรมชาติภายในตนเอง, ทำให้เรารู้จักมีความสุขมากขึ้น มีความทุกข์น้อยลง รวมถึงเลิกที่จะเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นอย่างไม่รู้ตัว