เงินบริจาคของคุณจะสนับสนุนและผลักดันให้กับครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง (teach for Thailand)113คน
ในปีการศึกษานี้ มูลนิธิทีช ฟอร์ ไทยเเลนด์ ได้ส่งครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง จำนวน 76 ท่าน เข้าไปทำงานยัง 46 โรงเรียน ใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ
‘ห้องเรียน’ คือ พื้นที่จำลองชีวิตจริงที่เด็กคนหนึ่งสามารถเรียนรู้วิชาต่าง ๆ ลองผิดลองถูก ฝึกฝนความมั่นใจและเพิ่มความกล้าของตัวเองได้
ที่ห้องเรียนของ ‘ครูลูกตาล’ กันต์ฤทัย จันทา ครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่นที่ 10 เป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนว่า พื้นที่เล็ก ๆ นี้สามารถเป็นกระบะทรายให้เด็กทดลอง ถึงจะล้มได้ก็สามารถลุกขึ้นมาอีกครั้ง
เพราะเชื่อว่าอุปสรรคคือโอกาส ครูลูกตาลจึงไม่ได้เป็นเพียงผู้สอน แต่ยังปรับวิธีการสอนให้เด็กเป็นศูนย์กลาง และเป็นคนที่ดึงความมั่นใจที่ซ่อนอยู่ในตัวเด็ก ๆ ออกมาให้เปล่งประกาย เพียงกล้าลงมือทำ เพราะเชื่อว่าลูกศิษย์ของพวกเขาทำได้
ห้องเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของ ‘ลูกตาล’ ครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่นที่ 10 ที่โรงเรียนปิยบุตร จังหวัดลพบุรี นักเรียนบางคนขาดเรียนเพราะเป็นเสาหลักครอบครัว บางคนมีปัญหาด้านการเงิน และบางคนก็มีปัญหาพฤติกรรม
ถึงแรก ๆ เด็กจะต้องเลือกชีวิตความเป็นอยู่ก่อนการเรียน แต่ครูลูกตาลเลือกที่จะเข้าไปนั่งกลางใจของพวกเขา ไม่เพิกเฉยต่อปัญหา พยายามรู้จักเด็กทุกคนให้ครบทุกแง่มุม ปรับการเรียนและวิธีประเมินผลให้เหมาะกับนักเรียนแต่ละคนให้มากที่สุด
“พอเห็นว่านักเรียนชอบทำกิจกรรม ก็เลยปรับรูปแบบจากสอนทฤษฎีก่อน มาเป็นทำการทดลองให้นักเรียนได้เรียนรู้และปฏิบัติจริง”
มากกว่านั้น เขายังดึง ‘ความกล้า’ ของผู้เรียนออกมาผ่านการทำชุมนุมทำคอนเทนต์ พานักเรียนมาลองเป็นนักแสดง ตัดต่อคลิปวิดีโอ จนสามารถคว้ารางวัลระดับจังหวัด 2 ปีซ้อน กลายเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนได้
“นักเรียนมีทักษะ มีความสามารถในตัวอยู่แล้ว อยากให้เขามั่นใจ กล้าแสดงออกมากขึ้น เพราะมันเป็นโอกาสให้เขาพัฒนาตนเองต่อไป เพราะว่ามันจะเป็นผลดีต่อเขาในอนาคต”
อีกทั้งเธอยังภูมิใจว่า กิจกรรมที่เธอริเริ่มยังสามารถทำให้เด็กภูมิใจในตัวเอง และสามารถมีทุนการศึกษาจากความเชื่อมั่นในตัวเองว่า เขามีความสามารถและเก่งไม่แพ้ใคร เพียงแค่เชื่อในตัวเองและกล้าที่จะลอง
“สิ่งที่ภูมิใจมาก คือ เราสามารถดึงนักเรียนที่เคยมีปัญหาพฤติกรรมมาฝึกฝน ได้รับทักษะชีวิต มันเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนอื่นเห็นว่า พี่คนนี้ก็สามารถใช้ทักษะของตัวเองมาช่วยหาทุนการศึกษาให้ตัวเองได้ด้วย”
ทั้งหมดมันจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าเราไม่เชื่อว่าเด็กทำได้ และคำว่า ‘ทำได้’ ที่จะทำให้เด็กภูมิใจ มั่นใจ และผลักดันตัวเขาในอนาคต