เงินบริจาคของคุณจะช่วยค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์ดูแลรักษาให้กับ“น้องบุญรอด” ผู้ป่วยโรคเท้าโตแลโรคลมชัก ตลอดระยะเวลาการรักษา1ปี
“ขาโต ก้าวเดินไม่ไหว หนูอยากเดินได้เหมือนคนอื่น ” น้องบุญรอด อายุ 14 ปี พิการแต่กำเนิด ป่วยด้วยโรคเท้าโตและเป็นโรคลมชัก
หมอที่โรงพยาบาลสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ บอกกับแม่น้องบุญรอดว่าเป็นความผิดปกติจากเส้นเลือดฝอยที่ขาซึ่งมีเป็นจำนวนมาก ขณะที่กล้ามเนื้อก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่ “โรคเท้าช้าง”
“ขาโต ก้าวเดินไม่ไหว หนูอยากเดินได้เหมือนคนอื่น ”
น้องบุญรอด อายุ 14 ปี พิการแต่กำเนิด ป่วยด้วยโรคเท้าโตและเป็นโรคลมชัก หมอที่โรงพยาบาลสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ บอกกับแม่น้องบุญรอดว่าเป็นความผิดปกติจากเส้นเลือดฝอยที่ขาซึ่งมีเป็นจำนวนมาก ขณะที่กล้ามเนื้อก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่ “โรคเท้าช้าง”
ด้วยขาที่ใหญ่ขึ้นทำให้น้องบุญรอดปวดขามาก จึงต้องผ่าตัดขาหลายครั้งที่โรงพยาบาลลอง จังหวัดแพร่ แต่เนื่องจากกระดูกด้านในที่พรุน ทำให้ขาหักได้ง่าย โอกาสที่น้องบุญรอดจะเดินได้จึงมีน้อยเต็มที
ณ ปัจจุบันน้องบุญรอดยังคงต้องไปพบหมออย่างต่อเนื่อง หมอวินิจฉัยว่ายังไม่สามารถผ่าตัดขาให้น้องได้ในขณะนี้ เนื่องจากความไม่พร้อมของร่างกาย และน้องมีเลือดฝอยที่ขามากผิดปกติ ทุกวันจึงต้องให้น้องบุญรอดทานยาเพื่อประคองอาการไม่ให้ขาโตไปมากกว่านี้ และต้องมาพบหมอตามที่นัดหมายไว้เพื่อประเมินดูอาการของน้องอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด
"กองบุญกู้วิกฤติ" เป็นกองบุญที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เด็กด้อยโอกาสที่มีความเป็นอยู่ขัดสนยากลำบาก อยู้ในภาวะวิกฤติต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตเช่นเด็กปกติทั่วไปได้ และเพื่อให้เด็กเหล่านั้นสามารถกลับคืนสู่ภาวะปกติหรือใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด
ยังมีเด็กด้อยโอกาสกำลังตกในภาวะวิกฤติขั้นรุนแรง ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนอีกจำนวน 203 คน มีความจำเป็นต้องการดูแลรักษาเฉพาะทางเป็นพิเศษ และได้รับการรักษาอย่างปลอดภัย เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้น้อยลง
เด็กที่อยู่ในภาวะวิกฤติได้แก่
1) เด็กเจ็บป่วยรุนแรง
2) เด็กพิการหรือไม่มีผู้ใหญ่ดูแล หรืออาศัยอยู่กับผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย
3) เด็กต้องรับภาระเลี้ยงดูคนในครอบครัวทั้งที่เป็นผู้พิการ หรือเป็นผู้สูงอายุ
4) เด็กที่ขาดความมั่นคงปลอดภัย ด้านที่อยู่อาศัย
ปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือเด็กที่อยู่ในภาวะวิกฤติ
1) ระยะเร่งด่วน
• สนับสนุนการช่วยเหลือเฉพาะทาง
• สนับสนุนอาหารและน้ำเพื่อการยังชีพ
• ปรับปรุง ซ่อม สร้าง ที่พักอาศัยให้ปลอดภัยถูกสุขลักษณะ
2) ระยะฟื้นฟู
• สร้างแหล่งอาหารในครัว เช่น การปลูกผัก เลี้ยงสัตว์
• สนับสนุนทุนการศึกษาหรือทุนพัฒนาทักษะอาชีพ
3) ระยะยาว
• ประสานหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับสนับสนุน
• มอบทุนพัฒนาทักษะอาชีพ
• ระดมจิตอาสาจากชุมชนและชาวบ้าน เพื่อร่วมให้การช่วยเหลือ
ระดมทุนผ่านโครงการกองบุญกู้วิกฤติฯ เพื่อช่วยค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ตลอดระยะเวลาการรักษา 1 ปี
การสำรวจ เก็บรวบรวมข้อมูล
วางแผนให้ความช่วยเหลือ
ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|
ค่าเดินทางจากหมู่บ้านแม่จองไฟอำเภอเมืองลองถึง โรงพยาบาลแพร่อำเภอเมืองแพร่ (ไป-กลับ) จำนวน 1,000 บาท x 6 ครั้ง | 6ครั้ง | 6,000.00 |
ค่าอาหารระหว่างการไปรักษาที่โรงพยาบาลแพร่ จำนวน 2 คน x 2 มื้อ x 100 บาท x 6 ครั้ง | 6ครั้ง | 2,400.00 |
ค่าข้าวสารอาหารแห้ง/นมเสริมแคลเซี่ยม (เดือนละ 1,000) | 1ปี | 12,000.00 |
ค่าแผ่นรองกันเปื้อน (เปลี่ยนทุก 3 เดือน) | 4แผ่น | 8,000.00 |
ค่าแพมเพิสผ้าอ้อมสำเร็จรูป (เฉพาะเวลากลางคืนวันละ 1 ชิ้นๆ ละ 15 บาท ) | 365ชิ้น | 5,480.00 |
ค่าเครื่องนอน (ที่นอน ผ้าห่ม มุ้ง) | 1ชุด | 3,000.00 |
รวมเป็นเงินทั้งหมด | 36,880.00 | |
ค่าสนับสนุนเทใจ (10%) | 3,688.00 |
มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการพัฒนาเด็ก เริ่มให้ความช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสโดยไม่จำกัดเพศ เชื้อชาติ ศาสนา มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 ต่อมาได้รับเกียรติจากคณะกรรมการเอกลักษณ์แห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้เป็นหน่วยงานดีเด่นสาขาพัฒนาสังคม (ด้านสังคมสงเคราะห์) ประจำปี พ.ศ. 2533 และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงรับไว้ในพระราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2537 ปัจจุบัน มูลนิธิฯ ได้ให้ความช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสและครอบครัวมากกว่า 42,000 คน ใน 34 จังหวัดทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565)
ดูโปรไฟล์ร่วมกันระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการนี้
สร้างเพจระดมทุนให้โครงการนี้