เงินบริจาคของคุณจะมอบโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาทักษะให้กับผู้หญิงที่ขาดโอกาสทางการศึกษา10คน
โครงการ Better Me เพื่อชีวิตที่ดีของผู้หญิงที่ขาดโอกาสทางการศึกษา เฟส 2 เปิดทำการเรียนการสอนเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 มีนักเรียนเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 17 คน แต่เนื่องจากผลกระทบโควิดมูลนิธิฯ หยุดการเรียนการสอนช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายนทำให้จำนวนตัวเลขของนักเรียนลดลงเหลือ จำนวน 9 คน สาเหตุของนักเรียนที่หยุดพักการเรียนคือปัญหาการทำงานที่สืบเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด นักเรียนบางคนต้องเพิ่มชั่วโมงในการทำงานจึงทำให้ไม่สามารถมาเรียนได้ดังเดิม นักเรียนบางส่วนมีรายได้น้อยลงและต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาเรียนจึงทำให้ต้องยกเลิกการเรียนไป เป็นต้น
นักเรียนจำนวน 9 คนที่จบหลักสูตร Better Me 3 เดือนนี้ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ นวดแผนโบราณ ดูแลผู้สูงอายุ แม่บ้าน และช่างทำผม ครึ่งนึงของนักเรียนเรียนจบระดับชั้นประถมศึกษา และบางส่วนที่เรียนจบมัธยมศึกษาตอนต้น (การศึกษานอกโรงเรียน -กศน.) สาเหตุที่นักเรียนไม่ได้เรียนต่อเนื่องมาจากครอบครัวไม่สามารถส่งเสียให้เรียนในโรงเรียนได้ ครอบครัวของนักเรียนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร นักเรียนเข้ามาหางานทำในกรุงเทพเพื่อช่วยเหลือครอบครัวในช่วงอายุเฉลี่ย 14-19ปี ชั่วโมงการทำงานของนักเรียนอยู่ระหว่าง 46-65 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นักเรียนเป็นหลักในการทำงานหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว ส่วนใหญ่รายงานว่ารายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายและสาเหตุของการเข้าร่วมโครงการ Better Me เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานที่ดีกว่าเดิม
โครงการ Better me แบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 หลักสูตร ดังนี้
หลังจากนักเรียนเข้าร่วมโครงการครบ 3 เดือน นักเรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงดังนี้
จากการเข้าร่วมโครงการนักเรียนมีความมั่นใจและมีความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้น มีการพัฒนาทักษะทางด้านสังคม ทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ การทำกิจกรรมกลุ่ม การแชร์ประสบการณ์และการแสดงความคิดเห็นผ่านการทำกิจกรรมกลุ่มและกิจกรรมเดี่ยวทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ทักษะและความรู้ที่ได้รับเหล่านี้ทำให้นักเรียนมีความมั่นใจมากขึ้นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไปในอนาคต
ความคิดเห็นของนักเรียนหลังเข้าร่วมโครงการ
“กล้าแสดงออกและได้เจอเพื่อน ๆ ที่น่ารัก มีความมั่นใจมากขึ้น ภาษาอังกฤษพัฒนาขึ้น อ่านออกเขียนได้มากขึ้นและได้ความรู้ใหม่เพิ่มขึ้น”
“เปลี่ยนเป็นคนมีวินัยมากขึ้น เป็นคนคิดบวกมากขึ้น ได้พบเจอเพื่อนหลาย ๆ คน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันและได้รู้ภาษาอังกฤษที่ดีมากขึ้น เข้าใจภาษาอังกฤษมากขึ้นกว่าเดิม”
“ฉันขอขอบคุณมูลนิธิกลุ่มปรารถนาดีที่ทำให้ฉันได้พัฒนาตนเอง จากที่ไม่รู้จักการจัดการตัวเอง จากที่ใช้ภาษาไม่ได้ มูลนิธิทำให้ฉันมั่นใจในการใช้ภาษาและพัฒนาตัวเอง”
“ฉันได้มาเรียนภาษาอังกฤษที่มูลนิธิ ได้เพื่อนใหม่ ได้เจอคุณครู เจอพี่ ๆ น้อง ๆ ที่มูลนิธิ ได้คิดบวกต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ได้พัฒนาตนเองให้ดีขึ้น ได้ข้อคิดดี ๆ ต่าง ๆ ที่สามารถเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ใช้คำศัพท์ที่อาจารย์สอน มีความสุข สนุก และประทับใจมากค่ะ”
“ดิฉันอยากบอกว่ามาเรียนที่นี่ได้ความรู้ภาษาอังกฤษมากขึ้น ในตอนแรกเขียนชื่อตัวเองยังไม่ได้ ในชั้นเรียนอาจารย์ก็สอนได้เข้าใจและสนุกมากไม่เครียด และเวลาทำกิจกรรมก็ได้ข้อคิดมากมายที่มีประโยชน์ รู้สึกเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากขึ้น ขอบอกว่ามูลนิธิกลุ่มปรารถนาดีคือดีมากค่ะ!”
“ฉันอยากบอกกับทางมูลนิธิว่าขอบคุณมากสำหรับความรู้และประสบการณ์ ก้าวแรกที่ก้าวเข้ามาที่นี่ ฉันได้อะไรหลายอย่างจากที่นี่มาก ได้รู้จักตัวเอง สังคมข้างนอก และประสบการณ์อีกหลาย ๆ อย่าง ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ”
ความคิดเห็นของอาสาสมัครสอนภาษาอังกฤษ
นักเรียนแต่ละคนที่ทักษะด้านการฟัง พูด อ่าน เขียน และกระบวนการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ซึ่งนักเรียนได้ให้ความสนใจและตั้งใจในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านนี้ของตนเอง นักเรียนมีพัฒนาการด้านการเรียนที่ดีและเป็นพื้นฐานต่อการเรียนที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต
มูลนิธิฯ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนโครงการทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงตนเองของนักเรียน และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะนำไปสู่การเพิ่มช่องทางและโอกาสในการมีชีวิตที่ดีและมีคุณภาพมากขึ้นในอนาคต
จัดกิจกรรม Self Assessment การพัฒนาตนเอง สำหรับผู้หญิงที่ขาดโอกาสทางการศึกษาได้การเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งผู้เข้าเรียนจะได้เข้าใจวัตถุประสงค์และเป้าหมายของตนเองในการเข้าร่วมโครงการกับมูลนิธิปรารถนาดี ได้เรียนรู้จุดอ่อน จุดแข็งของตนเอง ให้สามารถเข้าใจว่าจุดอ่อน จุดแข็งนั้นๆ ส่งผลกระทบอย่างไรต่อการดำเนินชีวิต และสามารถระบุแนวทางการพัฒนาและปรับปรุงตนเอง รวมถึงสามารถวางแผนรูปแบบ วิธีการเพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่ตนเองต้องการได้