เจ็บปวดซ้ำๆ ที่ต้องอดทน “น้องโฟน” ป่วยเบาหวานเรื้อรัง

เริ่มต้นอาการของน้องโฟนที่อายุ 5 ขวบ เด็กมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หน้ามืดและเป็นลม ตาจึงพาเด็กไปรักษาที่โรงพยาบาลและได้รับการเจาะเลือดตรวจ พบว่าเด็กมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงถึง 800 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (มก./ดล.) แพทย์ประเมินอาการที่อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้  จึงได้กำชับครอบครัวให้ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดและจำเป็นต้องพาไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ    

จากนั้นเป็นต้นมาน้องโฟนต้องใช้ชีวิตด้วยความอดทนต่อโรค เจ็บปวดซ้ำ ๆ ทุกวันเช้าและเย็น บนต้นแขนเต็มไปด้วยรูพรุนเล็ก ๆ จากปลายเข็มฉีดอินซูลินจนแทบไม่มีที่ว่าง ป้องกันภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูงและเลือดเป็นกรด ปลายนิ้วเล็ก ๆ มีรอยสากเพราะต้องเจาะเลือดที่ปลายนิ้วตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อควบคุมค่าน้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับคงที่   

“พอฟ้าเริ่มสาง หลานจะถือผ้าผืนเล็กๆ เดินมานั่งรอเพื่อเอาไว้ใช้ฟันกัดแน่น ขณะที่ตาค่อย ๆ แทงปลายเข็มลงไปที่ต้นแขนเล็ก ๆ ของหลาน เขามีอาการสะดุ้งทุกครั้งที่เข็มฉีดยาเล็ก ๆ เข้าเนื้อ สงสารมากครับ แต่ก็จำใจต้องทำ” ตาเล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงเศร้าแววตากังวลใจ   

การดูแลเด็กเจ็บป่วยเรื้อรังต้องดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องสม่ำเสมอ แต่ด้วยครอบครัวเด็กรายได้ไม่แน่นอน การหยุดงานจ้างรายวันทำให้ครอบครัวขาดรายได้ เงินไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครอบครัว แม้เด็กจะมีสิทธิ์บัตรทอง แต่ไม่ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับซื้ออุปกรณ์วัดน้ำตาล (เข็มและแถบทดสอบ) ค่าเดินทาง ค่าอาหารระหว่างไปพบแพทย์ ซึ่งเป็นภาระที่หนักอึ้งสำหรับครอบครัวที่มีรายได้น้อย 

มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ขอท่านโปรดเมตตาช่วยเหลือเด็กเจ็บป่วยภาวะวิกฤติ ได้เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ค่าอาหารของเด็กและครอบครัวและอุปกรณ์ในการรักษาต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากที่เด็กและครอบครัวกำลังเผชิญอยู่ขณะนี้  

เด็กที่อยู่ในภาวะวิกฤติ ได้แก่

1. เด็กเจ็บป่วยรุนแรง
2. เด็กพิการหรือไม่มีผู้ใหญ่ดูแล หรืออาศัยอยู่กับผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย
3. เด็กต้องรับภาระเลี้ยงดูคนในครอบครัวทั้งที่เป็นผู้พิการ หรือเป็นผู้สูงอายุ
4. เด็กที่ขาดความมั่นคงปลอดภัย ด้านที่อยู่อาศัย

ปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือเด็กที่อยู่ในภาวะวิกฤติ

1) ระยะเร่งด่วน

• สนับสนุนการช่วยเหลือเฉพาะทาง
• สนับสนุนอาหารและน้ำเพื่อการยังชีพ
• ปรับปรุง ซ่อม สร้าง ที่พักอาศัยให้ปลอดภัยถูกสุขลักษณะ

2) ระยะฟื้นฟู

• สร้างแหล่งอาหารในครัว เช่น การปลูกผัก เลี้ยงสัตว์
• สนับสนุนทุนการศึกษาหรือทุนพัฒนาทักษะอาชีพ

3) ระยะยาว

• ประสานหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับสนับสนุน
• มอบทุนพัฒนาทักษะอาชีพฟ
• ระดมจิตอาสาจากชุมชนและชาวบ้าน เพื่อร่วมให้การช่วยเหลือ

หมายเหตุ : กรณีที่เงินบริจาคเพียงพอสำหรับเด็กที่ท่านเมตตา มูลนิธิฯ ขออนุญาตนำเงินบริจาคไปใช้เพื่อความจำเป็นต่อเด็กในโครงการกองบุญกู้วิกฤติฯ ตามความเหมาะสม