project โควิด-19 ผู้พิการและผู้ป่วย กลุ่มคนเปราะบาง

ศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด ในชุมชนคลองเตยระหว่างรอส่งตัว

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชุมชนคลองเตยตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2564 เป็นต้นมา ทำให้มีจำนวนยอดผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่และผู้ป่วยสะสมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 50 คน จากการตรวจ 926 คน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพราะชุมชนคลองเตยเป็นชุมชนแออัดที่มีประชากรอยู่มาก บ้านหนึ่งหลังอยู่ด้วยกันตั้งแต่ 2-13 คน ไม่มีห้องกั้นในการกักตัวผู้ติดเชื้อหรือผู้เสี่ยงสูง ยิ่งทำให้เกิดผู้เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเชื้อใช้เวลาในการแพร่นานและไม่แสดงอาการของโรคทันที ทำให้ผู้ติดเชื้อไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อจึงเกิดการแพร่กระจายไปยังคนรอบข้างได้ง่ายทำให้เกิดผู้เสี่ยงจำนวนมาก ทำให้จำเป็นต้องมีที่พักผู้ป่วยแยกออกมาจากบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปติดผู้อื่นขณะที่ยังอาศัยอยู่ในบ้านและในชุมชนที่ค่อนข้างแออัด

ระยะเวลาโครงการ 30 เม.ย. 2564 ถึง 30 มิ.ย. 2564 พื้นที่ดำเนินโครงการ ระบุพื้นที่: แขวงคลองเตย เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร (วัดสะพาน คลองเตย)

ยอดบริจาคขณะนี้

3,579,827 บาท

เป้าหมาย

2,000,000 บาท
ดำเนินการไปแล้ว 179%
จำนวนผู้บริจาค 4,381

สำเร็จแล้ว

ความคืบหน้าโครงการ

สรุปกระบวนการทำงานศูนย์พักคอยในชุมชนคลองเตย

28 สิงหาคม 2021

การดำเนินงานของโครงการ ได้มีการแบ่งบทบาทหน้าที่รับผิดชอบเป็น 3 ส่วน และมีผลการดำเนินการ ดังนี้

  1. การทำข้อมูลและการติดตามผู้ติดเชื้อรายชุมชน รับผิดชอบโดย คลองเตยดีจัง ทำงานในส่วนของ 1) ระบบฐานข้อมูล 2) การส่งต่อกรณีเร่งด่วน
  2. "ศูนย์พักคอยในชุมชนระหว่างรอส่งตัว" (Community Waiting Area: CWA) วัดสะพานรับผิดชอบโดยคณะสงฆ์วัดสะพานและคณะกรรมการต่อต้านโควิดชุมชน ทำงานในส่วน 1) ระบบการส่งตัวผู้ป่วยจากชุมชนมาที่วัดสะพาน 2) ระบบการดูแลผู้ติดเชื้อในวัด 3) ระบบการส่งต่อผู้ติดเชื้อจากศูนย์พักคอยไปโรงพยาบาลสนาม
  3. ความช่วยเหลือเรื่องอาหาร รับผิดชอบโดยวัดสะพาน คลองเตยดีจัง และมูลนิธิดวงประทีป โดยเป็นการให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร ถุงยังชีพ และอื่น ๆ ให้กับชุมชน

ตารางแสดงผลการดำเนินการ

สัมภาษณ์ความประทับใจจากจิตอาสา และผู้ป่วยที่ได้รับความช่วยเหลือ


ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ 


ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ สามารถแบ่งตามบทบาทหน้าที่งานที่รับผิดชอบ 3 ส่วน ดังนี้

1. การทำข้อมูลและการติดตามผู้ติดเชื้อรายชุมชน รับผิดชอบโดย คลองเตยดีจัง

1.1 ระบบฐานข้อมูล

1) Case manager คือ ระบบติดตามผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยง มีบทบาทหน้าที่ดังนี้ 1) ดูแลภาพรวมของพื้นที่ รับผิดชอบ โดยการทำความเข้าใจธรรมชาติ เงื่อนไข ข้อจำกัดของชุมชนที่ดูแล และมองให้เห็นภาพรวมความวิกฤตของชุมชนและรายเคสว่าเรื่องไหนควรคุยกับใครในชุมชน 2) ติดตามดูแล ให้ความช่วยเหลือ case worker ในทีม เพื่อให้การทำงานราบรื่น และช่วยประสานความช่วยเหลือเร่งด่วน/ฉุกเฉิน 3) จัดการข้อมูลรายชื่อทั้งหมดในชุมชน และส่งต่อ/อัพเดทข้อมูลความช่วยเหลือมาที่ data center

2) case worker คือ ระบบติดตามผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงรายคน มีบทบาทหน้าที่ ดังนี้ 1) สร้างความสัมพันธ์ ความช่วยเหลือ และติดตามผลผู้ติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยงเป็นรายคน เพื่อทำงานเชิงรุก 2) ระบุกลุ่มเสี่ยง ประสานความช่วยเหลือ และจำกัดวงของการแพร่เชื้อ

3) สายด่วนโควิดคลองเตย คือ เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินสำหรับให้ความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาเบื้องต้น เช่น ตอบคำถามเรื่องการตรวจคัดกรอง การฉีดวัคซีน การประเมินอาการเจ็บป่วย การหาเตียงโรงพยาบาล รวมถึงความช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น คนในบ้านเจ็บป่วยหายใจไม่ออก

4) Data Center คือ ระบบฐานข้อมูลกลางสถานะและจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีบทบาทหน้าที่ ดังนี้ 1) ติดตามและรับข้อมูลรายชื่อผู้ติดเชื้อจากผลตรวจเชิงรุกจากรถพระราชทาน สายด่วนคลองเตย (Hotline คลองเตย) ระบบติดตามผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยง (Case Manager) 2) แยกรายชื่อแต่ละชุมชนเพื่อเช็คกับฐานข้อมูลเดิมว่ามีชื่อซ้ำหรือไม่ และอัปเดตรายชื่อผู้ติดเชื้อขึ้นฐานข้อมูลกลางเพื่อให้ทีมติดตาม (Case Manager) ของแต่ละชุมชนประสานงานต่อไป 3) ติดตามดูแล และให้ความช่วยเหลือ case manager เพื่อให้งานราบรื่น และช่วยประสานความช่วยเหลือเร่งด่วน/ฉุกเฉิน 4) ประสานงานกับทีมกลางและเครือข่ายเพื่อให้ความช่วยเหลือกรณีเร่งด่วน/ฉุกเฉิน

การทำข้อมูลและการติดตามผู้ติดเชื้อรายชุมชน ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2564 ถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2564 รับผิดชอบโดย คลองเตยดีจัง


1.2 การส่งต่อกรณีเร่งด่วน

การส่งต่อกรณีเร่งด่วนเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการหนัก เช่น หายใจ ไม่ออกค่าออกซิเจนต่ำ ฯ ให้ได้รับความช่วยเหลือเร็วที่สุด เช่น การจัดหาเตียงในโรงพยาบาลสนาม ซึ่งตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2564 ถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2564 มีจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการส่งต่อความช่วยเหลือเตียงสนามรวม 73 คน ดังนี้

2. ศูนย์พักคอยในชุมชนระหว่างรอส่งตัว" (Community Waiting Area: CWA) วัดสะพาน รับผิดชอบโดย คณะสงฆ์วัดสะพานและคณะกรรมการต่อต้านโควิดชุมชน

 ศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด 19 ในชุมชนระหว่างรอส่งตัว มีคณะกรรมการต่อต้านโควิดชุมชนคลองเตยเป็นคณะผู้ดูแลในภาพรวม โดยมีท่านเจ้าอาวาสวัดสะพานพระพิศาลธรรมานุสิฐ (สมบูรณ์ กุลวฑฺฒโน) เป็นประธานและมีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ ประชาชน องค์กรพัฒนาเอกชนในชุมชน หน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ ศบส.41 สำนักงานเขต 10 เขต ตัวแทนจาก พม. และหน่วยสนับสนุนจากภายนอก ซึ่งมีตัวแทนของกลุ่มวิจัยสังคมและสุขภาพ (สวสส.) สำนักวิชาการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขเป็นหลักในการประสานกับหน่วยงานด้านการสาธารณสุขต่างๆ กับทาง สปคม. กรมควบคุมโรค กรมอนามัย สำนักอนามัยของ กทม. และอื่น ๆ

โครงสร้างบทบาทหน้าที่ศูนย์พักคอยในชุมชนระหว่างรอส่งตัว

ในส่วนของหน่วยปฏิบัติการมีอยู่สองส่วน คือ 1) ศูนย์ข้อมูลและประสานงานที่มีมูลนิธิดวงประทีปและทีมคลองเตยดีจังเป็นผู้ดำเนินการหลัก และ2) ศูนย์พักคอยในชุมชนมีพระครูพิพิธวรกิจจานุการ (มานิตย์ เขมคุตฺโต) วัดสะพานเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ซึ่งศูนย์พักคอยนี้กำหนดชื่อทางการว่า "ศูนย์พักคอยในชุมชนระหว่างรอส่งตัว" (Community Waiting Area: CWA) เปิดรับผู้ป่วยชุดแรกเข้าพักตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 โดยมีจำนวนผู้เข้ามาใช้ศูนย์พักคอยตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 จนถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2564 รวมทั้งหมด 879 คน ดังนี้

ระบบการทำงานของศูนย์พักคอยฯ

2.1 ระบบการส่งตัวผู้ป่วยจากชุมชนมาที่วัดสะพาน

มีการประสานงานกับผู้นำของชุมชนต่าง ๆ ทั้งที่ผ่านทางกลุ่มไลน์ hotline คลองเตย และการประสานงานโดยตรง ในกรณีที่พบผู้ติดเชื้อในชุมชนและรถรับส่งของโรงพยาบาลไม่สามารถมารับได้ทันการณ์ ประธานชุมชนหรือผู้ป่วยต้องการจะมาพักที่ศูนย์พักคอยฯ สามารถประสานงานมาที่ท่านเจ้าอาวาสวัดสะพานหรือพระครูพิพิธวรกิจจานุการ (มานิตย์ เขมคุตฺโต) ได้โดยตรงจะมีทีมรถรับส่งของกลุ่มอาสาสมัครในชุมชนคลองเตยหลายทีมที่เข้ามาช่วยเหลือเรื่องการส่งตัว อาทิ ทีมรถกู้ภัยของทีมกระต่ายคลองเตย ทีมกู้ภัยของชุมชนล็อค 123 และทีมกู้ภัยของมูลนิธิดวงประทีปไปรับตัวมาส่งที่ศูนย์พักคอยฯ โดยในชั้นต้นจะพักรอไม่เกิน 24 ชั่วโมง ยกเว้นในบางกรณีที่ยังไม่สามารถหาโรงพยาบาลสนามหรือโรงพยาบาลที่เหมะสมกับสภาพความเจ็บป่วยได้อาจจะรอนานกว่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะสามารถบริหารจัดการรายบุคคลได้ภายใน 3 วัน โดยแยกผู้ติดเชื้อชาย หญิง และดูแลเบื้องต้นเพื่อรอการส่งตัวไปรักษาต่อ ซึ่งมีมาตรการสำคัญเบื้องต้นในการดูแล คือ การแยกผู้ติดเชื้อกับสมาชิกในครอบครัวและชุมชนเพื่อลดการกระจายแพร่เชื้อโควิด-19

2.2 ระบบการดูแลผู้ติดเชื้อในศูนย์พักคอยฯ

อาคารที่พักของผู้ติดเชื้อในศูนย์พักคอยฯ ปรับมาจากอาคารพักเรียนของพระสงฆ์ที่ศึกษาธรรมะของวัดสะพานเพื่อใช้รองรับผู้ติดเชื้อในพื้นที่ โดยมีจำนวนเตียงเตรียมรับจำนวน 150 เตียง มีการเปิดให้บริการแล้วจำนวน 100 เตียง ในช่วงแรกใช้ชั้น 5 7 และชั้น 8 เป็นที่พักคอยรอส่งตัวผู้ป่วย กรณีที่มีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นจะมีการขยายลงมาจนถึงชั้น 3 ในส่วนของผู้ดูแลมีพระคิลานุปัฎฐากซึ่งเป็นพระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด (อสว.) ดำเนินการขับเคลื่อนร่วมกับแกนนำชุมชน และใช้ลิฟท์ควบคุมการขึ้นลงภายในอาคารสำหรับผู้ติดเชื้อ ซึ่งมีการทำความสะอาดทุก 2-3 ชั่วโมง โดยจิตอาสาหรือพระคิลานุปัฏฐาก ส่วนผู้ดูแลอาคารจะใช้บันไดเท่านั้นและมีการควบคุมจำนวนคนเข้าออกภายในอาคารอย่างเคร่งครัด ส่วนด้านการกำจัดขยะมีได้ดำเนินการ 2 ทาง คือ 1) จัดจ้างบริษัทเอกชนซึ่งมีการสวมชุดป้องกันตนเองอย่างรัดกุม และ 2) การบริหารจัดการภายใต้ส่วนราชการ คือ ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ ของทางสำนักงานเขตคลองเตย ส่วนการลำเลียงขยะรายวันจากอาคารศูนย์พักคอยด้านบนนั้นจะเป็นหน้าที่ของพระคิลานุปัฏฐาก พระคิลานธรรม และจิตอาสาในพื้นที่

2.3 ระบบการส่งต่อผู้ติดเชื้อจากศูนย์พักคอยไปโรงพยาบาลสนาม

ผู้ป่วยที่ติดเชื้อจะได้รับการประสานหาเตียงจากโรงพยาบาลที่ไปตรวจหาเชื้อเพื่อส่งต่อไปรับการรักษาตามอาการ บางกรณีผู้ป่วยอาจจะมีการประสานไปทางโรงพยาบาลที่มีเตียงว่างด้วยตนเองผ่านช่องทางต่าง ๆ อีกทางหนึ่งด้วย ในบางช่วงเวลาที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากจะมีรถจากทางกองทัพประสานส่งต่อไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่ทางหน่วยงานประสานหาเตียงรอรับการส่งต่อไว้

3. ความช่วยเหลือเรื่องอาหาร รับผิดชอบโดยวัดสะพาน คลองเตยดีจัง และมูลนิธิดวงประทีป

ภาพประกอบโครงการ

เตียงและอุปกรณ์สำหรับผู้ป่วยในศูนย์พักคอย

สายด่วนโควิดคลองเตย

การส่งต่อกรณีเร่งด่วน

การแจกถุงยังชีพให้ชุมชน

การส่งน้ำดื่มให้ชุมชนบ้านมั่นคง

การส่งน้ำดื่มให้ชุมชนล็อค 6

ส่งข้าวกล่องให้ชุมชน

อ่านต่อ »
ดูความคืบหน้าโครงการทั้งหมด

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชุมชนคลองเตยตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2564 เป็นต้นมา ทำให้มีจำนวนยอดผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่และผู้ป่วยสะสมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 50 คน จากการตรวจ 926 คน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพราะชุมชนคลองเตยเป็นชุมชนแออัดที่มีประชากรอยู่มาก บ้านหนึ่งหลังอยู่ด้วยกันตั้งแต่ 2-13 คน ไม่มีห้องกั้นในการกักตัวผู้ติดเชื้อหรือผู้เสี่ยงสูง ยิ่งทำให้เกิดผู้เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเชื้อใช้เวลาในการแพร่นานและไม่แสดงอาการของโรคทันที ทำให้ผู้ติดเชื้อไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อจึงเกิดการแพร่กระจายไปยังคนรอบข้างได้ง่ายทำให้เกิดผู้เสี่ยงจำนวนมาก ทำให้จำเป็นต้องมีที่พักผู้ป่วยแยกออกมาจากบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปติดผู้อื่นขณะที่ยังอาศัยอยู่ในบ้านและในชุมชนที่ค่อนข้างแออัด

ปัญหาสังคมและวิธีการแก้ไขปัญหา

วันอังคารที่ 27 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา สปคม. เข้าไปตรวจคัดกรองเชิงรุกที่วัดสะพาน คลองเตย โดยมีผู้ว่า กทม. เข้าไปเยี่ยมและได้สนับสนุนเรื่องการทำสถานที่สำหรับให้ผู้ป่วยมา "พักคอย" ระหว่างรอส่งผู้ป่วยต่อไปยังโรงพยาบาล เพื่อป้องกันการระบาดในชุมชนและสะดวกในการมารับของรถพยาบาล



ทางพื้นที่ได้มีการจัดตั้ง คณะกรรมการต่อต้านโควิดชุมชนคลองเตย (คตช.คลองเตย)

มีท่านเจ้าอาวาสวัดสะพานเป็นประธาน มีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ

  1. ประชาชนและองค์กรพัฒนาเอกชนในชุมชน
  2. หน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งได้แก่ ศบส.41 และ 10 สำนักงานเขต พม.
  3. หน่วยสนับสนุนจากภาคนอก ซึ่งมีทีมวิจัย สวสส. จาก สป. กระทรวงสาธารณสุข เป็นหลักในการประสาน กับทาง สปคม. กรมควบคุมโรค กรมอนามัย สำนักอนามัยของ กทม. และอื่น ๆ

คตช.คลองเตย ได้มีการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการสองหน่วย คือ

  1. ศูนย์ข้อมูลและประสานงาน ที่มีมูลนิธิดวงประทีปและทีมคลองเตยดีจังเป็นผู้ดำเนินการหลัก และ
  2. ศูนย์พักคอยในชุมชน มี พระอาจารย์มานิต วัดสะพาน เป็นผู้อำนวยการศูนย์

ซึ่งศูนย์พักคอยนี้ กำหนดชื่อทางการกันว่า "ศูนย์พักคอยในชุมชนระหว่างรอส่งตัว" (Community Waiting Area: CWA) ซึ่ง นพ.วิรุฬ สวสส. ได้ร่วมเป็นคณะทำงานของศูนย์ร่วมกับพระอาจารย์มานิตและสถาปนิกที่เป็นคนในชุมชน โดยได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาระบบจากกรมควบคุมโรค และทางสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย ที่จะไปช่วยให้คำแนะนำในพื้นที่ในวันที่ 29 เม.ย. 64 




ขั้นตอนการดำเนินโครงการ


ข้อมูลภาคี, พาร์ทเนอร์

  1. เจ้าอาวาสวัดสะพาน
  2. ศบส.41
  3. 10 สำนักงานเขต พม.
  4. ทีมวิจัย สวสส. จาก สป. กระทรวงสาธารณสุข

โครงการกำลังดำเนินการอยู่ ในขณะที่เคสเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

3 พฤษภาคม 2021

เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้โครงการจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โครงการจึงขอขยายงบประมาณจากเดิม และเพื่อความโปร่งใส โครงการจะแจกแจงรายละเอียดการใช้งบประมาณตามมาอีกครั้ง   


สรุปกระบวนการทำงานศูนย์พักคอยในชุมชนคลองเตย

28 สิงหาคม 2021

การดำเนินงานของโครงการ ได้มีการแบ่งบทบาทหน้าที่รับผิดชอบเป็น 3 ส่วน และมีผลการดำเนินการ ดังนี้

  1. การทำข้อมูลและการติดตามผู้ติดเชื้อรายชุมชน รับผิดชอบโดย คลองเตยดีจัง ทำงานในส่วนของ 1) ระบบฐานข้อมูล 2) การส่งต่อกรณีเร่งด่วน
  2. "ศูนย์พักคอยในชุมชนระหว่างรอส่งตัว" (Community Waiting Area: CWA) วัดสะพานรับผิดชอบโดยคณะสงฆ์วัดสะพานและคณะกรรมการต่อต้านโควิดชุมชน ทำงานในส่วน 1) ระบบการส่งตัวผู้ป่วยจากชุมชนมาที่วัดสะพาน 2) ระบบการดูแลผู้ติดเชื้อในวัด 3) ระบบการส่งต่อผู้ติดเชื้อจากศูนย์พักคอยไปโรงพยาบาลสนาม
  3. ความช่วยเหลือเรื่องอาหาร รับผิดชอบโดยวัดสะพาน คลองเตยดีจัง และมูลนิธิดวงประทีป โดยเป็นการให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร ถุงยังชีพ และอื่น ๆ ให้กับชุมชน

ตารางแสดงผลการดำเนินการ

สัมภาษณ์ความประทับใจจากจิตอาสา และผู้ป่วยที่ได้รับความช่วยเหลือ


ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ 


ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการ สามารถแบ่งตามบทบาทหน้าที่งานที่รับผิดชอบ 3 ส่วน ดังนี้

1. การทำข้อมูลและการติดตามผู้ติดเชื้อรายชุมชน รับผิดชอบโดย คลองเตยดีจัง

1.1 ระบบฐานข้อมูล

1) Case manager คือ ระบบติดตามผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยง มีบทบาทหน้าที่ดังนี้ 1) ดูแลภาพรวมของพื้นที่ รับผิดชอบ โดยการทำความเข้าใจธรรมชาติ เงื่อนไข ข้อจำกัดของชุมชนที่ดูแล และมองให้เห็นภาพรวมความวิกฤตของชุมชนและรายเคสว่าเรื่องไหนควรคุยกับใครในชุมชน 2) ติดตามดูแล ให้ความช่วยเหลือ case worker ในทีม เพื่อให้การทำงานราบรื่น และช่วยประสานความช่วยเหลือเร่งด่วน/ฉุกเฉิน 3) จัดการข้อมูลรายชื่อทั้งหมดในชุมชน และส่งต่อ/อัพเดทข้อมูลความช่วยเหลือมาที่ data center

2) case worker คือ ระบบติดตามผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงรายคน มีบทบาทหน้าที่ ดังนี้ 1) สร้างความสัมพันธ์ ความช่วยเหลือ และติดตามผลผู้ติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยงเป็นรายคน เพื่อทำงานเชิงรุก 2) ระบุกลุ่มเสี่ยง ประสานความช่วยเหลือ และจำกัดวงของการแพร่เชื้อ

3) สายด่วนโควิดคลองเตย คือ เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินสำหรับให้ความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาเบื้องต้น เช่น ตอบคำถามเรื่องการตรวจคัดกรอง การฉีดวัคซีน การประเมินอาการเจ็บป่วย การหาเตียงโรงพยาบาล รวมถึงความช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น คนในบ้านเจ็บป่วยหายใจไม่ออก

4) Data Center คือ ระบบฐานข้อมูลกลางสถานะและจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีบทบาทหน้าที่ ดังนี้ 1) ติดตามและรับข้อมูลรายชื่อผู้ติดเชื้อจากผลตรวจเชิงรุกจากรถพระราชทาน สายด่วนคลองเตย (Hotline คลองเตย) ระบบติดตามผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยง (Case Manager) 2) แยกรายชื่อแต่ละชุมชนเพื่อเช็คกับฐานข้อมูลเดิมว่ามีชื่อซ้ำหรือไม่ และอัปเดตรายชื่อผู้ติดเชื้อขึ้นฐานข้อมูลกลางเพื่อให้ทีมติดตาม (Case Manager) ของแต่ละชุมชนประสานงานต่อไป 3) ติดตามดูแล และให้ความช่วยเหลือ case manager เพื่อให้งานราบรื่น และช่วยประสานความช่วยเหลือเร่งด่วน/ฉุกเฉิน 4) ประสานงานกับทีมกลางและเครือข่ายเพื่อให้ความช่วยเหลือกรณีเร่งด่วน/ฉุกเฉิน

การทำข้อมูลและการติดตามผู้ติดเชื้อรายชุมชน ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2564 ถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2564 รับผิดชอบโดย คลองเตยดีจัง


1.2 การส่งต่อกรณีเร่งด่วน

การส่งต่อกรณีเร่งด่วนเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการหนัก เช่น หายใจ ไม่ออกค่าออกซิเจนต่ำ ฯ ให้ได้รับความช่วยเหลือเร็วที่สุด เช่น การจัดหาเตียงในโรงพยาบาลสนาม ซึ่งตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2564 ถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2564 มีจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการส่งต่อความช่วยเหลือเตียงสนามรวม 73 คน ดังนี้

2. ศูนย์พักคอยในชุมชนระหว่างรอส่งตัว" (Community Waiting Area: CWA) วัดสะพาน รับผิดชอบโดย คณะสงฆ์วัดสะพานและคณะกรรมการต่อต้านโควิดชุมชน

 ศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด 19 ในชุมชนระหว่างรอส่งตัว มีคณะกรรมการต่อต้านโควิดชุมชนคลองเตยเป็นคณะผู้ดูแลในภาพรวม โดยมีท่านเจ้าอาวาสวัดสะพานพระพิศาลธรรมานุสิฐ (สมบูรณ์ กุลวฑฺฒโน) เป็นประธานและมีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ ประชาชน องค์กรพัฒนาเอกชนในชุมชน หน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ ศบส.41 สำนักงานเขต 10 เขต ตัวแทนจาก พม. และหน่วยสนับสนุนจากภายนอก ซึ่งมีตัวแทนของกลุ่มวิจัยสังคมและสุขภาพ (สวสส.) สำนักวิชาการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขเป็นหลักในการประสานกับหน่วยงานด้านการสาธารณสุขต่างๆ กับทาง สปคม. กรมควบคุมโรค กรมอนามัย สำนักอนามัยของ กทม. และอื่น ๆ

โครงสร้างบทบาทหน้าที่ศูนย์พักคอยในชุมชนระหว่างรอส่งตัว

ในส่วนของหน่วยปฏิบัติการมีอยู่สองส่วน คือ 1) ศูนย์ข้อมูลและประสานงานที่มีมูลนิธิดวงประทีปและทีมคลองเตยดีจังเป็นผู้ดำเนินการหลัก และ2) ศูนย์พักคอยในชุมชนมีพระครูพิพิธวรกิจจานุการ (มานิตย์ เขมคุตฺโต) วัดสะพานเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ซึ่งศูนย์พักคอยนี้กำหนดชื่อทางการว่า "ศูนย์พักคอยในชุมชนระหว่างรอส่งตัว" (Community Waiting Area: CWA) เปิดรับผู้ป่วยชุดแรกเข้าพักตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 โดยมีจำนวนผู้เข้ามาใช้ศูนย์พักคอยตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 จนถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2564 รวมทั้งหมด 879 คน ดังนี้

ระบบการทำงานของศูนย์พักคอยฯ

2.1 ระบบการส่งตัวผู้ป่วยจากชุมชนมาที่วัดสะพาน

มีการประสานงานกับผู้นำของชุมชนต่าง ๆ ทั้งที่ผ่านทางกลุ่มไลน์ hotline คลองเตย และการประสานงานโดยตรง ในกรณีที่พบผู้ติดเชื้อในชุมชนและรถรับส่งของโรงพยาบาลไม่สามารถมารับได้ทันการณ์ ประธานชุมชนหรือผู้ป่วยต้องการจะมาพักที่ศูนย์พักคอยฯ สามารถประสานงานมาที่ท่านเจ้าอาวาสวัดสะพานหรือพระครูพิพิธวรกิจจานุการ (มานิตย์ เขมคุตฺโต) ได้โดยตรงจะมีทีมรถรับส่งของกลุ่มอาสาสมัครในชุมชนคลองเตยหลายทีมที่เข้ามาช่วยเหลือเรื่องการส่งตัว อาทิ ทีมรถกู้ภัยของทีมกระต่ายคลองเตย ทีมกู้ภัยของชุมชนล็อค 123 และทีมกู้ภัยของมูลนิธิดวงประทีปไปรับตัวมาส่งที่ศูนย์พักคอยฯ โดยในชั้นต้นจะพักรอไม่เกิน 24 ชั่วโมง ยกเว้นในบางกรณีที่ยังไม่สามารถหาโรงพยาบาลสนามหรือโรงพยาบาลที่เหมะสมกับสภาพความเจ็บป่วยได้อาจจะรอนานกว่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะสามารถบริหารจัดการรายบุคคลได้ภายใน 3 วัน โดยแยกผู้ติดเชื้อชาย หญิง และดูแลเบื้องต้นเพื่อรอการส่งตัวไปรักษาต่อ ซึ่งมีมาตรการสำคัญเบื้องต้นในการดูแล คือ การแยกผู้ติดเชื้อกับสมาชิกในครอบครัวและชุมชนเพื่อลดการกระจายแพร่เชื้อโควิด-19

2.2 ระบบการดูแลผู้ติดเชื้อในศูนย์พักคอยฯ

อาคารที่พักของผู้ติดเชื้อในศูนย์พักคอยฯ ปรับมาจากอาคารพักเรียนของพระสงฆ์ที่ศึกษาธรรมะของวัดสะพานเพื่อใช้รองรับผู้ติดเชื้อในพื้นที่ โดยมีจำนวนเตียงเตรียมรับจำนวน 150 เตียง มีการเปิดให้บริการแล้วจำนวน 100 เตียง ในช่วงแรกใช้ชั้น 5 7 และชั้น 8 เป็นที่พักคอยรอส่งตัวผู้ป่วย กรณีที่มีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นจะมีการขยายลงมาจนถึงชั้น 3 ในส่วนของผู้ดูแลมีพระคิลานุปัฎฐากซึ่งเป็นพระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด (อสว.) ดำเนินการขับเคลื่อนร่วมกับแกนนำชุมชน และใช้ลิฟท์ควบคุมการขึ้นลงภายในอาคารสำหรับผู้ติดเชื้อ ซึ่งมีการทำความสะอาดทุก 2-3 ชั่วโมง โดยจิตอาสาหรือพระคิลานุปัฏฐาก ส่วนผู้ดูแลอาคารจะใช้บันไดเท่านั้นและมีการควบคุมจำนวนคนเข้าออกภายในอาคารอย่างเคร่งครัด ส่วนด้านการกำจัดขยะมีได้ดำเนินการ 2 ทาง คือ 1) จัดจ้างบริษัทเอกชนซึ่งมีการสวมชุดป้องกันตนเองอย่างรัดกุม และ 2) การบริหารจัดการภายใต้ส่วนราชการ คือ ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ ของทางสำนักงานเขตคลองเตย ส่วนการลำเลียงขยะรายวันจากอาคารศูนย์พักคอยด้านบนนั้นจะเป็นหน้าที่ของพระคิลานุปัฏฐาก พระคิลานธรรม และจิตอาสาในพื้นที่

2.3 ระบบการส่งต่อผู้ติดเชื้อจากศูนย์พักคอยไปโรงพยาบาลสนาม

ผู้ป่วยที่ติดเชื้อจะได้รับการประสานหาเตียงจากโรงพยาบาลที่ไปตรวจหาเชื้อเพื่อส่งต่อไปรับการรักษาตามอาการ บางกรณีผู้ป่วยอาจจะมีการประสานไปทางโรงพยาบาลที่มีเตียงว่างด้วยตนเองผ่านช่องทางต่าง ๆ อีกทางหนึ่งด้วย ในบางช่วงเวลาที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากจะมีรถจากทางกองทัพประสานส่งต่อไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่ทางหน่วยงานประสานหาเตียงรอรับการส่งต่อไว้

3. ความช่วยเหลือเรื่องอาหาร รับผิดชอบโดยวัดสะพาน คลองเตยดีจัง และมูลนิธิดวงประทีป

ภาพประกอบโครงการ

เตียงและอุปกรณ์สำหรับผู้ป่วยในศูนย์พักคอย

สายด่วนโควิดคลองเตย

การส่งต่อกรณีเร่งด่วน

การแจกถุงยังชีพให้ชุมชน

การส่งน้ำดื่มให้ชุมชนบ้านมั่นคง

การส่งน้ำดื่มให้ชุมชนล็อค 6

ส่งข้าวกล่องให้ชุมชน

แผนการใช้เงิน

ลำดับ รายการ จำนวน จำนวนเงิน (บาท)
1 ค่าเครื่องใช้สำหรับผู้ป่วย เช่น มุ้ง ผ้าห่ม แปลงสีฟัน ยาสีฟัน ขันอาบน้ำ อื่นๆ ชุดละ 1,500 บาท 50 ชุด 75,000.00
2 ค่าอุปกรณ์สำหรับการป้องกัน เช่น เจล แอกอฮอล์ หน้ากาก ชุด PPE เพื่อป้องการทีมงานและอาสาสมัคร) ชุดละ 500 บาท 1000 ชุด 50,000.00
3 ค่าอาหารและน้ำดื่ม 3 มื้อ ของผู้ที่รอส่งตัวและอาสาสมัคร (ประเมินสถานการณ์ไว้ 3 เดือนหรือ 90 วัน) มื้อละ 50 บาท 50 บาทต่อมื้อ 270,000.00
4 ค่าติดตั้งระบบส่วนกลาง เช่น ระบบอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์พื้นที่การจัดการข้อมูล อุปกรณ์จำเป็นทางเทคโนโลยี 1 ครั้ง 30,000.00
5 ค่าประสานโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ เดือนละ 5,000 บาท 3 เดือน 15,000.00
6 ค่าอุปกรณ์สำนักงาน ศูนย์ประสานงาน เดือนละ 3000 บาท 3 เดือน 9,000.00
7 ค่าเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ 2 คน เดือนละ 15,000 บาท 3 เดือน 90,000.00
รวมเป็นเงินทั้งหมด
539,000.00
ค่าธรรมเนียมของเทใจ (10%)
53,900.00

ยอดระดมทุน
592,900.00