ช่วยเหลือเด็กที่ตกเป็นเหยื่อ การแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศและการค้ามนุษย์

เสียงร้องไห้ดังขึ้นเรื่อยๆในที่ๆคุณอาจคาดไม่ถึง

อาชญากรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็กทางอินเทอร์เน็ตที่กำลังเติบโตและซ่อนเร้น เป็นภัยเงียบที่ทำลายชีวิตของเด็กๆ จากสถิติการดำเนินคดีการค้ามนุษย์ โดยศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าปี 2567 มี 379 คดี โดยคนร้ายใช้ช่องทางออนไลน์ในการจัดหา นำพาเด็ก แสวงหาผลประโยชน์และเผยแพร่ภาพ/วิดีโอ ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาคือ การถูกล่วงละเมิดซ้ำ เนื่องจากความกลัว ความอับอาย  ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของเด็ก  เลวร้ายที่สุดคือ การที่เด็กหาทางออกด้วยการทำร้ายตัวเองหรือถึงขั้นจบชีวิตเพื่อหนีปัญหา

เคสตัวอย่าง 1: 
น้องแมน(นามสมมติ) วัย 15 ปี ถูกล่อลวงโดยการพูดคุยกับนายหนึ่ง(นามสมมติ)ผ่านแอปพลิเคชัน โดยที่นายหนึ่งมีการสร้างกลุ่มลับเพื่อเชิญชวนเด็กมัธยม-มหาลัย มามีเพศสัมพันธ์เพื่อแลกเงิน และเขาถ่ายภาพน้องแมนแล้วเผยแพร่ลงกลุ่มลับดังกล่าว และแชร์คลิปลามกของเด็กมากมายในกลุ่มลับนั้น ทำให้น้องแมนและเด็กๆเกิดความเสียหาย อับอาย เสื่อมเสียชื่อเสียง

หลังจากที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิทราบถึงเหตุดังกล่าวจึงแฝงตัวเพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานผ่านทางแอพลิเคชั่นต่างๆ และเบอร์โทรศัพท์ เพื่อระบุตัวผู้กระทำผิดและเหยื่อ แล้วส่งต่อให้กับกรมการปกครอง(DOPA) ทั้งนี้ทางมูลนิธิได้หาที่พักชั่วคราวให้กับน้องแมนในช่วงที่น้องรับการถามปากคำจากเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ของมูลนิธิคอยดูแลเด็กอยู่ไม่ห่าง หลังจากนั้นน้องแมนได้รับการเยียวยาจากรัฐในลำดับถัดไป

หลังจากเจ้าหน้าที่รัฐจับกุมผู้ต้องหาแล้ว มูลนิธิฟอร์ฟรีดอมฯจึงให้การช่วยเหลือในการใช้เครื่องมือSpektorและซอฟต์แวร์พิเศษที่สามารถดูดข้อมูลมือถือและคอมพิวเตอร์เพื่อใช้เป็นหลักฐานได้ หลังการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา พบคลิปภาพที่มีความสัมพันธ์กับเด็กชายมากกว่า 1,400 คลิป

เคสตัวอย่าง 2: 
มูลนิธิได้รับแจ้งว่ามีการเปิดกลุ่มลับออนไลน์ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแฝงตัวในกลุ่มลับนั้น จึงได้ข้อมูลเลขบัญชี ชื่อ-นามสกุลจริง ที่สามารถระบุตัวตนผู้กระทำความผิดได้ และในกลุ่มลับนั้นเต็มไปด้วยรูปและคลิปอนาจารย์ของเด็กและผู้ใหญ่ และมีผู้เสียหายหลายคน จากนั้นพบว่ามีเด็กหญิง2คนที่โดนล่อลวงให้ถอดเสื้อผ้าผ่านแอพลิเคชั่นสำหรับ Liveโดยเฉพาะอีกด้วย

หลังจากรวบรวมข้อมูลและระบุตัวตนผู้ต้องสงสัยและที่อยู่ได้แล้ว มูลนิธิจึงส่งข้อมูลต่อให้กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม (CCIB) หลังจากศาลออกหมายจับ และมีการขอการสนับสนุนเครื่องมือSpektorและซอฟต์แวร์พิเศษจากมูลนิธิ เพื่อช่วยในการดูดข้อมูลจากคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ของผู้ต้องหา ทางมูลนิธิจึงเดินทางไปยังพื้นที่เพื่อระบุผู้ต้องหาและให้การช่วยเหลือในการใช้เครื่องมือพิเศษดังกล่าวทันที จึงพบว่ามีคลิปและภาพลามกอนาจารกว่า 100,000 ไฟล์ และในด้านของเด็กผู้เสียหาย ทางเจ้าหน้าที่รัฐได้ดำเนินการสืบสวนและนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

💔 หากไม่มีคุณ - ทุกนาทีที่ช้าไป เด็กคนหนึ่งอาจถูกทำร้าย
💙 หากมีคุณ - เราพบผู้กระทำผิด และป้องกันเหยื่อรายใหม่ได้เร็วขึ้น