อาหาร 3 มื้อ ช่วยเด็กถูกทอดทิ้งและถูกทำร้าย (ปี2569)

บ้านพักวางใจ ดำเนินการช่วยเหลือเด็กที่ยากจน อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ถูกทำร้ายมโดยตลอดตั้งแต่ปี 2553 โดยมีนายฤทธา พงศ์จิตติกร และภรรยาเป็นผู้ดูแลหอพัก ปัจจุบันยังไม่มีผู้สนับสนุนหลักในการดูแลเด็กทั้งค่าเล่าเรียน ค่าอาหาร ค่าน้ำค่าไฟ และอาศัยอยู่ในหอพักที่อดีตมีผู้บริจาคเป็นผู้อนุเคราะห์พื้นที่ให้ ค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็กเหล่านี้ จึงตกเป็นความยากลำบากของผู้ที่ดูแลเสมอมา โดยการจัดการด้านค่าอาหารที่เป็นปัจจัยหลักของการดูแลเด็ก ผู้ดูแลได้การช่วยเหลือมาจาก 2 ช่องทาง คือ

1. ผู้ปกครองเด็กบางคนที่บริจาคเงินช่วยเพียงเล็กน้อย
2. มาจากผู้รู้จักบริจาคเป็นครั้งคราว ดังนั้นข้าวสารและเนื้อสัตว์จึงเป็นปัจจัยสำคัญมากสำหรับเด็กทุกคนที่นี่

ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนด้านอาหารและเนื้อสัตว์จากการบริจาคของผู้สนับสนุนผ่านเพจเทใจตั้งแต่ปี 2566-2568 เด็กรู้สึกอุ่นใจเรื่องปากท้องของตนเองและได้ใช้ชีวิตเพื่อการเรียนอย่างเต็มที่ การบริจาคผ่านเทใจจึงเป็นช่องทางหลักเดียวที่ช่วยชีวิตเด็กทุกคนที่นี่ ซึ่งก่อนหน้านั้นทั้งเด็กทุกคนและผู้ดูแลเป็นกังวลและอาจต้องหยิบยืมจะคนรู้จักเพื่อหมุนเวียนเป็นค่าอาหารให้เด็กและทำแปลงเกษตร ทำกาแฟเพื่อการค้าขายให้สามารถพยุงบ้านพักได้ไปในแต่ละวัน 

การระดมทุนหาอาหาร 3 มื้อสำหรับปี 2569 จำเป็นต่อการดำรงชีวิตเด็กที่เพิ่มขึ้นมาจากปีที่ผ่านๆ มา โดยมีเด็กที่ผ่านการคัดสรรเข้าบ้านพักทั้งหมดจำนวน 48 คน รวมทั้งเด็กรุ่นเดิมยังคงต้องอาศัยบ้านพักวางใจเพื่อการเติบโต การศึกษาต่อให้จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นขั้นพื้นฐาน หลายปีที่ผ่านมา บ้านพักวางใจพยายามวางแผนเพื่อเปิดสถานที่เป็นมูลนิธิฯ แต่เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่ไม่สามารถเปิดได้ อาทิ ทุนทรัพย์ต่อเติมอาคาร ทุนจดทะเบียน เจ้าหน้าที่ รวมถึงผู้บริจาคที่หลักในการสนับสนุนบ้านพักวางใจ ทำให้เพจเทใจยังคงเป็นพื้นที่ระดมทุนหลักที่จำเป็นมากต่อเด็กๆ บ้านหลังนี้

ประวัติหอพักเด็กวางใจ

"บ้านพักวางใจ" อดีตเคยเป็นมูลนิธิฯ ศูนย์ชีวิตใหม่ ดูแลเด็กตั้งแต่อายุ 4 ขวบ - 20 ปี ที่ได้รับผลกระทบจากครอบครัวแตกแยก ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว และครอบครัวประสบปัญหาความยากจน แต่เมื่อปี 2560 ชีวิตเด็กต้องเจอกับข่าวร้าย เมื่อคณะกรรมการมูลนิธิฯ มีคำสั่งให้ปิดศูนย์เนื่องจากผู้สนุบสนุนไม่สามารถช่วยเหลือต่อไปได้ ทำให้ผู้ดูแลเด็กในขณะนั้นคือ นายฤทธา พงค์จิตติกร พร้อมภรรยา ต้องออกจากศูนย์และแจ้งให้ผู้ปกครองเด็กและเด็กบางส่วนที่ไม่มีผู้ปกครองให้ออกจากศูนย์ภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งนับว่าเป็นภาพเหตุการณ์ที่หดหู่ใจมากในขณะนั้น เพราะเด็กบางคนไม่มีแม้แต่พ่อแม่ให้ติดต่อและรับกลับไปดูแล

ตั้งแต่ปี 2560 ผู้ดูแลจึงตัดสินใจดำเนินการดูแลเด็กต่อโดยให้ผู้ปกครองบางส่วนได้มีส่วนช่วยเหลือเท่าที่ช่วยได้ อาทิ การบริจาคเงินครั้งละ 500-1000 บาท การบริจาคพืชผลทางการเกษตร การบริจาคสัตว์เพื่อเลี้ยงเป็นค่าอาหาร โดยบ้านพักยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเงินสนับสนุนจากองค์กรภาครัฐและเอกชน จึงทำให้ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาผู้ดูแลเด็กและเด็กต้องอยู่อย่างประหยัดและทำทุกอย่างด้วยตนเองให้ผ่านพ้นวิกฤติในแต่ละช่วงไปได้

ปัจจุบันบ้านพักวางใจ ตั้งอยู่ที่ตำบลเจดีย์หลวง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย และยังคงมีเด็กหลายคนที่ผู้ปกครองมาขอความช่วยเหลือด้วยซึ่งมีทั้งกรณีที่ต้องช่วยเหลือเร่งด่วน และปฏิเสธการช่วยเหลือ เนื่องจากไม่มีเงินสนับสนุนในการดูแลเด็กให้เพียงพอทุกกรณี

“ผมชื่ออากาเป้ครับ ผมอยู่บ้านพักวางใจตั้งแต่เด็กจนโตครับ ก่อนที่จะได้รู้จักเพจเทใจที่เข้ามาช่วยเหลือ พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กก็กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายของเด็กที่อยู่บ้านพัก เพราะบางคนแทบจะไม่มีรายได้ บางคนให้ได้แค่ค่าเทอม ซึ่งค่าใช้จ่ายของเด็กเกิดขึ้นตลอดทุกวัน ทำให้ค่าใช้จ่ายก็เลยเป็นปัญหาหลักสำหรับเด็กทุกคนในบ้านพักหลังนี้ครับ แต่ตั้งแต่รู้จักเพจเทใจ พ่อแม่ผู้ปกครอง รวมทั้งเด็กทุกคนก็อุ่นใจมากขึ้นที่ได้รับการช่วยเหลือ ผมขอเป็นตัวแทนของเด็กทุกคนกราบขอบพระคุณเพจเทใจและผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่มีเมตตากรุณาต่อเรา ขอให้ทุกท่านมีความสุขความเจริญ มีอายุยืนยาวนะครับ ขอบคุณมากครับ”

นายวิรากร  หวุ่นลองกู่ อายุ16  ปี ปัจจุบันเรียนคณะการไฟฟ้าปวช.ปี1 เกรดเฉลี่ย 4.00 

"สถานการณ์ที่ผ่านมาบ้านพักเด็กก็ผ่านไปด้วยดี เพราะได้การสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดี ผ่านโครงการเทใจ เคสเด็กที่มีปัญหาคือเด็กที่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่จริงๆ เพราะพ่อแม่เสียชีวิต อย่าร้าง ต่างมีครอบครัวใหม่ เด็กต้องอาศัยกับน้า อา และมีปัญหาความไม่ปลอดภัย ถูกลวนลามจากน้า อา ลุง โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง และปัญหาเศรษฐกิจ เงินที่ได้รับจากเทใจจึงเป็นการแก้ปัญหาค่าอาหารที่ขาดไป ทำให้เด็กกินอิ่มอุ่นใจ เป็นสิ่งที่ทำให้เด็กมีกินมีที่อยู่ได้เรียนหนังสือเต็มที่ ขอโอกาสนี้ขอบคุณผู้มีอุปการะทุกท่านที่มีส่วนบริจาคช่วยเหลือผ่านเทใจ แม้เป็นเงินเพียงเล็กน้อยของท่านแต่จำเป็นมากต่อชีวิตประจำวันเด็กครับ "

เสียงสัมภาษณ์จากนายฤทธา พงศ์จิตติกร ผู้ดูแลเด็กบ้านวางใจ

ประเภทของเด็ก แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 ครอบครัวยากจนและเด็กได้รับความรุนแรง อาทิ ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ถูกใช้แรงงาน ถูกคุกคามทางเพศ

กลุ่มที่ 2 ครอบครัวแตกแยก ต่างฝ่ายต่างมีครอบครัวใหม่ และฐานะครอบครัวไม่สามารถเลี้ยงดูเด็กได้

กลุ่มที่ 3 เด็กที่มีพ่อแม่ แต่ลูกอยู่ในหมู่บ้านที่เสี่ยงต่อการเกี่ยวพันกับยาเสพติด ความรุนแรง และอยากให้ลูกไปเรียนในที่ที่มีคนคอยอบรมสั่งสอนและมีเพื่อนที่ดีสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย