cover_1

ตรวจ DNA ให้เด็กเยาวชนและกลุ่มเปราะบางที่ไร้รัฐไร้สัญชาติ

Donations for the project will สนับสนุนค่าตรวจพิสูจน์ DNA to เด็ก และผู้เปราะบาง ที่ไร้สัญชาติ20คน

project succeeded
Successfully
May 16, 2024

Project Updateตรวจ DNA บุคคลไร้สัญญาติ 19 คน

Activity time

May 16, 2024 - May 16, 2024

จากการตรวจบุคคลไร้สัญชาติให้กับเด็กและผู้เปราะบางในปี 2566 ที่ผ่านมา จากการระดมทุนจากผู้บริจาคจากเทใจดอทคอม ADRA Thailand ได้รับการสนับสนุนค่าดำเนินการตรวจ DNA และค่าเดินทางเพื่อช่วยเหลือเด็กและผู้เปราะบาง พื้นที่อำเภอแม่จัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นจำนวน 19 คน แบ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 4 ราย และบุคคลไร้สัญชาติทั่วไป จำนวน 15 ราย ให้เข้าถึงสิทธิสัญชาติไทย

ผลกระทบที่เกิดขึ้น

กลุ่มที่ได้รับประโยชน์ จำนวน ความเปลี่ยนแปลง
เด็กและเยาวชน อาศัยอำเภอแม่จัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 4 คน เด็กที่ไร้สัญชาติได้รับการตรวจ DNA และมีโอกาสได้รับสัญชาติไทย
ประชาชนผู้เปราะบาง อาศัยอำเภอแม่จัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 15 คน มีโอกาสได้รับสัญชาติไทย

 

ADRA Thailand และเทใจดอทคอม ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนโครงการเพื่อช่วยเหลือเด็กและผู้เปราะบางให้ได้รับการตรวจสายโลหิตเพื่อได้รับการพิจารณาให้สัญชาติไทยและสิทธิทางกฎหมาย 💖
Jul 3, 2023

Project Update"น้องอาชุ" ได้รับสัญชาติไทยแล้ว

Activity time

Jul 3, 2023 - Jul 3, 2023

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ทางครอบครัวผู้ได้รับการสนับสนุนการตรวจ DNA ได้มาที่อำเภอแม่จัน เพื่อให้ทางสำนักทะเบียนอำเภอแม่จัน ดำเนินการออกหนังสือส่งตัวไปตรวจ DNA ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

ทางโครงการไร้สัญชาติได้ดำเนินการติดต่อประสานงานกับโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อให้ทางครอบครัวไปตรวจ DNA

ปัจจุบัน น้องอาชุ หนึ่งในเด็กไร้สัญชาติที่ได้รับโอกาสตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์สายโลหิตได้รับสัญชาติไทยเรียบร้อยแล้ว

Dec 14, 2021

Project Updateฟังเสียงจากน้องอัญชัญ เด็กชนเผ่าดาราอั้งผู้ได้รับการพิสูจน์สัญชาติ

Activity time

Dec 14, 2021 - Dec 14, 2021

เรื่องเล่าจากน้องอัญชัญ เด็กชนเผ่าดาราอั้งผู้ได้รับการพิสูจน์สัญชาติไทย และมีโอกาสได้ใช้ชีวิตอย่างที่เธอสมควรได้รับ

"หนูเป็นชนเผ่าดาราอั้งค่ะ พ่อแม่หนูอพยพมาจากประเทศพม่า เมื่อปี พ.ศ. 2535 สมัยนั้นหนูยังไม่เกิดเลยค่ะ พ่อกับแม่อพยพมาอยู่ในชุมชน อำเภอเชียงแสน จากนั้นก็เริ่มหางานทำ โดยรับจ้างทั่วไป

พ่อกับแม่เคยเล่าให้หนูฟังว่า ตอนที่อพยพเข้ามาในประเทศไทย ไม่มีเอกสารอะไรเลย จึงไปสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติผิดกลุ่มค่ะ ไปสำรวจเป็นแรงงาน 3 สัญชาติ และได้มีเลข13 หลักขึ้นต้นด้วยเลข 00 เพื่อที่จะได้ทำงาน ถ้าไม่มีบัตรอะไรทำงานไม่ได้ค่ะ พ่อเล่าให้หนูอีกฟังว่า ถ้าพ่อไม่ไปลงทะเบียนกับเขาพ่อก็จะทำงานผิดกฎหมาย นายจ้างก็ไม่อยากรับทำงาน ตำรวจก็จะจับ พ่อและแม่จะต้องไปทำเรื่องขอมีบัตรเพื่อที่จะได้ทำงานถูกต้องตามกฎหมาย พอหนูเกิดมาพ่อก็ไปแจ้งเกิด หนูจึงได้สูติบัตร มีเลข 13 หลักขึ้นต้นด้วยเลข 00 เวลาผ่านไปครอบครัวหนูได้ย้ายบ้านไปอยู่ต่างอำเภอ บ้านใหม่ของหนูเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีคนอพยพมาจากหลากหลายที่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน เป็นชนเผ่าดาราอั้งกันทั้งหมดเลยค่ะ

ช่วงปี 2548-2554 มีประกาศให้ผู้ที่ไม่มีบัตรให้ไปสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน พ่อและแม่จึงไปสำรวจกับเขาด้วย และยกเลิกบัตรแรงงาน 3 สัญชาตินั้นด้วย แต่หนูยังถือสูติบัตรที่มีเลขขึ้นต้นด้วยเลข 00 เหมือนเดิมค่ะ สมัยที่พ่อกับแม่สำรวจบัตรแรงงาน พ่อและแม่รวมทั้งหนูด้วย ไม่มีนามสกุล ต่อมาพ่อกับแม่มาทำบัตรใหม่มีนามสกุลด้วยข้อมูลก็เปลี่ยนไป ทำให้ข้อมูลพ่อและแม่ในสูติบัตรของหนูไม่ตรงกัน พ่อหนูอยากให้หนูมีบัตรเหมือนพ่อกับแม่ จึงไปยื่นคำร้องขอเปลี่ยนสถานภาพหนูตามพ่อและแม่ แต่เจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนอำเภอบอกว่า ข้อมูลไม่ตรงกัน ไม่น่าเชื่อถือว่าเป็นพ่อแม่ลูกกันจริง จึงขอให้ครอบครัวหนูไปตรวจพิสูจน์ความสัมพันธ์พ่อแม่ลูก แต่ครอบครัวเราเป็นครอบครัวหาเช้ากินค่ำ รับจ้างทั่วไป ไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าตรวจ DNA ค่ะเพราะต้องตรวจ 3 คน รวมกันแล้วก็เกือบสองหมื่นลยค่ะ แพงมากค่ะ

พ่อหนูจึงเข้าไปขอความช่วยเหลือจากพี่เจ้าหน้าที่โครงการไร้รัฐไร้สัญชาติ มูลนิธิแอ๊ดดร้าประเทศไทย เพื่อขอให้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการตรวจ DNA ครั้งนี้ค่ะ พี่ ๆ ทางโครงการได้ดูเอกสารของหนูและพ่อแม่แล้ว มันจะยากกว่าคนอื่น เพราะว่าพ่อแม่สำรวจครั้งแรกที่สำนักทะเบียนอำเภออีกที่หนึ่ง และมาสำรวจครั้งที่ 2 ที่สำนักทะเบียนที่ครอบครัวเราอยู่ ณ ปัจจุบันค่ะ มันเลยต้องดำเนินการแก้ไขไป ๆ มา ๆ ทั้งสองสำนักทะเบียนเลย การโยกย้ายถิ่นฐานของครอบครัว ทำให้หนูได้เรียนรู้เรื่องเอกสารทางทะเบียนราษฎร์มากขึ้น ว่ามันไม่ได้จบที่สำนักทะเบียนเดียว พ่อกับแม่ต้องเดินทางตลอดเพื่อยื่นคำร้องต่างๆ เริ่มจากการขอหนังสือส่งตรวจ DNA ที่สำนักทะเบียนแรกที่หนูมีชื่ออยู่ และไปขอแก้ไขที่สำนักทะเบียนที่พ่อและแม่มีชื่ออยู่ ณ ปัจจุบัน ผลตรวจ DNA มีความสำคัญกับชีวิตหนูมากค่ะ เป็นหลักฐานสำคัญที่จะยืนยันตัวตนของหนูได้ ถ้าไม่มีหนังสือการตรวจ DNA หนูก็จะไม่สามารถแก้ไขเอกสารได้ เพราะที่ผ่านมาเอกสารทั้งหนูและพ่อแม่ไม่ตรงกันเลยค่ะ ทางสำนักทะเบียนไม่เชื่อว่าเป็นลูกของทั้งพ่อแม่

หนูลืมบอกไปค่ะ หนูมีน้องสาว 1 คน น้องได้สัญชาติก่อนหนูแล้วเพราะน้องเกิดหลังจากที่พ่อแม่สำรวจบัตรหัว 0 น้องจึงไม่ต้องแก้ไขอะไร เมื่อปลายปี 2563 หนูได้เข้ารับการตรวจ DNA และเมื่อได้ผลตรวจพิสูจน์ความเป็นพ่อแม่ลูกแล้วเจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนจึงรับคำร้อง และเรียกมาสอบปากคำเพื่อสลักหลังสูติบัตร เปลี่ยนแปลงสถานภาพตามพ่อแม่เมื่อกลางปี 2564 จากสถานะบุตรแรงงาน 3สัญชาติ เป็นบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (บุตรต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทย) และได้ถ่ายบัตรเรียบร้อยแล้วค่ะ

พี่ๆแอ๊ดดร้าบอกว่าหนูมีสิทธิที่จะได้รับสัญชาติตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสอง หนูดีใจมากค่ะ ที่จะเป็นคนไทยอย่างสมบูรณ์เหมือนที่น้องสาวหนูได้รับ ขอบคุณผู้บริจาคเงินที่ให้หนูได้ตรวจ DNA ครั้งนี้ ทำให้ชีวิตหนูเปลี่ยนไป ต่อจากนี้ไปหนูจะยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทย ตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสอง ต่อไปค่ะเพราะหนูอยากเป็นหมอ หากหนูไม่ได้สัญชาติไทยหนูก็จะเป็นหมอไม่ได้ค่ะ ตอนนี้หนูเรียนอยู่ชั้นป.6 โรงเรียนในอำเภอแม่สายค่ะ และพ่อบอกว่าขอเป็นกำลังใจให้กับพี่ๆน้องๆที่ยังไม่ได้รับสิทธิที่ตนควรจะได้รับ ถึงแม่ว่าเราจะไม่รู้หนังสือ ไม่ได้เรียน ก็อย่ายอมแพ้ต่ออุปสรรค และจงดำเนินชีวิตถูกต้องตามกฎหมายเป็นพลเมืองดีให้กับประเทศไทยต่อไปค่ะ”