จ้างงาน-แก่ผู้ตกงานจากวิกฤติโควิด-19 กระจกเงา
สนับสนุนการจ้างงาน แก่ผู้ตกงานจากวิกฤติโควิด-19 จำนวน 35-50 คนต่อวันในเดือนพฤษาภาคม-มิถุนายน 2563 เพื่อคนเหล่านี้มีอาชีพและรายได้เลี้ยงครอบครัว พร้อมทำให้คนที่รอรับถุงยังชีพกว่า 24,000 ครอบครัวได้รับการช่วยเหลือที่เร็วขึ้น
ระยะเวลาโครงการ 5 เดือน พื้นที่ดำเนินโครงการ ไทย
ยอดบริจาคขณะนี้
1,449,498 บาทเป้าหมาย
1,432,200 บาทสำเร็จแล้ว
ความคืบหน้าโครงการ
ความคืบหน้ากิจกรรมจ้างงานผู้ตกงานจากสถานการณ์โควิด-19
จากวิกฤติการณ์ตกงาน ขาดรายได้ของผู้ใช้แรงงาน ที่เป็นผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) มูลนิธิกระจกเงาจึงทำกิจกรรมจ้างงานผู้ตกงาน มาช่วยกันผลิตกล่องแบ่งปัน โดยโครงการอาสามาเยี่ยม เพื่อส่งต่อให้กับผู้ที่ลงทะเบียนขอรับข้าวสารอาหารแห้งสำหรับบรรเทาความเดือดร้อน กิจกรรมนี้เรียกได้ว่า เป็นการจ้างคนตกงาน เพื่อมาช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อนและกำลังเข้าขั้นอดอยากจากสถานการณ์เดียวกัน
โดยแรงงานที่มูลนิธิกระจกเงาจัดจ้างนั้น มาจาก 4 กลุ่มคือ
- กลุ่มคนไร้บ้าน สลับสับเปลี่ยนกันมาทำงาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการว่างงานจำนวน 5-10 คนต่อวัน
- กลุ่มพี่น้องแรงงานจากชุมชนคลองเตย 25 คนต่อวัน
- กลุ่มพี่น้องแรงงานจากชุมชนใกล้เคียงมูลนิธิ 10 คนต่อวัน
- กลุ่มบ้านพักขอบคุณ 5-10 คนต่อวัน
มูลนิธิกระจกเงาจึงมีกำลังคนหมุนเวียนทำงาน 45 - 50 คน เพื่อช่วยกันดำเนินการจัดทำกล่องแบ่งปัน โดยโครงการอาสามาเยี่ยม ซึ่งมีปริมาณมากถึง 16,474 กล่อง ได้สำเร็จลุล่วงอย่างรวดเร็ว โดยการจ้างงานนั้น มีการจัดการเป็นแผนกดังนี้
- ทีมรับของบริจาค และจัดเก็บเข้าหมวดหมู่
- ทีมคัดแยก จัดการ แพคของบริจาคแต่ละประเภท บรรจุลงกล่องแบ่งปันฯ
- ทีมคีย์ข้อมูลพัสดุ และจัดส่ง
- ทีมประสานงานเช็คข้อมูล ตอบข้อซักถามกับผู้เดือดร้อนที่ร้องขอกล่องแบ่งปัน
ขณะนี้มูลนิธิกระจกเงา ได้ดำเนินกิจกรรมส่งกล่องแบ่งปัน โดยโครงการอาสามาเยี่ยมให้กับผู้ลงทะเบียนรอบแรกสำเร็จแล้ว จำนวน 16,474 ครอบครัว ในตัวเลขดังกล่าวนี้ หนึ่งในความสำเร็จเกิดจากการระดมกำลังคนมาช่วยกันจัดการ และหากคิดเฉลี่ยครอบครัวหนึ่งมีสมาชิก 4 คน การจ้างงานสำหรับการบรรลุภารกิจนี้ ได้ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 65,896 ชีวิต
หลังจากนี้ตลอดเดือนมิถุนายน มูลนิธิกระจกเงา จะยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นระยะที่สอง โดยจะเปิดให้ผู้เดือดร้อนลงทะเบียนขอรับกล่องแบ่งปัน โดยโครงการอาสามาเยี่ยม 300 กล่องต่อวัน
เพราะความเดือดร้อนยังปรากฎอยู่ มูลนิธิกระจกเงาจึงยังขอจับมือคนที่เดือดร้อนให้รอดไปด้วยกัน
“เกิดและโตที่คลองเตยค่ะ บ้านที่อยู่เป็นชุมชนแอดอัด พ่อหนูเพิ่งเสียไปได้ 3 ปี ครอบครัวจึงค่อนข้างลำบาก แม่ทำงานรับจ้างทั่วไป แต่ตอนนี้ว่างงานกัน เพราะไม่มีใครจ้าง ในชุมชนก็กลัวโควิด-19 กันมาก เพราะบ้านติดๆกันเป็นชุมชนแอดอัด ถ้ามีคนติดมันก็ระบาดง่าย "
“ดีใจมาก ที่พี่มูลนิธิกระจกเงาติดต่อมา ว่าอยากจ้างงานคนตกงานมาช่วยยกของบริจาค ตอนไปบอกเขาว่ามีคนจะจ้างงาน ทุกคนดีใจและอยากมาทำงานมาก คือ เขาอยากมีรายได้เลี้ยงครอบครัวกัน รายได้วันละ 400 บาทที่พี่เขาจ้าง ทำให้มีงานทำ มีรายได้ ดูแลครอบครัวได้ ตอนนี้ทุกคนอยากทำงาน... ”
"หนูและคนที่มาช่วยยกของ รู้สึกดีมาก เสมือนเราเป็นคนกลาง ช่วยคนในสังคมที่อยากบริจาคช่วยคนเดือดร้อน ได้ทำบุญร่วมกัน เราเองก็เหมือนได้ทำบุญไปด้วย” น้องเน ธาริณี ด้วงสังข์ อายุ 16 ปี ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19
สถาการณ์ความเดือดร้อนขณะนี้ทำให้มูลนิธิกระจกเงาเพิ่มภารกิจพิเศษด้วยการเปิดให้ประชาชนที่เดือดร้อน มาลงทะเบียนเพื่อจัดส่งชุดยังชีพไปให้ครอบครัวที่เดือดร้อน เพียงแค่เวลาไม่นานมีคนขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 13,259 ราย ทว่าความสามารถของเจ้าหน้าที่สามารถแพ็คส่งได้ 100-200 คนต่อวัน
ความเดือดร้อนที่รอไม่ได้ เพราะเด็กไม่มีข้าว ไม่มีนมกิน แม้เราจะเร่งมือเพียงใดก็ทำไม่ทัน
เราจึงขอความร่วมมือจากเทใจดอทคอม เพื่อจ้างงานคนในชุมชนที่ตกงานมาช่วยทำงานแพคของส่งถึงคนเดือดร้อน โดยการจ้างงานเป็นดังนี้
- เดือนพฤษภาคม 2563 จ้างงาน 45-50 คนต่อวัน เพื่อทำการแพ็คของส่งถึงคนเดือดร้อน 500-600 รายต่อวัน
- เดือนมิถุนายน 2563 จ้างงาน 35 คนต่อวัน เพื่อทำการแพ็คของส่งถึงคนเดือดร้อน 300 รายต่อวัน
เพราะกิจกรรมจ้างงาน แก่ผู้ตกงานจากวิกฤติโควิด-19 ของมูลนิธิกระจกเงา จะทำให้พวกเขาที่ต้องมีรายได้เพียงพอที่จะพึ่งพาตัวเองและพาครอบครัวของเขารอดไปด้วยกัน
ภาพประกอบ : ครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว ตอนนี้ลูกอายุ 3 ขวบ พ่อเขาก็ส่งเงินมาบ้าง มาเยี่ยมบ้างบางครั้ง ตอนนี้เขาตกงาน เราก็ไม่ได้ทำงานมาเป็นเดือนแล้วเหมือนกัน ตอนนี้เลยลำบากมาก เราอดได้นะ แต่ลูกต้องได้กินทุกวัน วันนั้นจำได้ 21 มีนาคม 2563 คือไม่มีกินแล้วจริงๆ เพื่อนมาบอกว่า ให้ส่งข้อความไปที่เพจ มูลนิธิกระจกเงา ผ่านไป 2 วัน มีพัสดุ เปิดดูเราดีใจมาก คือ วันนั้น มันไม่มีข้าวสารจะกรอกหม้อแล้ว ในกล่องพัสดุ มีข้าวสาร อาหารแห้ง นม และขนมสำหรับลูก มันอาจไม่ได้เยอะมากมาย แต่เราขอบคุณมากๆ มันทำให้เราอยู่รอดไปได้อีกหลายวัน
ประโยชน์ของโครงการ
- กลุ่มประชากรที่ตกงานมีอาชีพและรายได้ผ่านโครงการจ้างงาน
- ผู้เข้าร่วมโครงการมีภาวะเครียดลดลง เพราะมีรายได้จากงานที่ทำ
- เกิดการหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจระดับฐานราก
- ประชาชนที่รอรับถุงยังชีพราว 24,000 ราย/ครอบครัว ได้รับการช่วยเหลือเร็วขึ้น (หนึ่งครอบครัวเฉลี่ยมีสมาชิกที่ 4 คน ดังนั้นเราช่วยเหลืออยู่เฉลี่ย 96,000 คน รวมถึงในระดับชุมชนที่ติดต่อมาขอข้าวสารอาหารแห้งอีกหลายชุมชนทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด)
เจ้าของโครงการ
มูลนิธิกระจกเงา
ความคืบหน้ากิจกรรมจ้างงานผู้ตกงานจากสถานการณ์โควิด-19
จากวิกฤติการณ์ตกงาน ขาดรายได้ของผู้ใช้แรงงาน ที่เป็นผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) มูลนิธิกระจกเงาจึงทำกิจกรรมจ้างงานผู้ตกงาน มาช่วยกันผลิตกล่องแบ่งปัน โดยโครงการอาสามาเยี่ยม เพื่อส่งต่อให้กับผู้ที่ลงทะเบียนขอรับข้าวสารอาหารแห้งสำหรับบรรเทาความเดือดร้อน กิจกรรมนี้เรียกได้ว่า เป็นการจ้างคนตกงาน เพื่อมาช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อนและกำลังเข้าขั้นอดอยากจากสถานการณ์เดียวกัน
โดยแรงงานที่มูลนิธิกระจกเงาจัดจ้างนั้น มาจาก 4 กลุ่มคือ
- กลุ่มคนไร้บ้าน สลับสับเปลี่ยนกันมาทำงาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการว่างงานจำนวน 5-10 คนต่อวัน
- กลุ่มพี่น้องแรงงานจากชุมชนคลองเตย 25 คนต่อวัน
- กลุ่มพี่น้องแรงงานจากชุมชนใกล้เคียงมูลนิธิ 10 คนต่อวัน
- กลุ่มบ้านพักขอบคุณ 5-10 คนต่อวัน
มูลนิธิกระจกเงาจึงมีกำลังคนหมุนเวียนทำงาน 45 - 50 คน เพื่อช่วยกันดำเนินการจัดทำกล่องแบ่งปัน โดยโครงการอาสามาเยี่ยม ซึ่งมีปริมาณมากถึง 16,474 กล่อง ได้สำเร็จลุล่วงอย่างรวดเร็ว โดยการจ้างงานนั้น มีการจัดการเป็นแผนกดังนี้
- ทีมรับของบริจาค และจัดเก็บเข้าหมวดหมู่
- ทีมคัดแยก จัดการ แพคของบริจาคแต่ละประเภท บรรจุลงกล่องแบ่งปันฯ
- ทีมคีย์ข้อมูลพัสดุ และจัดส่ง
- ทีมประสานงานเช็คข้อมูล ตอบข้อซักถามกับผู้เดือดร้อนที่ร้องขอกล่องแบ่งปัน
ขณะนี้มูลนิธิกระจกเงา ได้ดำเนินกิจกรรมส่งกล่องแบ่งปัน โดยโครงการอาสามาเยี่ยมให้กับผู้ลงทะเบียนรอบแรกสำเร็จแล้ว จำนวน 16,474 ครอบครัว ในตัวเลขดังกล่าวนี้ หนึ่งในความสำเร็จเกิดจากการระดมกำลังคนมาช่วยกันจัดการ และหากคิดเฉลี่ยครอบครัวหนึ่งมีสมาชิก 4 คน การจ้างงานสำหรับการบรรลุภารกิจนี้ ได้ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 65,896 ชีวิต
หลังจากนี้ตลอดเดือนมิถุนายน มูลนิธิกระจกเงา จะยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นระยะที่สอง โดยจะเปิดให้ผู้เดือดร้อนลงทะเบียนขอรับกล่องแบ่งปัน โดยโครงการอาสามาเยี่ยม 300 กล่องต่อวัน
แผนการใช้เงิน
รายการ | บาท |
1.การจ้างงานเดือนพฤษภาคม 2563 ค่างาน 50 คน ต่อวัน x ค่าจ้างงาน 400 บาทต่อวัน x 30 วัน | 600,000 |
2.การจ้างงานเดือนมิถุนายน 2563 35 คน ต่อวัน x ค่าจ้างงาน 400 บาทต่อวัน x 30 วัน | 420,000 |
3.สนับสนุนโครงการจ้างวานข้า 3 เดือนๆละ 100,000 บาท | 300,000 |
3.ค่าดำเนินงานเทใจดอทคอม 8.5 % | 112,200 |
รวม | 1,432,200 |