"The Big Give" ร่วมให้โอกาสน้อง 250 คน ได้เรียนจบสายอาชีพที่มีงานรองรับ หางานทำได้ทันที
ร่วมส่งน้องอาชีวะเรียนสายตรงสู่เส้นทางอาชีพ ฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนทุกครอบครัว ทุกธุรกิจ และประเทศชาติ ด้วยการมอบทุนการศึกษาให้น้องๆ 250 คน ได้เรียนจนจบ ปวช. 3 "ได้ไปต่อ" ในสายอาชีพต่างๆ คนละ 14,000 บาท / ปี หางานทำได้ทันทีหลังจากเรียนจบ ได้แก่ วิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ, วิชาอุตสาหกรรม - ช่างยนต์/ไฟฟ้ากำลัง/เครื่องมือและซ่อมบำรุง/อิเล็กทรอนิกส์/ช่างก่อสร้าง, วิชาเกษตรกรรมและวิชาคหกรรม ซึ่งเป็นวิชาชีพที่ต้องการแรงงานที่มีทักษะมาพัฒนาประเทศต่อไป
ระยะเวลาโครงการ 17 พ.ค. 2564 ถึง 01 เม.ย. 2565 พื้นที่ดำเนินโครงการ ทั่วประเทศ
ยอดบริจาคขณะนี้
3,557,803 บาทเป้าหมาย
3,500,000 บาทสำเร็จแล้ว
ความคืบหน้าโครงการ
ส่งนักเรียนทุนสายอาชีพ 254 คน ได้เรียนจบชั้นปวช.
จากโครงการ “The Big Give การให้อาชีพ คือการให้ที่ยิ่งใหญ่” ระดมทุนเพื่อส่งน้องๆ ที่ขาดโอกาส สายอาชีพ ได้เรียนต่อจนจบชั้น ปวช. 3 ผ่านเทใจ.คอม ระหว่างวันที่ 17 พ.ค. -12 ส.ค. 64 มูลนิธิยุวพัฒน์ได้รับเงินบริจาคจำนวน 3,557,803 บาท สามารถส่งน้องเรียนได้ 254 คน ทั่วประเทศ
มูลนิธิยุวพัฒน์และนักเรียนทุนทุกคนขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่ได้ร่วมมอบโอกาสให้น้องๆ ได้รับทุนการศึกษา เพื่อส่งเสริมการสร้างอาชีพ สร้างอนาคต และสร้างแรงงานฝีมือคุณภาพให้กับประเทศไทย โดยได้มอบทุนการศึกษาสำหรับสายอาชีพ จำนวน 14,000 บาท ต่อคน สำหรับ 8 สาขา ในแต่ละภาค ดังนี้
The Big Give... การให้อาชีพคือการให้ที่ยิ่งใหญ่
ในเวลานี้ไม่มีการให้ไหนที่ยิ่งใหญ่และเร่งด่วนเท่ากับการให้อาชีพแก่คนไทย... โดยเฉพาะเด็กขาดโอกาสที่เลือกเรียนในสายอาชีพเพราะเด็กๆ มีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อหารายได้มาช่วยเหลือครอบครัวได้โดยเร็ว อีกทั้งยังเป็นหนทางที่จะเก็บออมเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้กับตัวเองได้มีโอกาสเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น
ร่วมส่งน้องอาชีวะเรียนสายตรงสู่เส้นทางอาชีพ เป็นฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนทุกครอบครัว ทุกธุรกิจและประเทศชาติ มูลนิธิยุวพัฒน์ x เทใจ x head100 ขอชวนผู้ใหญ่ใจดีร่วมมอบโอกาสทางอาชีพให้แก่นักเรียนอาชีวะ จำนวน 250 คน ที่กำลังเรียนอยู่ ปวช.2 เพื่อได้เรียนจบ ปวช.3 ในสาขาต่างๆ เช่น ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างยนต์ ช่างกล ช่างไฟฟ้า ช่างก่อสร้าง ช่างซ่อม ไอที อาหารและโภชนาการ
นักเรียนทุนที่เลือกเรียนสายอาชีพส่วนใหญ่มีเป้าหมายที่ชัดเจนที่จะนำความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพจริงทันทีหลังจากเรียนจบเนื่องจากการเรียนสายอาชีพจะเน้นในเรื่องของวิชาชีพแต่ละชนิดโดยตรง ได้ฝึกปฏิบัติและมีประสบการณ์ตรงตามสาขาที่เรียน บางแห่งมีงานรองรับ
“การเรียนสำคัญมากสำหรับหนู พ่อแม่ก็บอกตลอดว่าทำอะไรก็อย่างทิ้งการเรียน อยากเรียนต่อแต่ไม่มีเงิน ชุดปวส.ซื้อไว้แล้ว แต่คงไม่ได้ใส่เพราะค่าเทอมเพิ่มเป็นสองเท่า คงจะเอาชุดไปขายให้รุ่นน้อง การมาทำงานหาเงินหลังจากจบ ปวช. น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด ที่สำคัญจะได้เก็บเงินเพื่อเอาไว้ซื้อเตาอบขนม ความฝันของหนูคืออยากเปิดร้าน อยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเองและหากมีโอกาสก็จะได้นำเงินไปเรียนต่อปริญญาตรีในอนาคตค่ะ”
น.ส.ศิริพร อดีตนักเรียนทุนสายอาชีพ จบชั้นปวช. 3 ประเภทวิชาคหกรรม สาขาอาหารและโภชนาการ จ.ตรัง
“การเรียนสายอาชีพจะทำให้มีโอกาสได้ทำงานมากกว่า ทำให้รู้ว่าตัวเองถนัดอะไร ชอบอะไร จบมาแล้วจะทำงานได้ความรู้และได้ลงมือปฎิบัติ ได้ประสบการณ์ทำงานจริงๆ ที่สำคัญทำคือจบแล้วออกมาทำงานหาเงินเร็ว”
น.ส.เกศินี อดีตนักเรียนทุนสายอาชีพ จบชั้นปวช.3 ประเภทวิชาพาณิชยกรรม/บริหารธุรกิจ สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ จ.นครปฐม
“เลือกเรียนสายอาชีพเพราะทำให้รู้เป้าหมายของตัวเองชัดเจนว่าต้องการทำอาชีพอะไร ชอบอะไร ได้ลงมือปฎิบัติจริง ทำงานจริง ทำให้เป็นคนมีความรับผิดชอบ มีโอกาสทำงานได้หลังเลยจากเรียนจบ...และที่สำคัญคืออยากรีบทำงานหาเงินช่วยภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว หาเงินส่งตัวเองเรียนและเลี้ยงตากับยายให้สบายตามที่ตั้งใจไว้ ไม่อยากให้ตากับยายลำบาก ทำงานหนัก อยากส่งน้องเรียนให้สูงทุกคนดัวยตัวเองให้ได้ค่ะ”
น.ส.สุภาพร อดีตนักเรียนทุนสายอาชีพ จบชั้น ปวช. 3 ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขางานเครื่องมือกลและซ่อมบำรุง กรุงเทพฯ
อาชีวะ...ทักษะอาชีพเพื่อการพัฒนาประเทศ
นอกจากนี้การสนับสนุนนักเรียนสายอาชีพยังถือเป็นว่าได้ช่วยประเทศชาติในการ "ผลิตแรงงานฝีมือ" สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 และความต้องการตลาดแรงงานในประเทศจำนวนมากที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่จำนวนผู้จบออกมาไม่เพียงพอต่อความต้องการ
สถาบันแมคเคนซี่ McKinsey Global Institute (MGI) ระบุว่า "ภายในปี 2030 หุ่นยนต์จะเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์มากถึง 800 ล้านตำแหน่งทั่วโลกโดยเฉพาะสายงานด้านการผลิตในโรงงาน ดังนั้น แรงงานในภาคอุตสาหกรรมยุคใหม่ต้องเป็นคนมีทักษะทางวิชาชีพ และหากเรียนในระบบทวิภาคีที่มีคุณภาพที่มีการเรียนภาคทฤษฎีที่สอดคล้องต่อการนำไปประยุกต์ใช้ในการฝึกภาคปฏิบัติในสถานประกอบการก็จะยิ่งเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานช่วยลดปัญหา Skill Mismatch ในตลาดแรงงานได้ หากเราสามารถสร้างโอกาสให้นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีโอกาสจะหลุดออกจากระบบการศึกษาได้มีโอกาสเรียนต่อในสายอาชีพชั้นสูงก็จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและทางรายได้โดยเฉพาะประชากรกลุ่มรายได้ต่ำสุด (Bottom 40) ของประเทศมีงานทำและมีรายได้สูง ทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาช่องว่างทักษะในตลาดแรงงานได้ในอีกทางหนึ่ง"
ที่มา:เว็บไซด์กสศ./บทความการศึกษาสายอาชีพเส้นทางเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วม https://www.eef.or.th/
วีระชัย รอดแก้ว อดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์ ปัจจุบันประสบความสำเร็จในการทำงานในสายวิชาชีพอุตสาหกรรม ครั้งหนึ่งเขาได้รับโอกาสจากทุนยุวพัฒน์ ได้เรียนสายอาชีพจนจบ ปวช. 3 และต่อยอดความรู้ไปสู่การศึกษาปริญญาตรี
“ครอบครัวลำบากมากเพราะพ่อแม่มีรายได้จากอาชีพรับจ้าง ปู่กับย่าก็มีอาชีพขายเชือกที่ทำจากต้นลาน ส่วนตัวเองก็รับจ้างเก็บดอกมะลิและทำงานอื่นๆ ที่เด็กๆ พอจะทำได้ หลังจบ ม.3 ตัดสินใจเลือกเรียนสายอาชีพจนจบ ปวช.3 แต่ต้องหยุดเรียนไป 1 ปี เพื่อทำงานเก็บเงินเรียนต่อ ปวส. และต่อปริญญาตรี คณะอุตสาหกรรมศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีเครื่องกล งานที่ทำปัจจุบัน คืออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตอุปกรณ์หน่วยความจำ (Hard Disk Drive) ตำแหน่งวิศวกรอาวุโส แผนกวิศวกรรมเครื่องกล รับผิดชอบในส่วนงานวิเคราะห์ของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิต นอกจากนี้ยังมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อมาปรับใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์รวมถึงกระบวนการผลิต…รู้สึกดีใจและภูมิใจที่มีโอกาสได้รับผิดชอบหน้าที่ต่างๆ เราต้องฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพราะโจทย์ที่เราได้รับมาจะท้าทายให้ต้องคิด ทำให้มีโอกาสพัฒนาตัวเอง เพิ่มศักยภาพต่างๆ เพื่อรองรับโลกของเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว”
ร่วมบริจาคทุนการศึกษาเพื่อเป็นการ “ให้” อาชีพแก่เด็กที่ขาดโอกาสได้ต่อยอดชีวิต ประกอบอาชีพตามที่ตั้งใจไว้ และกลายเป็นกำลังสำคัญของแรงงานสายอาชีพให้กับประเทศไทยต่อไป
ขั้นตอนการดำเนินโครงการ
มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนทุนยุวพัฒน์สายอาชีพชั้น ปวช.2 จำนวน 250 คนได้เรียนหนังสือต่อจนจบ ปวช.3
ทุนการศึกษา 14,000 บาท / คน / ปี
เป็นค่าใช้จ่ายทุนการศึกษา รวมถึง ค่าอุปกรณ์ ค่าชุด ค่ากิจกรรม ค่าเดินทาง ฯลฯ ตลอดระยะเวลา 1 ปี
สาขาที่มอบทุน ได้แก่
1.ประเภทวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
2.ประเภทวิชาอุตสาหกรรม - สาขาช่างยนต์ / สาขาไฟฟ้ากำลัง / สาขาเครื่องมือและซ่อมบำรุง / สาขาอิเล็กทรอนิกส์/สาขาช่างก่อสร้าง
3.ประเภทวิชาเกษตรกรรม - สาขาเกษตรทั่วไป
4.ประเภทวิชาคหกรรม
โดยรายละเอียดนักเรียนที่ได้รับมอบทุนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหลังสิ้นสุดแคมเปญ
ข้อมูลภาคี, พาร์ทเนอร์
มูลนิธิยุวพัฒน์เป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 300 ก่อตั้งเมื่อปี 2536 มุ่งเน้นการสร้างโอกาสและพัฒนาการศึกษาแก่เยาวชนขาดโอกาสในประเทศไทย รวมถึงการดูแลประคับประคองนักเรียนทุนให้อยู่ในระบบจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้วยความร่วมมือและความช่วยเหลือจากองค์กร/บุคคลทั่วไป
ปัจจุบันมูลนิธิฯ มีนักเรียนทุนในความดูแล 8,303 คน ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ 1 เมษายน 2564)
ส่งนักเรียนทุนสายอาชีพ 254 คน ได้เรียนจบชั้นปวช.
จากโครงการ “The Big Give การให้อาชีพ คือการให้ที่ยิ่งใหญ่” ระดมทุนเพื่อส่งน้องๆ ที่ขาดโอกาส สายอาชีพ ได้เรียนต่อจนจบชั้น ปวช. 3 ผ่านเทใจ.คอม ระหว่างวันที่ 17 พ.ค. -12 ส.ค. 64 มูลนิธิยุวพัฒน์ได้รับเงินบริจาคจำนวน 3,557,803 บาท สามารถส่งน้องเรียนได้ 254 คน ทั่วประเทศ
มูลนิธิยุวพัฒน์และนักเรียนทุนทุกคนขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่ได้ร่วมมอบโอกาสให้น้องๆ ได้รับทุนการศึกษา เพื่อส่งเสริมการสร้างอาชีพ สร้างอนาคต และสร้างแรงงานฝีมือคุณภาพให้กับประเทศไทย โดยได้มอบทุนการศึกษาสำหรับสายอาชีพ จำนวน 14,000 บาท ต่อคน สำหรับ 8 สาขา ในแต่ละภาค ดังนี้
แผนการใช้เงิน
ลำดับ | รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
---|---|---|---|
1 | ทุนการศึกษาสายอาชีพ 14,000 บาท/ คน / ปี ค่าใช้จ่ายทุนการศึกษา อาทิ ค่าอุปกรณ์ ค่าชุด ค่ากิจกรรม ค่าเดินทาง ฯลฯ | 250 | 3,500,000.00 |