ละอ่อนหายใจม่วน
วิกฤตฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 บุกเชียงใหม่ ส่งผลวิกฤตต่อสุขภาพเด็กไทย ชวนทุกคนมาปกป้องเด็กเชียงใหม่ ด้วยการระดมทุนจัดทำสถานีตรวจวัดฝุ่นใน 5 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก พร้อมเครื่องฟอกอากาศและชุดเรียนรู้รับมือฝุ่นร่วมกับผู้ปกครอง
ระยะเวลาโครงการ 1ปี พื้นที่ดำเนินโครงการ เชียงใหม่
ยอดบริจาคขณะนี้
345,286 บาทเป้าหมาย
329,180 บาทสำเร็จแล้ว
ความคืบหน้าโครงการ
รายงานผลการทำงานละอ่อนหายใจม่วน
รายงานผลการทำงานละอ่อนหายใจม่วน
จากที่เทใจดอทคอมเปิดระดมทุนเพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางปอดในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 5 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมาทางโครงการได้ส่งเครื่องฟอกอากาศจำนวน 24 เครื่องไปถึง 5 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเรียบร้อยแล้วประกอบด้วย
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลสันกลาง จำนวน 2 เครื่อง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่ปูคา จำนวน 4 เครื่อง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลเมืองต้นเปา จำนวน 3 เครื่อง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลข่วงเปา จำนวน 5 เครื่อง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลออนใต้จำนวน 10 เครื่อง
เรายินที่จะแจ้งว่าตอนนี้ทำให้เด็กน้อยมีพื้นที่ปลอดภัยแล้ว โดย บริษัท เค วี เทเลคอม จำกัด ให้เครื่องราคาทุนและสนับสนุนค่าขนส่ง ทังนี้ทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้ถ่ายภาพวันที่ได้รับเครื่องและทดลองเปิดเครื่องพบว่า วันนั้นค่า PM 2.5 ในบางพื้นที่มากถึง 220 แต่พอเปิดเครื่องได้สักระยะ ค่าฝุ่นกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยเฉลี่ยค่าPM 2.5ไม่เกิน 50
ตลอดระยะเวลาที่ได้รับเครื่องจนถึงปัจจุบันค่าฝุ่นยังเกิดมาตรฐาน ทำให้เครื่องฟอกอากาศได้ใช้ทุกวัน
จากนั้นเมื่อวัน 11 เมษายน 2562 ทางทีมงานได้ส่งหน้ากากที่จากเงินบริจาคในโครงการและคนใจดีส่งมาให้ โดยทำการส่งมอบหน้ากากไปราว 7,000 ชิ้น เพื่อให้ครูและเด็กได้ใส่ในช่วงเดินทางไปและกลับศูนย์พัฒนา
สำหรับสัปดาห์นี้ทางทีมงานจะส่งเครื่อง airvisual พร้อมคู่มือเพื่อให้แต่ละศูนย์ได้เป็นสถานีวัดค่าฝุ่นในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมาศูนย์อาศัยข้อมูลจากพื้นที่ที่ไกลเคียงที่สุด แต่ก็ยังห่างไกลจากตำบลที่ศูนย์ฯตั้งอยู่จริง ทำให้ไม่ได้ข้อมูลค่าฝุ่นที่แท้จริง
ทั้งนี้ทางทีมได้จัดทำสติกเกอร์การบอกค่าฝุ่นแบบง่ายๆ ไว้สำหรับติดที่ครื่องกรองอากาศและเครื่องairvisual เพื่อให้เด็กและครูทราบว่าค่าฝุ่นส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่
ทั้งนี้หากตัวเลขเกินไปทางฝั่งสีแดง ทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก็จะขึ้นธงสีแดงเพื่อให้ผู้ปกครองที่มารับเด็กด้วยว่าเด็กและทุกคนควรได้ป้องกันตัวเอง เช่นใส่หน้ากาก
แต่หากขึ้นสีเขียว คือ ปลอดภัย สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ และไม่ต้องใส่หน้ากาก
วิกฤตฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 บุกเชียงใหม่
ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานกระทบต่อสุขภาพ AirVisual เว็บไซต์วัดคุณภาพอากาศของทั่วโลก จัดอันดับให้ จ.เชียงใหม่ มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก ติดอันดับสูงที่สุดในโลกถึง 3 วันติดต่อกัน
ฝุ่นจิ๋ว ขนาด PM 2.5 ไม่ใช่ปัญหาชั่วครั้งชั่วคราวของพื้นที่นี้ หากไล่ดูข้อมูลสรุปด้านอากาศจาก Green Peace พบว่าวิกฤตนี้ปกคลุมเชียงใหม่มากกว่า 12 ปีแล้ว หลักฐานที่เราพบ นั่นคือ
ปี 2016 : เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีปัญหาฝุ่นอันดับ 1 วัดค่าสูงสุดได้ 144 เฉลี่ยทั้งปีที่ 42
ปี 2017 : เชียงใหม่ ติดอันดับ 5 วัดค่าสูงสุดได้ 115 เฉลี่ยทั้งปีที่ 29
ปี 2018 : เชียงใหม่ ติดอันดับ 4 วัดค่าสูงสุดได้ 108 เฉลี่ยทั้งปีที่ 29
ขณะที่องค์การอนามัยโลกกำหนดมาตรฐานค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของฝุ่น PM 2.5 ไว้ที่ไม่เกิน 25 และค่าเฉลี่ยรายปีอยู่ที่ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทุกครั้งที่มีการเผาทั้งในไทยและประเทศใกล้เคียง และเมื่อผนวกกับความกดอากาศสูง ทำให้ฝุ่นในอากาศไม่สามารถลอยตัวสูงขึ้นได้ ลมที่สงบ ทำให้การสะสมตัวของฝุ่นละอองในบรรยากาศเข้มข้นขึ้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพคนไทยอย่างไร
- องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้ PM2.5 จัดอยู่ในกลุ่มที่ 1 ของสารก่อมะเร็ง อาทิ ปรอท แคดเมียม อาร์เซนิก หรือ โพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน ตั้งแต่ปี 2556 และยังเป็นสาเหตุให้ 1 ใน 8 ของประชากรโลกเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
- กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า กลุ่มที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ 1.เด็ก 2.หญิงตั้งครรภ์ 3.ผู้สูงอายุ และ 4.กลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคหืด โรคปอด โรคถุงลมอักเสบ และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
เราจึงอยากชวนทุกคนมาร่วมสนับสนุนโครงการ "เด็กเชียงใหม่ไร้ฝุ่น" โดยมีแผนดำเนินการ 4 ขั้นตอน
1.จัดหาอุปกรณ์วัดค่าฝุ่นติดตั้งใน 5 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เพื่อให้ครูสามารถดูข้อมูลสถานการณ์ปริมาณฝุ่นในศูนย์พัฒนาเด็ก และใช้มาตราการดูแลเด็กที่วางไว้ รับมือได้ทันท่วงที อาทิ เมื่อฝุ่นในศูนย์เกินมาตราฐานต้องเก็บเด็กไว้ห้อง สำหรับ 5 ศูนย์ประกอบด้วย
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลสันกลาง มีนักเรียน 28 คน ครู 3 คน ,
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่ปูคา นักเรียน64คน ครู 6 คน
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลเมืองต้นเปานักเรียน 77 คน ครู 9 คน
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลข่วงเปา นักเรียน 86 คน ครู6 คน
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลออนใต้ นักเรียน 160 คน ครู 12 คน
2.จัดซื้อเครื่องฟอกอากาศเพื่อช่วยกรองฝุ่นในห้องเรียน ดีต่อสุขภาพเด็ก ติดตั้งภายในห้องเรียนทั้งหมดของศูนย์ จำนวน 24 ห้อง ประกอบด้วย
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลสันกลาง จำนวน 2 ห้องเรียน ขนาด 48 ตารางเมตร และ 24 ตาราเมตร
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่ปูคา จำนวน 4 ห้องเรียน แบ่งเป็นขนาด 52 ตารางเมตร (2ห้อง), 80 ตารางเมตร (2ห้อง)
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลเมืองต้นเปา จำนวน 3 ห้องเรียน ขนาด 73.5 ตารางเมตร
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลข่วงเปา จำนวน 5 ห้องเรียน ขนาด 12 ตารางเมตร
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลออนใต้จำนวน 10 ห้องเรียน ขนาดห้องเรียน 24 ตารางเมตร
3.จัดทำสื่อเผยแพร่ข้อมูล และคู่มือปฏิบัติในสถานการณ์ค่าฝุ่นระดับต่างๆ เพื่อเป็นคู่มือสร้างความเข้าใจเรื่อง ฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 สำหรับเด็ก คุณครู ผู้ปกครอง และชุมชน
4.จัดกระบวนเรียนรู้ เพื่อดูแลตัวเอง และครอบครัวแก่ผู้ปกครองของเด็ก 5 พื้นที่ อาทิ อาการแบบนี้ ร่างกายของเราส่งสัญญาณเตือนแล้ว, DIY เครื่องฟอกอากาศเพื่อใช้ในบ้าน, รับมือฝุ่นอย่างไร เวลาออกจากบ้าน ,ปัญหานี้เริ่มแก้ที่เรา
ประโยชน์ของโครงการ
- มีสถานีตรวจวัดในเชียงใหม่มากขึ้น ทำให้ทราบข้อเท็จจริงถึงความเสี่ยงต่อเด็กในเชียงใหม่มากขึ้น
- เด็กจากศูนยพัฒนาเด็กนำร่อง ได้รับการป้องกันจากฝุ่นจิ๋วทันที
- เกิดชุดความรู้และคู่มือในการป้องกันตัวเอง และครอบครัว ซึ่งสามารถขยายไปยังคนหมู่มากได้
- เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ และราคาถูกที่ประชาชนสามารถนำไปทำเองได้
ภาคี
- ผู้ปกครอง
- ครู
- แกนนำชุมชน
- ผู้บริหารท้องถิ่น
- ผู้นำท้องที่
- เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
- อาสาสมัครสาธารณสุข
รายงานผลการทำงานละอ่อนหายใจม่วน
รายงานผลการทำงานละอ่อนหายใจม่วน
จากที่เทใจดอทคอมเปิดระดมทุนเพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางปอดในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 5 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมาทางโครงการได้ส่งเครื่องฟอกอากาศจำนวน 24 เครื่องไปถึง 5 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเรียบร้อยแล้วประกอบด้วย
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลสันกลาง จำนวน 2 เครื่อง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่ปูคา จำนวน 4 เครื่อง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลเมืองต้นเปา จำนวน 3 เครื่อง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลข่วงเปา จำนวน 5 เครื่อง
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลออนใต้จำนวน 10 เครื่อง
เรายินที่จะแจ้งว่าตอนนี้ทำให้เด็กน้อยมีพื้นที่ปลอดภัยแล้ว โดย บริษัท เค วี เทเลคอม จำกัด ให้เครื่องราคาทุนและสนับสนุนค่าขนส่ง ทังนี้ทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้ถ่ายภาพวันที่ได้รับเครื่องและทดลองเปิดเครื่องพบว่า วันนั้นค่า PM 2.5 ในบางพื้นที่มากถึง 220 แต่พอเปิดเครื่องได้สักระยะ ค่าฝุ่นกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยเฉลี่ยค่าPM 2.5ไม่เกิน 50
ตลอดระยะเวลาที่ได้รับเครื่องจนถึงปัจจุบันค่าฝุ่นยังเกิดมาตรฐาน ทำให้เครื่องฟอกอากาศได้ใช้ทุกวัน
จากนั้นเมื่อวัน 11 เมษายน 2562 ทางทีมงานได้ส่งหน้ากากที่จากเงินบริจาคในโครงการและคนใจดีส่งมาให้ โดยทำการส่งมอบหน้ากากไปราว 7,000 ชิ้น เพื่อให้ครูและเด็กได้ใส่ในช่วงเดินทางไปและกลับศูนย์พัฒนา
สำหรับสัปดาห์นี้ทางทีมงานจะส่งเครื่อง airvisual พร้อมคู่มือเพื่อให้แต่ละศูนย์ได้เป็นสถานีวัดค่าฝุ่นในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมาศูนย์อาศัยข้อมูลจากพื้นที่ที่ไกลเคียงที่สุด แต่ก็ยังห่างไกลจากตำบลที่ศูนย์ฯตั้งอยู่จริง ทำให้ไม่ได้ข้อมูลค่าฝุ่นที่แท้จริง
ทั้งนี้ทางทีมได้จัดทำสติกเกอร์การบอกค่าฝุ่นแบบง่ายๆ ไว้สำหรับติดที่ครื่องกรองอากาศและเครื่องairvisual เพื่อให้เด็กและครูทราบว่าค่าฝุ่นส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่
ทั้งนี้หากตัวเลขเกินไปทางฝั่งสีแดง ทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก็จะขึ้นธงสีแดงเพื่อให้ผู้ปกครองที่มารับเด็กด้วยว่าเด็กและทุกคนควรได้ป้องกันตัวเอง เช่นใส่หน้ากาก
แต่หากขึ้นสีเขียว คือ ปลอดภัย สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ และไม่ต้องใส่หน้ากาก
แผนการใช้เงิน
รายการ | จำนวน | จำนวนเงิน (บาท) |
1.อุปกรณ์วัดค่าฝุ่น สามารถรายงานผลออนไลน์ได้ | 5 เครื่อง | 50,000 |
2.เครื่องฟอกอากาศ 2.1เครื่องฟอกอากาศ xiaomi mi air purifier 2s สำหรับห้องขนาด 21-37 ตารางเมตร ราคาเครื่องละ 4,990 บาท จำนวน 16 เครื่อง 2.2เครื่องฟอกอากาศ xiaomi mi air purifier pro สำหรับห้องขนาด 35-60 ตารางเมตร ราคาเครื่องละ 7,990 บาท จำนวน 3 เครื่อง 2.3เครื่องฟอกอากาศ xiaomi mi air purifier Max สำหรับห้องขนาด 70-120 ตารางเมตร ราคาเครื่องละ 13,990 บาท จำนวน 5 เครื่อง | 24 เครื่อง | 173,760 |
3.สื่อเผยแพร่ข้อมูล และคู่มือปฏิบัติ 500 ชุด | 500 ชุด | 10,000 |
4.Mask ป้องกัน PM 2.5 ชิ้นละ 25 บาท | 500 ชิ้น | 12,500 |
5.กิจกรรมทำเครื่องฟอกอากาศ DIY พื้นที่ละ 10,000 บาท | 5 พื้นที่ | 50,000 |
6.ค่าใช้จ่ายในการระดมทุนของเทใจโดยประมาณ | 32,918 | |
รวม | 329,180 |